เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 642 พวกเขาอยู่กับเธอมานานแค่ไหนแล้ว
ความลังเลในช่วงเวลาสั้นๆ ของซูย้าว ทนายฝ่ายนั้นรออยู่นานยังไม่ได้คำตอบ จึงพูดขึ้นอีก “คุณอาน คุณโปรดอย่าเข้าใจผิด และไม่ต้องมีความกดดันทางจิตใจๆ บอกมาตามความจริงก็พอ”
“ตอนนี้ฉันไม่ใช่ทนายฝ่ายจำเลยอย่างเป๋นทางการของอู๋หงยุ่น เพียงแค่จัดแจงทำความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เพื่อตัดสินใจว่าจะรับทำคดีนี้ของคุณอู๋ดีหรือไม่”
แววตาแห่งความสงสัยของซูย้าวขยับเบาๆ ฟังออกถึงความบอบบางเล็กน้อยจากปากของอีกฝ่าย ถึงพูดขึ้น “อืม ก็ประมาณอย่างที่เธอพูดมาเมื่อกี้”
“พูดอีกอย่างก็คือ ที่ฉันพูดไปทั้งหมดเมื่อกี้เป็นความจริง ใช่ไหมคะ?” ทนายต้องการยืนยันอีกครั้ง
ซูย้าวตอบรับ “ใช่แล้ว”
“โอเค ฉันทราบแล้วค่ะ ลบกวนคุณอานแล้ว” ทนายพูดอย่างสุภาพ “ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่ามา เช่นนั้นเรื่องนี้ คุณอู๋หงยุ่นเองก็เป็นฝ่ายผิด เรื่องราวโดยละเอียด ฉันจะปรึกษาทนายฝ่ายจำเลยของคุณ รบกวนคุณแล้ว ขอโทษด้วย”
เสร็จสิ้นบทสนทนา ซูย้าวก็มองหน้าจอมือถือด้วยความลังเล ดวงตาที่งดงามคู่หนึ่งเผยความซับซ้อน ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วถึงโทรไปหาทนายของตัวเอง
หลังจากพูดคุยกันอย่างเรียบง่ายไม่กี่ประโยค เท่าที่ฟังจากปากของทนาย ก็พอรู้ว่าคดีทั้งหมดนับว่าเป็นฟ้าหลังฝน สถานการณ์ตอนนี้เป็นประโยชน์ต่อเธอมาก แม้ทางด้านอู๋หงยุ่นจะยืนกรานที่จะดำเนินคดี ขึ้นศาลสู้กับเธอ ก็จะไม่เกิดผลกระทบใหญ่หลวงอะไร
หลังจากฟังทนายพูด จิตใจที่ห้อยอยู่ของซูย้าว ถึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
วางสายโทรศัพท์ เธอก็เงยหน้ามองเงารถที่วิ่งไปมาเหมือนเมฆลอยน้ำไหล ขนตาหนายาวของเธอสั่นเบาๆ ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วมองไปที่ชายหนุ่มในตำแหน่งคนขับทันที “เรื่องนี้ นายก็ช่วยฉันด้วยเหรอ?”
แววตาลึกซึ้งของลี่เฉินซีมองตรงไปข้างหน้า มือข้างหนึ่งที่สวยงามจับพวงมาลัย น้ำเสียงที่พูดออกมาทั้งต่ำและนิ่ง “เธอคิดว่าใช่ไหม?”
