เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 651 ผู้หญิงเลว
รถโรลส์ รอยซ์ ที่ขับมาอย่างเร็วขับตรงไปทางสนามบิน เมื่อมาถึงแล้ว ลี่เฉินซีลงรถก่อนโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ
ใบหน้าหล่อเหลาที่เย็นชาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เดินตรงไปข้างในด้วยก้าวใหญ่ ไม่หันมามองซูย้าวที่อยู่ข้างหลังเลย
จนกระทั่งเข้าไปในสนามบิน ถึงระเบียงทางเดินลานจอดเครื่องบินส่วนตัวแล้ว หวางอี้ที่ติดตามอยู่ข้างๆซูย้าวจึงอธิบายว่า”คุณผู้ชายจะไปหลิ่งโจว หากคุณผู้หญิงอยากไปยุโรป ก็ได้เหมือนกัน”
ซูย้าวพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่เดินตามรอยเท้าใหญ่ของชายหนุ่มข้างหน้า เดินตามไปตลอดทาง
ข้างๆลานจอดเครื่องบินส่วนตัว มีเครื่องบินส่วนตัวจอดอยู่หนึ่งลำ
เพราะหลิ่งโจวอยู่ระหว่างเมือง A กับเมือง B ระยะทางไม่ถือว่าไกล เฮลิคอปเตอร์สามารถเข้าถึงได้
เมื่อชายหนุ่มขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์แล้ว คาดเข็มขัดนิรภัย และซูย้าวก็ตามเขานั่งขึ้นไป ลี่เฉินซีเลิกคิ้วกวาดตามองดูเธอแวบหนึ่ง ดวงตาหม่นหมองเล็กน้อย แต่แค่ชั่วคราว ก็เบนสายตาไปข้างๆ
ซูย้าวก็ไม่สนใจเขาเหมือนกัน คาดเข็มขัดนิรภัย ใส่หูฟัง จากนั้นก็นั่งอยู่ข้างๆ เล่นโทรศัพท์มือถืออย่างเงียบๆ
เฮลิคอปเตอร์บินเร็วมาก ชั่วโมงบินไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงหลิ่งโจวแล้ว
ทางนี้มีคนมาคอยรับนานแล้ว ดังนั้นเมื่อทั้งสองออกมาจากสนามบิน ก็ขึ้นรถทันที เมื่อถึงโรงแรม เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว
ห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีท ขนาดใหญ่หรูหรามาก แต่มีห้องนอนเพียงห้องเดียว ซูย้าวมองดูเตียงใหญ่ที่อยู่ด้านในจากที่ไกลๆ ดวงตาคู่สวยตกอยู่ในภวังค์ แต่เพียงชั่วครู่ก็หายวับไป เธอหันหลังหยิบชุดคลุมโรงแรม เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ
อาบน้ำอย่างง่ายๆ เมื่อออกมาอีกครั้ง ก็เห็นลี่เฉินซีอยู่ตรงบาร์เหล้าด้านในสุดของห้องรับแขก ร่างกายสูงยาวนั่งบนเก้าอี้บาร์ ถอดเสื้อสูทออกแล้ว เวลานี้ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว คลายคอเสื้อออกเล็กน้อย เผยให้เห็นลูกกระเดือกที่เย้ายวน และกระดูกไหปลาร้าที่ละเอียดอ่อน และแขนเรียวยาว ที่ถกแขนเสื้อขึ้นมา
เขานั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว ใบหน้าผู้กล้ามีความเหนื่อยล้าเล็กน้อย แม้แต่ร่างกาย ก็ต่างจากวันวานที่เย็นชา มีความรู้สึกขี้เกียจเล็กน้อย นั่งอยู่ตรงนั้น เทเองดื่มเอง
ชายหนุ่มหันมาเห็นเธอ จึงค่อยๆกระดิกนิ้วให้เธอ”มานี่”
ดวงตาคู่สวยของซูย้าวขยับเล็กน้อย แต่ไม่ได้ปฏิเสธ เดินตรงเข้าไป นั่งลงบนเก้าอี้ขายาวข้างๆเขา แล้วก็ยื่นมือไปเทวิสกี้ให้ตัวเองหนึ่งแก้ว ใส่น้ำแข็งสองก้อน เอียงหน้าเล็กน้อยแล้วถามว่า”เราคุยกันได้ไหม?”
แววตาชายหนุ่มลุ่มลึกเล็กน้อย ก้มต่ำสบสายตาสดใสของเธออย่างสนใจ และถือโอกาสชนแก้วกับเธอ”คุยอะไร?ยังจะคุยหัวข้อก่อนหน้านั้นหรือ?”
