เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 619 ฉันไม่ได้ตั้งใจ
บ้านใหญ่ตระกูลลี่ที่อบอุ่นและหรูหรา ลี่หมิงเล่นเกมคอมพิวเตอร์และหันหน้าไปมองลู่จื่อซีที่มีเหมือนมีเรื่องอยู่ในใจข้างๆ
“ครูลู่ วันนี้ไม่เรียนพิเศษไม่ใช่เหรอครับ?” เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ความหมายนัยคือ ลี่หมิงสงสัยว่าทำไมจู่ๆลู่จื่อซีถึงมาที่บ้าน
ลู่จื่อซีตกใจ เธอก้มหน้าลงอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ที่จริงแล้ว เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ หลังจากที่ออกมาจากร้านอาการ เธอก็ขับรถไปอย่างไร้จุดหมาย และเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็มาถึงบ้านของตระกูลลี่แล้ว
เธอลังเลไปพักหนึ่ง “เอ่อ หมิงเอ๋อ คุณพ่อของหนูช่วงนี้เขา……”
ลี่หมิงเห็นเธอพูดจาติดๆขัดๆ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “ครูลู่อยากถามว่าช่วงนี้คุณพ่อไปสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นรึเปล่า?”
ลู่จื่อซีหัวเราะออกมา เป็นแบบนี้จริงๆ เด็กสมัยนี้โตเร็วกันจริงๆ อายุยังน้อยก็เข้าใคความคิดเล็กๆน้อยๆระหว่างชายหญิง
แต่ที่จริงแล้ว ลี่หมิงก็ไม่ได้เข้าใจอะไรนัก แต่ทุกครั้งที่ลู่จื่อซีมาสอนพิเศษเขากับซีซี เธอมักจะถามถึงคุณพ่อของพวกเขา ไม่อยากให้รู้ก็คงยาก!
ลี่หมิงเล่นเกมอย่างดุเดือด เขาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่คลาดสายตา มือเล็กๆกดแป้นพิมพ์และเมาส์ ปากก็ยังอยากจะพูด มันช่างยุ่งอย่างมีความสุข “ดูเหมือนว่านอกจากคุณแม่แล้วก็ไม่มีใครนะครับ!”
ก่อนหน้านี้เขาได้ยินพี่ชายบอกว่า ที่คุณพ่อไปหาคุณแม่ยุโรป
ลู่จื่อซีครุ่นคิด เธอถามอีกครั้งด้วยความลังเล “แล้วคุณแม่ของพวกหนูก็คือคุณอานคนนั้นเหรอ?”
เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะสงสัยอะไร แต่บทสนทนาของชายสองคนบนโต๊ะอาหารเมื่อกี้มันตรงเกินไป เห็นได้ชัดเจนว่า อานหว่านชิงกับซูย้าวคือคนเดียวกัน
แต่เมื่อดูท่าทางของอานหว่านชิง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับความจริงนี้ ไม่ปฏิเสธแล้วก็ไม่แก้ตัว และดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ลี่หมิงลังเลไปพักหนึ่งแล้วพูดว่า “คุณอานคือใคร?คุณแม่ของผมนามสกุลซู!”
ลู่จื่อซีพยักหน้า เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ถามเรื่องแบบนี้กับเด็กอายุเจ็ดขวบ มันไม่ค่อยสุภาพสักเท่าไหร่
เธอขจัดความคิดในหัวออกไปและเล่นเกมเป็นเพื่อนลี่หมิง แน่นอนว่าเธอไม่ค่อยสนใจเกมพวกนี้มากนัก เธอแค่นั่งดูอยู่ข้างๆ
ลี่หมิงเล่นอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็จบเกม เขาถึงได้มีเวลาหมุนเก้าอี้และมองไปที่ลู่จื่อซี “คุณครู คุณยังชอบคุณพ่อผมอยู่เหรอครับ?”
“เอ่อ……” ลู่จื่อซีกระอึกกระอัก เขินอายจนไม่รู้จะตอบยังไง
แต่ลี่หมิงมองสายตาของเธอออกตั้งนานแล้ว เขาถอนหายใจราวกับผู้ใหญ่ “เห้อ คุณครูนะคุณครู คุณล้มเลิกความคิดเถอะครับ! คุณเก่งขนาดนี้ แล้วยังเด็กหน้าตาก็ดี หาผู้ชายคนอื่นดีกว่า!อย่าเลือกคุณพ่อของผมเลย!”
