เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 888 พวกเขามาแล้ว
ซูย้าวถูกลูกชายไล่ออกมาจากห้องอย่างตะลึงจนตาค้าง แถมยังถูกไล่ออกอย่างรังเกียจมาก ชนิดที่ทั้งผลักทั้งดึง
ถึงแม้ในใจก็ค่อนข้างยากที่จะรับได้ แต่สามารถแน่ใจว่านี่ก็คือลูกชายสุดที่รักของเธอ ก็ดีสุดขีดเหมือนกัน
ราวกับความอึมครึมของหลายวันติดต่อกันมานี้ถูกกวาดไปจนเกลี้ยงหมด ความดีใจที่มาแทนที่ ทำให้เธอมีความรู้สึกว่าได้สิ่งที่สูญเสียไปกลับมาใหม่อีกครั้ง
แต่เห็นๆ อยู่ว่าตอนนั้นลี่หมิงได้สิ้นลมหายใจอยู่ในอ้อมกอดเธอแล้ว ศพก็ถูก……
ยังมีอีก ลี่หมิงได้หารือกับลี่เฉินซีไว้ หรือว่าทั้งหมดนี้ลี่เฉินซีเป็นคนจงใจเตรียมการเองหมดเลย?!
ดังนั้นตอนที่ศพของจะถูกเอาไป เขาถึงได้เห็นด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็เท่ากับว่าที่ผ่านมาเขาปิดบังตนเองมาโดยตลอด?!
Oh my god!
ซูย้าวมีอารมณ์ที่ซับซ้อนในชั่วขณะ แต่พอคิดพิจารณาถึงตอนนี้ ยังคิดพวกนี้ไม่ได้ เธอหอบหมอนเตรียมกลับห้องนอนด้วยจิตใจที่ซับซ้อน บอดี้การ์ดหญิงที่อยู่ด้านหลังก็ยังคอยติดตามเธออย่างไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว
ทั้งสองกำลังเดินอยู่ จู่ๆ ด้านนอกมีเสียง’บึ้ม’ดังสนั่นขึ้นมา เหมือนของอะไรระเบิด หรือว่าจะเป็น……
เธอจำได้ก่อนหน้านั้นอานเจียเย้นเคยบอก รอบหมู่เกาะล้วนวางกับระเบิดไว้หมด หรือว่า……
ซูย้าวหยุดฝีเท้าลงด้วยความคิดที่ซับซ้อน บอดี้การ์ดหญิงที่อยู่ด้านหลังกลับพูดว่า “กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ”
บอดี้การ์ดหญิงนี่คือกำลังเตือนเธอว่าอย่าลืมสถานะและสถานการณ์ของตนเอง ไม่ว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้น ขอแค่คนพวกนี้ยังอยู่ เธอก็ยังเป็นนักโทษตลอดไป
ซูย้าวไม่กล้าคิดมาก สุดท้ายได้เร่งฝีเท้ากลับห้องนอน
แต่ผ่านไปไม่นาน เสียงของด้านนอกได้ก้องมาอีก ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ คือเสียงดังสนั่น’บึ้มๆๆ ‘ติดต่อกันรัวๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่เหมือนมีสนุกสนานครื้นเครงของเทศกาลปีใหม่ ที่นี่มีแค่ขนพองสยองเกล้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้ามีคนเข้ามาในเกาะจริงๆ งั้นคงจะเป็นลี่เฉินซีกับตำรวจมา แต่เสียงระเบิดเยอะขนาดนี้ แสดงว่าพวกเขา……
ซูย้าวหลับตาลงอย่างไม่รู้ควรจะรับมือยังไง สะกดความกระวนกระวายใจไว้ คอยอธิษฐานอย่างจริงใจรอบแล้วรอบเล่า ขอให้ลี่เฉินซีปลอดภัย และขออย่ามีคนบาดเจ็บหรือตายเยอะเลย!
