เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 746 เธอสำคัญกว่าพวกเขา
การแสดง? โกหก?
ซูย้าวถูกคำเหล่านี้ทิ่มแทง ผลักเขาออก ยกมือขึ้นเหนือใบหน้าหล่อเหลาที่ชั่วร้ายของชายหนุ่ม
น่าเสียดาย ฝ่ามือที่ควรจะตกลงมา แต่ในวินาทีสุดท้าย เธอก็ทำใจทำไม่ได้ หยุดลง
ลี่เฉินซีไม่ได้หลบเลี่ยง นิ่งเงียบมองไปที่เธอ แล้วยิ้มช้าๆ
เขายกมือขึ้นดึงมือของเธอ จับไว้ในมือแน่น มืออีกข้างหนึ่งบีบปลายจมูกเล็กของเธอ “ไม่ชอบกัดคน ตอนนี้จะตบคนแล้ว?”
ซูย้าวขี้เกียจสนใจการเยาะเย้ยของเขา เพียงแค่กัดฟันพูดด้วยความโมโห “ไม่ว่าจะโกหก หรือหลอกลวง ก็ล้วนแต่ต้องขอบคุณนายไม่ใช่หรอ?”
เขากลับกวาดสายตามองเธออย่างไม่รู้จบ พอใจมากกับ ‘ความสำเร็จ’เมื่อกี้ของตนเพียงแต่ไม่ค่อยพอใจที่ถูกเธอขัดจังหวะ ดังนั้นจึงผลักเธอลงต่อ……
ซูย้าวยังคนดิ้นรนอย่างหนัก ดังนั้นเขาจึงแบกรับได้ไม่ง่าย ลี่เฉินซีขมวดคิ้วอย่างไม่อดทน “เพ้ยส้าวหลี่เชื่อถือไม่ได้”
คำพูดเดียว สัมผัสความคิดของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และทำให้การเคลื่อนไหวที่ดิ้นรนต่อสู้ของเธอ ชะลอตัวลง
ลี่เฉินซีก็ใช้ประโยชน์จากช่องว่าง เข้าประเด็นโดยตรง
ในตอนที่ซูย้าวได้สติกลับมาก็คิดจะผลักเขาออก ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว ร่างกายที่ได้แต่ต่อต้านของเธอกระชับแน่น เบือนหน้าหนีด้วยความโกรธ ไม่มองไปที่เขา และไม่อยากสนใจเขา
แต่ลี่เฉินซีกลับเอื้อมมือขึ้นอย่างไม่พอใจจับหน้าเธอหันกลับมา พูดอย่างนุ่มนวล “ผ่อนคลายหน่อย กัดแน่นเกินไป ฉันไม่สบาย……”
เธอจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา “ออกไป! ฉันไม่อยากทำแล้ว!”
เขาส่ายหน้าเบาๆ “ฉันอยากทำ เป็นเด็กดี ทำอีกครั้ง…..”
“นาย…..”ความอับอายของเธอกลายเป็นความโกรธ มือที่กำลังจะทำอะไร ก็ถูกเขาจับไว้อย่างแม่นยำ เขาใช้มือข้างหนึ่งผูกข้อมือบางๆ สองข้างของเธอแล้ว ยกขึ้นสูงเหนือศีรษะ
เขาทำงานอย่างหนัก ดุดันและว่องไว เช่นเดียวกับบุคลิกของเขา ไม่ถึงเป้าหมาย ก็จะไม่พักผ่อน ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เป็นเช่นนั้น
ช่วงเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง แต่กลับยาวนานราวกับหลายศตวรรษ ไม่ง่ายเลยที่จะจบสิ้นลง เขาเองก็ไม่ยินยอมที่จะปล่อยเธอไปง่ายๆ ยังคงรักษาท่าทางนี้ไว้ โน้มตัวไปมองเธออย่างคลุมเครือ พูดคำก่อนหน้านี้ต่อ “เพ้ยส้าวหลี่เชื่อถือไม่ได้จริงๆ เขาจะใช้ประโยชน์จากเธอ”
ใบหน้าบูดบึ้งของซูย้าวเผยความแข็งทื่อ แต่ในทันใดนั้น ริมฝีปากกลับยิ้มขึ้นมาอย่างไร้หัวใจ
เธอรู้อยู่แล้ว
ถ้าเพ้ยส้าวหลี่โดดเด่นในทุกด้าน แล้วยังไร้ที่ติ เช่นนั้น ไล่ตามเธอมาสองปีกว่า ต่อให้หัวใจเธอแข็งเป็นก้อนหิน ก็ควรถูกละลายไปแล้ว
สาเหตุุที่เธอยังคงไม่ปลดอาวุธลง ก็เพราะเธอมองจิตใจของชายคนนี้ออกตั้งนานแล้ว
ถ้าบอกว่าลี่เฉินซีคือสิงโตในดินแดนรกร้าง เช่นนั้น เพ้ยส้าวหลี่ก็เป็นหมาป่า แล้วอานเจียเย้นก็เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
หมาป่า มีนิสัยดุร้าย แต่ทุ่มเทให้กับความรัก แต่เพ้ยส้าวหลี่ไม่ส่งเสริมในจุดนี้ ในเรื่องต่างๆ เขามักจะใช้วิธีการ ใช้กลอุบาย
สำหรับความรัก ก็ไม่ละเว้น
ในจุดนี้ ซูย้าวเดาได้ และสัมผัสได้
ในขณะที่เธอร่วมมือกับเพ้ยส้าวหลี่ เขาก็สมรู้ร่วมคิดกับอานเจียเย้นลับหลัง นี่เป็นการแสดงออกที่ดีที่สุด
แต่ตอนนี้ เธอไม่สนใจความสัมพันธ์การใช้ประโยชน์นี้ พูดอีกอย่างนึงคือ เธอกำลังมองหาการใช้ประโยชน์แบบนี้
ถ้าไม่แฝงตัวเข้าไป แล้วจะควบคุมได้ยังไง?
