เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 688 ลองเปลี่ยนให้ผมดู
สำหรับเรื่องแต่งงาน ลี่เฉินซีได้จัดงานแถลงข่าวเปล่าประกาศเรื่องนี้ด้วยตัวเองจริงๆ
และเมื่อเขาพูดแบบนั้นออกไป มันก็ทำให้เกิดความโกลาหล นักข่าวจำนวนมากดูเหมือนจะตกใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก พวกเขาถามคำถามต่างๆ นานา
ทันใดนั้นสถานการณ์ก็ราวกับหม้อที่กำลังจะระเบิด เต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบและถามคำถามมากมาย
แต่ลี่เฉินซีไม่ได้ตอบทีละคน เขาแค่ส่งสถานการณ์ที่วุ่นวายนี้ให้ผู้จัดการและหวางอี้เป็นคนจัดการ ตัวเองปีกตัวออกไปห้องทำงาน
สำหรับเรื่องแต่งงานและการเตรียมงานแต่ง มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องเตรียมการจริงๆ ยุ่งก็เป็นเรื่องปกติ
การแต่งงานครั้งนี้ เขาไม่อยากให้เหมือนกับตอนนั้น เรียบง่ายและถ่อมตัวขนาดนั้น ครั้งนี้ เขาจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษ ทำทุกอย่างที่เขาสามารถคิดออกและสามารถทำได้ให้หมด
ลี่เฉินซีใช้เงินไปไม่น้อยกับเรื่องนี้ ดังนั้นการเตรียมการครั้งต่อไปจึงดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่เขามักจะสั่งให้ลูกน้องทำเรื่องอื่น สำหรับเรื่องของงานแต่ง เขากลับทำมันด้วยตัวเอง แม้แต่เลือกดอกไม้ งานเลี้ยงและโบสถ์จัดงาน แม้แต่ช้อนส้อมจานชามทุกชุดบนโต๊ะอาหารในงาน เขาก็จัดการมันอย่างพิถีพิถันด้วยตัวเอง
การกระทำแบบนี้ของเขา ทำให้หวางอี้และพวกลูกน้องตกใจ เห็นว่าเจ้านายของตัวเองจริงจังกับเรื่องนี้ขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
เดิมทีเรื่องที่ควรใช้เวลานานในการเตรียมการ แต่เมื่อคนของบริษัทลี่ซื่อเป็นคนจัดการ ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาก็จัดการหมดแล้วเรียบร้อย
สำหรับการเลือกวันที่ฤกษ์งามยามดี ลี่เฉินซีก็ถามความคิดเห็นของซูย้าวด้วยความอดทน แต่ว่าช่วงนี้ ซูย้าวออกบ้านเช้ากลับบ้านดึกเกือบทุกวัน พวกเขาสองคนก็ไม่ค่อยได้เจอกัน
เมื่อเขาได้เจอกับเธอ เธอก็ดูเหนื่อยๆ และพูดแค่ว่า:”แล้วแต่คุณเลย”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้ว เดินเข้าไปจับมือเธอ:”แล้วแต่ผมเหรอ?”
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน “แน่นอนอยู่แล้ว คุณเป็นสามีของฉันไม่ใช่เหรอ?”
คำว่า’สามี’ เรียกได้อย่างเป็นธรรมชาติและสนิทสนม พูดออกมาจากปากของเธอ มันช่างพอดิบพอดี ลี่เฉินซีได้ยินแบบนี้เขาก็ยิ้ม โน้มตัวลงไปจูบเธอเบาๆ :”สองสามวันมานี้ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาอยู่กับคุณเลย แต่งงานกันแล้วเราไปฮันนีมูนกันดีไหม!”