ซูย้าวเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ ถ้าหากเรื่องนี้ เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่ไม่คุ้มค่าแก่การเอ่ยถึง และไม่เลยเถิดมาถึงขั้นนี้
แต่ที่นี่คือเมืองA ทุกอย่างล้วนกลายเป็นแบบนี้ได้
ต้องเคารพกฎหมาย และต้องใส่ใจภาพลักษณ์ของบุคคลและบริษัท
ฝั่งอู๋หงยุ่นกัดเธอไม่ปล่อย แล้วยังมีรูปที่ลู่จื่อซีแอบถ่ายก่อนหน้านี้เป็นหลักฐาน ทุกๆ ด้านล้วนแต่ทำให้เธอเสียเปรียบ หากมีผลกระทบจากความคิดเห็นของประชาชนอีก เกรงว่าแม้แต่ดูเองก็ดูแลไม่ได้แน่
แต่ตอนนี้ฟังคำจากทนายทั้งสองฝั่ง ดูเหมือนทุกอย่างจะมีแนวโน้มใหม่ แต่ถึงยังไงก็ยังไม่ได้เปิดศาล ผลการพิจารณาคดีที่เฉพาะเจาะจง เธอก็ไม่อาจรู้ได้
ความคาดหวังที่มีมากเกินไป ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นผิดหวัง
ความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ ก็เท่ากับเป็นความหยิ่งทะนงตน
ดังนั้น เธอไม่กล้ามีความคิดใดๆ ได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่ ตั้งตารอฟังชะตากรรม
ซูย้าวมองใบหน้าด้านข้างที่งดงามของชายหนุ่ม กะพริบตา “ตอนนี้สถานการณ์การพิจารณาคดี ค่อนข้างเป็นประโยชน์กับฉัน แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยสมจริง ก็เลย…..”
“ก็เลยสงสัยฉัน?” ลี่เฉินซีนิ่งๆ ทั้งๆ ที่เป็นคำพูดหยอกล้อ แต่เมื่อออกจากปากเขา ก็มีร่องรอยความคลุมเครือเพิ่มเข้ามา
เธอก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว พูดกระซิบเสียงเบา “ก็ไม่ใช่สงสัยนาย เพียงแค่คิดอยู่ ว่านายช่วยฉันเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า…..”
“หึ” เขายิ้มเยาะอย่างไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย ขมวดคิ้วกวาดตามองไปที่เธอเบาๆ หมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว รถหันไปที่ทางแยก “เธอคิดว่าฉันว่างอย่างนั้นเลยเหรอ?”
หรือพูดอีกอย่างคือ เขาจะเบื่อจนถึงขั้นกังวลและแทรกแซงเรื่องเล็กน้อยที่เป็นข้อพิพาทไม่ว่าจะเรื่องอะไรด้วยตัวเอง?
ได้ยินเช่นนี้ ซูย้าวก็ครุ่นคิดอย่างละเอียด “ดูเหมือนจะใช่”
แต่ในเมืองA ถ้าไม่ใช่ลี่เฉินซี งั้นหรือว่าจะเป็นเพ้ยส้าวหลี่?
เมื่อเธอนึกถึงตรงนี้ เพื่อที่จะยืนยัน ก็ก้มหน้าหยิบมือถือ หาคำว่า ‘เพ้ยส้าวหลี่’สามคำเจอในรายชื่อผู้ติดต่อ ลังเลกำลังจะกดโทรศัพท์โทรไป ทันใดนั้น ความเยือกเย็นจากด้านข้างก็จู่โจมเข้ามาอย่างเย็นชา เธอยังไม่ทันรู้สึกตัว ก็แย่งมือถือเธอไป แล้วลดหน้าต่างรถด้านข้าง โยนออกไปทันที
การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วเกินไป หลังจากซูย้าวมองเขาทำทุกอย่างด้วยความตกตะลึงแล้ว ถึงตอบสนองกลับมาอย่างประหลาดใจ เบิกตากว้างด้วยความตกใจ “มือถือฉันนะ!”
“ลี่เฉินซี นายเป็นบ้าอะไรอีกแล้ว โยนมือถือฉันทำไม?”
