เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 819 ไม่มีคนเหมือนคุณอีก
สีหน้าของซูย้าวเงียบขรึมลงเล็กน้อย ขนตาเรียวยาวหนาก็กดลงต่ำ “ฉันนึกออกแล้ว คุณต้องการความจริงใจของฉัน ถูกต้องหรือเปล่า?”
เอานเจียเย้นเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เขาต้องการไม่ใช่เพียงแค่ตัวของซูย้าว ยังต้องการหัวใจของเธอด้วย
ดังนั้นถึงขั้นมีสัญญาเดิมพันสองปี
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก “ฉันสามารถแยกทางกับลี่เฉินซี และสามารถตัดความคิดถึงของเขาออกไปทั้งหมด ฉันจะอยู่ข้างกายคุณอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ถ้าหากว่าคุณไม่เชื่อ ก็สามารถแก้ไขความทรงจำของฉันอีกครั้งได้ อยากให้ฉันเป็นอย่างไรก็ได้ตามใจเลย รามือจากเด็ก ขอร้องคุณละ ได้หรือเปล่า?”
น้อยมากที่ซูย้าวจะเป็นแบบนี้ สามารถปล่อยวางทั้งหมด แม้กระทั่งสุดท้ายก็ละทิ้งความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งไป เพื่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง
แม่ทุกคนคงเป็นเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อประสบกับเหตุการณ์คับขันอันตราย ก็คงทำการตอบสนองกลับมาเป็นปกติ
เพื่อลูกของตัวเอง สามารถอุทิศทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เกรงว่าแม้แต่ชีวิตก็ไม่เสียดาย
โทรศัพท์นั้นตกอยู่ในความเงียบไปชั่วครู่ หัวใจของซูย้าวเองคล้ายกับเวลาหยุดไปชั่วคราว และค่อยๆจมดิ่งลงไปอย่างเงียบงัน เหมือนกับตกลงไปในเหวลึกอันไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายเวลาผ่านไปยาวนานหลายศตวรรษ เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายทางด้านนั้นถึงจะดังกลับมา “ทำไมต้องทำแบบนี้? คุณก็รู้ว่าผมจะไม่ตกลงกับคุณ”
ที่เขาลงมือวางแผนการทั้งหมด ถ้าไม่ดำเนินมาถึงสุดท้าย อย่างนั้นยังจะมีความหมายอะไรแฝงอยู่อีก?
มองลี่เฉินซีที่เป็นผู้ชายมีฐานะมีภูมิหลัง มีเงินมีอำนาจแบบนี้ และมองซูย้าวที่เป็นผู้หญิงมีความกล้ามีสติปัญญา หน้าตาดีมีฐานะทางสังคมแบบนี้ ไม่หยุดที่จะต่อสู้อยู่ในกระดานที่ตัวเองควบคุมอยู่ ราวกับจับปลาตัวน้องสองตัวทิ้งพวกเราไว้บนหาดทราย ความรู้สึกแบบสู้เพื่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายแบบนั้นถึงจะน่าสนใจ ไม่ใช่เหรอ?
หัวใจของซูย้าวเหมือนถูกมีดแทง ความคิดสุดท้ายเองก็ถูกทำลายสลายไปอย่างสมบูรณ์ เธอโมโหจนนิ้วมือเองค่อยๆกำแน่นจนกลายเป็นกำปั้น “อย่างนั้นแท้จริงคุณต้องการอะไรกันแน่? ต้องการชีวิตลูกชายของฉัน ใช่หรือเปล่า?”
“ฆ่าเด็กอายุเจ็ดขวบหนึ่งคน จะมีผลดีอะไรกับคุณอย่างนั้นเหรอ?” ซูย้าวถามเสียงขาดหาย “หรือจะบอกว่า คุณอยากพาเด็กคนนี้ไป? เก็บไว้ข้างกายคุณเลี้ยงจนโต แล้วจะสามารถทำอะไร?”
