เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 58
บทที่ 58 ตัดใจเขาแล้วมาอยู่กับผมเถอะ
ณ โซนนั่งพักในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า โม่หว่านหว่านไปเข้าแถวต่อคิวซื้อไอศกรีมและให้ซูย้าวนั่งรอเธออยู่ในที่นี่
รสชาติร้านนี้พิเศษมาก ขายดีจนลูกค้าต้องต่อแถวซื้อกัน และเป็นสิ่งที่โม่หว่านหว่านทำทุกครั้งที่แวะมาที่นี่
ซูย้าวนั่งเงียบๆอยู่คนเดียว เมื่อเธอได้สงบลง ความคิดที่ซับซ้อนก็พลุ่งพล่านขึ้นและความเศร้าหมองก็ได้หวนกลับมากลืนกินหัวใจเธออีกครั้ง
ซูย้าวที่ยังคงจมอยู่กับความคิดของตนและไม่ทันได้สังเกตร่างคนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ จนกว่าชายร่างสูงคนนั้นจะนั่งลงข้างเธอ เธอถึงจะรู้สึกตัวและสะดุ้งตกใจ
“มานั่งอยู่ที่นี่คนเดียวได้ไง?”
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเพ้ยส้าวหลี่ได้ปรากฏตรงหน้าเธอ ด้วยรูปร่างหน้าตาเกลี้ยงเกลา และด้วยรอยยิ้มอันสดใส ทำให้คนมองแล้วรู้สึกอบอุ่น
ซูย้าวตกใจไปชั่วขณะและเธอยังไม่ทันพูด เพ้ยส้าวหลี่ก็ได้พูดต่อโดยไม่รอช้า “คุณมาคนเดียวเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? มีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่า?”
สิ่งที่ซูย้าวกลัวที่สุดสำหรับผู้ชายคนนี้ก็คือดวงตาอันคมเรียวสองข้างของเขา มันเหมือนน้ำทะเลที่เงียบสงบแต่ทำให้คนเข้าถึงยาก และในทางกลับกัน สายตาอันแหลมคมของเขาสามารถมองทะลุเข้าไปถึงความรู้สึกข้างในจิตใจของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย
“ได้ข่าวว่าคุณกับเขาจะหย่ากันแล้วใช่ไหม?”
เพียงคำพูดคำเดียวทำให้ดวงตาที่ล่องลอยอยู่ในอากาศของเธอได้ตระหนักขึ้นมาทันที
เธอยังไม่ทันได้หย่ากับลี่เฉินซีเลย แต่ข่าวก็ได้กระจายออกไปจนรู้กันแทบทุกคนแล้ว?!
บริษัทลี่ซื่อถึงกับทนรอไม่ไหวที่จะขจัดเธอออกไปเลยเหรอ หรือว่า เธอนั้นไม่มีค่าเลยจริงๆ……
“คุณทุ่มเทให้เขามานานหลายปี แต่เขากลับตอบแทนเธอแบบนี้ ซูย้าว คุณควรชัดเจนได้แล้วนะ! ลี่เฉินซีไม่เหมาะกับคุณจริงๆ คุณรีบตัดใจให้เร็วที่สุดเถอะ!” เพ้ยส้าวหลี่เพียงแค่กระซิบพูดกับเธอเบาๆ
คำพูดเช่นนี้เธอฟังมานับร้อยครั้งแล้ว ไม่ว่าจะฟังจากปากของเพ้ยส้าวหลี่หรือหลินโม่ป่าย แต่ทุกครั้งที่ได้ยินมันก็ไม่ได้สะเทือนใจเท่ากับครั้งนี้
ชีวิตคู่ของเธอตอนนี้ก็เหมือนกลายเป็นอดีตไปแล้ว หรือว่าจะไม่มีโอกาสคืนดีกันแล้วใช่ไหม?
“คุณเชื่อผมนะ โอเคไหม?”