ซูย้าวยิ้มอย่างอ่อนโยน เงยหน้าดื่มเหล้าไปคำหนึ่ง รู้สึกเผ็ดเล็กน้อย จนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วมือเล็กหยิบองุ่นจากถาดผลไม้ข้างๆ ใส่เข้าไปในปาก “คุยอย่างอื่นเหอะ !”
“คุณลี่ ฉันคุยกับคุณเกี่ยวกับคนรอบข้างฉันดีกว่า !”เธอกล่าวเรียบๆ ดวงตาคู่สวยหม่นหมองเล็กน้อย ขนตายาวหนา ปิดบังความทึบและความลึกของดวงตาได้ดีที่สุด
ลี่เฉินซีรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “คนรอบข้างคุณหรือ?”
เธอพยักหน้า เริ่มเข้าสู่หัวข้อสนทนา “ก็พูดถึงที่คุณรู้ พูดถึงหลินเจว๋ก่อน!”
“เขาเป็นคนที่เมื่อสิบห้าปีก่อน พี่ชายของฉันไปพบเจอโดยบังเอิญ จากนั้นก็พากลับมาเลี้ยงดูอบรม ทำงานอยู่ข้างกายเขา”
ซูย้าวพูดคร่าวๆก่อน จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้น เขย่าแก้วเหล้าเล็กน้อย มองดูของเหลวสีเหลืองอำพันในแก้ว แก้วที่ใสสะอาดสะท้อนให้เห็นแววตาสับสนของเธอ “ประสบการณ์ในวัยเด็กของเขาโชคร้ายมาก พ่อชอบดื่มเหล้า แล้วยังชอบเล่นการพนัน หากไม่มีอะไรทำก็จะชอบทุบตีเขากับแม่ของเขาด้วย”
“หลายครั้งถูกทุบตีสาหัสถึงขั้นพวกเขาแม่ลูกต้องไปนอนโรงพยาบาล ในบ้านไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว เขาได้หยุดเรียนไปนานแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่ง พ่อของเขาเพราะเรื่องเล็กน้อย ไปดื่มจนเมาแล้วเที่ยวตีคนไปทั่ว ทุบตีแม่ของเธอจนเลือดออกเต็มหัว ตีจนเลือดตกยางออก อีกนิดเดียว ก็จะตายแล้ว ถูกหลินเจว๋ที่กำลังกลับบ้านเจอพอดี นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาตีตอบโต้พ่อของเขา”
ซูย้าวหยุดไปครู่หนึ่ง กวาดสายตามองลี่เฉินซีที่อยู่ข้างๆแวบหนึ่งด้วยสีหน้าเย็นชา “คุณลองเดาดูซิว่าต่อจากนั้นเป็นอย่างไร?”
ไม่ต้องให้ชายหนุ่มพูดอะไร เธอพูดเองเออเองต่อว่า”ครั้งนั้นเขาทำร้ายพ่อของเขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก และก็เข้าโรงพยาบาลด้วย ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ถูกคนทั้งหมดรวมทั้งแม่ของเขาด่าว่า แม้แต่ยังมีคนส่งเขาเข้าไปในสถานพินิจด้วย”
“รอเมื่อพ่อหายป่วยแล้ว ก็ยิ่งเอาใหญ่ เขาทนไม่ไหวจริงๆ จึงพลั้งมือฆ่าพ่อของเขา ตอนนั้นแม่ของเขาก็ฆ่าตัวตายตามไปด้วย ละครโศกนาฏกรรมในโลกมนุษย์ ก็ได้แสดงขึ้นมาแบบนี้”
เมื่อซูย้าวพูดมาถึงตรงนี้ ก็ยกแก้วเหล้าขึ้น เงยหน้าดื่มจนหมดแก้ว
ความเผ็ดร้อนในปากผสมปนเปกับความสลับซับซ้อนในหัวใจ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น เอียงข้างมองดูชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ”นี่เป็นเรื่องของหลินเจว๋ แล้วมาพูดเรื่องของหลี่สวี่ตงกันต่อ”
“เขาเป็นเด็กกำพร้า มีเพียงน้องสาวแท้ๆหนึ่งคน ทั้งสองเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อมาถูกพ่อแม่บุญธรรมรับไปเลี้ยง ชีวิตใต้ชายคาคนอื่นสั้นๆไม่กี่ปี แม้ว่าจะลำบาก แต่ก็ยังถือว่ามีบ้านแล้ว แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งเขาเลิกเรียนกลับมา ปรากฏว่าเห็นพ่อบุญธรรมทำกับน้องสาวของเขา……..”