เธอพยักหน้าแบบส่งๆ :”อืม ดีสิ”
ที่จริงแล้ว ถ้าเป็นวันธรรมดา ลี่เฉินซีจะต้องสังเกตเห็นความปกติของเธอ แค่สายตาและรอยยิ้มที่ไม่ธรรมชาติเขาก็สามารถมองออก แต่ว่าตอนนี้ เขาถูกงานแต่งงานที่รอคอยมานานทำให้มัวเมาไปหมด เขามองข้ามไปแล้วจริงๆ
“เราจะจัดงานแต่งสองครั้ง ครั้งที่หนึ่งคือที่นี่ อีกครั้งหนึ่งเราไปจัดที่ยุโรป” เขาพูด เพราะว่าอานเจียเย้นอาศัยอยู่ที่ยุโรป และเรื่องที่พวกเขาแต่งงานกัน เขากังวลว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกลางคัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกอานเจียเย้น
เมื่องานแต่งงานที่นี่สิ้นสุดลงแล้ว พวกเขาทั้งสองคนไปฮันนีมูนกันแล้ว ค่อยไปจัดที่ยุโรปอีกครั้ง ถึงตอนนั้นถึงแม้ว่าอานเจียเย้นจะคัดค้านหรืออยากจะทำอะไรมันก็สายเกินไปแล้ว
ซูย้าวก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอแค่พยักหน้าแล้วพูดว่า:”อืม ดีเหมือนกัน งั้นก็สองครั้งก็ได้!”
“แล้วฮันนีมูนล่ะ คุณอยากไปที่ไหน?” เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนและถามเบาๆ
เธอคิดอยู่พักหนึ่ง:”เมืองอาไต้ดีไหม?ไปปีนเขาหิมะไปเล่นสกี”
เขาตกใจ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เขายิ้มและพูดว่า:”คุณชอบปีนเขาหิมะ?”
“ไม่ได้ชอบ” ซูย้าวหันหน้าหนีเขา สายตาที่ลึกซึ้งมองออกไปที่หน้าต่าง:”ฉันแค่ชอบหิมะที่ขาวบริสุทธิ์ มีรอยเลือดแค่นิดเดียวก็มองเห็นทันที”
สายตาที่เฉียบแหลมของลี่เฉินซีมืดมนลง เขาเดินเข้าไปจับที่แก้มของ:”คุณคิดอะไรเหลวไหลอีกแล้ว?”
เธอหัวเราะออกมา:”ไม่มีอะไร ฉันก็แค่พูดเลยๆ !”
กลัวว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไร เธอจึงเขย่งปลายเท้าจูบเขา พฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมชาติ ช่างทำให้เขามีความสุขเสียจริง เขายกมือขึ้นโอบกอดเธอ แต่เธอกลับรีบผลักเขาออก:”อย่าดื้อ ก่อนแต่งงานห้ามทำอะไรทั้งนั้น!”
เธอพูดและถอยหลังออกไปสองสามก้าว จากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมบนโซฟาขึ้นมากำลังจะขึ้นไปชั้นบน และลี่เฉินซีก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาเดินเข้าไปรั้งเธอไว้อีกครั้ง
“อย่าพึ่งรีบขึ้นไป ลองชุดแต่งงานก่อน” เขาพูดแล้วก็จับมือเธอเดินตรงไปอีกห้องหนึ่ง เปิดประตู และทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ทำให้ซูย้าวถึงกับตกใจ
นี่เป็นแค่ห้องธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่ามันถูกเขาออกแบบให้กลายเป็นร้านขายชุดแต่งงานตั้งแต่เมื่อไร ชุดแต่งงานที่ตระการตาต่างๆ นานา ทุกแบบทุกสไตล์ แต่มันล้วนแต่เป็นไซส์ของเธอทั้งนั้น มันทำขึ้นมาให้เธอคนเดียว
เธอตกใจและมึนงง เดินไปรอบๆ ห้อง ยื่นมือออกไปจับชุดแต่งงานที่แขวนอยู่เป็นแถว:”แต่งงานแค่ครั้งเดียว เตรียมชุดมากขนาดนี้ สิ้นเปลืองเกินไปรึเปล่า!”
และเธอก็ไม่อยากพูดว่า การแต่งงานครั้งนี้ มันอาจจะ…
“สิ้นเปลืองอะไรกัน” เขาพูดเบาๆ แล้วเดินตามเธอ “เลือกมาลองดูสักชุดสิ!”
ซูย้าวตกใจ “ตอนนี้?”
