เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 97
บทที่ 97 ถ่านไฟเก่า
ถ่านไฟเก่า
หลังจากรับตัวอานโล๋มา อานโล๋ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในเมืองเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด
ในขณะเดียวกัน ซูย้าวก็เดินขึ้นไปยังห้องทำงานของโอวหยางเช่อ เพื่อมาฟังผลตรวจก่อนหน้านี้
ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไป เมื่อโอวหยางเช่อเห็นเธอ ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้น เขาลุกขึ้น และพูดอย่างรีบร้อน “ซูย้าวคุณมาสักที!”
คนส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับการตรวจเนื้องอกประเภทนี้มาก เช้าวันถัดไป พวกเราจะมารอผลตรวจทันที
แต่ซูย้าวแตกต่างออกไป ผ่านไปหลายวัยแล้ว ถ้าเธอไม่ได้มาโรงพยาบาลกับแม่ เธอก็เกือบลืมไปแล้วว่าเธอได้รับการตรวจชิ้นเนื้อเนื้องอกด้วย
โอวหยางเช่อไม่ได้โทรมาตามเช่นกัน เขารอให้เธอนึกออก สุดท้ายเธอก็มาจนได้
“ต้องการทราบผลการตรวจของคุณรึยัง” เขาทำหน้าเป็นการเป็นงาน และหยิบรายงานออกมาจากลิ้นชัก
ซูย้าวพยักหน้าด้วยใบหน้าสงบ
โอวหยางเช่อขมวดคิ้ว “คุณไม่กังวลเลยเหรอ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอก็ยกริมฝีปากยิ้มน้อยๆ
“ทำไมคุณไม่กังวล คุณหมดอาลัยตายอยากแล้วหรอ” เขาพบเพียงคำห้าคำนี้บนใบหน้าของเธอ
ซูย้าวมองไปที่เขาด้วยดวงตาหรี่เล็กน้อย
“งั้นเป็นเพราะอะไร ถ้ามันเป็นเนื้อร้าย คุณอาจมีเวลาไม่มากแล้ว!” โอวหยางเช่อพูด
แต่สิ่งที่เธอได้ยินจากคำพูดของเขา ก็เหมือนเป็นแค่คำขู่เท่านั้น
หลังจากนั้นนานมาก ซูย้าวก็พูดด้วยภาษามือว่า “ไม่ใช่จะตายทันทีสักหน่อย ต้องเครียดขนาดนั้นเลยหรอ ไม่ว่าเวลาจะเหลืออีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี สำหรับฉันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก แค่ปล่อยให้มันเป็นไป”
โอวหยางเช่อยอมกับความธรรมะธัมโมของเธอจริงๆ เขาหลุบตาลง และส่งผลตรวจให้เธอ
“เอาเถอะ ผมล่ะยอมคุณจริงๆ คุณเป็นคนไข้คนเดียวของผมในหลายปีมานี้ที่มีสภาพจิตใจดีขนาดนี้”
ซูย้าวยิ้มบางๆ และรับผลตรวจมาเปิดดู
มันเป็นเนื้องอกธรรมดา ไม่ได้เว่อร์เหมือนที่โอวหยางเช่อพูด
“เป็นเนื้อดี ขอแนะนำให้ผ่าตัด และฟื้นฟูสายเสียงในเวลาเดียวกัน วิธีนี้จะช่วยให้เสียงของคุณกลับมาดีเหมือนเดิม ถ้าคุณไม่มีปัญหา ผมจะจัดนัดผ่าตัดเอง” โอวหยางเช่อพูดพลางเดินข้ามโต๊ะมา และนั่งลงเพื่อเตรียมความพร้อม
ซูย้าวคิดสักพัก และเดินไปหยุดเขา
“ ฉันเกรงว่าช่วงนี้จะไม่มีเวลา ขอเวลาให้ฉันอีกสักหน่อยได้ไหม ถ้าไม่มีปัญหาอะไร” เธอถามด้วยภาษามือ
โอวหยางเช่อคิดอยู่พักหนึ่ง “นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่แม้ว่าคอของคุณจะได้รับการผ่าตัด ก็ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานมาก!”