ลู่จื่อซีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอสับสนยิ่งกว่าเดิม “ทำ ทำไมล่ะ?”
“อย่างแรกเลย……” ลี่หมิงยื่นมือเล็กๆของเขาออกมา นับนิ้วและพูดกับเธอว่า “คุณพ่อของผมแก่มากแล้ว แล้วยังมีลูกๆอย่างพวกเรา คุณย่าก็เคยบอกคุณพ่อว่า ถ้าจะหาผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องคิดถึงพวกเราก่อน ดังนั้น แม่เลี้ยงไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะครับ!”
ลู่จื่อซี”……”
“แล้วอีกอย่าง” ลี่หมิงนับนิ้วต่อแล้วพูดว่า “พวกเรามีคุณแม่แท้ๆ สุดท้ายแล้วคุณพ่อก็ต้องเลือกคุณแม่ คุณพ่อเคยสัญญากับเราว่าจะพาคุณแม่กลับมาแน่นอน ดังนั้น คุณครูไม่มีโอกาสแล้ว!ล้มเลิกความคิดเถอะครับ!”
ลู่จื่อซี”……”
เธอรู้สึกตกใจ คิดไม่ถึงว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากของลี่หมิง เด็กคนนี้พึ่งจะอายุเท่าไหร่กัน แต่กลับพูดคำพูดพวกนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน แล้วยังมีลำดับขึ้นตอน มันช่างทำให้คนตกใจ
หลังจากลี่หมิงพูดจบ เขาก็หันกลับไปเตรียมเล่นเกมตาที่สองต่อ
ลู่จื่อซีครุ่นคิดอยู่ข้างๆ เธอเงียบไปตั้งนาน จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แต่ว่า หมิงเอ๋อ หนูเคยคิดไหมว่าถ้าคุณแม่ของหนู เธอ……เธอลืมพวกหนูไปแล้วล่ะ?”
เธอหยุดไปพักหนึ่งแล้วรีบพูดต่อว่า “คุณครูแค่ยกตัวอย่าง สมมุตินะ ไม่ใช่เรื่องจริง”
“คุณแม่ของพวกหนูจำพวกหนูไม่ได้แล้ว แล้วก็ไม่ชอบคุณพ่อของพวกหนูแล้ว เธออยากมีชีวิตใหม่ ชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครมารบกวนเธอ ถ้าพวกหนูหวังดีกับเธอจริงๆ พวกหนูควรจะปล่อยเธอไปรึเปล่า?”
มือเล็กๆของลี่หมิงที่กำลังจับเมาส์อยู่ก็หยุดทันที จากนั้น เขาก็ค่อยๆหันหน้าไปหาลู่จื่อซีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณครูบอกว่าคุณแม่ไม่ต้องการพวกเราแล้ว?”
“อืม แบบนั้นแหละ แต่แน่นอนว่าคุณครูแค่พูดถึงสถานการณ์ที่เป็นไปได้……”
ไม่ว่าลู่จื่อซีจะพูดอะไร ลี่หมิงก็ไม่อยากฟังอีกต่อไป ทันใดนั้นเบ้าตาของเขาก็แดงขึ้นมาทันที น้ำตาค่อยๆไหลออกมา “คุณแม่ไม่ต้องการพวกเราแล้ว?”
ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็ก มีอะไรมากระทบจิตใจเขาก็ควบคุมไม่อยู่ทันที
ลู่จื่อซีลุกลี้ลุกลน พึ่งจะเกลี้ยกล่อมลี่หมิง แต่จู่ๆก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังเข้ามาในหู “เกิดอะไรขึ้น?”
ทันใดนั้นเธอก็ตัวแข็งทื่อ ค่อยๆมองออกไป ก็เห็นรูปร่างที่สูงใหญ่ของลี่เฉินซีอยู่ที่ประตูข้างหลังห้องนอน ไม่รู้ว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ สายตาที่เย็นชาของเขา เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมที่ไม่ต้องบรรยายก็เข้าใจ
ลู่จื่อซีตกใจ ลี่เฉินซีรักลูกๆของเขามากแค่ไหน เธอรู้อยู่แก่ใจ จู่ๆก็ทำให้องค์ชายที่สองร้องไห้ ผลที่ตามมา……
เธอไม่กล้าจินตนาการต่อไป และลี่หมิงที่อยู่ข้างๆก็กระโดดลงจากเก้าอี้ รีบเข้าไปหาลี่เฉินซีทันที วิ่งเข้าไปกอดขาของเขาอย่างแน่นและร้องไห้หนักกว่าเดิม “คุณครูบอกว่าคุณแม่ไม่ต้องการพวกเราแล้ว! คุณพ่อ จริงเหรอครับ?”
