เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 707 คุณหลอกผมไม่ได้
“คุณลี่ ผลตรวจออกมาแล้วครับ”
หมอเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย ผลักประตูส่งรายงานการตรวจให้ลี่เฉินซี ขณะเดียวกันก็พูดขึ้น “อาการบาดเจ็บบนร่างกายของคุณอานเป็นอาการบาดเจ็บภายนอก ยังถือว่าดีมาก บาดแผลที่หนักที่สุดคือตรงท้อง ติดเชื้อรุนแรงแล้วครับ”
ลี่เฉินซีพลิกดูรายงานในมือ ขณะเดียวกัน ยังมีแผ่นซีทีสแกนทั้งตัว มองเห็นตำแหน่งบาดแผลที่ท้องได้ชัดเจน ไตหายไปข้างหนึ่ง
“คุณอาน ดูเหมือนเพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนไตมาไม่นาน น่าจะบริจาคไตให้ใครสักคน ถึงได้มีบาดแผลครับ”
จากนั้น หมอก็แนะนำวิธีกินยาคร่าวๆ และเรื่องที่ควรระมัดระวัง
ดวงตาของลี่เฉินซีเคร่งขรึม ยากที่จะสะกดอารมณ์ให้สงบได้ เนิ่นนาน ถึงเงยหน้ามองหมอ “เธอผ่าตัดเปลี่ยนไตหรือ สืบหาได้ไหมเธอบริจาคไตให้ใคร”
หมออึ้งไปนิดหนึ่ง จากนั้นก็ทำท่าลำบากใจ “เรื่องนี้เกรงว่าจะยากครับ ในเมื่อการผ่าตัดอย่างนี้ โรงพยาบาลส่วนมากทำได้”
ก็จริง โลกกว้างใหญ่ โรงพยาบาลมากมายขนาดนี้ ประกอบกับก่อนหน้านี้เธอเดินทางไปหลายที่ นอกจากตัวเธอเอง คงจะยากที่จะสืบได้ เธอผ่าตัดที่ไหนกันแน่!
ลี่เฉินซีระงับความคิดของตัวเอง เพียงแต่พูดออกไปสั้นๆ “ขอบคุณครับ” พูดจบ ก็เดินไปทางห้องผู้ป่วยห้องอื่น
หมอลังเลนิดหนึ่ง สุดท้ายก็เดินไปขวางเขาไว้ “คุณลี่ครับ บาดแผลของคุณอานติดเชื้อรุนแรง แม้ว่าจะให้ยาแล้ว แต่ต่อไปต้องระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นจะเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้ครับ!”
ดวงตาเคร่งขรึมของชายหนุ่มขรึมยิ่งขึ้น กวาดตามองหมอเรียบๆ “พวกคุณให้ยาแล้วไม่ใช่หรือ อย่าให้เธอตาย ก็พอแล้ว!”
พอพูดจบ ลี่เฉินซีก็ก้าวเท้ายาวผ่านหมอไป ตรงไปห้องผู้ป่วยVVIPอีกห้องหนึ่ง
เขาเพิ่งจะเปิดประตู พยาบาลที่อยู่กับลี่หมิงตลอดก็รีบลุกขึ้น พูดเสียงแผ่วเบากับเขา “คุณลี่ คุณมาแล้ว หมิงเอ๋อ งอแงอีกแล้ว ไม่ยอมกินข้าวด้วยค่ะ…”
ชายหนุ่มพยักหน้า มองพยาบาลระมัดระวังแวบหนึ่ง พยาบาลก็เข้าใจเดินออกไปก่อน
หลังจากนั้น เขาก็พยายามผ่อนคลายใบหน้า เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย พูดเสียงอ่อนโยน “หมิงเอ๋อ ลูกเป็นอะไรไป บอกพ่อสิครับ ใครทำให้ลูกไม่พอใจ”
ลี่หมิงพลิกตัวกลับมาอย่างใจร้อน ทำปากจู๋โกรธเหมือนปลาปักเป้าตัวเล็ก “พ่อ รับปากแล้วจะพาแม่มาหาผม ตั้งนานแล้ว มาม๊าล่ะ”
เขาพูด พลางยื่นมือเล็กๆ มาจับแขนของชายหนุ่ม เขย่าเบาๆ ท่าทางเหมือนงอน เสียงก็อู้อี้ “ผมอยากเจอมาม๊า พ่อพามาม๊ากลับมาหาผมได้มั้ย ผมอยากรู้ตอนนี้มาม๊าเป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บหรือเล่า…”
