เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 6
บทที่6 ทำให้ฉันผิดหวังมาก
“พี่เฉินซี…….”
มือเล็กๆที่ขาวนวลของซูหยวนจับแขนของเฉินซี ไว้ เสียงทีออดอ้อน เหมือนอมน้ำผึ้งอยู่ในปาก “น้องสาวฉันคงไม่แท้งนะ?
คำพูดไม่กี่คำ สะเทือนไปถึงหูเจี่ยงเวินอี๋
“ซูหยวน เธอพูดอะไร?”
เธอตกตะลึง รีบอธิบาย”คุณป้า ท่านอย่าโมโหนะ ฉันแค่พูดความจริง ยังไงน้องสาวก็ท้องหลายเดือนโตขนาดนี้แล้ว ถ้าหากแท้งไป…..น่าจะท้องได้อีกนะ?”
น้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่ตามด้วยความพอใจ นุ่มนวล ท่าทางอ่อนหวานบริสุทธิ์ ของซูย้าว แต่ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเจี่ยงเวินอี๋ได้!
” เธอพูดเหลวไหลอะไร? ลูกในท้องของซูย้าว เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลลี่ อีกหน่อยก็จะเป็นผู้สืบทอด ถ้าเธอกล้าพูดเหลวไหลสาปแช่ง ไสหัวไปซะ” เจี่ยงเวินอี๋อารมณ์ ไม่ดี ในคำพูดก็มีความโหดอยู่
ซูหยวนไม่กล้าพูดต่อ แต่แกล้งทำเป็นเศร้าและดึงแขนของลี่เฉินซี
“พี่เฉินซี ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่นนะ! คุณป้า ระงับความโกรธไว้นะ! ”
ท่าทางเหมือนใสซื่อบริสุทธิ์ ทำให้ลี่เฉินซีตำหนิไม่ลง
เขาได้แต่พูด”ไม่ต้องพูดแล้ว!”
ณ เวลานี้ หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน ถอดหน้ากากออก “คนท้อง ขณะนี้ยังไม่เป็นอะไรมาก แค่ตกใจเกินไปหน่อย ทำให้มดลูกหดตัว ระหว่างที่ท้องอยู่ต้องดูแลให้ดี ย่าใส่ใจอารมณ์ ของคนท้อง”
ในที่สุด เจี่ยงเวินอี๋ ก็โล่งอก “ขอบคุณ ฟ้าขอบคุณ ดิน หลานของฉันในที่สุดก็ปลอดภัย แล้ว!”
สายตาคุณ หมอหันไปทางลี่เฉินซี ท่าทางที่ลังเลอย่างเห็นได้ชัด
พูดแล้วก็หยุด
ลี่เฉินซี ดูออกว่ามันเป็นมายังไง พูดอย่างเย็นชา” มีเรื่องอะไรอีกมั้ย?”
” อันนั้น ประธานลี่… ” คุณ หมอหญิงวัยกลางคนพูดยังไม่ทันพูดออกปาก หน้าก็แดงก่อนแล้ว สุดท้ายก็พูด คนท้องร่างกายอ่อนแอ จำไว้ไม่ควรทำเรื่องแบบนั้นนะ! ”
” …….”
ใบหน้าของลี่เฉินซีชักลงทันที
เจี่ยงเวินอี๋ก็ตกตะลึง เหมือน กัน หลังจากนั้นก็ถอนหายใจลึกๆ
รอหมอกลับไป เธอค่อยพูด” ถึงแม้พวกเธอจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ในเวลาคับขัน เฉินซี นายก็ลำบากหน่อย ทุกอย่างต้องเห็นลูกมาเป็นอันดับ หนึ่ง! ”
“……”
เหมือนหมอกควันมาปกคลุมใบหน้าลี่เฉินซี ลมหายใจที่เยือกเย็นไม่จำเป็นต้องปิดบัง
สายตาที่วอกแวกของซูหยวน พอนึกถึงพี่เฉินซีกับซูย้าว สารเลวทำเรื่องแบบนั้น ในใจเธอก็เหมือนมีถุงเท้าที่เหม็นเน่าอยู่ในใจ คลื่นไส้แต่ก็ไม่กล้าอาเจียน!
เจี่ยงเวินอี๋ พอว่าง สายตาก็อยู่ที่ตัวซูย้าว พูดขึ้นมาทันที “ตอนที่ซูย้าวเกิดเรื่อง ซูหยวน เธออยู่ที่ไหน?”
