เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 582
ภายในห้องคลอด โม่หว่านหว่านนอนอยู่บนเตียงคลอดด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว ร่างกายท่อนล่างของหล่อนก็ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าปลอดเชื้อสีฟ้า ส่วนจมูกของหล่อนก็มีท่อออกซิเจนเสียบเอาไว้ และแขนของหล่อนก็มีเข็มเจาะอยู่
และสิ่งที่ทำให้ซูย้าวตกใจที่สุด ไม่ใช่ภาพที่เธอเห็นตรงหน้า แต่เป็นปริมาณเลือดของหล่อนต่างหาก หล่อนเพิ่งจะถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดได้ไม่นาน แต่เลือดของหล่อนไหลออกมาเยอะมากทีเดียว และพยาบาลก็เปลี่ยนผ้าปลอดเชื้อที่รองด้านล่างให้หล่อนไปแล้วหลายครั้ง ส่วนในถังขยะก็มีแต่สำลีที่ชุ่มไปด้วยเลือดเต็มไปหมด…
ซูย้าวเอาแต่จ้องมองดูฉากนี้ โดยเฉพาะบนเตียงคลอด เธอรู้สึกว่าสมองของตัวเองมันวิงเวียนไปหมด และรู้สึกราวกับว่าเธอเคยเห็นภาพเหตุการณ์นี้มาก่อน ดูเหมือนว่าในช่วงขณะหนึ่ง คนที่นอนอยู่บนเตียงคลอดในสถานที่แห่งหนึ่ง เหมือนกับว่าเป็นเธออย่างไรอย่างนั้น
สติของเธอล่องลอยอยู่ครู่หนึ่ง เธอรีบจัดการกับความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว เธอส่ายศีรษะเพื่อให้ตัวเองสงบลง จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ โม่หว่านหว่าน โม่หว่านหว่านหันมามองที่เธอด้วยท่าทางที่อ่อนแรง หล่อนยื่นมือออกมาจับมือของเธอเอาไว้ “ซูย้าว…”
เธอขมวดคิ้วมุ่น “เอาล่ะ สภาพของเธอก็เป็นแบบนี้ อย่าใช้แรงเลย ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!”
ซูย้าวไม่เข้าใจเลยสักนิด หล่อนตกอยู่ในสภาพนี้ แต่ทำไมหล่อนถึงไม่รีบติดต่อสามีของตัวเอง จะให้เธอเข้ามาในห้องคลอดด้วยทำไม?
โม่หว่านหว่านจับมือของเธอเอาไว้แน่น และหล่อนก็จับเอาไว้แน่นสุดๆ “ฉันมีเรี่ยวแรงเหลือไม่มากแล้ว ซูย้าว เธอฟังฉันนะ”
ซูย้าวขมวดคิ้วมุ่น และมองตรงไปที่เธออย่างกดดัน “พูดมาสิ”
“ถ้าหากว่า ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เธอต้องเอาเด็กไว้ เธอจะต้องเอาเด็กคนนี้ไว้นะ!” โม่หว่านหว่านมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่างมานานแล้ว และเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจมานานแล้วด้วยเช่นกัน และเมื่อหล่อนพูดออกมาเช่นนี้ หมอและพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจขึ้นมาเลยทีเดียว เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าเป็นคนอื่น เขาก็คงจะเลือกช่วยชีวิตแม่เอาไว้ไม่ใช่เหรอ? !
ซูย้าวขยับริมฝีปากของเธอ และพยายามจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เธอก็ถูกโม่หว่านหว่านหยุดเอาไว้ซะก่อน “อย่าสนใจฉันเลย ที่จริง แม้ว่าส้าวหลิงจะอยู่ที่นี่ ฉันก็จะตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน ช่วยบอกเขาแทนฉันด้วยนะว่า ไม่ว่ายังไงต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ดี แล้วอีกอย่าง ซูย้าว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน หลังจากนี้ในอนาคตได้โปรดช่วยดูแลเด็กคนนี้ด้วย…”
“พวกเราเคยคุยกันแล้ว ถ้าในอนาคตพวกเรามีลูก พวกเราทั้งสองคนก็จะเป็นแม่บุญธรรมให้ลูกของกันและกัน ฉันได้เป็นแล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังจะได้เป็น ตกลงไหม?”