เธอพยักหน้าแสดงความเข้าใจ
หลังจากคุยกับโอวหยางเช่อเกี่ยวกับลำคอของเธออย่างละเอียดสักพักแล้ว เธอก็ออกมาจากห้องตรวจ หลังตรวจอานโล๋แล้วพบว่าร่างกายของเธอไม่ค่อยดี รวมถึงอาการบาดเจ็บภายนอก เธอจึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกสักระยะ
ซูย้าวดำเนินการ และอยู่เป็นเพื่อนแม่ของเธอในช่วงบ่ายทั้งวัน ก่อนจะกลับบ้านตอนเย็น
“เด็กโง่ หนูไม่ต้องห่วงแม่ บอกแล้วไงว่าให้ห่วงตัวเอง ทำไมต้องทำเพื่อแม่ขนาดนั้น” อานโล๋ถอนหายใจ เธอรู้สึกเป็นทุกข์แทนลูกสาว แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
ซูย้าวเพียงแค่ยิ้มบางๆ จับมือแม่ และแสดงท่าทางว่า “แค่มีแม่ หนูโอเคทุกอย่าง”
อานโล๋ลูบหัวเธอเบาๆ “ลูกนี่โง่จริงๆ รีบรักษาคอเถอะ แม่อยากเห็นลูกแข็งแรง”
เธอพยักหน้าอย่างแน่วแน่
รักษาลำคอ และฟื้นฟูเสียง
มันต้องได้ทำในสักวัน แต่ตอนนี้ยังมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ
ทันทีที่เธอลงมาจนถึงทางเข้าแผนกผู้ป่วยใน เธอก็ถูกนักข่าวสื่อมวลชนรายล้อม และส่งไมโครโฟนหลายตัวให้เธอ
และยังมีทีมงานหลายคนที่กำลังถ่ายภาพและวิดีโออยู่ ไม่รู้ว่าเป็นการถ่ายทอดสดหรืออะไร ซูย้าวสับสนไปหมดกับความวุ่นวายตรงหน้า
“คุณซูย้าว ข่าวที่ปล่อยมาทำลายบริษัทซูซื่อในช่วงนี้ และข่าวที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาจากคุณคนเดียวนั่นเป็นความจริงหรือไม่คะ”
“เป็นลูกสาวของบริษัทซูซื่อเหมือนกัน ต้นตระกูลเดียวกัน แต่คุณกลับทำกับพี่สาว และพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงอย่างนี้ คุณทำไปเพื่ออะไรคะ”
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชิงสมบัติไหมคะ แต่คุณแต่งเข้าตระกูลลี่ไปแล้ว ถือว่าคุณได้เป็นสะใภ้ในตระกูลเศรษฐีแล้ว หรือว่าทางตระกูลลี่ยังให้เงินคุณไม่มากพอ ถึงได้คิดถึงสมบัติดั้งเดิมของตัวเองขึ้นมา และทำเรื่องพวกนี้ ใช่มั้ยคะ”
“หรือเป็นเพราะประธานลี่ไม่ให้เงินคุณใช้ คุณนายลี่โปรดอธิบายด้วยค่ะ!”