……
ความจริงได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่ซูย้าวคาดเดาถูกต้องแล้ว
หลังจากลี่เฉินซีได้รับพิกัดที่ลูกชายส่งให้ ทางตำรวจก็ใช้เวลาอันรวดเร็วที่สุดรวบรวมกำลังพล ได้เคลื่อนไหวเตรียมเข้าสู่การช่วยเหลือและจับกุมทุกคน
ส่วนเสียงระเบิดแต่ละเสียงนั้น ก็เป็นกับระเบิดไม่มีการเข้าใจผิดจริงๆ แต่ตัดเสียงแรกที่ถูกคนไปเหยียบโดนกับระเบิดจริงๆ หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ระเบิด นอกจากแกล้งระเบิดแล้ว เสียงระเบิดอื่นๆ ล้วนจงใจสร้างขึ้นมาหมด
เพื่อตัดกับระเบิดทั้งหมดในโซนที่ก่อให้เกิดระเบิดทิ้ง จะต้องใช้วิธีนี้ ถึงแม้อาจจะแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่หมู่เกาะแห่งนี้ รอบด้านไม่มีหมู่เกาะใดๆ ที่อยู่ติดกันเลย คนของที่นี่ ถ้าตัดความเป็นไปได้ที่นั่งเรือหนี จะต้องหนียากแน่นอน
ทางตำรวจก็ได้ปิดรอบด้านของเกาะไว้หมดแล้ว ถึงแม้มีโครงข่ายไฟฟ้าที่คอยปกป้องอยู่ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ล้ำหน้าก็ได้ตัดกระแสไฟฟ้าทิ้งไปตั้งนานแล้ว ขอแค่ระเบิดกับระเบิดทั้งหมดทิ้ง ก็จะสามารถเข้าไปในเกาะอย่างราบรื่น
เสียงระเบิดที่ดังอย่างไม่ขาดสาย ได้รบกวนคนบนเกาะไม่น้อยเลย มีคนไม่น้อยเริ่มเคลื่อนไหว เตรียมรับศัตรูเตรียมรับศึก ในระหว่างนี้ ซูย้าวก็อาศัยตอนที่บอดี้การ์ดหญิงของข้างนอกกำลังคุยกับคนอื่นอยู่ อาศัยตอนที่พวกเขาไม่สังเกต ได้แอบวิ่งออกมาจากห้องนอน
เธอไม่ได้วิ่งหนีโดยตรง แต่ได้ไปที่ห้องนอนของลี่หมิงโดยตรง
ลี่หมิงกลับไม่เหมือนเด็กทั่วไปที่หวาดกลัวกับความโกลาหลแบบนี้มาก เด็กยังหมอบอยู่ที่ขอบหน้าต่างอย่างมีความสุข เห็นซูย้าวมายังพูดด้วยความตื่นเต้น “ดูสิครับ แดดดี๊มาแล้ว!”
“หม่ามี๊ไม่ต้องรีบร้อนนะ เดี๋ยวแดดดี๊ก็มาช่วยพวกเราออกไปแล้ว!”
ซูย้าวได้ขมวดคิ้วทีหนึ่ง “แดดดี๊ของลูกเนี่ยไม่สอนสิ่งที่ดีให้ลูกเลยจริงๆ ตกลงลูกกับแดดดี๊ได้แอบวางแผนอะไรกันบ้าง?”
“อันนี้……”ลี่หมิงไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่นาทีนี้ซูย้าวก็ไม่อยากฟังพวกนี้เหมือนกัน เธอแค่พูดว่า “พวกนี้ต่อไปค่อยว่ากัน ตอนนี้ไปกับหม่ามี๊!”
ระหว่างที่เธอพูดก็ได้อุ้มลูกขึ้นมาด้วย เพราะลี่หมิงยังใส่ชุดนอนอยู่ เธอกลัวว่าด้านนอกจะหนาว จึงได้ดึงผ้าห่มบนเตียงมาคลุมให้เขา “เดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอแค่เห็นลุงตำรวจ หรือว่าแดดดี๊ของลูก ให้รีบวิ่งไปทันที อย่าหันกลับมาเด็ดขาด และอย่าหยุดนะ!”