ชายหนุ่มขับรถมือเดียว เหยียบคันเร่ง ความเร็วสุดขีดของรถไม่ลดลง แล้วเอียงตัวเล็กน้อย ใช้มืออีกข้างงัดกรามของเธอขึ้นด้วยกำลังเหลือล้น ควบคุมแก้มของเธอ ออกแรงมหาศาล กระทั่งนิ้วของเขาฝังลึกเข้าไปในแก้มอ่อนนุ่มของเธอ น้ำเสียงเย็นเยือก ราวกับหลุดออกมาจากนรก “คิดจะติดต่อผู้ชายคนอื่นต่อหน้าฉัน เธอคิดว่าฉันจะเพิกเฉยมองข้ามไปจริงๆ เหรอ?”
“ลืมแล้วหรอว่าตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงของใคร?” เขาพูดคำหยุดคำ น้ำเสียงเยือกเย็นราวกับพายุฤดูหนาว แผดคำรามเข้ามา ราวกับมีดที่แหลมคม พัดมาที่เธออย่างดุดัน “หรือจะต้องให้ฉันทำอะไรสักอย่าง เธอถึงจะนึกออกได้อย่างชัดเจน ว่าตัวเองเป็นของใครกันแน่?”
เขาพูดจบ แขนที่เลือดเย็นก็ปล่อยกะทันหัน เปลี่ยนเป็นเลื่อนลงล่าง แพ่กระจายไปทั่วร่างเล็กๆ ที่มีส่วนโค้งสมบูรณ์แบบของเธอ…..
การควบคุมและบุกรุกอย่างกะทันหัน ทำให้ดวงตาที่ไม่สามารถควบคุมได้ของซูย้าวหดตัวแน่น ตัวก็โค้งงอเป็นกุ้งโดยไม่รู้ตัว “ลี่ ลี่เฉินซี…..”
ดวงตาที่เยือกเย็นของเขาจับจ้องมาที่เธอ เกรงว่ายังขับรถอยู่บนทางหลวง ไม่สามารถหยุดรถกะทันหันได้ ถึงหยุดการเคลื่อนไหวบนมือลง “อานหว่านชิง ครั้งสุดท้ายแล้ว อย่าทำให้ฉันโมโหอีก หืม?”
ซูย้าวตกตะลึงโดยสมบูรณ์ ผู้ชายคนนี้ จะที่ไหนเมื่อไหร่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นหมาป่าได้ ตอนนี้มองไปที่เขา ใบหน้าที่หล่อเหลาดูมืดมน ดวงตาคมกริบเหี้ยมโหด ราวกับสัตว์ร้าย ทั้งเยือกทั้งเย็น แทรกซึมไปตามร่างกายที่มีความบีบบังคับอย่างรุนแรงของเขา ความหวาดกลัวที่ไร้รูปร่าง แผ่กระจายทันที
เธอมองไปที่เขาเนิ่บๆ สบตากันครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็บังคับความกลัวในจิตใจ พยักหน้าหงึกๆ
เมื่อลี่เฉินซีเห็นเธอพยักหน้า ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ มือใหญ่วางลงบนแก้มของเธอ “เป็นเด็กดีหน่อย ไม่เป็นผลร้ายต่อเธอหรอก”
เธอเม้มปากอย่างช่วยไม่ได้ บนใบหน้าที่ดูบอบบาง มีความดื้อรั้น มีความโกรธเคือง ชัดเจนผิดปกติ
ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว ดวงตานกฟินิกซ์เองก็หรี่ลงตาม “ฉันไม่ได้แตะต้องเธอชั่วคราว ไม่ได้แปลว่าจะไม่แตะต้องเธอไปตลอด เธอต้องเข้าใจว่า ไม่ได้นอนกับเธอ ไม่ได้แสดงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงของฉัน ตัดเพ้ยส้าวหลี่ออกอย่างซื่อตรงใส่สะอาดแล้ว ถ้ามีอีกครั้ง……”
เขาจงใจไม่พูดต่อ ลากเสียงยาวเล็กน้อย ประสานเข้ากับดวงตาที่มีแสงเย็นเยือกกบดานอยู่ ความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ลึกๆ ก็ระเบิดขึ้นในใจของซูย้าวทันที
เธอเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว กะพริบตา ในใจสับสนวุ่นวาย หันหน้ามองไปนอกหน้าต่าง อยากที่จะปลอบโยนความคิดให้ได้มากที่สุด
ลี่เฉินซีค่อยปล่อยมือออกช้าๆ ตัวตรงขับรถต่อไป แต่ดวงตาที่เย็นชา ยังคงกวาดมองไปที่หญิงสาวด้านข้างอย่างเยือกเย็น เธอมักจะเป็นแบบนี้ ตอนแรกต่อต้านเขา ตอนนี้ก็เป็นแบบนั้น!
