เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 709 เทวดาหรือปีศาจ
คฤหาสน์หรูหราที่เหมือนพระราชวังแห่งหนึ่ง ในห้องหนึ่งที่ชั้นบน หน้าต่างกระจกทั้งบาน แสงสว่างส่องถึง มองเห็นทัศนียภาพภายนอกบ้านที่สวยงามตระการตา กว้างไกลสุดสายตา
พ่อบ้านสูงวัยถือกาแฟเข้ามา เดินไปที่ข้างโต๊ะหนังสือ วางถ้วยกาแฟลง ก็บังเอิญเห็นกองภาพถ่ายที่วางบนโต๊ะ
เป็นรูปเด็กชายอายุเจ็ดแปดขวบ ในอิริยาบถต่างๆ มีเด็กคนหนึ่งตั้งใจวาดรูปบนโต๊ะ ขณะที่เด็กบางคนก็คุยกับเด็กคนอื่นสนุกสนาน และยังมีเด็กที่นอนบนเตียงคนไข้สีหน้าซีดเซียว…
เห็นชัดว่าเป็นเพียงแค่ภาพธรรมดาๆ แต่พ่อบ้านกลับใจเต้นรัว ดวงตาเคร่งขรึมกลิ้งไปมา แล้วเดินไปหาผู้ชายที่ยืนตรงหน้าต่าง ถามขึ้น “นายท่านตอนนี้จะจัดการเด็กคนนั้นแล้วหรือครับ”
อานเจียเย้นได้ยินเสียงก็หยุดครุ่นคิด เอียงตัวมามองพ่อบ้านแวบหนึ่ง ขยับมุมปากนิดๆ พูดสั้นๆ “ยัง”
ยังไม่ถึงเวลา
“อย่างนั้นท่าน…” พ่อบ้านสงสัย สายตามองกองภาพบนโต๊ะอีกครั้ง
อานเจียเย้นยิ้มบางๆ เอียงตัวพิงกรอบหน้าต่างด้านข้าง แล้วหยิบกล่องบุหรี่ขึ้น หยิบออกมามวนหนึ่ง ขณะที่ใส่ปาก ไม่รีบจุดไฟ คิดนิดหนึ่งค่อยพูดขึ้น “ใกล้ถึงเวลาแล้ว”
พ่อบ้านใจหายวาบ พูดขึ้นอีก “แล้วคุณอานละครับ”
พ่อบ้านชะงักนิดหนึ่ง พูดขึ้นอีก “ก่อนหน้านี้ลี่เฉินซีส่งข้อมูลตรวจสอบพวกเราให้ตำรวจ ทำให้พวกเราถูกตรวจสอบ ตอนนี้ไม่ง่ายกว่าจะคลี่คลายได้ ส่วนทางคุณอาน สถานการณ์ก็ไม่ค่อยดี ท่านคิดว่าต้อง…”
เขาลากเสียงยาวโดยไม่รู้ตัว เพราะสังเกตเห็นแววตาเพชฌฆาตของอานเจียเย้น พ่อบ้านจึงไม่กล้าพูด
“เธอหาเรื่องใส่ตัวเอง ในเมื่อเธอเต็มใจ งั้นก็ปล่อยให้เธอทนไปเถอะ!” อานเจียเย้นสูดลมหายใจลึกรำคาญ เสียงไฟแช็กดัง “คลิก” จุดบุหรี่สูบ “เธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้วฉันจะหยุดหรือ ไร้เดียงสา…”
เขาไม่ได้พูดต่อ แต่ตอนนี้ดูแล้ว มันชัดเจนมาก เกมที่ซูย้าวต้องการจะจบมาตลอดนั้น ในที่สุดแล้วยังดำเนินต่อไป
กระทั่งไม่เคยหยุดมาก่อน แม้ว่า เธอจะวางแผนอย่างละเอียด เสียสละอะไรต่ออะไรมากมายแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นเช่นนี้
พ่อบ้านได้ยินเช่นนั้น ก็หลับตาลงจนปัญญา
ที่จริง หลายคนรวมทั้งพ่อบ้าน ในตอนแรกต่างแปลกใจสงสัย นั่นก็คือแม้ว่าจะเป็นความทรงจำของซูย้าว อานเจียเย้นเป็นคนเปลี่ยนแปลงกับมือ แล้วทำไมต้องให้สถานะและความทรงจำของอานหว่านชิงกับเธอ และยังตั้งใจส่งเธอกลับไปเมืองA
หรือว่าเป้าหมายของเขาคือฮุบบริษัทสาขาสิบกว่าบริษัทในต่างประเทศของลี่เฉินซีหรือ
แน่นอนว่าไม่ใช่
แล้วเพื่ออะไรกันล่ะ หรือว่าแค่อยากให้เธอตัดใจจากลี่เฉินซี จากนั้นกลับมาหาอานเจียเย้นแต่โดยดี เขาก็จะได้ผู้หญิงคืนหรือ