โม่หว่านหว่านจับมือของเธอเอาไว้ เห็นได้ชัดเลยแรงของหล่อนมันเหลือน้อยลงไปทุกที “ฉันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเธอ แต่ว่านะซูย้าว ตอนที่ฉันได้กลับมาเจอเธออีกครั้ง ฉันรู้สึกดีใจมากจริงๆ เธอไม่ต้องเสียใจนะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีฉันแล้ว แต่เธอก็ยังมีพวกเด็กๆ และมีเฉินซี พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวของเธอ…”
โม่หว่านหว่านไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่มีแรง และก็ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่อยากจะพูด แต่ซูย้าวยกมือขึ้นมาปิดปากของหล่อนเอาไว้
ดวงตาที่เย็นชาของซูย้าวจับจ้องไปที่หล่อน คิ้วของเธอพันกันยุ่งไปหมด “เธอเป็นแบบนี้แล้ว เก็บแรงเอาไว้บ้างเถอะ!”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็หันไปมองหมอและพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอจ้องมองไปที่หมอด้วยดวงตาอันเฉียบคม จากนั้นก็พูดออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเย็นว่า “หมอหัวหน้าแผนกสูตินรีเวชของพวกคุณอยู่ที่ไหน?”
หมอถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาว่า “ตอนนี้หัวหน้าแผนกกำลังยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่…”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ซูย้าวก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อนอย่างรวดเร็วว่า “ไปหาตามตัวหัวหน้าแผนกของพวกคุณมา แล้วก็หมอผดุงครรภ์ และหมอที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลของพวกคุณด้วย ไปตามตัวมาให้หมด!”
“ถ้าผู้หญิงคนนี้ คลอดเองตามธรรมชาติไม่ได้ ก็ไปตามวิสัญญีหมอมาผ่าคลอดให้หล่อนทันที ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่แค่หมอเพียงไม่กี่คนที่จะมีผลกระทบ แต่มันจะส่งผลไปถึงโรงพยาบาลของพวกคุณด้วย…”
ซูย้าวไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก เธอเป็นคนที่มักจะสงบนิ่งอยู่เสมอ แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้เธอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดเช่นนี้ และก็ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธมาก และก็พร้อมที่จะปะทะได้ทุกเมื่อ เมื่อเห็นว่าหมอที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังคงยืนนิ่งด้วยความตกใจ เธอก็ตะโกนออกไปเสียงดังว่า “ยังไม่ไปอีกรึไง? ต้องรอให้ฉันติดต่อไปหาคณบดีก่อนเหรอ?”
