เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 659 เปลี่ยนคำเรียกใหม่เถอะ
หลังจากผ่านเคราะห์กรรมของความเป็นความตายแล้ว สิ่งที่ซูย้าวได้มาก็คือ ความฝันอันเหนื่อยล้าที่ยาวนาน
ไม่รู้ว่าลี่เฉินซีส่งเธอมาโรงพยาบาล แล้วสาเหตุเพราะคุณหมอฉีดยาระงับประสาทให้เธอ หรือว่าได้รับความตกใจมากไป จึงทำให้มีปฏิกิริยาที่ไม่ดี อย่างไรก็ตาม มันเป็นความฝันที่ยาวมาก ตามหลอนเธอ ทำให้เธอไม่สบายใจเป็นพิเศษ
ในฝัน เธอเหมือนถูกคนจับรัดต้นคออีกครั้ง ความรู้สึกกดดันที่พบเจอกับความตายปล่อยๆ ประดังเข้ามาหาเธออีกครั้ง ทรมานมาก ไม่สามารถจะหลุดพ้นได้
จากนั้น เธอราวกับมองเห็นทะเลไฟอีกครั้ง เปลวเพลิงลุกโชนไปทั่ว และเงาของทั้งสองก็เดินฝ่ากองไฟ ทั้งร่างไหม้ขึ้นมา แต่ทว่าอย่างกับไม่รู้สึก เพียงแค่มองดูเธอแล้วหัวเราะไม่หยุด
เสียงหัวเราะนั้น ช่างน่าขนลุก และมีเลศนัย โหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัว
“ไม่เอา ไม่เอา………”
สุดท้ายซูย้าวก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ เหงื่อเต็มตัวตกใจตื่นจากความฝันร้าย เห็นสีขาวหิมะเข้าตา และกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออ่อนๆในอากาศ และในเวลานี้ ให้ความรู้สึกอุ่นใจอย่างแปลกประหลาด
เอียงข้างเล็กน้อย ก็เห็นลี่เฉินซีที่อยู่ข้างกายจับมือเธออยู่ตลอดเวลา
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาลุ่มลึก มองดูเธอเรียบๆ เอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้เธอ น้ำเสียงเชื่องช้า มีเสน่ห์ราวเสียงสวรรค์”ไม่กลัวแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว……..”
เขาพูดพลาง ค่อยๆยื่นแขนออกมากอดเธอไว้ในอ้อมกอด แล้วลูบหลังเธอเบาๆ ความรู้สึกปลอบโยนเข้าหู”จะไม่ให้คุณพบเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษด้วย ครั้งนี้ผมประมาทไปเอง”
ที่จริง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวกับเขาเลย
ไม่มีใครคิดว่า ในเวลานี้ อู๋หงยุ่นจะจ้างคนลักพาตัวเธอ แล้วยังแสดงหนังความเป็นความตายไปหนึ่งฉาก
เธอหลับตาลงช้าๆ และถอนหายใจช้าๆ”โชคดีที่คุณมา แต่ว่า คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ที่นี่ ?”
ลี่เฉินซีปล่อยเธอ มือเรียวยาวข้างหนึ่งลูปไปที่แก้มเธอ”คนของจี้เซิงหาคุณเจอ”
ที่นี่คือหลิ่งโจว และก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของเจียงจี้เซิง ที่สำคัญ สนามกีฬานั้นก็อยู่ภายใต้ชื่อบริษัทเจียงหย่วน ซูย้าวเกิดเรื่องขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ เขาจะต้องรับผิดชอบด้วยไม่มากก็น้อย
ซูย้าวพยักหน้าเล็กน้อย และเหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้อีก พลิกมือจับมือชายหนุ่มไว้”แล้วคนร้ายสองคนนั้นล่ะ ?”
น้ำเสียงสงสัยของเธอเพิ่งจะเอ่ยขึ้น ทันใดนั้นก็นึกถึงก่อนหน้านั้นไม่นาน ตอนที่ลี่เฉินซีช่วยเธอ แล้วจะจากไป ชายหนุ่มคนร้ายจุดไฟขึ้นอย่างกะทันหัน น้ำมันเบนซินเต็มพื้นลุกไหม้ขึ้นมาทันที ภาพที่หนึ่งชายหนึ่งหญิงอยู่กองไฟ………
มันเหมือนกับในความฝัน เหมือนกันมาก
น่าสยองและตกใจมาก
ลี่เฉินซีมองดูเธอยิ้มอ่อนโยน จับมือเธอ ประสานนิ้วมือกันไว้”พวกเขาต่างได้รับบาดเจ็บแล้ว ทำการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล รอให้ฟื้นได้สติ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมาทำการสอบสวนพวกเขา คนบงการอยู่เบื้องหลังก็จะถูกจับในเร็ววัน”
ซูย้าวอึ้งไป หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถอนหายใจเล็กน้อย”เกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น สองคนนี้ ไม่เหมือนกับคนร้ายทั่วไป เหมือนกับ……..”