คำตอบก็ไม่ใช่เช่นนี้
ความจริงที่แท้จริง ก็คือตั้งแต่ที่เขาเปลี่ยนแปลงความทรงจำของซูย้าว เกมนี้ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
คนที่ร่วมเล่นเกมก็คือตัวซูย้าวเองและลี่เฉินซี
แต่แรก เมื่อสองปีกว่าที่แล้ว อานเจียเย้นใช้สถานะชอลพุซ บังคับพาซูย้าวมาแล้ว เอบาดเจ็บหนักจริง ผ่าตัดหลายครั้งถึงรอดชีวิต หลังจากฟื้นขึ้นมา เธอก็ตัดสินใจ
นั่นคือขอให้เขาเปลี่ยนแปลงและลบความทรงจำทั้งหมดของตัวเอง จากนี้ไปถึงจะทำให้เขาเชื่อเธอโดยไม่ว่อกแว่กได้ ลืมอดีต ถือว่าเริ่มต้นใหม่ ใช้ชีวิตใหม่
ตอนนั้น ซูย้าวเห็นแก่ตัว เพราะเธอรู้ว่าอานเจียเย้นระแวงสงสัยหนักมาก และความคิดก็ระมัดระวังมากกว่าปกติ เดาไม่ออกว่าเจตนาแท้จริงที่เขาพาตัวเองมาคืออะไร แต่สำคัญที่สุดก็คือเธอต้องปกป้องลูกสามคนและลี่เฉินซี ได้แต่ทำให้โฟกัสและเป้าหมายของเขา มาอยู่ที่ตัวเองคนเดียวทั้งหมด
เรื่องนี้อานเจียเย้นรู้สึกได้นานแล้ว แต่ตั้งใจวางแผนซ้อนแผน เปลี่ยนแปลงความทรงจำของเธอด้วยตัวเอง
แต่เรื่องนี้ เพราะใส่ความทรงจำใหม่ รายละเอียดจะเดินไปทางไหน อานเจียเย้นคนเดียวควบคุมได้ทุกอย่าง เขาตั้งชื่อใหม่ให้เธอ ทิ้งตระกูลซู หนีหน้าตระกูลอาน กำหนดให้เธอใหม่ สิทธิ์พิเศษที่มีชีวิตเพื่อตัวเองเท่านั้น
ทว่า เขาไม่ได้ทำอย่างนี้
นี่ไม่ใช่แผนผิดพลาด แต่เป็นความตั้งใจต่างหาก
เขาต้องการให้เธอกลายเป็นอานหว่านชิง แม่ยังคงเป็นอานโล๋ เพียงแต่ใช้แซ่ของแม่ จากนั้นก็ฝึกฝนเธอสองปี ค่อยจัดการส่งเธอกลับไปเมืองAอีกครั้ง ปรากฏตัวต่อหน้าลี่เฉินซีอีกครั้ง
ดังนั้นสองปีต่อมา ตั้งแต่วันที่ซูย้าวเหยียบเมืองAอีกครั้ง รวมทั้งเพลิงไหม้ในวันแต่งงาน เธอหนีไป กระทั่งตอนนี้ถูกลี่เฉินซีพากลับมาอีกครั้ง ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนถูกอานเจียเย้นวางแผนและควบคุมด้วยตนเองทั้งนั้น
เกมนี้ ยังดำเนินต่อไป
การวางแผนละเอียดลออ และไม่คำนึงถึงความอุตสาหะลำบาก เพื่ออะไรกันแน่
นี่เป็นเรื่องที่พ่อบ้านเองก็อยากรู้มาตลอด เขารับใช้ดูแลอานเจียเย้นยี่สิบกว่าปีแล้ว นับได้ว่าเป็นเหมือนคนในครอบครัว เขาเงยหน้าขึ้น “นายท่านทำลงไปมากมายขนาดนี้ ตอนนี้ยังไม่รับคุณอานกลับมาอีก เอ่อ…เพื่อเด็กคนนั้นเท่านั้นหรือครับ”
อานเจียเย้นยิ้มนิดๆ แสงอาทิตย์ขับดุนใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ราวกับคุณชายที่ไม่มีใครเทียบได้ สง่างามดั่งหยกล้ำค่า ออร่าโดดเด่น
“ไม่ใช่” เขาตอบคำถามนั้น
พ่อบ้านโล่งใจอย่างประหลาด “ในเมื่ออย่างนี้ ก็รับคุณอานกลับมาเถอะ! เกรงว่าลี่เฉินซีโกรธขึ้นมาจริงๆ เป็นอย่างนี้ต่อไป จะไม่ดีกับคุณอาน…”
อานเจียเย้นสายตาขรึมขึ้น มุมปากยิ้มชัดขึ้น “พูดให้ชัด ทั้งเธอและเด็กคนนั้น ฉันต้องการ!”
