เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 625 ทาสลูกสาว
“คุณแม่……”
ซีซีวิ่งเหยาะๆออกมา จากนั้นแทรกตัวเข้ามาด้านข้างของซูย้าว แขนน้อยๆของเธอโอบขาของซูย้าวเอาไว้แน่น
ดวงตาน้อยกะพริบเป็นประกาย ซูย้าวยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาใดๆตอบรับออกมา ก็มีร่างเล็กอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วเช่นกัน เด็กน้อยคนนั้นพุ่งเข้ามาทางเธอ อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับซีซีกอดขาของเธอแน่น
ซูย้าวก้มหน้ามองดูเด็กสองคนด้วยท่าทางตกใจและตะลึง เด็กชายมีคิ้วคมเป็นรูปร่าง ส่วนเด็กหญิงก็สวยงามน่ารัก เด็กชายหญิงคู่นี้ดูเหมือนตุ๊กตากระเบื้องตัวน้อยๆ น่ามอง น่ารัก จนไม่อาจหาคำใดมาอธิบายได้
เธอพิจารณาดูเด็กทั้งสองคนนี้ และพบว่าจากรูปลักษณ์ภายนอกช่างคล้ายคลึงกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอมากเลยทีเดียว เด็กตัวน้อยหน้าตาดีเหล่านี้ ได้พันธุกรรมเด่นมาจากเขาจริงๆ
แต่ว่า ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในสมองเธอได้ไม่ถึงสิบวินาที ก็ถูกเธอระงับความคิดเอาไว้ เธอไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับลูกของคนอื่นทำไม?
จากนั้นเธอก็จัดการกับอารมณ์และการแสดงออกของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดออกมาด้วยความลังเลว่า “เอ่อคือ หนูทั้งสอง……”
แต่ซูย้าวยังไม่ทันจะพูดจบ เธอก็สังเกตเห็นซีซีและลี่หมิงเงยหน้าขึ้นมา ดวงต่อของเด็กน้อยทั้งสองคนกลมโตเต็มไปด้วยน้ำตาคลอเบ้ามองมาที่เธอ
ความรู้สึกนั้นราวกับว่าพวกเขาทั้งสองต้องทนทุกข์กับความทรมานคับแค้นข้องใจ และดูเหมือนว่าสิ่งที่รอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็เป็นจริงเสียที มันมีทั้งความดีอกดีใจปลื้มปีติ แต่ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนจะโศกเศร้ากว่า
เมื่อเห็นเช่นนี้ คำพูดที่เธอลังเลอยู่ชั่วครู่จึงไม่ได้พูดมันออกมา
จะให้เธอพูดต่อหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนผู้น่าสงสารนี้ออกไปตรงๆว่า พวกหนูจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่แม่ของพวกหนูอย่างนั้นเหรอ! แม้เธอจากจะพูดแบบนั้นก็ตาม แต่เมื่อคำพูดมาจุกอยู่ตรงปากเธอก็รู้สึกว่ามันช่างโหดร้ายเหลือเกิน เธอพูดไม่ออกจริงๆ
อย่างไรเสียพวกเขาทั้งสองคนก็เป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสา เรื่องระหว่างผู้ใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเด็กน้อยใช่ไหมล่ะ?
ตอนนี้ในใจของเธอรู้สึกสับสนและซับซ้อน ดวงตามองไปยังเด็กน้อยทั้งสองคนแล้วทำตัวไม่ถูก ทั้งเขินอายงุนงงตกตะลึง เธอยืนตรึงฝ่าเท้าอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน และยากที่จะขยับตัว
ส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งมีปฏิกิริยาแตกต่างไปจากเธอ ลี่เฉินซีได้เดินไปเปลี่ยนรองเท้าสำหรับใส่ในบ้าน จากนั้นหยิบรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านของสตรีสีชมพูคู่หนึ่งยื่นมาให้เธอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มร่างอันสง่างามของเขาลงมาแล้วดึงเด็กทั้งสองออกไป “หมิงเอ๋อ ซีซีครับ คุณแม่เพิ่งกลับมา ให้คุณแม่ไปอาบน้ำทานข้าวก่อนดีไหม?”
ลี่หมิงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
แต่ซีซีดูเหมือนจะไม่อยากให้เธอจากไป มืออันน้อยๆยังคงกุมนิ้วมือของหล่อนเอาไว้แล้วพูดด้วยเสียงอันเบาว่า “ให้หนูอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ได้ไหมคะ?”