ลี่เฉินซีมองลงมาจากมุมสูง มือข้างหนึ่งที่เรียวยาวจับริมฝีปากของเธอ “ยังมีอีก เธอทำแบบนี้ โง่เกินไปแล้ว!”
ซูย้าวชะงักด้วยความลังเล วินาทีต่อมา แขนทั้งสองก็ออกแรง ผลักเขาออกไป
ลี่เฉินซีหันตัวมองไปที่เธอ ขายาวที่โลภมากวางลงบนตัวเธอ หยุดความคิดที่ต้องการจะหนีของเธอ พูดยิ้ม “เธอสร้างเกมนี้ เพื่อเป้าหมายอะไร แม้ว่าฉันจะยังไม่ค่อยชัดเจน แต่เธอใช้ตัวเองเป็นตัวหมากที่ใหญ่ที่สุด ทำแบบนี้ มันโง่เกินไปแล้ว!”
เขารู้จักเธอดี ไม่ว่าเธอจะเป็นซูย้าว หรืออานหว่านชิง
มนุษย์ สูญเสียความทรงจำได้ แต่จะไม่สูญเสียไอคิว
ผู้หญิงที่เขาหลงรัก ฉลาดมาก ฉลาดเข้าไปถึงกระดูก ไม่ใช่คนธรรมดาเลย
แล้วในวันนี้ ในมือซูย้าว นอกจากตัวเองแล้ว ก็ไม่มีอาวุธและตัวหมากที่สามารถใช้ได้อีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงหมดหวัง ใช้การครอบครองอย่างบ้าคลั่งที่อานเจียเย้นมีต่อเธอ ใช้ความหลงใหลที่เพ้ยส้าวหลี่มีต่อเธอ มาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน จัดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น
ลี่เฉินซีดูออก แต่เพราะอะไรเธอถึงทำแบบนี้ ท้ายที่สุดแล้วต้องการอะไร เขาก็ยังไม่รู้
ซูย้าวมองไปที่เขาด้วยความตกตะลึง แทบจะประหลาดใจ แม้แต่ถ้อยคำก็ยากจะพูดออกมา
เขากลับมองไปที่เธอ “เธอคิดจะเสียสละตัวเอง เพื่อปกป้องใครสักคนใช่ไหม! ยัยโง่ เธอโง่ขนาดนี้ จะไปทำได้ยังไง?”
ลี่เฉินซีหายใจเข้าลึก มือใหญ่ออกแรงทันที คร่อมเธอไว้ด้านล่าง แล้วโน้มตัวไปที่ท้องน้อยของเธอ สัมผัสความอบอุ่นและชื้นจากบาดแผลด้านล่างซ้ายของเธอ
นับว่าแผลหายอย่างไม่เต็มใจ แต่รอยแผลน่าเกลียดผิดปกติ บิดเบี้ยวเหมือนแมลงขนาดใหญ่ คดเคี้ยวไปมา
เขาจูบเบาๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ “พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าจะแก้แค้นให้แม่ แต่ท้ายที่สุดกลับบริจาคไตให้แม่ของฉัน แล้วยังไม่พูดความจริงกับฉันซักคำ เฝ้าดูฉันเกลียดเธอ ทำร้ายเธอ ก็ไม่สนใจหรอ?”
ขณะที่พูด มือข้างหนึ่งของลี่เฉินซีก็กดไปที่ตำแหน่งหัวใจของเธอ “ตรงนี้ไม่เจ็บหรอ?”
ซูย้าวตกใจเหมือนถูกฟ้าผ่า ลมหายใจก็รุนแรง สติหลุดลอยไร้การตอบสนองโดยสมบูรณ์
เขา…..ไม่คาดคิดเลยว่ารู้หมดแล้ว!