“ถึงทางฝั่งหม่ามี๊เกิดเรื่อง ลูกก็ต้องวิ่งไปหาตำรวจ รู้หรือยัง?” ซูย้าวเดินออกไปข้างนอกด้วยและกำชับลูกไปด้วย
ลี่หมิงหมอบอยู่ที่อ้อมกอดเธอ ดวงตากลมแบ๊วได้กะพริบตาปริบๆ “ผมเคยรับปากแดดดี๊ว่าจะคุ้มกันความปลอดภัยของหม่ามี๊ ผมจะไม่ทิ้งหม่ามี๊ไว้ครับ!”
“เชื่อฟังนะ!”ซูย้าวไม่มีเวลาพูดเยอะขนาดนั้น ตรงริมทางเดินค่อนข้างยุ่งเหยิง เธอมองดูรอบๆ หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนสังเกตเห็นตัวเอง ถึงอุ้มลูกออกมาจากห้องนอน
ที่นี่มีบันไดสองฝั่ง ล้วนสามารถลงไปที่ชั้นล่าง แต่เห็นได้ชัดว่าบันไดของทางด้านซ้ายเป็นบอดี้การ์ดเต็มไปหมด มีแค่ทางด้านขวา……
เธอกำลังเตรียมอุ้มลูกไป ร่างเงาที่โผล่มากะทันหัน กลับได้ขวางทางไปของแม่ลูกคู่นี้ไว้โดยตรง
ซูย้าวมองดูดีๆ พบว่าคือลุงไชลด์
ไม่มีความใจดีกับความเคารพถ่อมตนของที่ผ่านมาอีก ลุงไชลด์ในนาทีนี้เหมือนสัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่ถูกยั่วโมโห สายตาที่เผยออกมาก็มีเปล่งแสงสีเขียวที่เย็นชาไว้ มือของลุงไชลด์ถือปืนเอาไว้ หัวปืนสีดำได้เล็งมาที่ซูย้าวโดยตรง “ฉันเคยบอกแล้ว ถ้าถึงขั้นนี้จริงๆ คุณชายจะเก็บเธอเอาไว้ แต่ฉันไม่!”
ระหว่างที่เขากำลังพูดก็จะเหนี่ยวไก
ซูย้าวเองก็มือไวตาไว ได้พลิกตัวอย่างไว ใช้ร่างกายตนเองปกป้องลูกในอ้อมกอดไว้ “จะฆ่าก็ฆ่าฉัน แต่อย่าแตะต้องลูกของฉัน!”
เธอหันหลังให้กับลุงไชลด์ รู้สึกอุ้มลี่หมิงไว้แบบนี้ ตอนที่กระสุนยิงเข้ามาไม่เพียงอาจจะทำให้ลูกได้รับอันตราย อีกทั้งยังกลัวว่าลุงไชลด์จะทำอะไรอีก จึงได้วางลูกลงโดยตรง “หมิงเอ๋อ จำที่หม่ามี๊พูดเมื่อครู่ รีบวิ่งไปหาลุงตำรวจ รีบไป!”
ลี่หมิงค่อนข้างลังเล “ไม่เอา ผมจะเอาหม่ามี๊!”
“เชื่อฟัง!” ซูย้าวพูดเสียงสูง สายตาที่น่าเกรงขามก็มีความโกรธเคืองโผล่ขึ้นมา
ในขณะที่เด็กยังลังเลอยู่ ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าก้องมา อานเจียเย้นเดินมาอย่างไว ตอนที่มาถึงข้างกายของลุงไชลด์ ได้จับข้อมือของลุงไชลด์แล้วยกด้ามปืนขึ้นทันที ทำให้ถึงแม้ลุงไชลด์เหนี่ยวไก แต่กระสุนก็ได้ยิงไปโดนที่อื่น
เสียงดังลั่นที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้ซูย้าวโน้มตัวคุ้มกันลูกชายไว้ด้วยจิตใต้สำนึก หลังจากแน่ใจว่าตนเองไม่ได้โดนลูกกระสุน ลูกก็ปลอดภัยดีไม่เป็นอะไร ถึงรู้สึกโล่งอกเล็กน้อย
“ตอนนี้แตะต้องเธอไม่ได้!” อานเจียเย้นพูดด้วยเสียงเย็นชา จากนั้นได้เดินมาที่ข้างกายของซูย้าวโดยตรง “ไปกับผม!”