บางที่น่าจะตาฝาดไปเท่านั้นเอง เธอรู้สึกว่าสองคนนี้ สำหรับเรื่องการฆ่าคน เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยที่ไม่ควรพูดถึง สำหรับพวกเขา ก็เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป
อีกอย่างรู้ทั้งรู้ว่าได้แจ้งตำรวจแล้ว และก็รู้ว่าหากวางเพลิง พวกเขาก็อาจจะไม่มีทางหนี แต่ยังคงทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ารนหาที่ตาย คนเช่นนี้ จะบอกคนอยู่เบื้องหลังออกมาหรือเปล่า ?
ตอนที่นายจ้างจ่ายเงินจ้างคนร้าย จะยอมจ้างคนประเภทไหนมากที่สุด
ไม่ใช่คนที่ชอบเงิน
เพราะว่าคนเช่นนี้ อาจจะทรยศคุณได้ตลอดเวลาเพราะเงินทอง
แต่เป็นคนที่ไม่คิดชีวิต ใช้การทำชั่วเป็นความสนุกประเภทหนึ่ง คนชั่วที่ไร้ขีดจำกัดที่สุดในหมู่คนร้าย ที่มักพูดกันบ่อยว่า มารที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคน
พวกเขากระหายเลือด และก็ไม่มีศีลธรรม จะไม่ใจอ่อนเพราะใครบางคน เรื่องบางเรื่อง เพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำให้พวกเขามีความสุขได้ นั่นก็คือการทำชั่วและฆ่าคน
คนแบบนี้ เป็นคนบ้าหมู่คนบ้า มารในหมู่มาร
ซูย้าวเงยหน้ามองไปทางชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า”พวกเขาจะไม่พูดหรอก คนบงการที่อยู่เบื้องหลังคืออู๋หงยุ่น แม้ไม่รู้ว่าเขาไปหาสองคนนี้มาจากไหน แต่รู้สึก………”
หากสองคนนี้ไม่ยอมสารภาพ ถ้าอย่างนั้น ทางตำรวจก็ไม่มีหลักฐานที่เพียงพอสำหรับไปจับอู๋หงยุ่น แล้วฝันร้ายที่ซูย้าวพบเจอในครั้งนี้ จะว่าอย่างไร?
ลี่เฉินซีดูออกถึงความกังวลในดวงตาของเธอ ย่อมกอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด ลูบหลังเธอเบาๆ “อย่ากังวลเลย ทางอู๋หงยุ่น ผมจะจัดการเขาเอง”
กล้าเตะต้องคนของเขาอย่างเปิดเผย อู๋หงยุ่นช่างกล้ามากจริงๆ!
ซูย้าวครุ่นคิด แล้วปัดพันธนาการของชายหนุ่มออก ลุกออกจากอ้อมกอดของเขา หันหลังลงจากเตียงไป ชายหนุ่มลุกขึ้นกดไหล่เธอ กดเธอนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
เขาแรงใหญ่เล็กน้อย ทำให้ทันทีที่ซูย้าวนั่งลง รู้สึกว่าหัวสมองราวกับเป็นหม้อโจ๊กเช่นนั้น วิงเวียนไปหมด
“คุณยังต้องพักผ่อน คิดจะไปไหนอีก?”น้ำเสียงเรียบหรูของเขา ปนไปด้วยความขุ่นเคือง
เธอชอบเป็นแบบนี้ เมื่อเจอปัญหา ไม่เคยคิดจะพึ่งพาเขา มักจะคิดแก้ปัญหาคนเดียว !
จุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนแรก หรือตอนนี้ เธอยังไม่เปลี่ยนแปลง
ซูย้าวยกมือขึ้นนวดขมับที่ยังคงบวมเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เรื่องอู๋หงยุ่น ฉันจัดการเองดีกว่า !”
เธอพูดพลาง สายตาเป็นประกายเล็กน้อย จ้องมองไปที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างรางๆ มุมปากแดงระเรื่อยขยับขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มเย็นชา ค่อยๆผุดขึ้น” คนอย่างฉันแม้เรื่องเล็กก็จะต้องแก้แค้น สิ่งที่เขาทำในครั้งนี้ ฉันจะให้เขาชดใช้เป็นสิบเท่า ร้อยเท่าเพื่อชดใช้กลับมา! อันดับแรก ก็เริ่มจาก…….”
