เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 660 คนพิการ
“ลี่เฉินซี คุณจริงจังหน่อยได้ไหม?”
ซูย้าวเลิกคิ้วอย่างรำคาญ ยื่นมือปัดมืดใหญ่ของชายหนุ่มที่กำลังคิดจะซุกเข้ามา ถือถาดแอปเปิลด้วยสีหน้าน่ารังเกียจ เอียงข้าง ก้มนั่งกินแอปเปิลอย่างเงียบๆ
ลี่เฉินซียิ้มแผ่วเบา แล้วยื่นมือไปหยิบส้มมาจากถาดผลไม้ เริ่มปอกเปลือก ปากก็พูดว่า”ใครให้คุณเรียกชื่อตรงๆ เชื่อฟังบ้าง เรียกผมว่าสามีเถอะ”
ร่างกายเธอแข็งทื่อ หันหลังมองไปทางเขาด้วยความตกใจ “คุณพูดอะไรนะ ?”
เขาเอาส้มที่ปอกแล้วป้อนใส่ปากเธอ “เรียกสามีไม่ดีหรือ?”
ซูย้าวตกใจจนสีหน้าหวาดกลัว แม้กระทั่งลืมเคี้ยวส้มในปาก เพียงแค่พูดอ้ำๆอึ้งๆว่า”เมื่อก่อนซูย้าวเรียกคุณแบบนี้หรือ?”
เขายิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไร แต่มีความผิดหวังฉายผ่านในดวงตา ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
ตามนิสัยของซูย้าว กับความสัมพันธ์เมื่อก่อนของพวกเขา เธอจะเรียกเขาว่าสามีได้อย่างไร
แต่ว่า คำตอบนี้ดูเหมือนซูย้าวก็รู้ได้ทันที “เกือบลืมไปเลย เมื่อก่อนเธอเป็นใบ้”
ลี่เฉินซี”………”
“แต่ว่าคุณลี่ ทำไมคุณถึงแต่งงานกับคนใบ้คนหนึ่งล่ะ?”เธอเอียงศีรษะน้อยๆ กลืนส้มในปากลงไป แล้วยื่นมือหยิบส้มชิ้นอื่นมาจากในมือของเขา กินลงไปทีละนิด กินไปพูดไป”สเปคอย่างคุณ แม้ว่าเมื่อหลายปีก่อน ก็น่าจะดีมากใช่ไหม!ทายาทสืบทอดบริษัทลี่ซื่อ อายุยังน้อยก็กลายเป็นประธานบริษัทแล้ว เป็นตำนานของวงการธุรกิจ หนุ่มน้อยมากความสามารถ และรูปหล่อด้วย ทำไมจะต้องแต่งงานกับคนพิการด้วย? ”
ลี่เฉินซี”……”
“และตระกูลซูนั้น ฉันแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ดูเหมือนจะไม่เงินหรือภูมิหลังอะไรประเภทนี้ใช่ไหม!”ซูย้าวครุ่นคิดอย่างละเอียด
ตระกูลซู เมื่อสิบกว่าปีก่อน ก็เคยมีชื่อเสียงอยู่ช่วงหนึ่ง โด่งดังเป็นพิเศษ แต่ตระกูลใหญ่ธุรกิจใหญ่ก็ต้านการฟุ่มเฟือยของลูกหลายรุ่นต่อมาไม่ได้ ในที่สุด ก็ตกต่ำไปอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งวันนี้ เมื่อเอ่ยถึงตระกูลซู ถึงขั้นแทบจะไม่มีคนกี่คนที่รู้จัก
แม้ว่าพวกคนแก่จะยังจำได้ แต่ต่างก็ใช้เสียงถอนหายใจผ่านไปอย่างลวกๆ
ซูย้าวมองดูเขาไม่พูดจา ก็ยิ่งแปลกใจ ยื่นศีรษะน้อยๆตาเขม็งจ้องมองดูเขา”เพราะเหตุใดกันแน่?หรือว่าการแต่งงานการคนใบ้ ยังมีความหมายอย่างอื่นด้วย?”
เธอครุ่นคิดเอง”ดูเหมือนดีมากเหมือนกัน อย่างน้อยจะไม่ทะเลาะกัน แม้ว่าจะทะเลาะกัน ก็มีแต่คุณพูด เธอใช้ภาษามือ”
ลี่เฉินซีมองไปทางเธออย่างรำคาญ ไม่พูดอะไร แต่ใช้ภาษามือใบ้”คุณนี่น่าเบื่อจริงๆ”
ซูย้าวชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเยาะ ตอบกลับไปว่า”คุณนั่นแหละน่าเบื่อ!”
ดวงตาชายหนุ่มเคร่งขรึมเล็กน้อย”คุณเข้าใจภาษามือด้วยหรือ?”
เพียงประโยคเดียว ซูย้าวก็ตกใจไปเช่นกัน
เธอ…….อ่านภาษามือได้ด้วยหรือ?!
และในความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ของตัวเองในตอนนี้ เธอไม่ถนัดภาษามือนี่ แทบจะไม่เคยสัมผัส………
มองดูสีหน้าตกตะลึงของเธอ ลี่เฉินซียกมือประคองไปที่แก้มน้อยของเธอ “ยังจะบอกว่าคุณไม่ใช่ซูย้าว เป็นแม้กระทั่งภาษามือ ยังจะต้องให้ผมยืนยันอะไรอีก?”
“นี่…….”ซูย้าวก็ตอบไม่ได้ ทำได้เพียงผลักเขาออก แล้วพึมพำว่า”คุณก็เป็นภาษามือไม่ใช่หรือ?”
เขาปล่อยเธอ แล้วก็ผ่าลูกกีวี่ที่ปอกเสร็จแล้วหนึ่งชิ้น ป้อนเธอ “ผมเป็นภาษามือมานานแล้ว”
ตั้งแต่ตอนที่ซูย้าวยังเด็ก แล้วกลายเป็นยัยใบ้ เขาก็ฝึกภาษามือเอง
เพียงแค่ลังเลไม่อยากจะบอกเธอก็เท่านั้นเอง
ซูย้าวเบ้ปาก “อย่าบอกฉันนะว่า คุณฝึกเพื่อภรรยาเก่าคนนั้น”
ลี่เฉินซีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ยกมือขึ้นบีบจมูกของเธอ “หึงหวงตัวเอง ได้ประโยชน์อะไร?”
เธอขยับหน้าออก ในปากยังคงเคี้ยวลูกกีวี่ จากนั้นก็พูดว่า”อย่าป้อนฉันกินผลไม้อย่างเดียว ฉันหิวแล้ว มีประเภทข้าวไหม?”
ชายหนุ่มใช้ทิชชูเช็ดปากที่เลอะของเธอ “รอสักครู่ คุณอยากกินอะไร?”
เธอกลืนผลไม้ในปากลงในไม่กี่วินาที จากนั้นก็ครุ่นคิด”กินสุกี้ได้ไหม?”
“ไม่ได้ !”เขาปฏิเสธทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอได้รับความตกใจ และก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาลด้วย ยังจะกินสุกี้หรือ?!
เป็นความคิดที่แปลกประหลาดจริงๆ
เธอดูเหมือนได้รับความกระทบกระเทือนบางอย่าง แล้วเธอดึงศีรษะเล็กๆลง แล้วพูดเพียงว่า”งั้นอะไรก็ได้ !แล้วแต่……”
ลี่เฉินซีเงยหน้ามองดูเธอ”ชอบกินสุกี้มากใช่ไหม?”
เธอพยักหน้า “ตอนอยู่ต่างประเทศไม่มีอะไรน่ากิน กลับมาในประเทศแล้วถึงพบว่า สุกี้อร่อยเช่นนี้”
เขายิ้ม แล้วเอื้อมมือไปเช็ดสิ่งของที่ขอบปากให้เธอ แล้วเอียงข้างกอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด “อีกสองวัน จะพาคุณไปกินสุกี้ หืม?”
เธอพยักหน้าอย่างลำบากใจ วกไปวนมา แต่ยังไม่ลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด เธอโผล่ศีรษะน้อยๆออกมาจากอ้อมกอดของเขา”เรื่องของเจียงจี้ฉีกับอู๋หยาน ทางประธานเจียงจะไม่สนใจจริงๆหรือ?”
สายตาเย็นชาของลี่เฉินซีหมองคล้ำลง”ทำไมเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก?ก็บอกแล้ว อู๋หงยุ่นคืออู๋หงยุ่น อย่าเอาไปเอาอู๋หยานมาเกี่ยวด้วย”
ซูย้าวแบะปากอย่างรำคาญ “ฉันรู้อยู่แล้ว เกลียดในสิ่งที่เขาทำ แต่ไม่ได้เกลียดคนของเขา อู๋หงยุ่นคืออู๋หงยุ่น จะไม่กระทบถึงหลานสาวของเขา ฉันแค่อยากจะช่วยคุณ ไม่ได้หรือ?”
“ช่วยผมหรือ ?”ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว ยื่นมือไปหยิกแก้มน้อยๆของเธอ ผอมมาก ไม่มีเนื้อเลยสักนิด”คุณจะใจดีขนาดนี้หรือ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” เธอรอไม่ไหวที่จะพยักหน้าอย่างกับตำกระเทียม “คุณเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉัน! คุณลี่ผู้ยิ่งใหญ่ของฉัน ฉันจะต้องตอบแทนบุญคุณอยู่แล้ว อีกอย่างคุณก็อยากได้ที่ผืนที่อยู่ภายใต้ชื่อเจียงจี้ฉีด้วยไม่ใช่หรือ? ถ้าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แล้วต้องติดคุก แล้วเขาจะขายที่ผืนนั้นได้อย่างไร?”
ติดคุกไปแล้ว ย่อมต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบในคุกอยู่แล้ว ไม่มีอะไรทำให้ลูกน้องขายที่ แล้วจะได้ประโยชน์อะไร?