เธอเองก็ความสามารถน้อยนิดเหลือเกิน ถ้ายังเป็นฝ่ายถูกกระทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง เธอสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ใช้แรงงานได้ แต่ว่าพวกลูกๆจะทำได้หรือเปล่า?
“พี่ชาย”ซูย้าวพยายามสุดตัวโดยเรียกเขาหนึ่งประโยค ตั้งใจที่จะใช้กระตุ้นความเป็นมนุษย์สุดท้ายของเขา “คุณยังหนุ่มอยู่ สามารถหาผู้หญิงที่ชอบได้อยู่แล้ว คลอดลูกที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเองหลายคนได้ ปล่อยชีวิตหนึ่งของลูกฉันไปได้หรือเปล่า?”
ทางด้านอานเจียเย้นครุ่นคิด “คุณจะคลอดให้ผม?”
หัวใจของซูย้าวถูกควักออกมาอย่างฉับพลัน โมโหจนทนไม่ไหวต้องปิดตาลง ถึงแม้ว่าจะไม่ยินยอมในทุกทาง แต่ว่าจะสามารถทำอะไรได้?
เธอกัดฟันอย่างฝืนใจ “ก็ได้”
อานเจียเย้นกลับหัวเราะ “บางทีพวกเราต่อไปอาจจะมีลูก แต่ว่าไม่ใช่เด็กทุกคนจะสามารถเป็นแบบลี่หมิงได้ เด็กคนนี้ ในสิบล้านคนก็ยังไม่แน่เลยว่าจะหาได้สักคน เขาเป็นอัจฉริยะ ให้เขาอยู่ข้างกายผม ต่อไปถึงจะยิ่งมีฝีมือ”
ยิ่งมีฝีมือ?
ซูย้าวฟังคำไม่กี่คำนี้ อยากที่จะหัวเราะเยาะเย้ยออกมา กลัวว่าจะสามารถดูเหี้ยมโหดและไร้เยื่อใยมากกว่าเขา คนชาติชั่วของสังคมที่โหดเหี้ยมอำมหิต!
ไม่รอให้เธอพูดอะไร ทางด้านอานเจียเย้นนั้นก็พูด “รู้หรือเปล่า? ลูกๆของคุณ ฉันเคยตรวจสอบอย่างจริงจังมาทั้งหมดแล้ว ลี่เจิ้งลูกชายคนโตของคุณ ถึงแม้ว่าสติปัญญาจะสูงมาก แต่ว่ายังห่างชั้นกับลูกชายคนเล็กไปไกล ทุกด้านของหมิงเอ๋อทั้งหมดเข้าอยู่ในใจของฉัน”
“ชิงชิง ในเมื่อคุณรู้แล้ว อย่างนั้นผมเองก็จะไม่ปิดบังเหมือนกัน ตอนนี้จะให้ผมรามือก็ยังได้ คุณพาหมิงเอ๋อกลับมาด้วยกันเถอะ! พวกเราแต่งงานกัน หลังจากนั้นไม่ต้องมีลูกอีกก็ได้ เพียงแค่มีหมิงเอ๋อคนเดียว พวกเราเป็นครอบครัวสามคน”
ซูย้าวตกใจถึงที่สุดจนพูดไม่ออก ในสมองนั้นว่างเปล่า เสียงก้องดังตูมตามอยู่ข้างหู
สุดท้ายอานเจียเย้นก็พูดความจริงออกมา เธอและลูกชายทั้งหมดเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเขา กลัวว่าถึงเธอจะตอบตกลงอย่างโง่เขลาไป แต่ต่อไป เขาก็คงหาวิธีปฏิบัติต่อลี่เฉินซีและลูกที่เหลืออีกสองคนอยากโหดเหี้ยมที่สุดอยู่ดี
ถ้าหากอยากจะเลี้ยงลี่หมิงให้เป็นjoke เป็นทายาทของเขาในอนาคต อย่างนั้น ประสบการณ์ในชีวิตนี้ก็คงต้องกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก เหมือนปีนั้นที่เพ้ยหยู่เจี๋ยเขาทำ
ดังนั้น ถึงตอนนี้เธอจะตอบตกลงไปจริง อย่างนั้น ทางที่รอคอยลี่เฉินซีกับลูกสองคน ก็คงมีเพียงความตายทางเดียวแล้ว
ซูย้าวกัดฟันด้วยความโมโห “ไม่ได้! นี่ฉันยอมมากที่สุดแล้วนะ นั่นคือส่งตัวเองให้กับคุณ ถ้าคุณทำไม่ได้ งั้นพวกเราทำได้แค่ตั้งหน้าตั้งตารอ”
“มาดูกันว่าสุดท้ายคุณจะพาฉันกับหมิงเอ๋อไปได้สำเร็จ หรือว่าจะแย่งชีวิตของพวกเราครอบครัวไปได้ แล้วมาคอยดู!”