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีเส้นสาย แม้ว่าโรงพยาบาลนี้ เธอจะเป็นคนเลือกมันเพราะสถานการณ์คับขัน แต่ถึงอย่างไร เธอก็สามารถใช้เส้นสายของตัวเองได้
เหล่าบรรดาหมอที่ยืนอยู่ตรงนี้ถึงกับตกตะลึง หลังจากที่เอาแต่ยืนนิ่งมองดูสีหน้าและคำพูดของเธออยู่นานสองนานแล้ว พวกเขาก็รู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ธรรมดา ในตอนนี้ ซูย้าวดูเหมือนจะเป็นแค่บุคคลธรรมดา แต่เมื่อมองดูสายตาที่เฉียบคมและสีหน้าเย็นชาของเธอ มันก็ให้ความรู้สึกน่าขนลุกไปหมด
มีหมอคนหนึ่งในกลุ่มนั้นได้สติกลับมาก่อนเป็นคนแรก เขาจึงรีบตอบรับในทันที จากนั้นก็รับหมุนตัวเดินออกไป และเขาก็บังเอิญได้เจอกับพยาบาลที่อยู่ด้านนอกพอดี เมื่อพยาบาลเห็นหมอเดินออกมา หล่อนก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ผู้หญิงคนนี้ที่กำลังจะคลอด หล่อนเป็นคุณนายลู่แห่งบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ป…”
หมอถึงกับสะดุ้งตกใจ ไม่กล้าที่จะชักช้าอีก จากนั้นเขาก็รีบเดินออกไปทันที
และหลังจากนั้นไม่นาน หมอหัวหน้าแผนกสูตินรีเวช วิสัญญีแพทย์ และแม้แต่หมอผดุงครรภ์ที่พวกเขากำลังรอ ก็มาอยู่ที่ห้องคลอดนี้ทั้งหมด อาการของโม่หว่านหว่านไม่ดีเท่าไหร่นัก หล่อนไม่สามารถคลอดตามธรรมชาติได้ หมอจึงเริ่มเตรียมการผ่าตัดคลอด และขอให้ซูย้าวให้ออกไปรอข้างนอกก่อน
พื้นที่สำหรับนั่งรอตรงโถงทางเดิน ซูย้าวนั่งเงียบๆ อยู่บนเก้าอี้ เธอรออยู่นานและก็คิดว่าเวลามันเดินช้าจริงๆ และความคิดของเธอตอนนี้มันตีกันยุ่งไปหมด
มันคือภาพลวงตารึเปล่า?
เธอมักจะรู้สึกว่าเตียงคลอดเมื่อสักครู่นี้ เธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างมาก ภายในจิตใต้สำนึกของเธอเอาแต่ร่ำร้องว่าเธอเคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน…
แล้วยังมีอาการของโม่หว่านหว่านตลอดทางที่เดินทางมาที่นี่ด้วย ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เป็นไปได้ไหมว่าเธอเคยอยู่ในห้องคลอดที่คล้ายคลึงกันเช่นนั้นมาก่อน และเธอก็เคยได้รับการผ่าตัดเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน?
ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ!
เธอยกมือขึ้นมาลูบที่ขมับของตัวเอง ภายใต้จิตสำนึกและความเข้าใจของเธอ ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องคลอดลูกเลย เพราะแม้แต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ เธอก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แล้วเธอจะเคยมาสถานที่แบบนี้ได้ยังไง
เพราะอย่างนั้นนี่มันต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ
ในตอนที่เธอกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นลู่ส้าวหลิงวิ่งตรงมาทางนี้ และด้านหลังของเขาก็เป็นลี่เฉินซี
สีหน้าที่แสดงออกมาของพวกเขาทั้งสองคนไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย ลู่ส้าวหลิงวิ่งตรงไปที่หน้าห้องผ่าตัดก่อน ยังไม่ทันที่หมอและพยาบาลจะออกมา เขาก็เห็นไฟสีแดงที่ส่องสว่างอยู่ด้านบน เขารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็วิ่งกลับมาที่สำหรับนั่งรอตรงโถงทางเดินอีกครั้ง
เขาวิ่งตรงเข้ามาหาซูย้าว “คุณเป็นคนพาหว่านหว่านมาส่งที่โรงพยาบาลใช่ไหม? อาการของเธอเป็นยังไงบ้าง?”