เมื่อพูดจบเจ้าหนูน้อยก็รีบพูดแทรกขึ้นอีกประโยคหนึ่งว่า “หนูสัญญาว่าจะไม่รบกวนคุณแม่เลย! แค่อยู่ข้างกายเงียบๆเหมือนเงาธรรมดาก็ได้……”
เป็นคำพูดประโยคง่ายๆแต่ทำให้ซูย้าวรู้สึกขบขันอย่างบอกไม่ถูก
อย่างไรเสียเจ้าหนูน้อยก็เป็นเพียงแค่เด็กธรรมดา ไม่ว่าเธอจะอธิบายหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถเกลี้ยกล่อมได้ด้วยเพียงคำพูดสองสามประโยค
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซูย้าวก็ไม่ได้รู้สึกว่ายุ่งยากเกินไป เธอพยักหน้าเห็นด้วยอย่างใจกว้าง จากนั้นเปลี่ยนรองเท้าเดินจูงมือซีซี พูดว่า “งั้นช่วยพาไปห้องน้ำหน่อยได้ไหมคะ?”
ซีซีพยักหน้าอย่างรวดเร็วแต่จากนั้นเธอก็ชะงักลง เด็กหญิงตัวเล็กเงยหน้าขึ้นเม้มริมฝีปากของเธอแล้วพูดว่า “คุณแม่ลืมแล้วห้องน้ำอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
ซูย้าวอึดอัดใจชะงักลง ในความทรงจำของเธอดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอเดินทางมายังคฤหาสน์หลังนี้ ไม่ใช่เหรอ!
จากนั้นซีซีก็พูดขึ้นว่า “งั้นเดี๋ยวหนูพาคุณแม่ไปค่ะ”
เธอพาซูย้าวเดินตรงไปจากทางห้องรับแขก ซูย้าวเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพียงเดินตามเจ้าหนูน้อยเข้าไป
ส่วนลี่เฉินซีที่อยู่ด้านหลังได้ถอดเสื้อคลุมออก สายตาของเขาเหลือบไปเห็นลี่หมิงที่ทำหน้าบูดบึ้งอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเอนตัวเข้ามาถามว่า “เป็นอะไรเหรอครับ?”
ลี่หมิงขมวดคิ้วน้อยๆของเขาทำท่าทางครุ่นคิดราวกับผู้ใหญ่พูดว่า “พ่อครับ แน่ใจเหรอว่าครั้งนี้แม่กลับมาแล้วจริงๆ?”
เขารู้สึกว่ามันแปลกๆ
แม้ว่าลี่หมิงกับซูย้าวจะได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลาไม่นาน เพียงแค่สองปีเท่านั้น แต่เด็กน้อยคนนี้สังเกตเห็นได้ถึงคำพูดและท่าทางต่างๆอย่างละเอียด เพียงความผิดปกติไปเล็กน้อยก็ทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นได้
ลี่เฉินซีทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น ยกมือขึ้นขยี้ศีรษะน้อยๆของลูกชาย “เจ้าเด็กโง่ ไม่เชื่อพ่อเหรอ?”
ลี่หมิงรีบพูดขึ้นว่า “ก็เชื่ออยู่นะครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าคุณแม่แปลกไป……”
“เรื่องนี้ให้พ่อเป็นคนจัดการเถอะนะ!” ลี่เฉินซีอุ้มลูกชายของเขาขึ้นมาไว้ในอ้อมอกจากนั้นเดินตรงไปยังห้องอาหาร ก่อนจะวางเจ้าหนูน้อยลงบนเก้าอี้ ใช้สายตามองเขาจากด้านบนลงมาด้านล่าง “พ่อกับแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องบางเรื่องผู้ใหญ่อย่างพวกเราก็ต้องจัดการกันเอง ลูกยังเล็กไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก รู้เพียงแค่ว่าคุณแม่จะกลับมาอยู่กับพวกเราในไม่ช้า กลับมาอยู่ตลอดไปและไม่แยกออกจากกันอีกก็พอ”
ลี่หมิงทำท่าครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็พยักหน้าแล้วตอบว่า “ครับ เพียงแค่ให้แม่กลับมา เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว!”
ลี่เฉินซียิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นมองไปทางลูกชายถามขึ้นว่า “ล้างมือแล้วหรือยัง?”
“ล้างตั้งนานแล้วครับ ผมรอพ่อกลับมากินข้าวอยู่นี่ไง” หมิงเอ๋อพูดพลางจัดที่นั่งให้เรียบร้อย เอื้อมมือหยิบผ้าเช็ดปากออกมาวางไว้บนขาทั้งสองข้าง
ลี่เฉินซียิ้มขึ้นอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง แล้วเงยหน้ามองไปทางห้องน้ำชั้นหนึ่ง เขาคิดอยู่ในใจว่าทำไมซีซีถึงพาซูย้าวไปนานนักนะ……
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือซีซีไม่ได้พาซูย้าวไปยังห้องน้ำที่ชั้นหนึ่ง แต่กลับพาหล่อนขึ้นไปด้านบนห้องของเธอ
เมื่อซูย้าวก้าวเข้าไปในห้องของเจ้าหญิงน้อย วินาทีนั้นเธอก็ตกตะลึง
เธอชายตามองไปรอบๆห้องจากนั้นกะพริบตาอย่างมึนงงพูดว่า “เอ่อ เจ้าหนูน้อย หนู……พาฉันมาที่ห้องน้ำเหรอ?”