เธอพูดจบ ก็ตัดสายทิ้ง
อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรอันไกลโพ้น ในห้องหนังสือของบ้านพักตากอากาศอันหรูหรา พ่อบ้านอาวุโสเนื่องจากเข้ามาเสิร์ฟกาแฟจึงได้ยินเนื้อหาบางส่วนในโทรศัพท์ ในเวลานี้เองก็ใช้สายตาที่สับสนมองอานเจียเย้น
“จำเป็นด้วยเหรอ?” พ่อบ้านอาวุโสยังเอ่ยปากต่อ “ได้เจอผู้หญิงแบบคุณหนู สำหรับคุณแล้ว ควรจะถือว่าดีมากไม่ใช่เหรอ?”
หยุดชะงัก พ่อบ้านอาวุโสถอนหายใจเบาๆ “คุณเองก็ดูออก เมื่อก่อนมีผู้หญิงมากมาย ก็ไม่มีวิธีที่จะยอมรับคุณอย่างสมบูรณ์ พยายามอย่างหนักก็ไร้หนทางที่จะหลงรักคุณ แต่คุณหนูกับพวกเธอนั้นไม่เหมือนกัน แค่คุณยอมรับปากข้อเสนอนี้ ต่อไป ลบความทรงจำของคุณหนูให้เกลี้ยง เธอก็จะอยู่เป็นเพื่อนคุณอย่างยินยอมพร้อมใจ แบบนี้ก็ดีมากนะ”
“ส่วนเรื่องลูก คุณก็ยังหนุ่มอยู่ มีกับคุณหนูอีกก็ได้ อย่าบีบบังคับมากไปเลย เด็กคนนั้นก็เจ็ดขวบแล้ว ถึงจะบังคับให้กลับมากได้ เขาก็ต้องเคียดแค้นคุณเหมือนกัน”
ความจริงแล้ว พ่อบ้านอยากจะเตือนเขา เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของเขากับเพ้ยหยู่เจี๋ยได้ชื่อว่าเป็นพ่อบุญธรรมลูกบุญธรรมกัน และให้ฐานะที่อยู่เหนือคนเป็นหมื่นคนและอำนาจที่แม้จะไม่ดีที่สุดแต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยม แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของพวกเขา ความแค้นเองจะน้อยไปได้อย่างไร?
พอเพ้ยหยู่เจี๋ยจากโลกนี้ไป เริ่มแรกอานเจียเย้นเคียดแค้นเขาที่ปฏิบัติต่อแม่บุญกรรมเงียบไร้ความรู้สึกและไม่แยแส สามารถพูดได้ว่าถึงขั้นเกลียดเข้ากระดูก
ความสัมพันธ์แบบนี้ต่อเนื่องไปอีก จะเป็นคำสาปหรือเปล่านะ?