สายตาลุ่มลึกของลี่เฉินซี มองสำรวจหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างละเอียด “ดังนั้น คุณเพียงแค่อยากจะช่วยหรือ?”
“อืม !”ซูย้าวพยักหน้าอีกครั้ง อิงอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วพูดอีกครั้งว่า “อีกอย่าง คุณก็พูดอยู่บ่อยว่า ดูคนให้ดูที่การกระทำ จะดูแต่ภายนอกไม่ได้ไม่ใช่หรือ?อู๋หยานคนนี้ อาจจะไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด!”
“ผมคิดว่า……..”ลี่เฉินซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง บีบจมูกน้อยๆของเธอแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า”อะไรคือฉันคิดว่า ผมคิดถึงผู้หญิงคนอื่นทำไม?”
หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ก็เอาไม่อยู่แล้ว ยังจะผู้หญิงอื่นอีก!
แต่ว่า ลี่เฉินซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกแปลกในเล็กน้อย จึงปล่อยเธอ แล้วนั่งตัวตรงเล็กน้อย “อย่าบอกผมว่า คุณได้เคยตรวจสอบอู๋หยานแล้ว”
ซูย้าวกัดริมฝีปาก แต่ก็ไม่อยากจะปิดบังอะไรเขา จึงเอามือถือออกมาเอง แล้วเปิดข้อความที่อาตงส่งมาให้เขาดู
อู๋หยานคนนี้ ไม่ธรรมดาอย่างที่คนนอกคิดจริงๆ และไม่ต้องพูดถึงว่าภูมิหลังซับซ้อน แม้แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็มั่วจนเกินความคาดหมาย
ดังนั้น ครั้งนี้ทะเลาะกับเจียงจี้ฉีจนขึ้นโรงขึ้นศาล ก็เกรงว่าจะมีอย่างอื่นแฝงด้วย
ลี่เฉินซีเพียงแค่กวาดสายตาไปคร่าวๆ ก็คืนมือถือเธอไป “อู๋หยานเคยเป็นคู่หมั้นของอาฉี คาดว่าต้องการจะใช้เวลานี้ คืนดีความสัมพันธ์ของทั้งสอง !”
ซูย้าวกะพริบตาปริบๆ”หากเป็นเพียงเช่นนี้ แล้วทางเจียงจี้ฉี ทำไมถึงยอมเลือกจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ เผชิญกับคดีความ ถูกตระกูลเจียงปล่อยทิ้ง ก็จะไม่ยอมคืนดีกับเธอ แต่งงานกับคู่หมั้นเก่าคนนี้?”
สามารถทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง ยอมเสียสละทุกอย่าง ละทิ้งอนาคตอย่างไม่หวงแหน ก็จะต้องหลีกเลี่ยงผู้หญิงคนนี้ เรื่องมันจะง่ายเช่นนี้หรือ?
เธอยื่นมือออกมาอีก คล้องไปที่แขนของชายหนุ่ม เขย่าไปมาไม่หยุด “ไม่สนแล้ว ไม่ว่าอย่างไรหากทางประธานเจียงไม่สนใจจริงๆ ก็มอบเรื่องนี้ให้ฉันเถิด ! ฉันมาช่วย เจียงจี้ฉีว่าคดี รับรองว่าจะทำให้เขาถูกปล่อยอย่างไร้ความผิด ดีไหม?”
ลี่เฉินซีแววตาตกตะลึง สูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างจนปัญญา ทางเจียงจี้เซิงมั่นใจว่าจะปล่อยทิ้งน้องชายคนนี้ไม่สนใจแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี มีผลกระทบต่อทั้งตระกูลเจียงกับบริษัท ดังนั้น แม้แต่ทนาย ก็ไม่ได้จัดหาให้เจียงจี้ฉีเลย
หากสามารถคลี่คลายเรื่องนี้ได้ ไม่เพียงแต่สามารถมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเจียง และก็สามารถได้ที่ผืนอู๋ซินฉวูด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว แต่ว่ามอบให้ซูย้าว……..
เขายังคงมีความเป็นห่วงเล็กน้อย”คุณไม่ใช่ทนายสักหน่อย แน่ใจว่าได้ใช่ไหม?ไม่ใช่คุยโว?”
“ฉันมั่นใจ จะไม่มีความผิดพลาดใดๆอย่างแน่นอน!”ซูย้าวยิ้มแผ่วเบา ดวงตากลมโตที่หรี่ลง โค้งงอราวพระจันทร์เสี้ยวสองดวง และก็เหมือนสุนัขจิ้งจอกน้อย
ลี่เฉินซีอุทานหลายครั้งอย่างจนปัญญา เขาทำอะไรเธอไม่ได้จริงๆ นอกจากพยักหน้าอนุญาตแล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก?
แต่หวังว่าเธอจะมีความมั่นใจเต็มร้อยจริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะคิดสนุกขึ้นมาเพียงชั่ววูบ