ลี่เฉินซีมองปฏิกิริยาตาค้างของเธอ ในวินาทีนั้นก็รู้แล้วว่า ตนเองทายถูกแล้ว
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้
ผู้หญิงคนนี้……
ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าวิธีการจะทำให้เขาไม่สามารถเดาได้ แต่ผลลัพธ์ กลับทำให้คนทุกข์ใจครั้งแล้วครั้งเล่า!
เขาไม่ได้ทำอะไรต่อ ในตอนที่พลิกตัวลุกขึ้น ก็ดึงเธอขึ้นมา หยิบผ้าห่มที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาห่มตัวเธอ แล้วหยิบหมอนอิงมาหนุนไว้ที่หลังเธอ ให้เธอสบายหน่อย
ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาเต็มไปด้วยความช่วยไม่ได้มองไปที่เธอ “จะต้องอวดเก่งตัวคนเดียว มีความหมายไหม? พูดออกมา ส่งมอบให้ฉัน ไม่ดีหรอ?”
ลี่เฉินซียกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ จงใจขยี้ผมยาวที่ยุ่งอยู่แล้วของเธอให้ยุ่งยิ่งขึ้น “ถ้า ฉันแค่พูดว่าถ้า……”
“ถ้าฉันทำตามความต้องการของเธอ วางมือโดยสมบูรณ์ ไม่ยุ่งกับเธออีก ใช้ชีวิตกับลูกๆ ให้ดี แล้วทางด้านเธอ เพื่อฉันแล้ว เพื่อลูกๆ แล้ว แล้วยังเพื่อแม่ฉัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ หรือเสียชีวิตไป เธอจะให้ฉันทำยังไง?”
นี่เป็นเพียงแค่จินตนาการหนึ่ง สมมติฐานหนึ่งเท่านั้น แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ลี่เฉินซีก็ไม่อาจคิดต่อไปได้
เขาไม่กล้าจินตนาการ ว่าในชีวิตของตน เธอได้สูญหายไปโดยสมบูรณ์ ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว เขาจะเป็นยังไง
จนถึงตอนนี้ นี่คงจะเป็นสมมติฐานที่น่าหวาดหวั่น น่าหวาดกลัวที่สุดในชีวิตสามสิบกว่าปีของเขา
เขาละสายตาที่ลุ่มลึก พยายามระงับรอยแดงที่ล้นเอ่ออยู่ในดวงตา ครู่ใหญ่ ถึงจับมือน้อยๆ ของเธอขึ้นมา “แน่นอนว่าพวกลูกๆ สำคัญ แต่รู้ไหม? สำหรับฉันแล้ว เธอสำคัญกว่าพวกเขา!”
ถ้าในตอนนี้ ในใจของซูย้าว ไม่มีการสั่นไหว มันจะเป็นไปได้ยังไง?
ว่ากันว่าบนโลกนี้มีแต่ความทุกข์ หากมีใครสักคน ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง เปิดเผยไม่รอบคอบ ต่อให้การสมคบคิดและกลอุบายจะเต็มไปด้วยความอุตสาหะ แล้วมันไม่ใช่การไถ่บาปหรอ?
แต่มาถึงตอนนี้ ความรักนี้ เธอกลับไม่สามารถรับไว้ได้แล้ว
เธอหลับตาลงเล็กน้อย ในสมองเองก็ตั้งสมมติฐานไว้ ถ้า เพียงแค่ถ้า เธอบอกทุกสิ่งทุกอย่างกับลี่เฉินซี เผชิญหน้าไปด้วยกันกับเขา เช่นนั้น ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเด็กทั้งสาม จะทำยังไง?
ถ้าผลลัพธ์สุดท้ายเดินไปในทิศทางที่ เธอเฝ้ามองลูกเกิดเรื่องทีล่ะคน เห็นเขาจมอยู่ในกองเลือด ไปไกลจากเธอ แล้วเธอจะทำยังไง!
อานเจียเย้นเป็นจิ้งจอก เจ้าเล่ห์เพทุบาย แผนร้ายมากมาย แต่ขณะเดียวกัน เขาก็เป็นเสือในถิ่นแห้งแล้ง ใช้ชื่อของJock สามารถจุติมารซาตานได้ตลอดเวลา และเอื้อมมือออกไปคว้าเธอ
ตัวเธออยู่ในนรกแล้ว ไม่สนไว้สุดท้ายแล้วตัวเองจะเป็นยังไง แต่เธอไม่มีวัน ไม่มีวันดึงเขาและพวกเด็กๆ ลงนรกด้วยเด็ดขาด!
นี่คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในจิตสำนึกลึกๆ ของเธอในฐานะซูย้าว การยืนหยัดสุดท้าย จุดนี้ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เด็ดขาด!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เธอก็สูดหายใจลึก ลืมตากลมโตสดใสขึ้น มองไปที่ชายหนุ่มที่ท่าทางเถรตรงตรงหน้า ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณในความรักของคุณลี่ ถ้า นายใส่ใจฉันขนาดนี้ งั้นก็โปรดอย่าบังคับฉันอีก!”