คำพูดของเขาสื่อถึงการมาอ้อนวอนขอร้อง แม้แต่สายตาของเขายังบ่งบอกเลย ซึ่งท่าทีแบบนี้จะยิ่งทำให้เธอรู้กลัวอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอกับเพ้ยส้าวหลี่ไม่ได้สนิทกันมากนัก แม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ทุกครั้งที่เจอก็แค่ทักทายปกติ ต่างคนต่างยิ้มให้กันก็เท่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่าเขาให้ความสนใจกับทุกการเคลื่อนไหวของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
สิ่งนี้ทำให้ซูย้าวรู้สึกสงสัยมาก
เธอขยับไปข้างๆด้วยความสุภาพและพูดกับเขาด้วยภาษามือ “ประธานเพ้ย ชีวิตคู่และความสัมพันธ์ส่วนตัวของฉันคงไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณมากังวลแทนฉันแล้วล่ะ!”
แต่เขากลับยิ้มตอบเบาๆแล้วพูดว่า “ผมก็แค่หวังดีต่อคุณเท่านั้น ผู้หญิงดีๆอย่างคุณไม่จำเป็นต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับผู้ชายประเภทนี้หรอก!”
ซูย้าวส่ายหัวเบาๆแล้วยิ้มพูดด้วยภาษามืออีกครั้ง “ฉันก็ไม่ได้ดีอย่างที่ประธานเพ้ยพูดหรอก คุณชมฉันเกินไปแล้ว!”
“เปล่า!” เพ้ยส้าวหลี่ตอบกลับอย่างรวดเร็วและมองหน้าเธออย่างจริงจังจนแทบไม่กระพริบตา
เธอพอจะเข้าใจและแยกแยะได้สำหรับสายตาอันลึกซึ้งคู่นี้
ผู้ชายประเภทนี้มักจะมีความอันตรายแอบแฝงอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งมันทำให้ซูย้าวรู้สึกกลัวและอยากจะหนีออกไปจากที่นี่
“เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่ลี่เฉินซีเข้ามาบริหารบริษัทลี่ซื่อ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้บริษัทลี่ซื่อก็เกือบประสบกับวิกฤตทางการเงินสองครั้งและวิกฤตทางการค้าอีกหนึ่งครั้ง แต่สุดท้ายก็ผ่านพ้นปัญหาเหล่านี้ไปได้ ซึ่งมันดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย เพราะสำหรับโลกภายนอกแล้วเขาเชื่อว่าประธานลี่มีความสามารถพอที่จะบริหารมันได้ แต่ผมเข้าใจดีว่าเบื้องหลังความสำเร็จที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใคร……”
ความสัมพันธ์ระหว่างเพ้ยส้าวหลี่กับลี่เฉินซีก็ไม่เคยดีมาโดยตลอดและเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วเขาทั้งสองไม่ได้มีความเกลียดชังต่อกัน เพียงแต่ว่าเขามีบุคลิกที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งความสามารถที่คล้ายกันในเวทีโลกการเงินนั้น ก็เหมือนเสือสองตัวที่อยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับลี่เฉินซีมากกว่าใครๆ
แต่แน่นอนว่าถ้าให้ความสำคัญกับใครมากขึ้น คุณก็จะเห็นจุดอ่อนของเขามากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นลี่เฉินซีเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าวิกฤตต่างๆของบริษัทลี่ซื่อที่เกิดขึ้นนั้นใครเป็นคนช่วยเขาไว้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นข้อสงสัยของเขามาจนทุกวันนี้
หลังจากเพ้ยส้าวหลี่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เขาเองก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นเหมือนกัน แต่หลักฐานที่ชัดเจนนั้นทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้จริงๆ
