เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - ตอนที่ 98
บทที่ 98 โยงหาคนอื่น
ทางเข้าโรงพยาบาลในเมือง กลุ่มผู้สื่อข่าวต่างรุมล้อมซูย้าว และหานฉ่ายหลิงจนไม่สามารถออกไปได้
ทั้งสองคนไม่ได้เตี้ย แต่เพราะถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน และกล้องมากมาย ทำให้พวกเขาก็จมอยู่ใต้ฝูงชน และมีการเบียดกันมาไปมาอยู่เรื่อยๆ
เป็นอย่างนี้ซ้ำๆ
แต่สีหน้าของซูย้าวไม่ได้เปลี่ยนไป เธอเป็นคนใจเย็น และสงบสติอารมณ์เสมอ ไม่ว่าผู้คนรอบข้างจะแออัดแค่ไหน ควบคุมตัวเองยากแค่ไหน เธอก็ยังมีใบหน้าที่สงบ พร้อมเผยรอยยิ้มเล็กน้อยเสมอ
ในเวลานี้สิ่งที่นักข่าวอยากถ่ายมากที่สุดก็คือใบหน้าที่หงุดหงิด และแสดงความอับอายของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถเขียนข่าวได้มากขึ้น ซูย้าวรู้ดี จึงไม่เปิดให้มีโอกาสนั้น
ขณะที่หานฉ่ายหลิงเบียดล้ม และซูย้า กำลังจะยื่นมือออกไปช่วย ก็มีคนยื่นเท้าออกมา ทำให้เธอล้มลงไปใส่กล้อง
ผู้สื่อข่าวในสถานที่รีบรายงานทันทีว่า “คุณชูและคุณหานทนไม่ได้ที่จะให้สัมภาษณ์เลยทะเลาะกับนักข่าวทุกคนในที่เกิดเหตุ!”
จากนั้นก็ถ่ายภาพโดยเน้นไปที่ใบหน้าของหานฉ่ายหลิง และซูย้าวโดยไม่ให้โอกาสพวกเขาลุกขึ้น
ในขณะที่หานฉ่ายหลิงล้มลง ตากล้องสองคนที่อยู่ข้างๆก็ล้มลงด้วย เธอพยายามลุกขึ้น แต่เหมือนข้างหลังถูกรั้งไว้ จึงไม่อาจขัดขืนได้
เธอรู้อยู่แก่ใจว่า แค่ประมาทแค่นิดเดียวก็จะถูกนักข่าวพวกนี้เอาไปทำข่าวหน้าหนึ่งในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นภายใต้แสงแฟลชมากมาย เธอต้องพยายามกลั้นยิ้มอย่างถึงที่สุด
คนข้างหลังไม่รู้ว่าใครบ้างต่างเหยียบขาของเธอ จนเธอต้องแอบสบถว่า “ไอ้พวกเวร น่าเกลียดที่สุด ทำไมฉันต้องแกล้งเป็นคนดีด้วยเนี่ย”
แรงของคนข้างหลังเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอเจ็บจนอยากจะร้องออกมา แต่ก็ทำได้แค่ข่มไว้
คนข้างหลังตั้งใจจะทำอะไรบางอีกเพื่อให้หายฉ่ายหลิงโกรธ และแสดงท่าทีน่ารังเกียจออกมาต่อหน้าสาธารณชน ขณะที่เธอกำลังยกขาขึ้นอีกครั้ง ก็มีแรงเบาๆเตะโดนขาของหานฉ่ายหลิง
คนคนนั้นตกใจ ก่อนจะเห็นซูย้าวก็ล้มลงตรงพื้นใกล้ๆ แม้ซูย้าวจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับหานฉ่ายหลิง แต่เธอไม่ได้ตั้งใจ และพร้อมจะช่วยคนอื่นด้วยใจจริง
ซูย้าวพูดไม่ได้ แต่ตากลมโตก็จ้องอยู่ที่คนคนนั้น
หลังจากใช้ความพยายามอยู่ครู่หนึ่ง คนนั้นก็ลุกลี้ลุกลน พูดทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค และวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก
ประโยคนั้นไม่ได้สูงหรือต่ำ แต่มันกระแทกหัวใจของชูย้าวอย่างจัง
‘ครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นตัวจริงช่วยเมียน้อย! เต็มใจให้สามีมีเมียสองคน ชั้นต่ำจริงๆ’
กลุ่มคนวุ่นวาย มีทั้งการถ่ายทอดสด และสัมภาษณ์
เสียงทุกอย่างตีกัน พูดไปอย่างนั้น โดนไม่สนใจเสียงใคร
แล้วนับประสาอะไรกับเสียงกลางๆ ที่พูดสบายๆออกมาประโยคเดียว
แต่ซูย้าวได้ยินแล้ว
เธอนั่งตัวแข็งทื่อ แม้จะมีคนมากมาย แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่โดนผลักแขนไปมา
ขณะที่หานฉ่ายหลิงกำลังจะลุกขึ้น ทันใดนั้นก็มีมือเรียวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ
เธอตะลึงชั่วขณะ เงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นลี่เฉินซีอยู่ตรงหน้า
เขาดึงหานฉ่ายหลิงขึ้นมา และขณะเดียวกันก็ขยิบตาหวางอี้รีบนำคนขับไล่นักข่าวทั้งหมดออกไปทันที
การถ่ายทอดสด และการสัมภาษณ์ทั้งหมดสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน กล้องทั้งหมดหยุดทำงาน และเสียงวุ่นวาย ยุ่งเหยิงก็ค่อยๆเงียบลง
เขาดึงหานฉ่ายหลิงขึ้นมาเขาไม่ลืมสั่งให้ริบเมมโมรี่นักข่าว ไม่ลืมสั่งนู่นสั่งนี่ แต่สิ่งเดียวที่เขาลืมก็ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆเขา
หลังจากที่ผู้สื่อข่าวออกไปแล้ว หวางอี้ก็เดินไปช่วยซูย้าวให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เธอได้ยินเสียงของชายคนนั้นพูดผ่านหูมาด้วยความเป็นห่วง “เป็นยังไงบ้าง”
หานฉ่ายหลิงปัดฝุ่นเล็กน้อย แล้วตอบ “ฉันโอเค….”