“ฉัน? ”
ซูหยวนตกใจ สมองมีอะไรแว๊บเข้ามารู้สึกว่าร้อนตัวขึ้นมาทันที เจี่ยงเวินอี๋ สังเกตทุกกิริยาของเธอ ถามอีก ” เธอกับซูย้าว แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยถูกกัน ครั้งนี้เขาเกิดเรื่อง เธอกลับมาได้เร็วดีนะ! ใครเป็นคนแจ้งข่าวให้เธอหรอ?”
“เรื่องนี้……”
” เรื่องในครั้งนี้ นอกจากคนในตระกูลลี่ ไม่มีใครรู้อีก ซูย้าว หรือว่าเธอ….”
เจี่ยงเวินอี๋ ยังไม่ทันพูดจบ ซูหยวนก็ตื่นตระหนก และรีบขวาง อธิบายว่า “คุณป้า เข้าใจผิดแล้ว! ฉันเพียงแค่คิดจะปลอบใจน้องสาว!”
หลังจากพูดจบ มือเล็กๆก็จับลี่เฉินซีไว้อีกครั้งอ้อนวอนอย่างออดอ้อน “พี่เฉินซีคุณรีบช่วยคนอื่นอธิบายสิ! เป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะทำร้ายน้องสาว ใช่ไหม?”
สวยนิ่มนวลและอ่อนโยนเหมือนดอกไม้เล็ก ๆ ที่บานสะพรั่งในเรือนกระจก ขนาดฉันเห็นแล้วยังหลง แล้วจะไม่ทำให้ผู้ชายอยากหลงทะนุถนอมได้ไง?
“ดีแล้ว!” ในที่สุดลี่เฉินซีก็เปิดปาก พูดด้วยเสียงเย็นชา เต็มไปด้วยพลัง “เรื่องนี้ให้มันจบแค่นี้เถอะ!”
จากนั้นเขาก็กำชับให้ หวางอี้ ส่งแม่ของเธอกลับไปพักผ่อน ก่อนจะไป เจี่ยงเวินอี๋ ยังคงสับสนเล็กน้อยและกระซิบคำสองสามคำที่หูของ หวางอี้
ถูกไฟสูงที่สว่างส่องตา ทำให้รู้สึกว่าถูกโจมตีอีกครั้ง ซูย้าวเมื่อลืมตาขึ้นมาเหงื่อก็ชุ่มไปทั้งตัว
สิ่งที่เห็นทุกอย่างคือขาวบริสุทธิ์ ได้แต่กลิ่นยาฆ่าเชื้อ
เธอรีบยกมือขึ้นลูบท้องน้อย เสียงผู้ชายแว่วมาจากข้างๆหู “เด็กไม่เป็นอะไร!”
ชัดเจน เย็นชา
ซูย้าวโล่งอก หันไปมองตามเสียง เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่บนข้างๆเตียง หน้าตาหล่อเหลาไม่เป็นรอง เย็นชาเหมือนน้ำแข็งปกคลุม
“คุณเป็นคนอยากเก็บเด็กไว้เอง งั้นก็ต้องคลอดเขาออกมาอย่างปลอดภัย!”
สายตาที่เย็นชาของลี่เฉินซี เหมือนดาบที่อยู่ในน้ำแข็ง ชัดถ้อยชัดคำ ถูกทิ่มแทงเข้าในใจกลางของเธออย่างโหดร้าย
ทันใดนั้น ร่างที่สูงใหญ่เหมือนภูเขาพุ่งลงมา จับคางแหลมๆของเธอไว้ “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อย่ากลับไปกลับมา ถ้าหากเด็กเกิดเรื่อง ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”
ตามด้วยดึงมือกลับอย่างแรง สะบัดเธอไปอย่างแรง รอซูย้าวเงยหน้าขึ้น ก็เห็นแต่ร่างสูงใหญ่ของเขาเดินออกไปแล้ว
เย็นชาดั่งคนแปลกหน้า
“พี่เฉินซี น้องสาวเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่ตายง่ายๆหรอก!”