ซูย้าวไม่ได้รีบร้อนตอบกลับไป เธอเพียงแค่ยืนขึ้นอย่างช้าๆ และจ้องมองตรงไปที่ผู้ชายคนนั้น หลังจากนั้นไม่นาน ลู่ส้าวหลิงก็อดใจรอไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงถามออกมาอีกครั้งว่า “อาการของหว่านหว่านเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้หล่อน…”
เขาไม่กล้าพูดคำนั้นออกมา และลางสังหรณ์รวมทั้งความวิตกกังวลก็ก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจของเขา เพราะตอนที่พวกเขาทั้งสองคนแต่งงานกัน โม่หว่านหว่านเคยบอกกับเขาว่า โครโมโซมในร่างกายของหล่อนผิดปกติ หล่อนจึงมีลูกยากมาก
แม้ว่าคุณจะโชคดีพอที่จะสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะรักษาลูกของคุณเอาไว้ได้
เพราะอย่างนั้นตลอดการตั้งครรภ์ เขาจึงมักจะระวังและเอาใจใส่หล่อนเป็นอย่างมาก แต่เขาก็คาดไม่ถึงเลยว่า เขาจะประมาท ในตอนที่หล่อนใกล้คลอดเช่นนี้…
“อย่ามองในแง่ดีมากนัก” ซูย้าวเปิดปากตอบคำถามเขาออกมา น้ำเสียงของเธอยังคงเย็นชา ราวกับว่าเธอเป็นบุคคลภายนอกที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น “ก่อนหน้านี้เธอขอร้องเอาไว้ว่า ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็ขอให้ปกป้องเด็กคนนี้เอาไว้ด้วย”
หัวใจของลู่ส้าวหลิงถึงกับกระตุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ร่างสูงของเขาถึงกับโซเซอย่างไม่อาจควบคุมได้ และใบหน้าหล่อเหลาและดูดีของเขาก็ซีดเผือดปราศจากสีเลือดขึ้นมาในทันที
ลี่เฉินซียื่นมือออกไปช่วยพยุงเขาเอาไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็พูดออกไปว่า “นายอย่าเพิ่งกังวลเลย รอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยมาพูดกันอีกที”
ใบหน้าที่ซีดเผือดของลู่ส้าวหลิงมันดูไม่น่ามองมากเลยจริงๆ เขาค่อยๆ ดันมือของลี่เฉินซีออก จากนั้นก็หันหลัง และเดินไปรอที่หน้าห้องคลอด
ลี่เฉินซีไม่ได้เดิมตามเขาไป เขาหันมาจ้องซูย้าวด้วยสายตาเย็น จากนั้นเขาก็เปิดปากตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ราวกับจะฆ่าใครสักคนใส่เธอ “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมคุณถึงไปอยู่กับโม่หว่านหว่านได้?”
ซูย้าวมองตรงไปที่เขา และเธอก็ได้ยินคำพูดที่แฝงไปด้วยความสงสัยของเขา เธอไม่อยากจะสนใจมัน จากนั้นเธอก็ตอบกลับเขาไปอย่างตรงไปตรงมา เพื่อที่จะคลี่คลายความสงสัยของเขา “ฉันไปเจอหล่อนด้วยความบังเอิญ และมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณลี่ก็ลองเดาเอาเองเถอะ!”
เธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่อยู่ไกลออกไป แสงแดดสาดส่องเข้ามาเล็กน้อย และมันก็สาดส่องมาที่รอยยิ้มจางๆ ของเธอ “ฉันตั้งในลงมือทำร้ายหล่อน แต่จู่ๆ หล่อนก็คลอดก่อนกำหนด คุณพอใจรึยังล่ะ?”
คิ้วคมเข้มของลี่เฉินซีขมวดเข้ามากันมุ่น และทันใดนั้นจู่ๆ เขาก็ก้าวเข้ามาหาเธอ และจับมือเรียวบางของเธอเอาไว้ด้วยแรงมหาศาล “ผมไม่ได้พูดเล่นนะ!”
ซูย้าวขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด และพยายามบิดข้อมือเพื่อให้หลุดพ้นจากการจับกุมของเขา แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามสักแค่ไหนมันก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เธอจึงโกรธขึ้นมาทันที “ฉันก็ไม่ได้พูดเล่นเหมือนกัน!”
“ได้ คุณไม่ได้พูดเล่นอย่างนั้นใช่ไหม?” ดูเหมือนว่าลี่เฉินซีจะตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง เขาจับข้อมือของเธอเอาไว้แน่น และมันก็แน่นมากเลยทีเดียว “คุณฟังให้ดีนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับโม่หว่านหว่าน และถ้ามันเกี่ยวข้องกับคุณจริงๆ ผมสัญญาเลยว่า หลังจากนี้ต่อไปคุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!”