ซีซีปล่อยเธอออก จากนั้นเดินหันไปนั่งที่โซฟาส่ายเข่าน้อยๆของเธอไปมา ยิ้มกว้างชี้นิ้วไปข้างๆพูดว่า “ตรงนั้นมีห้องน้ำค่ะ”
ซูย้าวยิ้มออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเดินก้าวเข้าไปในห้องน้ำที่แยกออกไปต่างหากภายในห้อง
ในห้องนี้ถูกตกแต่งได้ดูหรูหรา ของใช้ทั้งหมดเป็นสไตล์ยุโรปราวกับราชวัง ทุกสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาล้วนเป็นโทนสีชมพู และในทุกความละเอียดอ่อนนั้น เต็มไปด้วยของใช้หรูหราราคาแพง
ภายในห้องน้ำที่แยกออกไปเป็นสัดส่วนนั้นกว้างขวางมาก มีอ่างจากุซซี่แยกต่างหาก ด้านในมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก คาดว่าในห้องน้ำมีขนาดหลายร้อยตารางเมตรเลยทีเดียวช่างหรูหราเหนือจินตนาการ
ซูย้าวมองไปรอบๆแล้วนึกในใจว่า ดูจากที่เห็นนี้ลี่เฉินซีคงจะเป็นทาสลูกสาวแน่ๆ ว่ากันว่าลูกสาวคือคนรักของพ่อในชาติที่แล้ว ซึ่งเขาก็ดูจะรักและเอ็นดูในตัวเจ้าหนูน้อยนี้มากทีเดียว!
เธอทำการล้างหน้าและบ้วนปากอย่างง่ายๆ ตอนที่เดินออกมาก็พบว่าซีซียังคงนั่งอยู่บนโซฟา ในมือมีตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ตัวใหญ่มาก เธอเอียงศีรษะแล้วถามขึ้นว่า “คุณแม่ขา ห้องของหนูสวยไหม?”
ซูย้าวพยักหน้าเธอรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ ห้องนี่ใช้คำว่าสวยมาอธิบายได้เหรอ? ต่อให้เป็นห้องของดาราผู้มั่งคั่งก็ยังสู้ของเธอไม่ได้!
“นี่คือห้องที่คุณพ่อเตรียมไว้ให้หนูค่ะ!” ซีซียิ้มขึ้น ท่าทางของเธอดูอารมณ์ดีจริงๆ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “จะแอบบอกให้เป็นความลับนะคะ คุณพ่อบอกว่าหลังจากที่คุณแม่กลับมาแล้วจะตกแต่งห้องของคุณแม่ให้สวยกว่าห้องของหนูอีก!”
มือน้อยๆของซีซีจับไปที่หูของหมีเท็ดดี้ “ถึงแม้ว่าหนูฟังแล้วก็ไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่ แต่เมื่อคิดถึงแม่หนูก็ไม่สนใจแล้วล่ะค่ะ แม่รู้ไหมว่าหนูคิดถึงแม่มากจริงๆเลย!”
“เอ่อ……”
ซูย้าวฟังเด็กน้อยพูดพึมพำกับตัวเองอยู่เป็นเวลาเนิ่นนาน กว่าจะค่อยๆก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “เจ้าตัวเล็ก พวกเราน่าจะลงไปข้างล่างแล้วใช่ไหม?”
“ไม่เอาค่ะ!” ซีซีเข้ามาโอบแขนของเธอเอาไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานออดอ้อนว่า “หนูอยากให้แม่อยู่กับหนูอีกสักพักหนึ่ง ไม่อยากแบ่งแม่ให้พวกเขาเลย”
“ซีซี”
ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านนอกในระยะไกล
ซูย้าวและซีซีหันกลับไปพร้อมกัน พบว่าลี่เจิ้งยืนอยู่ที่ปากประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ใบหน้าอันหล่อเหลาได้รูป ดวงตาลึกล้ำ
ซูย้าวอึ้งไปชั่วครู่ จู่ๆในสมองของเธอก็ปรากฏภาพสุดท้ายที่เคยเห็นเด็กคนนี้ในคฤหาสน์ตระกูลลี่ขึ้นมา เธอมีความรู้สึกแปลกอย่างอธิบายไม่ถูก ดูเหมือนว่าผู้ชายในตระกูลลี่จะมีพลังเวทมนตร์เหนือธรรมชาติ ทำให้คนอื่นรู้สึกสดชื่นแต่ก็ดูมีอันตราย
ซีซีเบ้ปากเล็กของเธออย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ไม่ลงไปกินข้าวข้างล่างหรือไง?”
ลี่เจิ้งหรี่ตาลงทันที “รู้ว่าเป็นเวลากินข้าวแล้วทำไมยังอยู่ที่นี่อีก? ลงไปกับพี่เดี๋ยวนี้!”