“แล้วก็ซีซีล่ะ ทำไมผมไม่เห็นซีซีเลย น้องอยู่ที่ไหนกันแน่”
คำถามพวกนี้ หลายเดือนมานี้ ลี่หมิงถามแทบจะหลายร้อยรอบแล้ว แทบทุกครั้งที่เจอเขา ก็เอาแต่โวยวายอยากเจอแม่กับน้องสาว
ลี่เฉินซีเก็บความเศร้าในดวงตาลึกๆ นั่งเอียงตัวข้างเตียงลูกชาย ยกมือขึ้นโอบเขาเข้ามาในอ้อมกอด “แม่ไม่เป็นอะไรครับ แค่มีเรื่องนิดหน่อย ตอนนี้ไม่มีเวลา ส่วนซีซีไปเที่ยวเมืองนอกแล้ว รอหมิงเอ๋ออาการดีขึ้น พ่อจะพาลูกไปหาน้องสาว ดีมั้ยครับ”
ลี่เจิ้งกับลี่หมิงเกิดเรื่องพร้อมกัน แม่ก็จู่ๆ หายตัวไป ทำให้ลี่เฉินซี เหลือลูกสาวเพียงคนเดียว เขาต้องระมัดระวังตลอดเวลา ถ้าให้ซีซีอยู่ใกล้ตัวอีก เขาจะต้องกังวล ถึงได้แอบส่งลูกสาวไปเมืองนอกลับๆ
คนที่รู้เรื่องซีซี มีแต่เขากับหวางอี้สองคน
ลี่หมิงไม่ค่อยมีความสุข หัวเล็กๆ ซบกับอ้อมอกเขา “พ่อ ผมคิดถึงซีซี คิดถึงคุณแม่ด้วย แล้วก็พี่ชาย…”
เมื่อพูดถึงลี่เจิ้ง ลี่หมิงรีบเงยหน้าขึ้น จ้องมองเขา “พ่อครับ พี่เป็นยังไงบ้าง พี่ตื่นแล้วยัง”
ลี่เฉินซีแววตาขรึม ความเจ็บปวดแผ่ซ่านเข้ามาในใจ เขายกมือขึ้นช้าๆ ประคองหน้าลูกชาย “พี่ชายแค่เหนื่อยมากก็เท่านั้น เดี๋ยวพี่ก็ฟื้นครับ”
ลี่หมิงถอนหายใจ ในเมื่อเขายังเป็นเด็ก ทิศทางพัฒนาการอาการป่วย เขาจะเข้าใจได้ยังไง มีแต่ความหวัง พูดเสียงเบา “หวังว่าพี่ใหญ่จะฟื้นเร็วๆ แต่ พ่อ คุณแม่ยุ่งมากจริงๆ หรือครับ ไม่มีทางปลีกเวลาสักหน่อย มาหาผมหรือครับ”
เขาพูดพลางซบหน้าในอ้อมแขนของลี่เฉินซี กอดเอวแน่น พูดช้าๆ เหมือนเง้างอน
ลี่เฉินซีกอดลูกชายสงสาร “รอคุณแม่ทำธุระเสร็จ พ่อจะรีบพามาหา หมิงเอ๋อรออีกหน่อยนะ เด็กดี…”
เด็กเล็กมาก และยังเจอเรื่องพวกนี้ เขาไม่มีทางบอกความจริงทุกอย่างกับเขา ได้แต่พูดโกหกแบบนี้ ปิดบังเรื่องนี้ไปก่อน
ลี่เฉินซีเป็นเพื่อนลูกชายในห้องผู้ป่วยนานทีเดียว ปลอบเขาพักผ่อนตลอด กระทั่งลี่หมิงหลับไปจริงๆ ค่อยคลุมผ้าห่มให้ลูกชาย เดินย่องเบาๆ ออกไปจากห้อง
เพิ่งจะเดินออกจากห้อง ก็เห็นพยาบาลสองสามคนรีบร้อนมาตามทางเดิน และยังมีหมอเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยตรงข้าม ท่าทางรีบร้อน
หมอเห็นลี่เฉินซี ก็รีบถาม “คุณลี่ คุณเห็นคุณอานมั้ยครับ”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ความสงสัยและความคิดประดังเข้ามา หมอพูดขึ้นอีก “พยาบาลไปเอายาแค่แป๊บเดียว คุณอานก็หายไปแล้ว! บาดแผลของเธออันตรายมาก ไม่รักษาไม่ได้…”
หมอสั่งให้พยาบาลคนอื่นไปหาต่อ ขณะเดียวกันตัวเองก็รีบไปตรวจห้องอื่น
แววตาลึกๆ ของลี่เฉินซีมองไปรอบๆ ห้องที่ว่างเปล่า นิ้วกำแน่นช้าๆ ผู้หญิงคนนั้น หนีอีกแล้ว!