หลังจากนั้น เธอก็มองไปที่ซูย้าว และถามอย่างกังวล “ซูย้าว เธอเป็นอย่างไรบ้าง เธอบาดเจ็บตรงไหนมั้ย”
เธอฝืนความเจ็บปวดในใจ และส่ายหน้าอย่างใจเย็น
“ให้หวางอี้ไปส่งคุณกลับก่อน พักผ่อนให้ดี อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น!” ลี่เฉินซีปลอบโยน และส่งหานฉ่ายหลิงให้หวางอี้
หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาจับข้อมือบางของซูย้าวด้วยมือใหญ่อันทรงพลังของเขา แล้วดึงเธอตรงเข้าไปในรถ
เธอตะลึง ก้มลงดูมือใหญ่ของเขาที่จับแขนของเธอ ฝ่ามือที่อบอุ่นซึ่งอยู่ใกล้เธอนั้นดูอ่อนโยน แต่ก็เย็นชา
เธออยากจะถอนมือออก แต่เขาจับแน่นกว่า
ลี่เฉินซีไม่ได้มองเธอ เขาแค่ดึงเธอไปนั่งไว้ในรถเท่านั้น
รถขับออกจากโรงพยาบาล ขับข้ามสะพานใหญ่ด้วยความรวดเร็ว จนผ่านบ้านพักตากอากาศริมทะเล แล่นเข้าไปในเมือง และกลับไปถึงบ้านตระกูลลี่ในเขตใต้ของเมือง
ในที่สุดรถก็หยุดลง ลี่เฉินซีไม่สนใจเธอ เขาลงจากรถอย่างรวดเร็ว และเดินเข้าไปในบ้านด้วยรังสีน่ากลัว
แม่บ้าน และพี่เลี้ยงกำลังดูแล และเล่นกับคุณชายน้อยอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เมื่อได้ยินเสียงประตูเข้ามา ทุกคนก็ตกใจ ก่อนจะรีบแยกย้ายกันทันที
สายตาเย็นชาของหลี่เฉินซีมองไปรอบๆ และยืนอยู่ข้างประตูไม่กี่วิ จนเมื่อชูเยเาเข้ามา มือที่แกร่งของเขาก็บีบมือบางอีกครั้ง
เขาลากเธอขึ้นไปจนถึงชั้นสอง
ปิดประตูห้องนอน และล็อค
เขาหันกลับมา ปลดเน็คไทด์ และถอดเสื้อสูทออก หัวใจของซูย้าวก็เต้นแรงขึ้นมาทันที จากที่สงบอยู่
หลังจากอยู่ด้วยกันมานาน เธอเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า แต่เป็นทางการกระทำแทน
ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของลี่เฉินซีนั้นมีมากเพียงใด เธอก็รู้ดี ถ้าโดนเขาขย้ำอีกครั้ง แถมยังเป็นตอนที่เขาอารมณ์ไม่ดี เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะมีชีวิตต่อไปมั้ย…..
ซูย้าวตั้งใจจะหนี แต่ก่อนที่ขาเรียวของเธอจะได้ก้าวหนี ชายหนุ่มก็พุ่งเข้ามาเสียก่อน
เขาจับแขนของเธอ และดึงตัวเธอมากระแทกกับตัวเขาอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ดันตัวเธอไปติดกับกำแพง
เธอถูกกักไว้อย่างสมบูรณ์กับกำแพงด้วยร่างสูงใหญ่ของเขา เขาใช้เพียงมือเดียวจับท้ายทอยของเธอไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ลูบตรงส่วนโค้งเว้าของเธอ ก่อนจะโน้มหน้าลงมาจูบริมฝีปากแดงระเรื่อ และดูดเม้มเบาๆ
ร่างสูงและร่างเล็กแลกลมหายใจนัวเนีย จนอารมณ์สวาทอบอวนไปทั้งห้อง
หัวใจของซูย้าวเต้นอย่างรุนแรง เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีเข้มของเขา และกัดริมฝีปากล่างเบาๆ
เธอไม่รู้ว่าเธอทำอะไรลงไป ถึงทำให้เขาโกรธขนาดนี้….
ลี่เฉินซีมองไปที่เธอช้าๆ มือเรียวของเขา บังคับเชยคางเธอขึ้นให้สบตาสายตาเย็นชาของเขา พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“คุณอยากทำอะไร ผมจะไม่ถาม แต่คุณไม่ควรดึงคนอื่นมาเกี่ยวข้อง เพื่อตัวคุณเอง”