ซูย้าวได้คิดไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป รอยยิ้มจางๆดูซับซ้อน แต่ก็ไม่นาน แวบเดียวก็หายไป
ลี่เฉินซีมองดูเธออย่างเงียบๆ”คุณอยากจะทำอะไร? หากจะจ้างคนลักพาตัวเหมือนกัน ก็พอทีเถอะ !”
เธอถูกหยอกล้อจนหัวเราะคิกๆออกมา ใบหน้าที่งดงาม ไม่ง่ายเลยที่จะฟื้นฟูจนมีสีเลือดเล็กน้อย รอยยิ้มที่สวยงาม สวยจนทำให้คนหยุดหายใจ
“ฉันน่าเบื่อขนาดเลยหรือ? หากใช้กฎหมายจัดการคนประเภทนี้ มันง่ายเกินไป !”แววตาซูย้าวเต็มไปด้วยความเย็นชา ในเมื่ออู๋หงยุ่นต้องการจะเล่น ก็เล่นใหญ่หน่อย
ในเมื่อเกมนี้ ก็เขาเริ่มก่อน ไม่ใช่หรือ?
เรื่องการอดทนอดกลั้น ให้คนอื่นควบคุม แล้วยังจะใช้ความดีที่หลงเหลืออยู่ไปทำให้อีกฝ่ายซาบซึ้ง ซูย้าวทำไม่ได้ เธอรู้แต่เพียงว่าใครไม่ทำฉัน ฉันก็ไม่ทำใคร หากใครทำฉัน จะต้องไม่ใจอ่อนอย่างแน่นอน!
ทุกคนต่างเป็นคนครั้งแรก มีสิทธิ์อะไรที่จะต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้การควบคุมและเงามือของคนอื่นด้วย มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ยังจะต้องใช้สายตาและคำพูดของคนอื่น ผูกมัดตัวเองหรือ ?
ในใจของเธอมีแผนการพอประมาณแล้ว แม้ว่าลี่เฉินซีดึงดันจะให้เธอพักผ่อนต่ออีกครู่หนึ่ง แต่เธอก็ไม่ได้อยู่เฉย หยิบมือถือมาติดต่อไปหาอาตง
รอเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมา มองดูข้อความที่อาตงส่งมาให้ ซูย้าวก็มีแผนการอยู่ในใจแล้ว
เธอเงยหน้ามองดูชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ ใช้เท้าแหย่ไปที่ขายาวของชายหนุ่ม “เรื่องของเจียงจี้ฉีกับอู๋หยาน ทางประธานเจียง จะไม่สนใจจริงๆหรือ?”
ลี่เฉินซีไม่คิดว่าจู่ๆเธอจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ ดวงตาลึกล้ำ เงยขึ้นกวาดมองเธอแวบหนึ่งอย่างเรียบๆ”คุณถามเรื่องนี้ทำไม?”
จากนั้น น้ำเสียงเย็นชาของเขาก็ห้ามเธอไว้”อย่าคิดที่จะโยนมาทางนี้ แม้ว่าอู๋หงยุ่นจะทำชั่วมากมาย แต่อู๋หยานเป็นเพียงหลานสาวของเขา บาปไม่เกี่ยวกับคนในครอบครัว”
เขาปอกแอปเปิลเป็นชิ้นเล็ก วางไว้ในจาน แล้วส่งให้เธอ”เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง ทางด้านอู๋หงยุ่น จะไม่ปล่อยเขาไปอย่างง่ายดาย คุณไม่ต้องสนใจแล้ว”
ซูย้าวมองไปทางเขาขยับปากเล็กน้อยอย่างรำคาญ หยิบแอปเปิลขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ใส่เข้าไปในปาก เคี้ยวไปพูดไปว่า”เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอู๋หงยุ่น ฉันก็แค่อยากได้หนี้บุญคุณจากประธานเจียง ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะมีอะไรจำเป็น?”
น้ำเสียงลี่เฉินซีเยาะเย้ย ขยับกายเข้าไป เชยคางเธอขึ้น”คุณมีความจำเป็น ไม่ควรจะคิดถึงผมก่อนหรือ? ทำไม?คุณยังมีใจให้กับเจียงจี้เซิงด้วยหรือ?”
เธอกะพริบตาอย่างทำอะไรไม่ได้ “คุณลี่หึงหรือ?”
เขาถอนหายใจอย่างจนปัญญา”คุณจะเรียกผมว่าคุณลี่ไปถึงตอนไหนกันแน่ ? ควรจะเปลี่ยนคำเรียกได้หรือยัง?”