สายตาอันลึกซึ้งนั้นยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของซูย้าว และเสียงทุ้มต่ำของเขาก็ดังก้องอยู่ในหูของเธออีกครั้ง “ใครจะคาดคิด สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่พูดไม่ได้และอีกทั้งยังดูเหมือนเป็นคนอ่อนแอไร้ความสามารถด้วย แต่เธอกลับกลายเป็นเบื้องหลังคนสำคัญของตลาดหุ้นได้ ซูย้าว ความสามารถของคุณมันเกินกว่าความสามารถของคนทั่วไปจริงๆนะ”
ตั้งแต่เด็กเธอมีพรสวรรค์ด้านตัวเลขเป็นอย่างมาก ซึ่งบวกกับการหล่อหลอมประสบการณ์ในหลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่นอกเหนือจากปริญญาเอกหลายใบที่เธอมี คือความสามารถที่เหนือกว่าคนอื่นในโลกธุรกิจที่เธอแอบซ่อนมันมาโดยตลอด
ความสามารถแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนๆต่างก็ต้องแย่งชิงกัน แต่สำหรับลี่เฉินซีแล้ว เขาไม่มีทางรู้เลยว่าคนมีฝีมือที่ลึกลับคนนี้อยู่กับเขามาโดยตลอด
นัยน์ตาซูย้าวเกิดความสงสัย ทันทีที่ความลับของเธอถูกพูดขึ้นมาร่างกายของเธอก็เย็นเยือกเหมือนถูกแช่ด้วยน้ำแข็ง
“ทิ้งเขาไป แล้วมาอยู่กับผม! สิ่งที่เขาให้คุณได้ ผมก็จะให้คุณ และสิ่งที่เขาให้คุณไม่ได้ ผมก็จะให้คุณได้เช่นกัน!”
เพ้ยส้าวหลี่สัญญากับเธอและในเวลาเดียวกันมือแกร่งที่อบอุ่นของเขาก็กุมมือเธอ
แต่ซูย้าวสังเกตการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนนี้ได้ก่อน เธอจึงรีบย้ายมือเล็กๆที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอออกทันที
ทันทีที่มือของเพ้ยส้าวหลี่ยื่นออกไปก็ได้แต่สัมผัสกับลม แต่เขาไม่ได้แสดงถึงการทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยิ้มเล็กน้อยและอยากจะพูดอะไรบางกับเธออย่างต่อ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงนุ่มนวลของผู้หญิงดังขึ้นข้างหลัง……
“ซูย้าว……”
เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองและได้เห็นหานฉ่ายหลิงที่บังเอิญเดินเข้ามากับชายร่างสูงคนหนึ่ง
สายตาอันเย็นชาของลี่เฉินซีจับจ้องไปที่ซูย้าวและเพ้ยส้าวหลี่ แววตาประกายความสับสนแต่ก็หายไปในไม่ช้า จากนั้นความโกรธก็ได้ครอบงำทั่วทั้งร่างกายของเขา
เมื่อเพ้ยส้าวหลี่เห็นเขาเดินเข้ามาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะแสดงออกอย่างไร ได้แต่ลุกขึ้นยืนอย่างเป็นธรรมชาติและพูดอย่างเฉยเมย “บังเอิญจังเลยนะครับ! ประธานลี่ คุณหาน”
หานฉ่ายหลิงกลับทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงค่อยๆเดินเข้าไปหาซูย้าวและพูดกับเธอเบาๆ “ซูย้าว เธออย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันกับเฉินซี ไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิดนะ……”
“ไม่เหมือนที่คิดยังไง?”
เสียงของโม่หว่านหว่านดังขึ้นจากที่ไกล มือเธอถือไอศกรีมไว้สองถ้วยแล้วมองหน้าหานฉ่ายหลิงด้วยสายตาที่เย็นชา
“ทางประธานลี่กับซูย้าวกำลังมีเรื่องหย่ากันอยู่ ส่วนเธอในฐานะแฟนเก่าก็ยังมาเดินห้างกับเขาอย่างเปิดเผย……” โม่หว่านหว่านจ้องไปที่ถุงช้อปปิ้งในมือของหานฉ่ายหลิงและยิ้มอย่างเย็นชามากกว่าเดิม อีกทั้งยังพูดจาที่ค่อนข้างดูถูกเธอ “จะอธิบายยังไงล่ะ? ความลับถูกเปิดเผยแล้วใช่มั้ย? หานฉ่ายหลิง เธอน่ะ ครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วนะ กลยุทธ์ของเธอมันช่างยอดเยี่ยมจริงๆเลย!”