เขายื่นมือมาจับข้อมือของซูย้าวไว้อย่างไว จากนั้นได้ชายตามองลุงไชลด์แว๊บหนึ่งแล้วสั่งการ “พาเด็กไปกับผม!”
ถึงแม้ลุงไชลด์ค่อนข้างไม่พอใจ แต่ก็จนปัญญาที่อานเจียเย้นยืนหยัดจะทำแบบนี้ ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาถกเถียงเรื่องนี้ ได้แต่ทำตามคำสั่งเดินมาอุ้มลี่หมิงขึ้น
พวกเขาได้เดินออกจากประตูหลังของวิลล่าโดยตรง ที่นี่ไม่รู้ว่ามีเฮลิคอปเตอร์มารอตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่อานเจียเย้นบังคับดึงซูย้าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เธอถึงพบว่า ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงเบาะนั่งฝั่งคนขับคือ……ลั่วปินที่ก่อนหน้านี้เคยเจอในห้องเพาะดอกไม้เวินย่วน
ความลังเลกับความตะลึงงันของซูย้าว ล้วนอยู่ในสายตาของอานเจียเย้นหมด เขาไม่มีเวลามาพูดอะไรกับเธอ แค่ฝ่ามือใหญ่ใช้แรงดึง ก็ดึงเธอขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์เลย
จากนั้น อานเจียเย้นได้มองไปด้านหลังอีก ส่งสัญญาณให้ลุงไชลด์พาเด็กขึ้นมาทันที แต่ลุงไชลด์ได้ดื้อดึงอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ได้หยุดลงมา “คุณชายครับ ที่นี่ต้องมีคนคอยอยู่เคลียร์ปัญหา ให้ผมมาเองครับ!”
“จำคำพูดของฉันไว้ ใจจะต้องโหด สิ่งที่ลุงอยากได้ ต่อไปคนอื่นจะทำได้!”
ลุงไชลด์พูดจบก็ได้ส่งสายตาให้กับลั่วปินที่นั่งบังคับอยู่เบาะนั่งฝั่งคนขับ และใช้ภาษามือพูดว่า “รีบพาคุณผู้ชายไปเร็ว!”
ลั่วปินรู้สถานการณ์ของตอนนี้ เขาย่อมไม่ชักช้าอยู่แล้ว ได้ควบคุมเฮลิคอปเตอร์ขึ้นสู่น่านฟ้าโดยตรง ซูย้าวต้องทนดูลุงไชลด์กับลี่หมิงอยู่ต่อ เธอร้อนรนใจจนแทบอยากจะโดดลงไป แต่กลับถูกอานเจียเย้นพันธนาการไว้ ยากที่จะเคลื่อนไหว
“หมิงเอ๋อ……” ซูย้าวเรียกชื่อลูกชายอย่างสับสนวุ่นวาย
ส่วนด้านล่าง ลุงไชลด์ได้โยนเด็กที่อยู่ในอ้อมอกไปข้างๆ อย่างแรง ลี่หมิงถูกโยนลงบนพื้น เจ็บจนใบหน้าน้อยๆ บูดเบี้ยวไปหมด เขาฝืนทนความเจ็บปวดเอาไว้พร้อมกับลุกขึ้นมา จากนั้นได้เจอกับหัวปืนที่ลุงไชลด์จ่อมาอีก “ตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ พ่อแม่แกเป็นคนก่อขึ้นมาทั้งนั้น!คุณชายเก็บพวกแกเอาไว้ แต่ฉันไม่เด็ดขาด!”
“เห็นๆ ว่าพวกคุณต่างหากที่ดันอยากจะแย่งหม่ามี๊ของผมไปให้ได้ ผมกับแดดดี๊ก็แค่เพื่อปกปักรักษาหม่ามี๊เฉยๆ คุณย่าก็ถูกพวกคุณฆ่าแล้ว พวกคุณต่างหากที่เป็นฆาตกร เป็นคนชั่วช้าที่สุด!”ลี่หมิงเถียงด้วยเหตุผล เสียงใสแบ๊วเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งกับความโกรธ