ซูย้าวไม่ได้พูดต่อ จงใจเว้นคำคลุมเครือเหล่านั้นไป จากนั้นยิ้มเบาๆ “คุณก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน น่าจะเข้าใจใช่ไหม?”
“หลังจากแม่บุญธรรมรู้เรื่องนี้แล้ว ยังโทษว่าเป็นความผิดของน้องสาวของเขา โยนความผิดทั้งหมดให้น้องสาวของเขา เด็กผู้หญิงอายุเพิ่งแค่สิบกว่าปีคนหนึ่ง ก็ฆ่าตัวตายไปเช่นนั้น และในคืนนั้น อาตงก็จุดไฟเผาพ่อแม่บุญธรรมตาย จากนั้นก็อุ้มร่างน้องสาว ไปสถานีตำรวจ”
ลี่เฉินซีฟังเธอพูดเรื่องเหล่านี้อย่างเงียบๆ ดวงตารูปหงส์ค่อยๆหม่นหมองลง หมุนแก้วเหล้าในมือ “คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”
แล้วซูย้าวก็เทเหล้าให้ตัวเองอีกหนึ่งแก้ว เคี้ยวผลไม้อยู่ในปาก รอยยิ้มจางๆฉายแววขมขื่น “พูดเกี่ยวกับฉันต่อดีกว่า”
“ในหลายปีก่อนหน้านั้น เพื่อจะผนวกบริษัทหนึ่ง ไม่ว่าจะใช้วิธีการอะไร บีบบังคับให้หลายครอบครัวแตกสลาย ลูกเมียหนีจาก จนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย”
เธอพูดเพียงคร่าวๆแล้วผ่านไป รายละเอียดเป็นอย่างไร เธอไม่ได้พูดอย่างละเอียด
เมื่อสิ้นเสียง เธอเลิกคิ้วมองไปทางลี่เฉินซี”ดังนั้น คุณลี่ ตอนนี้คุณยังรู้สึกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ดีไหม? ”
ลี่เฉินซีวางแก้วเหล้าในมือลง หันหน้าไปทางเธอ เอื้อมมือเชยคางเธอขึ้น ดวงตาลุ่มลึก กวาดไปบนหน้าเธอ “คุณพูดมาขนาดนี้ เพื่อจะบอกหลักสัจธรรมผมข้อหนึ่งว่า ไม่มีนิยามและมาตรฐานของคนดีกับคนเลว”
“ไม่ว่าธรรมชาติของคนจะเป็นคนดี หรือว่านิสัยไม่ดี ล้วนมาจากสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา และความรับรู้ในภายหลังเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก”
เพราะว่าซูย้าวคนเก่า ไม่ใช่แบบนี้
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ”คุณต้องการจะบอกผมมาก ว่าคุณไม่ใช่คนดี ให้ผมละทิ้งความคิดที่มีต่อคุณ ใช่ไหม?”
ซูย้าวนั้นประหลาดใจเล็กน้อย เขาสามารถเดาความคิดของเธอออก ทว่าเพียงแค่ยิ้ม แล้วยกมือปัดมือของเขาออก แล้วก็ดื่มเหล้าไปหลายคำ”คุณลี่ ในวงการธุรกิจ คุณไม่ใช่คนดี ในวงการความรัก คุณก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี แต่คุณค่อนข้างจะเหมาะสมตำแหน่งตอนที่คุณเป็นพ่อมากกว่า ”
“ดังนั้น คุณน่าจะมีผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง” เธอกล่าวเรียบๆ มองดูแก้วเหล้าในมือ หรี่ตาเล็กน้อย”ผู้หญิงที่ใจดี เข้าใจคนอื่น และมีเหตุผล แต่ไม่ใช่ฉัน”
ลี่เฉินซีพยักหน้าอย่างเห็นใจ “อืม คุณพูดถูกมาก”
“แต่ว่า”เขาลากเสียงยาวเล็กน้อย ยื่นแขนยาวออกมารัดเอวบางของเธอ เข้ามาในอ้อมกอด”รักของสิ่งนี้ มันมีพลังวิเศษ รักคนคนหนึ่งจริงๆ มันจะค่อยๆ กลายเป็นเหมือนอีกฝ่าย ดั่งที่ว่าดึงดูดกันและกัน!”
นิ้วมือเรียวยาวของเขาลูบเบาๆไปที่แก้มของเธอ กุมใบหน้าอ่อนละเอียดของเธอ รอยยิ้มมีเลศนัย”กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์ ทำอย่างไรดี? คนอย่างผม กลับชอบผู้หญิงเลวอย่างคุณ”