นักข่าวรู้ว่าเธอเป็นคนใบ้จึงพาล่ามภาษามือมาด้วย
เพียงแค่ซูย้าวใช้ภาษามือ พวกเขาก็จะแปลออกมาทันที
ช่างคิดได้อย่างรอบคอบจริงๆ
แต่สิ่งที่ซูย้าวไม่เข้าใจก็คือ ทำไมทุกอย่างถึงพุ่งมาที่เธอ
แถมยังมีสื่อมวลชนเหล่านี้อีก …
เธอสามารถเดาได้ทันทีว่าเป็นใครโดยไม่ต้องคิดเลย นอกจากซัวฉ่ายลี่และซูหยวนแล้ว จะมีใครได้อีก
ซูย้าวถูกล้อม และไม่อาจฝ่าวงล้อมไปได้ แถมยังพูดไม่ได้ เธอจึงได้แต่ยืนนิ่งให้คนพวกนี้ถามผ่านหูไปเรื่อยๆอย่างไม่ใส่ใจ
นักข่าวโยงเรื่องจากเธอไปถึงลี่เฉินซี และตั้งใจจะทำให้เกิดข่าวเน่าเฟะของบริษัทลี่ซื่อขึ้นมา ให้เป็นหัวข้อของข่าวในวันพรุ่งนี้
และแล้วก็มีคนมาเมื่อถึงช่วงเวลาวิกฤต
ด้วยรูปร่างที่ผอมของเธอ ทำให้หานฉ่ายหลิงสามารถเบียดตัวเข้าไปในฝูงชนที่วุ่นวายมาถึงตัวซูย้าวได้
“มันไม่ใช่อย่างนั้น! ทุกคนเข้าใจซูย้าวผิด!” หานแยหลิงขึ้นเสียง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์์ของเธอ
ข่าวเกี่ยวกับตระกูลหาน ก็เป็นประเด็นร้อนในช่วงนี้เช่นกัน หานฉ่ายหลิงจึงตกเป็นเป้าหมายของสื่อมวลชนที่แข่งขันกันสัมภาษณ์ การปรากฏตัวนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจ และในขณะเดียวกันก็มีความสุขด้วย
ไมโครโฟนมากมายเปลี่ยนทิศไปทางหานฉ่ายหลิงทันที ทุกคำถามทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“บริษัทHS มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้ และก็ได้รับความช่วยเหลือจากประธานลี่มาไม่น้อย นี่หมายความว่าถ่านไฟเก่ากลับมาคุอีกครั้งรึเปล่าคะ”
“แล้วทำไมคุณหานถึงคิดจะยืนยันความบริสุทธิ์ให้คุณซู พวกคุณควรจะมีปัญหาทางใจกันไม่ใช่หรอ”
“คุณหานกับประธานลี่มีความสัมพันธ์อะไรกัน คุณช่วยอธิบายให้ละเอียดได้ไหม”
“การแต่งงานของคุณชู และประธานลี่เป็นแค่การแต่งในนามเท่านั้น ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คืออะไรคะ”
นักข่าวถามรัวเร็วราวกับพายุทอร์นาโดที่พัดเข้าหาพวกเขาอย่างดุเดือด
ซูย้าวและหานฉ่ายหลิงติดอยู่ในนั้นไม่สามารถออกไปได้
ทันใดนั้นก็เกิดความวุ่นวายในฝูงชน ก่อนที่คนจะเบียดกันเข้ามา และชนหานฉ่ายหลิงที่อยู่ใกล้ๆจนล้มลงไปกับพื้น
ในขณะที่เธอล้มลงกับพื้น ช่างภาพชายและคนข้างๆแถวนั้นก็ล้มลงไปด้วย และทุกคนก็ล้มทับลงบนตัวของหานฉ่ายหลิงทั้งหมด ทำให้เธอเจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้ว
ฉากวุ่นวายเหล่านี้ก็ยังมีนักข่าวถ่ายทอดสดอยู่
บนชั้นสูงสุดของบริษัทลี่ซื่อ ผู้อำนวยการตัวแทนจาก Kกรุ๊ป กำลังเจรจาแผนเบื้องต้นของโครงการ CCU อยู่ แต่ความคิดของลี่เฉินซีกลับโฟกัสอยู่ที่ภาพในทีวี
เขารีบลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะ และหยิบรีโมทขึ้นมาเพิ่มเสียง ด้วยดวงตาลึกล้ำจ้องมองไปที่ผู้หญิงบนหน้าจอที่โดนคนเบียดจนล้ม
“ประธานลี่ ข้อเสนอเกี่ยวกับโครงการ CCU คุณ …”
ผู้อำนวยการตัวแทนของที่นั่นยังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะก่อน ลี่เฉินซีปิดทีวี ก่อนจะหันไปหยิบเสื้อสูท และกุญแจรถ พร้อมกับเดินออกไป ก่อนไปเขาทิ้งไว้ประโยคสุดท้ายว่า “ไว้ค่อยคุยอีกครั้ง”
เขาพูดแค่นั้นก็ปล่อยตัวแทนที่ข้ามน้ำข้ามทะเล และรอเขามากว่าครึ่งเดือนทิ้งทันที