ลี่หมิงไม่ค่อยเป็นแบบนี้ เด็กคนนี้รู้ความและเป็นเด็กดี บางครั้งเขายังเข้มแข็งจนทำให้คนรู้สึกสงสาร
ในความทรงจำของลี่เฉินซี ในช่วงสองปีนี้ เด็กคนนี้แทบจะไม่เคยร้องไห้ เขาไม่ได้ชอบอ้อนเหมือนซีซี และก็ไม่เจ้าอารมณ์เหมือนลี่เจิ้ง นิสัยเขาดีมาก ไม่ใจเย็นแต่ก็ไม่ใจร้อน ราวกับสุภาพบุรุษตัวน้อยคนหนึ่ง มักจะทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่น
จู่ๆก็เห็นดูลูกชายร้องไห้ ใบหน้าที่เย็นชาของลี่เฉินซีก็มืดมนลงทันที เขาก้มตัวลงไปอุ้มลูกชายขึ้นมา “หมิงเอ๋อเด็กดี ไม่ร้องไห้นะ คุณแม่ไม่มีทางไม่ต้องการพวกหนู หนูไม่รู้นิสัยคุณแม่เหรอ?ถึงแม่ว่าเธอไม่ต้องการได้พ่อ แต่เธอก็ไม่มีทางไม่ต้องการพวกหนู!”
ลี่หมิงร้องไห้หนักกว่าเดิม เอาหัวเล็กๆวางไปบนไหล่ของลี่เฉินซี น้ำตาไหลไม่หยุด
ลี่เฉินซียิ่งสงสารเขาขึ้นไปใหญ่ อุ้มลูกชายออกไปจากห้อง บนทางเดินที่กว้างขว้าง เต็มไปด้วยเสียงเกลี้ยกล่อมลูกชายของเขา ดังไปทั่ว
ภาพแบบนี้คงอยู่ตั้งนาน แสนนาน
เมื่อเวลาค่อยๆผ่านไป ลู่จื่อซีที่ซ่อนตัวอยู่ในห้อง เธอทรมานราวกับผ่านไปแล้วหลายศตวรรษ เธอใจเต้นแรงและนั่งไม่ติด
ในที่สุด เสียงบนทางเดินก็ค่อยๆหายไป ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก ลี่เฉินซีก้าวขาเดินเข้ามา เขามองดูลู่จื่อซีด้วยสายตาที่เย็นชา
สายตาที่ลึกซึ้งและเย็นชาคู่นั้น ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ มันไม่มีอุณหภูมิเลยแม้แต่น้อย เขาเม้มริมฝีปากที่บอบบาง และเมื่อสายตาคู่นั้นมองมาที่ลู่จื่อซี มันทำให้มีออร่าที่แรงกล้า แรงกดดัน ความเย็นชา ทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ออก
ลู่จื่อซีตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นเธอก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนและรีบพูดออกมาว่า “ดูเหมือนว่าเมื่อกี้ฉันจะพูดอะไรผิดไป ขอโทษด้วยนะคะคุณลี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจ……”
ลี่เฉินซีนิ่งเงียบ สายตาที่ดุร้ายผ่านหายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น ทั้งตัวของเขาก็มีออร่าขึ้นมา เขาไม่ได้รีบพูดอะไร เขาแค่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างและเดินเข้าไปในห้องอย่างเยือกเย็น…..
ลู่จื่อซีมองดูเขาที่เดินเข้ามาหาตัวเองทีละก้าว ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา สายตาก็ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น จู่ๆสมองก็นึกถึงเมื่อนานเมื่อนานมาแล้ว ตอนที่เขาทั้งสองคนเจอกันครั้งแรก เขาก็เป็นแบบนี้ ในงานเลี้ยงฉลองการกุศล เขาเดินผ่านผู้คนมาหาเธอและลู่ส้าวหลิง
ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่และที่ไหน หน้าตาที่โดดเด่นและออร่าที่แรงกล้า รวมถึงสถานะที่ไม่ธรรมดา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่หาได้ยาก ไม่อยากทำให้คนอื่นใจเต้นก็คงจะยาก
“ขอโทษจริงๆค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น ทำให้หมิงเอ๋อร้องไห้……” เธอมองเขาที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับขอโทษด้วยความเขินอาย