เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 777 คุณคือกาลกิณีเหรอ?
เพราะรักงั้นเหรอ?
รัก?!
ทันทีที่ซูย้าวนึกถึงคำคำนี้ขึ้นมา หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่สั่นสะท้านไปทั้งใจ เธอรักลี่เฉินซีงั้นเหรอ?!
จากความทรงจำที่เพิ่งจะฟื้นคืนมานั้น ดูเหมือนว่าเธอในตอนเด็กได้ตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นไปแล้ว งั้นก็คงจะเคยรักเขามาก่อนสินะ
แต่ว่า ถ้าดูจากตอนนี้แล้ว ผู้ชายคนนี้ดูไม่มีจุดไหนที่มีค่าพอให้เธอรักเลย
เพื่อที่จะปกป้องเขา เธอยอมเสียสละตัวเองและจากไปพร้อมกับอานเจียเย้น ยอมลบความทรงจำจนกลายเป็นคนอื่น แล้วก็เพื่อให้ลี่เฉินซีอยู่อย่างสบายใจ เธอต้องจัดฉากหนีการแต่งงานขึ้น ส่วนลี่เฉินซีก็เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ ไม่แม้แต่จะตามหาเธอเลยสักนิด และยิ่งเพื่อปกป้องแม่ของเขา เธอถึงกับต้องเสียสละไตตัวเองหนึ่งข้าง ส่วนเขา กลับจับเธอโยนเข้าไปในถ้ำสำราญมังกร อย่างไม่ไยดี แถมยังส่งเธอให้กับผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็น “แม่เล้า”……
และครั้งนี้ ซางเธอเตรียมใจพร้อมที่จะรับความตายเต็มที่ รวมถึงต้องลากอานเจียเย้นให้ตายตามเธอไปด้วย เพื่อเธอจะได้ปกป้องชีวิตเขาอีกครั้ง แต่เขากลับพาผู้หญิงคนอื่นขึ้นเหนือล่องใต้ออกเที่ยวไปทั่วอย่างสนุกสนาน?
ผู้ชายหน้าเนื้อใจเสือ สองจิตสองใจ จะไปมีค่าอะไรให้เธอรัก?!
ซูย้าวยกมือขึ้นรอบผมยาวสลวยเบา ๆ มัดเข้าด้วยกัน จากนั้นก็เดินขึ้นเตียง คาดว่าเธอในตอนนั้นคงจะยังเด็กเกินไป สิ่งไหนคือคนสิ่งไหนคือหมาคงยังแยกไม่ออก!
ทว่า ความคิดเหล่านี้ก็คงอยู่ไม่นาน ทันใดนั้นเธอก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นคำตอบของคำถามเธอทั้งหมด
นั่นก็คือพวกเด็ก ๆ
เธอมั่นใจได้เลยว่าลี่เจิ้ง ลี่หมิง แม้แต่ซีซี เด็กทั้งสามคนนี้ต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอแน่ ๆ ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อสองปีก่อนหรือตอนนี้ ทั้งหมดก็เพื่อเด็ก ๆ ไม่ใช่เพื่อผู้ชายคนนั้น
พอคิดได้แบบนี้ ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
แต่ว่า พอซูย้าวลองคิดอย่างถี่ถ้วนอีกนิด เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ดีมากจริง ๆ เธอทำถึงขั้นนั้นเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ความรักอันยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่ ส่องประกายอยู่บนตัวเธอ หญิงสาวรู้สึกชื่นชมตัวเองเป็นอย่างมาก
เธอใช้เท้าเตะผ้าห่มเบา ๆ ก่อนจะพลิกตัวไปมาบนเตียง แต่ว่า ทำไมอานเจียเย้นถึงเลือกที่จะเดิมพันครั้งนี้กับเธอล่ะ? แถมยังดูมั่นใจมากอีกด้วย คล้ายกับว่ามันจะเป็นไปตามที่เขาคิดแน่ ๆ
เขาบอกว่าต้องการหัวใจเธอ….
ทันใดนั้น ซูย้าวก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ในหัวสว่างวาบ อยู่ ๆ เธอก็เข้าใจ!
ที่แท้ สิ่งที่อานเจียเย้นต้องการก็คือสิ่งนี้….
