เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 94
บทที่ 94 ฉันจะสู้กับแกไปจนถึงที่สุด
สิ่งที่ได้รับทางโทรศัพท์คือวิดีโอความยาวสิบกว่านาที แต่เห็นได้ชัดว่ามันถูกบีบอัด และแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
ซูย้าวตกตะลึงทันทีที่เปิดดู
สถานที่ในวิดีโอเป็นสถานที่ที่คล้ายกับห้องในโรงพยาบาล อานโล๋ถูกชายสองคนที่สวมหน้ากาก และหมวกแก๊ปจับไว้ ส่วนอีกคนก็เตะต่อยเธอ
อานโล๋ถูกทุบตีเป็นเวลานาน จนจมูกฟกช้ำ และใบหน้าบวมเป่ง เธอแทบจะยืนไม่อยู่ ทั้งสองคนลากเธออย่างแรง และใช้มีดเล่มเล็กฟันแขนของเธอ
แผลถูกเปิดออก ทำให้เลือดสีแดงสดไหลออกมาออกมาทันที ภาพนั้นทำร้ายหัวใจของซูย้าวอย่างรุนแรง
และในตอนที่สำคัญที่สุดนั้น คลิปก็หยุดไป
ซูย้าวยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น เธอเจ็บปวดแทนแม่ของเธอ จนไม่อาจกักเก็บไว้ได้อีก เธอกรีดร้องออกในใจอย่างรุนแรงราวกับมีคนมาฉีกเนื้อ แร่กระดูกออกเป็นชิ้นๆ
เสียงกริ่งข้างล่างดังขึ้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงแม่บ้านขึ้นมาบอกว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณซูหยวนมาค่ะ”
ซูหยวน
คริปทารุณแม่เธอเมื่อสักครู่นี้ เธอเป็นคนส่งมาแน่
ถึงซูหยวนจะไม่มา เธอก็ตั้งใจจะไปหาด้วยตัวเองเหมือนกัน
ซูย้าวส่งลูกให้แม่บ้านดูแล และรีบลงบันไดไป
ช้นล่างไม่มีคน พี่เลี้ยงออกไปซื้อของ แม่บ้านดูแลคุณชายน้อยอยู่ข้างบน ในห้องนั่งเล่นจึงมีแค่พวกเธอสองพี่น้อง
ซูหยวนใส่กระโปรงรัดรูป ทำให้เห็นส่วนโค้งเว้าอันเซ็กซี่ของเธออย่างชัดเจน เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่มองมาด้วยความเย็นชาและเยาะเย้ย
“น้องรัก คิดไม่ถึงเลยว่าไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เธอดูจะมีความสามารถมากขึ้นแล้วนี่นา”
ซูหยวนเดินเข้าไปใกล้เธอทีละก้าว และยิ้มอย่างสวยงาม แต่ดวงตาของเธอกลับอำมหิตมาก
“รู้จักเอาคืนฉันแล้วหรอ แต่มีนิดนึงที่ฉันไม่เข้าใจ ประจานฉันแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่รู้จักคำว่าพังก็พังด้วยกัน รุ่งก็รุ่งด้วยกันหรอ”
ซูหยวนมองเธอด้วยสายตาที่ดูถูกเหมือนมีดคมที่แฝงไปด้วยพิษ
“ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวนี้รู้จักแทงข้างหลังหรอ แต่เธอไม่ประเมินความสามารถของตัวเองหน่อยเลยนะ ก่อนจะมาต่อกรกับฉันน่ะ”
ทันทีที่พูดจบ ซูหยวนก็ง้างมือขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ตบลง ก็ถูกซูย้าวมองออกก่อน เธอจึงจับข้อมือของเธอไว้
การโต้กลับของซูย้าวทำให้ซูหยวนตกใจทันที
เธอพยายามดึงมือออก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เธอจึงยิ่งโกรธมากขึ้น “ซูย้าว ปล่อยมือฉัน ไม่งั้นถ้าฉันโทรแค่กริ๊งเดียว แกก็เตรียมเก็บศพแม่ของแกได้เลย”
ซูย้าวจ้องเธอด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยเธอ
ทันทีที่ซูหยวนเป็นอิสระ เธอยกมือขึ้น และตบซูย้าวอย่างรวดเร็ว
เธอตบอย่างรุนแรง จนเมื่อตบเสร็จมือที่ตบก็รู้สึกแสบขึ้นมา แล้วนับประสาอะไรกับใบหน้าของซูย้าวล่ะ
ใบหน้าของเธอแดง และขึ้นรอยนิ้วมือทั้งห้า พร้อมทั้งมุมปากที่แตก จนมีเลือดซึมออกมา
ทันใดนั้นซูหยวนก็ดึงผมเธออย่างแรงด้วยความโกรธ จนทำให้ซูย้าวเจ็บราวกับหนังหัวจะหลุดออกมา
“แก! แกกล้าสู้ฉันงั้นหรอ นังหน้าด้าน!”
