เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 95
บทที่ 95 ฉันประเมินเธอต่ำไป
พายุสวาทโหมกระหน่ำตลอดทั้งคืนก่อนจะจบลงในตอนรุ่งสางของวันรุ่งขึ้น ทั้งคู่หลับลงไปด้วยความอ่อนเพลีย และเมื่อตื่นมาอีกครั้ง ห้องกว้างก็เหลือแค่ซูย้าวคนเดียว
มันเย็นชา อ้างว้าง ราวกับว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อวานเป็นเพียงแค่ความฝัน
แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเหลือเชื่อก็ชื่อ ไข้สูงที่กินเวลามาหลายวันได้หายไปแล้ว!
เธอเองก็รู้สึกพูดไม่ออก
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็ลงไปชั้นล่าง และพบเขาอยู่ว่าในห้องอาหาร ร่างสูงของลี่เฉินซีนั่งอยู่ที่โต๊ะอุ้มหนูเจิ้งเอ๋อไว้ในอ้อมแขน
เขาปล่อยให้เจิ้งเอ๋อนั่งบนสูทหรู และกำเน็คไทของเขาหมุนควงเล่นไปรอบๆ
เมื่อมองเขาในตอนนี้จากไกลๆ ก็จะเห็นได้ว่าเขาเย็นชาน้อยกว่าปกติมาก ดูเป็นการพักผ่อนอยู่บ้านสบายๆ และมีความเป็นพ่อออกมาให้เห็น
เจิ้งเอ๋อซนมาก กินข้าวที่เขาป้อนแค่สองคำ ก็ปีนป่ายเล่นบนตัวของเขา เดี๋ยวก็กลับมากิน เดี๋ยวก็เล่นอยู่อย่างนั้น แค่นาทีเดียวก็ไม่สามารถอยู่นิ่งได้
ซูย้าวมองไปเงียบๆ และยิ้มออกมา
ตอนแรกเธอไม่ยอมฟังการคัดค้านของเขา และคลอดเด็กคนนี้ออกมา สุดท้ายการตัดสินใจของเธอก็ถูก
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ขัดจังหวะความคิดของเธอ ลี่เฉินซียกมือขึ้นรับโทรศัพท์ และส่งลูกให้พี่เลี้ยงดูแล
“ฉ่ายหลิง ไม่ต้องกังวล ผมจะไปตอนนี้….”
หลังจากวางสายเขาก็ลุกขึ้น และเดินออกมาจากห้องอาหาร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเห็นซูย้าวที่เพิ่งเข้ามา ลี่เฉินซีหยิบเสื้อสูทจากแม่บ้าน แล้วถามด้วยเสียงต่ำ “คุณยังมีไข้อยู่หรือเปล่า”
ประโยคเดียว แต่มันดูสองแง่สองง่าม
ซูย้าวหลุบตาลงเล็กน้อย พร้อมส่ายหน้าแก้มแดงระเรื่อ
มือใหญ่ของเขาอังหน้าผากของเธอ จนแน่ใจว่าไม่มีไข้แล้ว จึงพูดว่า “งั้นอย่าลืมกินยานั้นด้วย!”
ซูย้าว รู้ดีว่า ‘ยานั้น ’หมายถึงอะไร
แต่เมื่อประโยคนี้เอ่ยออกมาจากปากของเขา จู่ๆเธอก็รู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจ และรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจ
เธอมองลี่เฉินซีเดินออกไปอย่างรวดเร็ว และรีบร้อน เพื่อผู้หญิงอีกคน…
ซูย้าวหันกลับมาหยิบยาคุมกำเนิดออกมาจากลิ้นชัก เทยาออกมาสองสามเม็ด แล้วกลืนลงไปพร้อมกับนมอุ่นๆ
ความสุขทุกวันคืนอันนับไม่ถ้วน คงไม่เท่ากับกับความรักครั้งเก่าในใจของเขา บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตาก็ได้
สุดท้ายเธอก็จมปลักอยู่กับความรักอันไร้จุดหมายนี้
เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวของซูหยวนถูกเปิดเผย หุ้นของบริษัทซูซื่อจึงตกอย่างรวดเร็ว แถมข่าวยังไม่สงบ เซียวควนก็ถูกตำรวจนำตัวไปอีก
มีจดหมายแจ้งเบาะแส รายงานการกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดของเซียวควนอย่างละเอียดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลักฐานตรวจสอบแล้ว และยังมีวิดีโอต่างๆเป็นหลักฐานซึ่งทำให้ไม่สามารถดิ้นหลุดได้
ในช่วงที่เซียวควนถูกจับ ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทซูซื่อก็ได้เสนอให้ถอดเซียวควนออกจากตำแหน่งประธานบริษัท และมีการเสนอถอนทุน ทำให้ซัวฉ่ายลี่ทนแทบไม่ไหว เธอทำได้แต่พยายามให้ความเชื่อมั่น และยืดเวลาออกไปเท่านั้น
ซัวฉ่ายลี่ทำธุรกิจไม่เป็น หลายปีมานี้หลังจากซูป๋อลอนตาย เธอก็แต่งงานใหม่กับเซียวควนทันที ทำให้ทุกอย่างเกี่ยวกับบริษัทซูซื่อเธอไม่จำเป็นต้องดูแล แต่เมื่อจู่ๆภาระอันยิ่งใหญ่ก็ตกมาอยู่ที่เธอ ทำให้เธอตื่นตระหนกขึ้นมา
หลังจากไล่ผู้ถือหุ้นทั้งหมดออกไป เธอก็ถูกธนาคารตามหนี้ หนี้ทั้งหมดของบริษัทซูซื่อในช่วงสองปีที่ผ่านมากำลังอยู่ตรงหน้า ยิ่งทำให้เธอยิ่งทำอะไรไม่ถูก
บริษัทซูซื่อในวันนี้ยุ่งเหยิงไปหมด ซัวฉ่ายลี่ไม่มีความสามารถในการพลิกสถานการณ์ ดังนั้นวิธีเดียวคือประกาศล้มละลายโดยเร็วที่สุด และทำตามขั้นตอนหลังจากประกาศล้มละลาย วิธีนี้จะทำให้เธอพอรักษาสมบัติที่มีเอาไว้ได้บ้าง
ซัวฉ่ายลี่มองเซียวควนอยู่ในคุกด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนมันจะหยดลงบนโต๊ะเรื่อยๆ
“ควน ไม่มีคุณแล้ว ฉันจะทำยังไงดี ทำไมบริษัทซูซื่อถึงเป็นหนี้มากมายขนาดนั้น ธนาคารต้องการเอาทรัพย์สินและสาขาคืนทั้งหมด ไหนจะพวกคณะกรรมการพวกนั้นด้วย ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว….”