จากนั้นเธอก็เอนตัวลงนอนอีกครั้ง เพราะหญิงสาวเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว เธอมองเห็นกลอุบายของอีกฝ่าย รวมถึงวิธีการที่จะรับมือต่อจากนี้ ซึ่งเธอก็พอจะสามารถเตรียมการไว้ก่อนได้
หลังจากคิดเรื่องทุกอย่างจนเรียบร้อย ร่างกายอันแสนเกียจคร้านของเธอก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ผ่านไปไม่นานความง่วงก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา จนเธอผล็อยหลับไป
แต่สิ่งที่ซูย้าวไม่รู้ก็คือ ขณะนี้ที่นอกห้องพัก ชายหนุ่มอีกคนกำลังนั่งเอนกายอยู่บนโซฟาทรงกลมตัวยาว เขานั่งไขว่ห้างด้วยท่วงท่าที่สง่างาม นัยน์ตาลึกล้ำจ้องมองภาพกล้องวงจรปิดจากหน้าจอโน๊ตบุ๊ค เมื่อเห็นเธอพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นเบา ๆ
………
ซูย้าวหลับไปประมาณสองสามชั่วโมงโดยไม่รู้สึกตัว เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าเครื่องบินลำนี้บินขึ้นตั้งนานแล้ว ปัจจุบันกำลังลอยอยู่บนน่านฟ้าที่สูงกว่าหนึ่งหมื่นเมตร มุ่งหน้าตรงไปยังเมือง A
เมื่อหญิงสาวรู้สึกว่าพักผ่อนจนเพียงพอแล้ว เธอจึงลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา ก่อนจะเดินออกมาด้านนอก สายตาของเธอยังเหลือบไปเห็นช่อดอกไม้และกล่องของขวัญที่ก่อนหน้านี้วางไว้เต็มห้องผู้โดยสาร ซึ่งตอนนี้มันก็ยังไม่ถูกขยับไปไหน
ซูย้าวยกมือขึ้นนวดกระบอกตาเบา ๆ ถัดไปไม่ไกลบนโซฟาทรงกลม มีชายหนุ่มซึ่งแลดูภูมิฐานคนหนึ่งนั่งอยู่ เบื้องหน้าของเขามีโต๊ะตัวเล็กและโน๊ตบุ๊คที่ถูกวางไว้ ข้าง ๆ กันมีแก้วกาแฟร้อนอยู่หนึ่งแก้ว บนโซฟาสีพื้นตัวยาว ท่าทางของชายหนุ่มดูสง่างามและมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
ในตอนที่เธอมองไปทางเขา นัยน์ตาสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกและลึกล้ำราวกับน้ำวนของชายหนุ่ม ก็กำลังมองมาที่เธอราวกับต้องการจะดูดกลืนเธอเข้าไปเช่นกัน
ซูย้าวสูดลมหายใจลึก ๆ อย่างหมดแรง เธอเดินไปหาเขาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันบอกคุณว่าให้เก็บของพวกนี้ออกไปไม่ใช่เหรอ?”
ระหว่างที่เธอเดินเข้ามา หญิงสาวก็รู้สึกว่าดอกไม้กับของขวัญพวกนี้มันค่อนข้างจะเกะกะและขวางทางเดินนิดหน่อย หรือว่าเขาไม่รู้สึกงั้นเหรอ?
ลี่เฉินซีนั่งเอนหลังพิงโซฟา ท่าทางของเขายังดูสง่างามเหมือนเช่นเคย เขายิ้มออกมาน้อย ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พักผ่อนเรียบร้อยรึยัง? ถ้าเรียบร้อยแล้ว งั้นก่อนหน้านี้ที่คุณบอกว่าเราค่อยคุยกัน คือคุยอะไร?”
ซูย้าวกวาดสายตามองเขาอย่างเย็นชาเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเขาเองก็ใจร้อนเป็น กัดไม่ปล่อยเลยจริง ๆ สินะ หญิงสาวเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอเดินตรงไปนั่ง พร้อมกับยกแก้วน้ำเย็นข้าง ๆ ขึ้นมาหมายจะจิบ แต่กลับถูกลี่เฉินซีรั้งไว้ก่อน
“กระเพาะคุณไม่ค่อยดี ดื่มน้ำเย็นให้น้อยหน่อย” ขณะที่พูดเขาก็หยิบแก้วเก็บอุณหภูมิใบหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะเทน้ำอุ่นใส่แก้วให้เธอ “ดื่มนี่สิ”
ซูย้าวเองก็รู้สึกกระหายน้ำ เธอเลยยกแก้วขึ้นจิบเบา ๆ เพียงแค่หนึ่งอึก เธอก็รู้สึกร้อนจนลิ้นชา หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะคายน้ำกลับคืนไป
เขามองเธอ ก่อนจะยิ้มออกมาเบา ๆ
ลี่เฉินซีหยิบกระดาษทิชชูออกมาพร้อมกับส่งให้เธอ “รีบอะไรขนาดนี้ กระหายเหรอ?”
ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็หยิบน้ำที่อุณหภูมิปกติเทลงไปในแก้วเพื่อปรับอุณหภูมิน้ำให้เธอ จากนั้นก็ส่งแก้วกลับคืนให้เธออีกครั้ง “อ่ะ รอบนี้ดื่มได้แล้ว”
เธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลังจากที่ยกแก้วดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก จนหมดไปกว่าครึ่งแก้ว หญิงสาวก็ค่อย ๆ วางแก้วลง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “คุณคิดว่าถ้าเราคบกัน ระหว่างคุณกับฉัน ตอนสุดท้ายมันจะจบลงอย่างไร?”