เขาพยักหน้าและยังหยิบชุดกี่เพ้าสีแดงออกมาเทียบที่ตัวเธอ:”คุณใส่ชุดนี้ต้องสวยมากแน่ๆ ลองเปลี่ยนให้ผมดูหน่อยสิ”
เธอลังเลและอยากจะปฏิเสธ แต่เขากลับยัดชุดกี่เพ้าชุดนั้นให้เธอ แล้วยังโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูของเธอเบาๆ :”เด็กดี รีบเปลี่ยนเถอะ!”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปจากห้อง เดินออกไปก็ยังไม่ลืมปิดประตู
เธอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก้มมองดูชุดกี่เพ้า ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าการออกแบบมันดูกล้าหาญเกินไป เจ้าสาวคนไหนจะใส่ชุดเซ็กซี่แบบนี้? หรือว่าเขา…
ซูย้าวขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นสั่นคลอน สายตาเธอมองไปที่กระเป๋าที่ตัวเองวางทิ้งไว้ข้างๆ ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายเธอก็กัดฟันตัดสินใจ
ลี่เฉินซียืนรออยู่ข้างนอกตั้งนาน เขาคิดว่าเธอคงจะเปลี่ยนเสร็จแล้ว เขาก็เปิดประตู ทันทีที่เงาของเธอเข้ามาในสายตาของเขา สายตาของเขาก็แข็งทื่อทันที
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามีรูปร่างที่สวยงาม และชุดกี่เพ้าสีแดงก็ตัดเย็บขึ้นมาตามไซส์ของเธอ มันห่อหุ้มรูปร่างที่สวยงามของเธอไว้อย่างแน่น ม้วนผมเป็นมวยไว้ด้านหลังและปักด้วยปิ่นปักผม ใบหน้าที่งดงามอยู่ภายใต้แสงไฟอ่อนๆ งดงามราวกับดอกบัวที่เบ่งบาน งดงามจนทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก
เขามองดูซูย้าวด้วยสายตาแบบนั้นอยู่นาน ซูย้าวก็เขินอาย เธอก้มหน้าลงมองชุดที่ตัวเองใส่อยู่และพูดออกมา:”ใส่แล้วแปลกมากใช่ไหม งั้นฉันเปลี่ยนชุดให้ดีกว่า!”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็รีบเดินเข้าไปจับแขนเธอไว้:”ไม่ต้องเปลี่ยน มันสวยมากเลย”
แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจ ใบหน้าที่เขินอายของเธอก็แดงขึ้นมา:”จริงเหรอ?”
เขายิ้ม:”จริงสิ”
พูดจบ เขาก็ออกแรงที่มือ วินาทีต่อมาก็ดันเธอเข้าไปที่ผนังข้างๆ ซูย้าวทำเป็นไม่เต็มใจ ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความสับสน สายตาเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง:”คุณ จะทำอะไร?”
เขาใช้มือข้างหนึ่งจับแก้มเธอ นิ้วมือที่บอบบางลูบไล้บนผิวที่นุ่มนวลของเธออย่างอ่อนโยน อีกมือหนึ่งวางไว้ข้างหัวของเธอ:”คุณใส่ชุดนี้ มันทำให้ผมอยากฉีกมันออก…”
น้ำเสียงที่แผ่วเบาและแหบแห้งผสมเข้าด้วยกัน บวกกับระลอกคลื่นเล็กๆ ที่คิ้วของเขา ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหล่าของเขามีความชั่วร้าย ลมหายใจบนตัวของเขายิ่งทำให้เธอไม่อาจต้านทานได้
และซูย้าวก็กวาดตามองไปที่โต๊ะข้างๆ บนนั้นมีเทียนหอมที่ไม่รู้ว่าจุดตอนไหน เปลวไฟและแสงไฟอ่อนๆ ส่งกลิ่นหอมที่ทำให้ผู้คนดมแล้วรู้สึกสบายออกมา
เทียนหอมนั้น มันคือเทียนหอมที่อาตงเป็นคนทำขึ้นมาด้วยความยากลำบาก สิ่งที่อยู่ข้างในนั้น มันไม่ใช่แค่เทียนหอม
มันยังมียาชนิดหนึ่ง ดมเข้าไปไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่มันสามารถทำให้คนอารมณ์ดีและขาดสมาธิได้ในระยะเวลาอันสั้น
เธอหาโอกาสมาตั้งนาน ในที่สุดเธอก็ได้รับโอกาสนี้ในคืนนี้
ซูย้าวค่อยๆ เงยหน้าขึ้น สายตาที่คลุมเครือช่างมีเสน่ห์ เธอใช้นิ้วลูบไล้ไปตามคอของเขาทีละเล็กทีละน้อย ลูบไล้วนอยู่ตรงลูกกระเดือกของเขา แตะที่คางของเขาเบาๆ :”งั้น ตอนนี้คุณอยาก?”