อานเจียเย้นเคยชินแล้วกับการที่พ่อบ้านอาวุโสบ่นจู้จี้อยู่ข้างหู อันที่จริงเขามีญาติน้อยมาก ตั้งแต่เล็กจนโตทั้งหมดเป็นพ่อบ้านอาวุโสที่ทุ่มเทดูแลทั้งชีวิตจิตใจ สองคนถือว่าความสัมพันธ์เป็นเหมือนญาติ จะพูดอะไรเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
เขาจุดบุหรี่วางไว้ที่ริมฝีปากและไม่สูบ แค่เงยหน้าขึ้นเอนพิงโซฟา ปิดตาลง
พ่อบ้านอาวุโสมองเห็นเขาแบบนี้ ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว “อย่าดื้อรั้นต่อไปเลย ถ้าพลาดจากคุณหนูจริง ชีวิตนี้ของคุณ เกรงว่าคงจะไม่มีผู้หญิงคนไหนผูกสัมพันธ์ด้วยแล้ว”
ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผู้หญิงอื่น แต่ไม่มีคนไหนเหมือนกับซูย้าว ไม่ห้ามว่าเขาจะดีหรือเลว รักเดียวใจเดียวอยู่ข้างกายเขา ถึงแม้ว่าไม่มีวันย้อนกลับได้อีกต่อไป ก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
ครั้งก่อนตอนที่เธอสูญเสียความทรงจำ อยู่ในฐานะอานหว่านชิง ก็เป็นแบบนี้
และตัวของซูย้าวเองก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน เพียงแค่เธอยอมรับและรักผู้ชายคนนั้น ไม่ว่าภายนอกจะตัดสินอย่างไร เธอก็ยินดีอยู่เคียงข้าง แต่ถ้าหากว่าคนคนนี้ทรยศตัวเอง นั่นก็จะต้องหันหลังกลับและล้างทั้งหมดให้สะอาด คล้ายกับที่ทำกับลี่เฉินซีในตอนแรก เป็นเหมือนกัน
ผู้หญิงที่กล้ารักกล้าแค้น ทำให้คนชื่นชมเป็นอย่างมาก โง่มากและน่าจะซาบซึ้งมากเช่นเดียวกัน แต่ถ้าแตะโดนขีดจำกัด ก็ยังคงเหมือนเดิมเย็นชาและไร้หัวใจ
เป็นเวลานานมาก อานเจียเย้นถึงจะค่อยๆเปิดตาขึ้น วางบุหรี่ลง ปัดขี้บุหรี่ เลิกคิ้วเล็กน้อยมองพ่อบ้าน “ถึงจะฟังคำชักชวนของคุณ อยากจะวางมือตอนนี้ กลัวว่าคงจะช้าไปแล้วละ”
มีบางเรื่อง เมื่อทำไปแล้วสักหน ก็ไม่มีวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดกาล ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องพอรู้สึกผิดแล้วแก้ถือว่ายอดเยี่ยมไปได้ทุกอย่าง และไม่ใช่ว่าทุกคนสำนึกผิดแล้วจะได้รับการอภัย
พ่อบ้านอาวุโสขมวดคิ้ว สีหน้าค่อนข้างแปลกใจ “ไปถึงขั้นแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดอีก “ไม่เป็นไร พูดกับคุณหนูดีๆ เธอเป็นคนให้ความสำคัญกับน้ำใจไมตรีและศีลธรรม คุณเคยช่วยเธอมามากกว่าหนึ่งครั้ง เธอน่าจะมองเห็นจุดนี้แล้วให้อภัยคุณ และไปรับเธอกลับมา พวกเราก็จะมีวันเวลาที่ดีแล้ว!”
อานเจียเย้นถอนหายใจ “ฉันไปรับเธอ เธอจะกลับมาแน่หรือเปล่า? อีกอย่าง ถึงคนกลับมาหัวใจก็ไม่กลับมา แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”
พึ่งการลบและแก้ไขความทรงจำ แล้วพาเธอมาคุมขังไว้ข้างกายอีกอย่างนั้นเหรอ? บางทีอาจจะได้ แต่ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ความจำทั้งเก่าและใหม่ของเธอก็จะไม่หยุดโผล่ออกมา ไม่เพียงจะยิ่งเลวร้ายไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็นเหมือนหุ่นกระบอกไม่มีความรู้สึกที่ทิ้งเอาไว้อย่างไม่ได้เจตนา