เซียวควนหลับตาลงอย่างหมดหนทาง เขาคิดมานานแล้วว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ซัวฉ่ายลี่ต้องไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้แน่ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า วันนี้จะมาเร็วขนาดนี้
“ คุณบอกมา มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น มีคนจงใจทำกับเรารึเปล่า” ซัวฉ่ายลี่ เดา
เสี่ยวคุนลืมตาขึ้น และสูดหายใจเข้าลึกๆ “คิดว่าไงล่ะ ตอนแรกเกิดเรื่องกับหยวนหยวน แล้วหลังจากนั้นคุณสองแม่ลูกทำอะไร”
“พวกเรา …” ซัวฉ่ายลี่ตาเป็นประกายขึ้น และสิ่งเดียวที่เธอคิดได้ก็คือ ซูหยวนพาคนไปที่บ้านพักคนชรา และสั่งสอนอานโล๋อย่างรุนแรง!
แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่า “หรือจะเป็นซูย้าว ไม่ใช่หรอกมั้ง เธอเป็นแค่คนใบ้ จะ….”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ เด็กนั่นโกรธแค้นมาตั้งแต่เด็ก หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะคุณขังอานโล๋ไว้ คิดหรอว่ามันจะเชื่อฟังพวกเรา”
เซียวควนอยู่ในห้างมาหลายปี ไม่ใช่ว่ามองคนออกทั้งหมด แต่ก็มีความรู้อยู่บ้าง
ตั้งแต่เขารู้จักซัวฉ่ายลี่ รู้จักซูย้าวกับซูหยวน เขาก็มองออกทันทีว่า ซูหยวนไม่มีความทะเยอทะยาน และจัดการง่าย แต่ซูย้าวเป็นคนล้ำลึก เดาใจยาก เธอไม่ใช่เด็กใบ้ธรรมดา
ทุกอย่างเป็นไปตามความคิดของเขาในตอนนั้นจริงๆ
ซัวฉ่ายลี่คิดตาม แต่ก็ยังสงสัยเล็กน้อย “หรือเรื่องครั้งนี้จะเป็นนังชั้นต่ำซูย้าวทำจริงๆ พระเจ้า!”
เธอคิดตามอย่างละเอียด และเกิดความขุ่นเคืองขึ้นมาในใจ
จากนั้นก็พูดว่า “เธอไม่น่าจะกล้า อย่าลืมว่าอานโล๋อยู่ในมือฉัน ถ้าเธอกล้าทำ ฉันจะฆ่าอานโล๋เมื่อไหร่ก็ได้”
“คุณยังไม่ได้ทำอะไรอานโล๋ เธอก็ทำขนาดนี้แล้ว ถ้าคุณทำอานโล๋ คุณคิดว่าเราจะเป็นยังไง” เซียวควนพูด
ซัวฉ่ายลี่พะวงเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นฉันควรทำยังไงดี”
“เมื่อก่อนผมบอกแล้วให้คุณกับซูหยวนอยู่เฉยๆ คุณก็ไม่เชื่อ สุดท้ายเป็นยังไง”
เซียวควนกัดฟันอย่างโกรธ ๆด้วยใบหน้าน่าเกลียด เขาพูดเสริมอีกว่า “บอกมาซิ ไม่มีอะไร แล้วพวกคุณจะไปทำอานโล๋ทำไม พวกคุณประเมินเธอต่ำไปแล้ว”
ซัวฉ่ายลี่มองอย่างไม่อยากเชื่อ “ซูย้าวแค่คนใบ้ เธอ…เธอจะมีหลักฐานของคุณได้ยังไง”
เซียวควนมองเธออย่างหน่ายใจ และลุกขึ้นเรียกตำรวจให้มาพาเขาออกไป
เหลือแค่ซัวฉ่ายลี่นั่งเงียบอยู่คนเดียวด้วยความงุนงง
ซูย้าวทำทั้งหมดนี้จริงๆหรอ
โทรศัพท์สั่น ก่อนจะได้รับข้อความหนึ่ง
ซัวฉ่ายลี่กดเข้าไปอย่างรวดเร็ว เป็นซูย้าวส่งมา และเนื้อหาก็เป็นแค่ข้อความหนึ่งประโยคง่ายๆ
“ปล่อยแม่ของฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะรอที่บ้านพักคนชราชานเมือง”
ซัวฉ่ายลี่เชื่อในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเธอเป็นคนทำ
แต่เธอเป็นแค่คนใบ้ ไม่มีแบคอัพ ไม่มีความสามารถ ทั้งหมดนี้เธอทำได้ยังไง