เขาไม่อยู่ต่อ หลังจากหวางอี้โทรมา ก็ออกจากโรงพยาบาลไป
อาจจะเป็นเพราะเขารีบร้อนออกไป จึงไม่สังเกตเห็น ผู้หญิงคนหนึ่งที่มุมทางเดิน
รอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าของซูหยวนเหมือนเงาติดตามไป กวาดสายตาเย็นชาดูหมอและพยาบาลที่ยังคงตามหาผู้ป่วยตามทางเดิน มุมปากยิ้มเจ้าเล่ห์เห็นฟัน นิ้วเรียวยาวปัดผมยาวลอนเล็กๆ ดูท่าต่อจากนี้ยิ่งน่าสนใจ!
เธอยิ้ม เดินไปตามทางห้องVVIP มองผ่านกระจกที่ประตู เห็นเด็กชายนอนบนเตียงในห้อง ไม่รู้สึกตัว ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ลี่เจิ้งเอ๋ยลี่เจิ้ง ดูแล้วเจ้าชายนิทรา เธอจะหนีไม่พ้นซะแล้ว สมน้ำหน้า ใครใช้ให้แกว่งเท้าหาเสี้ยน เหอะ!”
เธอพึมพำเบาๆ แล้วเดินไปทางห้องต่อไป ผลักประตู ก็เห็นลี่หมิงกำลังหลับสนิท ตัวเล็กๆ นอนบนเตียง ไม่เคลื่อนไหว ลมหายใจสม่ำเสมอ ห่มผ้าห่มสีขาว ขาซ้ายเข้าเฝือกหนา มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ขันแน่น
ซูหยวนเดินตรงเข้าไป แล้วหยิบหมอนข้างที่ข้างเตียงติดมือขึ้นมา จับเล่นในมือ หมอนนิ่มๆ เธอยกมือขึ้นสูง มุ่งหมายไปที่ใบหน้าเล็กๆ นุ่มนวล กดลงช้าๆ…
ขณะที่หมอนกำลังจะถึงใบหน้าของเด็กชาย ลี่หมิงจู่ๆ ก็ลืมตา
“น้าอู๋ จะทำอะไรครับ” เสียงเล็กๆ พลันดังขึ้น ทำให้ซูหยวนตกใจจริงๆ
เธอร้อนรนนิดหนึ่งรีบเปลี่ยนท่าที ขณะเดียวกันก็กอดหมอนอิง ยิ้มให้เขาเก้อเขิน “น้ากลัวหนูนอนไม่สบาย ก็เลยจะเปลี่ยนหมอนให้แค่นั้น!”
“แต่ว่า ดูเหมือนจะรบกวนหนูนอน หมิงเอ๋อเด็กดี นอนเถอะ นอนต่อเถอะ!” เธอปลอบสั้นๆ แล้ววางหมอนอิงลง จากนั้นจะเดินออกไป
เธอเพิ่งจะก้าวเท้า ข้อมือก็ถูกแรงนุ่มนิ่มดึงไว้ ซูหยวนตะลึง ก้มดูก็เห็นมือเล็กๆ ของลี่หมิงที่ยื่นมาจับมือของเธอ
“น้าอู๋หลอกพ่อผมได้ แต่คุณหลอกผมไม่ได้! วันนั้นคุณบอกผมกับพี่ชาย คุณแม่ถูกขัง จากนั้น ก็ตั้งใจผลักพี่ลงมา”
วินาทีนั้น ดวงตาตกตะลึงของซูหยวนหรี่ลง ใบหน้าสวยงามก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ในหัวหมุนอย่างเร็ว ความคิดหนึ่งแวบเข้ามา…………
ดูท่า เด็กคนนี้จะเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!