ซูหยวนหยิบมีดเล็กๆออกมาจากกระเป๋าของเธอ ถึงมันไม่ใหญ่ แต่ใบมีดนั้นคมมาก
“เห็นแล้วใช่มั้ย แค่เอามีดนี้กรีดอานโล๋ทีละนิดทีละนิด แกว่ามีดเล่มนี้จะกรีดแขนได้กี่แผลกัน”
เธอวางมีดลงบนใบหน้าของซูย้าว และพูดขู่ พร้อมส่งยิ้มเย็นเยียบ ราวกับปีศาจที่คลานออกมาจากนรก ใบหน้าที่น่าเกลียดของเธอ ทำให้เกิดความกระอักกระอ่วนสำหรับคนมองไม่น้อย
“ฉันได้ยินมาว่ามีวิธีการลงโทษในสมัยโบราณที่เรียกว่า การทัณฑ์ทรมาน คือการใช้มีดมาแล่เนื้อเถือหนังออกมาเป็นพันๆครั้ง มีดเล่มสุดท้ายจะทำให้คนคนนั้นตาย หรือถ้าไม่ตายก็จะเหลือแต่เลือดติดกระดูก นั่นถึงจะเรียกว่าตายทั้งเป็น”
มีดในมือของซู่หยวนวนไปรอบ ๆ ใบหน้าของชูย้าวทีละเล็กทีละน้อย ด้วยแรงไม่เบาหรือหนักเกินไป มันถูกควบคุมไม่ให้ข่วนผิวหนัง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้หวาดเสียวได้
“บอกฉันสิว่าอยากให้อานโล๋สัมผัสดูถึงวิธีการตายแบบนี้มั้ย หืม”
ดวงตาของซูย้าวนิ่งไป ก่อนที่จะส่งประกายความโกรธออกมาอย่างรุนแรง และไม่เคยเป็นมาก่อน
“แกมองฉันด้วยสายตายังไงนะนังซูย้าว แกอย่าคิดว่าแค่ข่าวแค่นั้นของแกจะทำอะไรฉันได้นะ อย่าลืมว่าแม่ของแกยังอยู่ในมือของพวกเรา ถ้าไม่อยากให้แม่แกตาย แกก็คิดเอา ไม่งั้นฉันก็จะสู้กับแกไปจนถึงที่สุด”
ซูหยวนดึงพลังเฮือกสุดท้ายผลักเธอออกไปอย่างรุนแรง และถือมีดเดินออกไป
ซูย้าวมองตามหลังผู้หญิงคนนั้นไปด้วยอารมณ์ไม่คงที่ มือสองข้างกำแน่นข้างลำตัว
จะสู้จนถึงที่สุดหรอ
ดี หวังว่าซูหยวนจะกล้าพูดกล้าทำ
เธอรีบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความหาโม่หว่านหว่าน “ทำต่อไป”
หลังจากส่งข้อความไปไม่กี่วิ โม่หว่านหว่านก็ตอบกลับมาว่า “โอเค!”