ลี่เฉินซีไม่ได้คิดอะไรมาก เขาตอบแค่ว่า “มีสองแบบ ถ้าไม่รักกันปานจะกลืนกินจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน ก็เข้ากันไม่ได้ สุดท้ายก็แยกทางกันอีกครั้ง”
ก็เหมือนกับความรักทั่ว ๆ ไป ที่ผลสุดท้ายก็ล้วนเป็นสองแบบนี้
แต่งงานอยู่กินกันจนกว่าจะตาย หรือไม่ก็แค่แยกทางแล้วจากกันไป
“อืมอืม” ซูย้าวพยักหน้ารับเบา ๆ สองแขนวางไว้ที่โต๊ะพร้อมกับยกขึ้นเท้าคาง สายตาจ้องมองไปยังชายหนุ่มซึ่งดูกล้าหาญและเย็นชาในเวลาเดียวกัน คิ้วเรียวของเขาโค้งสวยราวกับถูกเทพเจ้าแกะสลักเอาไว้ “ถ้าตัดเรื่องเด็ก ๆ ออกไป รวมถึงก่อนหน้านี้ที่ฉันเคยจะแต่งงานไปแล้ว ด้วยฐานะอย่างคุณ ลี่เฉินซี คุณยังเลือกที่จะคบกับฉันอยู่ไหม?”
นัยน์ตาของเขาหม่นแสงลงเล็กน้อยขณะที่มองมาที่เธอ น้ำเสียงที่อ่อนลงแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ “เลือกสิ”
“คนที่คุณชอบคือซูย้าวลูกนอกสมรสจากตระกูลซู หรืออานหว่านชิงน้องสาวของอานเจียเย้นกันแน่?” เธอถามขึ้นอีกครั้ง
เขายิ้มออกมาเล็กน้อย “ก็ไม่ใช่คนเดียวกันเหรอ?”
เริ่มจากเป็นซูย้าวก่อน ตามมาด้วยพื้นฐานและเงื่อนไขต่าง ๆ จากนั้นจึงมีคนที่ชื่ออานหว่านชิงเกิดขึ้น
หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองไปที่เขา นัยน์คู่สวยสับสนเล็กน้อย
ลี่เฉินซีคิดไปคิดมาอยู่สักพัก “ไม่ว่าจะเป็นซูย้าว หรืออานหว่านชิง หรือต่อให้คุณจะเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนตัวตนไปอีก ผมก็ไม่รังเกียจ ผมเอาทั้งหมด”
เธอท้าวคาง พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด “แล้วถ้าสมมติว่าฉันเคยคบกับผู้ชายคนอื่น แล้วก็มีลูกกับเขา เคยมีความสัมพันธ์ด้วยกันมาก่อนล่ะ?”
“อานเจียเย้นเหรอ? หรือคู่หมั้นเพ้ยส้าวหลี่ของคุณคนนั้น?” เขาถามกลับ
ซูย้าวขมวดคิ้วแน่นขึ้น “ฉันบอกว่าถ้าสมมติ”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาแบบสบาย ๆ “ไม่รังเกียจอยู่ดี ต่อให้คุณจะมีลูกคนอื่น ๆ อีก งั้นทั้งคุณทั้งลูก ผมก็เอาหมด”
ซูย้าวพยักหน้าเบา ๆ “อืมอืมอืม”
ลี่เฉินซีขมวดคิ้วตามบ้าง “คุณอืมอะไร?”
เธอกะพริบตาคู่สวยเบา ๆ “งั้นก็หมายความว่า คุณไม่รังเกียจเรื่องระหว่างฉันกับอานเจียเย้นในช่วงสองปีก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือผ่านอะไรมา ใช่ไหม?”
พอพูดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าที่อันงดงามของลี่เฉินซีก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างประคองแก้มเธอ “ใช่ ผมไม่รังเกียจ และไม่สนใจด้วย เพราะสิ่งที่ผมต้องการคือที่รักเท่านั้น คุณเอาแต่ถามคำถามพวกนี้มันไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าไม่ลองมาคบกับผมจริง ๆ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์มันจะเป็นแบบไหน
ชายหนุ่มเปลี่ยนมากุมมือบางของเธอ “เรามาคบกันดี ๆ เถอะ!”
ซูย้าวชักมือออกจากเขาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟา เพื่อจะได้เอาตัวออกห่างจากเขา “ลี่เฉินซี ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันเคยเป็นซูย้าว ลูกสาวนอกสมรสของตระกูลซู แม้ว่าตัวตนของฉันจะไม่ค่อยดีเท่าไร แต่หลังจากที่แต่งงานกับคุณ แม่แท้ ๆ ของฉันก็จากไปอย่างกะทันหัน ป้าของฉันก็ต้องเข้าคุก ส่วนน้องสาวอีกคนก็หายตัวไป ทั้งตระกูลซูไม่ใช่แค่ล้มละลายเท่านั้น แต่ทั้งหมดหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่”
“คุณคิดว่านี่เป็นแค่อุบัติเหตุหรือเรื่องบังเอิญรึไง? คุณเป็นกาลกิณีกลับชาติมาเกิดเหรอ? ครอบครัวดี ๆ ของฉัน ที่แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครอบครัวที่ดีที่สุด ต้องมาถูกคุณทำลาย ตอนนี้จะให้ฉันกลับไปคบกับคุณอีก คุณยังอยากให้ฉันทำพลาดเป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?”
ลี่เฉินซี “………