สองปีก่อน อานเจียเย้นใช้ฐานะชอลพุซหาซูย้าวเจอ เคยใช้ชื่อ joke เสนอมาแล้ว เขาต้องการเตียวเตียวเด็กคนนั้น
ตอนนั้นยังไม่มีชื่อทางการ เรียกว่าเตียวเตียว แต่ตอนนี้ เด็กคนนั้นชื่อลี่หมิง
พ่อบ้านพลันตกตะลึง รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ความหวาดกลัวเผยบนใบหน้า แม้แต่คำพูด ก็เห็นได้ชัดว่าสั่นเครือ
“นาย นายท่าน มัน…มันจะเกินไป…”
ซูย้าวเพื่อปกป้องเด็กคนนี้ สองปีก่อนเสียสละตัวเองโดยไม่คำนึงถึงอะไร และถึงกับละทิ้งสถานะและความทรงจำเดิม เพียงเพื่อละทิ้งตัวเอง สู้กับปีศาจ แต่ไปๆ มาๆ ก็ยังไม่อาจหนีพ้นแผนการของเขา
แต่ครั้งนี้ แม้แต่เด็กคนนั้น ก็ยังถูกวางแผนทั้งคู่
อานเจียเย้นเม้มริมฝีปากยิ้มบาง เดินไปที่ข้างตก หยิบกาแฟร้อนบนโต๊ะขึ้นมา จิบคำหนึ่ง “อะไรที่ฉันอยากได้ ไม่เคยไม่ได้ ไม่ว่าผู้หญิง หรือเด็กที่พิเศษคนนั้น”
“อีกอย่าง” เขาหยุดนิดหนึ่ง ยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากที่เลอะฟองกาแฟ “เธอกับผู้ชายคนนั้นคงยังไม่รู้เรื่อง ตัวเองมีลูกแบบไหนกัน…”
เมื่อพูดในหลายแง่มุม ลี่หมิงพิเศษมากจริงๆ
เด็กอย่างนี้ สืบทอดไอคิวสูงที่สวรรค์ประทานจากลี่เฉินซี แต่ไม่ได้ถ่ายทอดอีคิวสูงจากเขา และยังสืบทอดยีนของที่ซูย้าวฉลาดเป็นกรดกว่าใคร ถ่ายทอดยีนเด่นที่สุดของทั้งสองคน รวมกันในคนเดียว
ฝึกสอนแล้ว จะต้องมีเพียงหนึ่งเดียวแน่นอน อนาคตข้างหน้าจะต้องเป็นยอดหัวกะทิที่หาได้ยาก แต่ถ้าเพิ่มเครื่องปรุงหน่อย
เด็กคนนี้ จะต้องเป็นปีศาจเหนือกว่าที่คนทั่วไปรู้จัก
เป็นเทวดาหรือปีศาจ ทั้งหมดอยู่ในความคิดเดียว
……
ณ เมืองA หวางอี้ขับรถกลับคฤหาสน์ รถเข้ามาที่ลานหน้าบ้าน หลังจอดรถลี่เฉินซี ก็เปิดประตูลงมา
ชายหนุ่มจะเดินไปที่ประตูทางเข้า ขณะที่จะเดินขึ้นบันได ฝีเท้าก็ชะงักลง
สายตาเย็นชาของเขาหรี่ลง จ้องมองเงาร่างเล็กๆ ที่นั่งจ๋องอยู่หน้าประตู
ซูย้าวนั่งตรงนี้นานมากแล้ว หลังออกจากโรงพยาบาล เธอก็เดินกลับมาตามความทรงจำ เพราะไม่มีรหัสเข้าประตู จึงได้แต่นั่งรอที่นี่
สีหน้าของเธอตอนนี้ไม่ดีเอาเสียเลย ถึงกับเรียกได้ว่าย่ำแย่ ซีดเผือดไร้เรี่ยวแรง แม้แต่ริมฝีปากที่เคยแดงเรื่อ ตอนนี้ก็ขาวซีด อิดโรยห่อเหี่ยวจากอาการป่วย