ซูย้าวถือโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง แม่ยังคงโดนทารุณ แต่แผนได้ดำเนินไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับได้ ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือร้าย เธอก็ต้องทำต่อไป….
ในขณะที่เธอกำลังวุ่นวายใจอยู่นั้น ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง ก่อนจะปรากฏร่างของลี่เฉินซีที่ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวัน
ร่างสูงสง่าเดินเข้ามาพร้อมกับแผ่รังสีอมหิตไปโดยรอบ ใบหน้าของเขาเย็นชาไร้ความรู้สึก ขายาวก้าวตรงไปที่ห้องนั่งเล่น
ซูย้าวยืนอยู่กับที่ ลืมสิ่งที่ตัวเองต้องทำไปโดยพลัน จนกระทั่งลี่เฉินซีเดินเข้ามาใกล้ขึ้น พร้อมพูดด้วยเสียงต่ำ ทำให้เธอตกใจขึ้นมากะทันหัน
“ทำไมหน้าคุณเป็นแบบนั้น”
จากนั้นมือใหญ่เรียวยาวของเขาก็เชยคางของเธอขึ้น มองอย่างละเอียด และจ้องไปที่รอยนิ้วแดง และบวมบนใบหน้าของเธอ “ใครตบ”
เธอหรี่ตาลง ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
ลี่เฉินซีดึงมือกลับ และไม่รอคำอธิบายของเธอ เขาเรียกแม่บ้านมาด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม
“ เมื่อกี้ใครมาที่นี่” ชายหนุ่มถามด้วยความเย็นชา และแฝงไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
แม่บ้านไม่อาจปิดบัง แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงพูดว่า “เมื่อกี้คุณซูหยวนมา….”
เมื่อเขาตวัดสายตาไปมอง แม่บ้านก็รีบหนีเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว
“ซูหยวนมาทะเลาะอะไรกับคุณที่นี่” ร่างใหญ่ของลี่เฉินซีถามอยู่ข้างๆร่างเล็ก
เธอกัดริมฝีปากล่างเบาๆ และส่ายหัวเพื่อบ่งบอกว่าไม่มีอะไร
ท่าทางที่อ่อนแอของเธอ จุดประกายความโกรธในใจของเขาทันที เขาคว้าข้อมือของเธอไว้และพูด “คุณไม่มีมือหรือไง ทำไมไม่รู้จักสู้กลับ”
พูดจบเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติอีกครั้ง
จากนั้น เขาก็ดึงร่างของเธอเข้ามา และเอามือใหญ่อังหน้าผากอุ่นจนเกือบจะร้อนของเธอ
ดวงตาของเขาเครียดเกร็งขึ้น ดวงตาเข้มของลี่เฉินซีสะท้อนร่างอ่อนแอตรงหน้า “ไม่สบายด้วยหรอ”
น้ำเสียงของเขาแปลกใจเล็กน้อย เขาจำได้ว่าตอนที่เธออยู่ที่ฝรั่งเศส เธอเป็นหวัดเพราะตากฝนไปซื้อยาให้เขา จากนั้นเธอก็ไม่สบาย
แต่มันผ่านมาตั้งกี่วันแล้ว ทำไมยังมีไข้อยู่
ซูย้าวก้มศีรษะลงอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง ร่างกายของเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้ว มักจะมีไข้สูงเป็นพัก ๆ…
ลี่เฉินซีเดินตรงไปข้างหน้า จนทำให้ซูย้าวสะดุ้งอย่างตกใจ จากนั้นเขาก็อุ้มเธอขึ้นไปชั้นบน
เขาโยนเธอลงบนเตียงใหญ่ และขึ้นไปคร่อม ก่อนที่เงาของร่างใหญ่จะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาพูดชิดริมฝีปากบางว่า “จริงๆเรื่องนี้ อาจจะช่วยให้คุณถอนไข้ได้”
เธอขมวดคิ้วด้วยความงุนงง และตื่นตระหนก ก่อนที่ความรู้สึกทั้งหมดจะทำลายไปด้วยการกระทำขั้นต่อไปของเขา…