บทนทนาของซูหยวนและลี่เฉินซี ชัดถ้อยชัดคำ เหมือนมีดที่ออกจากปลอก แทงเข้าหัวใจเธออย่างโหดร้าย
เลือดไหลซิบๆ เจ็บจนตัวสั่น
“ถ้างั้นเราไปกินมื้อดึกกันเถอะ! ฉันหิวละ!” ซูหยวนยิ้มจนเห็นฟัน ควงแขนผู้ชายต่อแล้วเดินไปข้างนอก
พอดีหวางอี้ขึ้นมาจากตึกข้างล่าง ในมือถือเอกสารอยู่ เห็นลี่เฉินซีมีสีหน้าผิดปกติ
“ประธานลี่ นี่คือวีดีโอการตรวจตราที่คัดมาจากหลังประตูโรงแรม ยังมี……ทะเบียนรถคันที่จะชนคุณนาย ท่านดูสิครับ”
ลี่เฉินซีรับมาเปิดดู เนื้อหาที่เห็นทำให้ความโกรธความเคร่งขรึมพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า
“พี่เฉินซี เป็นอะไร?” ซูหยวนเอียงหัวถามอย่างมึนงง พอช่วงเวลาที่เห็นเนื้อหาในเอกสาร ก็ตะลึง!
ต่อมา สายตาเธอขยับอย่างว้าวุ่น วินาทีต่อมา รีบพูด “ไม่ ไม่ใช่ฉัน! ฉันไม่ได้ขับรถชนซูย้าวจริงๆ “
เพราะตื่นเต้นเกินไป เสียงของซูหยวนไม่นิ่ง ติดๆขัดๆยังสั่นอีกด้วย
ลี่เฉินซีชักสีหน้าลง ใบหน้าเย็นชา บ่อน้ำไม่มีคลื่น ทำให้คนกลัว
อุณหภูมิลดลงตั้งหลายองศา ซูหยวนจับแขนเขาอย่างกังวล “พี่เฉินซี คุณเชื่อฉันนะ……”
“หึ!”
ลี่เฉินซีไม่พูดไม่จา แกะมือเธอออก ยิ้มอย่างเยือกเย็น เหมือนปีศาจคลานขึ้นมาจากนรก ปากที่บางเฉียบขยับ “เธอนี่ฉลาดมากจริงๆ พวกเรายังไม่มีใครพูด เธอก็สามารถรู้ว่ามีคนขับรถชนซูย้าว……”
ซูหยวนตกตะลึง เป็นเพราะตัวเองร้อนตัวเกินไป พูดผิดไป!
“เฉินซี……”
คำว่า‘พี่’ยังไม่ทันพูด ก็ถูกเสียงผู้ชายขัดขวางขึ้นมา
“หุบปาก!”
ลี่เฉินซีเอาเอกสารในมือโยนไปที่ขาของซูหยวน เดินห่างออกจากเธอไปอย่างเด็ดขาด
ซูหยวน ชะงัก อยากไปเรียกให้เขาหยุด แต่กลับไม่มีแรง
ความไม่พอใจสะสมอยู่ที่ก้นบึ้งหัวใจ กัดฟันอย่างโกรธสุด สบาดแขนแล้วเดินตรงไปที่ห้องผู้ป่วย แต่ถูกหวางอี้ไล่ตามอย่างรวดเร็ว
“คุณซู ผมว่าทางที่ดีคุณอย่าทำแบบนี้”หวางอี้พูดอย่างตักเตือน
ซูหยวนระเบิดความโกรธออกมา กัดฟัน”นายเป็นตัวอะไร! หลีกไป
“ผมไม่ได้เป็นตัวอะไรครับ แค่หวังว่าคุณซูอย่าได้ไปรบกวนคุณผู้หญิง!พักผ่อนอีก”หวางอี้พูดชัดถ้วยชัดคำ เต็มไปด้วยการตักเตือน
ต่อด้วย หวางอี้พูดเสริมอีก”นี่คือความต้องการของของประธานลี่
“อะไรนะ?ฉัน……”
ซูหยวนรู้สึกมีเสียงดังตุ้มขึ้นสมอง กลายเป็นว่างเปล่า
ตั้งตัวไม่ทันร่างโซเซ รู้สึกว่าถูกใส่ร้าย ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไร ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้…….
ในห้องคนไข้ ซูย้าวได้ยินข้างนอกถูกเถียงกัน ห้ามไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
หวางอี้เคาะประตูเข้ามา เคารพแบบมีมารยาท พูดขึ้น “ประธานลี่บอกให้คุณผู้หญิงพักผ่อนมากๆ ดูแลครรภ์ดีๆ เรื่องอื่นๆไม่ต้องไปคิดมาก”
เรื่องอื่นๆ?
ซูย้าวตะลึง เห็นข้างกายหวางอี้มีผู้หญิงเพิ่มขึ้นคนหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามยิ้มแย้มกวาดมือเรียกเธอ