หลังจากนั้นทั้งสองต่างนิ่งเงียบ ในพื้นที่คับแคบ ทั้งคู่ไม่พูดจาต่อกัน นิ่งเงียบ เกิดความเงียบแปลกๆ กวาดไปทั่วทั้งสองคน
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ในตาเห็นว่ารถลดความเร็วลง ข้ามถนนอีกสองเส้นก็เป็นโรงเรียนประถมทดลองแล้ว ชายหนุ่มถึงมีแนวโน้มที่จะเปิดปาก เสียงเย็นชาเล็กน้อย ทำลายความเงียบในตอนนี้
“คนที่ช่วยเธอคือทนาย ไม่ใช่ฉัน”
ซูย้าวชะงักเล็กน้อย สายตาที่ไม่เข้าใจท้ายที่สุดก็มองไปที่เขา
ลี่เฉินซีไม่มองเธอ เพียงแค่พูดขึ้นนิ่งๆ อีกครั้ง “ในประเทศมีทนายความที่มีอำนาจแข็งแกร่งมากมาย บริษัทของเธอ ก็จำเป็นต้องมีทนายแบบนี้ไว้ อีกเดี๋ยวจะให้หวางอี้แนะนำให้เธอสักสองสามคน”
เธอครุ่นคิดตามทีหลัง ถึงตบปากรับคำ “งั้นก็ขอบคุณนะ”
ชายหนุ่มหันมามองเธออย่างแผ่วเบา ขมวดคิ้วแน่น บนโครงหน้าที่เย็นเฉียบเผยความเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด “เธอกลับมาทำอะไรที่เมืองAกันแน่?”
“แล้วก็ ข้างกายเธอไม่มีทนายอยู่ แต่มีชายหนุ่มสองคนมาอยู่ พวกเขาทำหน้าที่อะไร?”
“เอ่อ…..” ซูย้าวตกใจเล็กน้อย แสดงอาการถูกถามอย่างเห็นได้ชัด
ดวงตาที่เฉยชาของชายหนุ่มเผยความมืดมน “ถ้าตอนนี้เธออยากทำกิจการของ Double Aภายในประเทศ เข้าสู่ตลาดในประเทศ บริษัทของเธอ จำเป็นต้องมีคนเยอะ สองคนนั้นที่เธออยู่กับเธอ มันไม่พอหรอก!”
“อีกอย่าง…..” ลี่เฉินซีชะงักนิดหน่อย เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ แววตายิ่งเย็นชายิ่งขึ้น “เธอไปที่ไหนก็พาผู้ชายสองคนนั้นไปด้วยเหรอ? พวกเขาทำหน้าที่อะไรกันแน่? อยู่กับเธอมานานแค่ไหนแล้ว?”
ยิ่งเขาคิดยิ่งรู้สึกผิดปกติ ตอนที่ซูย้าวกลับมาเมืองA ข้างกายก็มีอาตงกับอาเจว๋อยู่ด้วย ตอนเข้าพักที่โรงแรม สองคนนั้นก็ติดตามซ้ายขวา แทบจะถึงจุดที่นอนร่วมห้องกับเธอแล้ว!