เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ - บทที่ 897 คำพูดภรรยาดุจคำสั่งของจักรพรรดิ
เนื่องจากเธอกำลังตั้งครรภ์และเป็นแฝดสาม ซูย้าวจึงกลายเป็นผู้ที่ทุกคนในตระกูลลี่ทะนุถนอมขึ้นมาในพริบตา
ไม่เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งการพักผ่อน อาหารการกินในแต่ละวันยังต้องจัดเตรียมตามผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารต่างๆ ครบถ้วน ออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ กำหนดการในแต่ละวันลี่เฉินซีได้จัดการไว้อย่างละเอียดรอบคอบ
หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน ซูย้าวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เธอไม่คุ้นเคยกับการนอนอยู่บนเตียงทั้งวันและได้รับการปฏิบัติเหมือน ‘คนป่วย’ แม้ว่าเธอจะไปห้องน้ำด้วยตัวเองได้ แต่ลี่เฉินซีก็คอยอุ้มเธอและพาเธอไป เพราะกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
แม้ว่าเธอจะเข้าใจถึงเจตนาอันหวังดีของเขา แต่ถ้าผ่านไปนานวันเข้า เธอก็ยังรู้สึก……อึดอัดเล็กน้อย
“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าให้ฉันเป็นรองประธานบริษัทของคุณไม่ใช่เหรอ? ให้ฉันไปทำงานเถอะนะคะ!” เธออยู่ว่างไม่ได้จริงๆ หลังจากตรวจสอบบัญชีซึ่งส่งมาโดยที่ปรึกษาทางการเงินของเขาแล้ว เธอรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะทำเลย
ลี่เฉินซีไม่ค่อยได้ไปที่บริษัท เขาแทบจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลา ถ้าเป็นแบบนี้หวางอี้จะต้องทำงานหนักวิ่งไปมาระหว่างวิลล่ากับบริษัทลี่ซื่อทุกวัน
“หลังจากคุณคลอดแล้ว ตำแหน่งรองประธานบริษัทยังคงเก็บไว้สำหรับคุณเสมอ” เขากอดเธอจากด้านข้างและจูบไปยังหน้าผากเบาๆ “ถ้าคุณต้องการ ตำแหน่งประธานผมก็จะมอบให้คุณด้วย ผมเป็นรองประธานเอง”
ซูย้าวหายใจเข้าลึกอย่างพูดไม่ออก “ฉันเบื่อมากที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ ให้ลูกๆ ย้ายเข้ามาอยู่เถอะค่ะ! แล้วก็แม่ ให้แม่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเถอะนะ!”
พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว และตอนนี้ญาติเพียงคนเดียวของเธอคือเจี่ยงเวินอี๋แม่สามีของเธอ
ในช่วงที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ของเธอกับเจี่ยงเวินอี๋กลับมาแน่นแฟ้นอีกครั้ง ทั้งสองเป็นเหมือนแม่กับลูกสาว ไม่ว่าซูย้าวจะพูดอะไร เจี่ยงเวินอี๋จะสนับสนุนเธอโดยไม่มีเงื่อนไข ที่จริงการทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ลี่เฉินซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมกับเส้าหลิงและจี้เซิงถูกตาที่ดินผืนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างเตรียมการก่อสร้าง รอบ้านหลังนั้นสร้างเสร็จคงจะใหญ่มาก ครอบครัวของเราจะย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่นเมื่อถึงเวลา”
อย่างไรก็ตาม ในท้องของเธอยังมีลูกน้อยที่ยังไม่เกิดมาอีกถึงสามคน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเมื่อเด็กๆ เกิดมา ลูกหกคนเจี่ยงเวินอี๋และสองสามีภรรยา ครอบครัวจำนวนตั้งเก้าคน บ้านก็ควรจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ที่แห่งนี้เขาเพียงย้ายเข้ามาอยู่ชั่วคราว ไม่ได้วางแผนจะอยู่ตลอดไป
เรื่องนี้ซูย้าวไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เธอกล่าวเพียงว่า “ให้แม่กับลูกๆ ย้ายเข้ามาเร็วๆ ได้ไหมคะ! ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะโทรไปหาแม่นะ”
“ผมโทรเอง ไม่ต้องห่วงครับ!” คำพูดของภรรยาเป็นเช่นคำสั่งของจักรพรรดิ ซึ่งลี่เฉินซีย่อมไม่กล้าละเลย
เขาจับมือเธอขึ้นอีกครั้ง “อย่างไรก็ตาม คุณก็ต้องลำบากเพราะผม คราวนี้แฝดสามเชียว อีกทั้งยังต้องเลื่อนงานแต่งกับฮันนีมูนไปเพราะผม ขอโทษนะครับที่รัก”
ซูย้าวตกใจ “งานแต่งงาน ฮันนีมูน?”
เขาพยักหน้าและซบศีรษะไว้ที่ไหล่ของเธอ “ครับ ในอดีตผมติดค้างคุณไว้ ตอนนี้ผมต้องการชดเชยมัน”
“แต่เราก็เป็นสามีภรรยากันมานานแล้วนะคะ จะจัดงานแต่งงานกับฮันนีมูนอีกเหรอ?” เธอขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ รู้สึกว่าจุดประสงค์ของเขาไม่บริสุทธิ์……
แต่ลี่เฉินซีดึงดันอยู่กับสิ่งนี้มาก เหมือนกับงานแต่งงานครั้งก่อน เขาออกแบบชุดเองและสั่งให้คนจัดเตรียมด้วยตนเอง เขายุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาว่าง
ซูย้าวไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากนัก เธอแค่ทำตามความประสงค์ของเขา วันรุ่งขึ้นเจี่ยงเวินอี๋ก็พาเด็กๆ ย้ายเข้ามา แม้ว่าลูกๆ ทั้งสามจะต่อต้านการตั้งครรภ์ของเธอในครั้งนี้ แต่การได้เห็นซูย้าวที่ทำได้เพียงพักผ่อนอยู่บนเตียงได้เท่านั้น พวกเขาก็ค่อนข้างเชื่อฟัง
ลี่เจิ้งรับบทเป็นพี่ใหญ่ดูแลน้องๆ อย่างดี ไม่ปล่อยให้พวกเขามารบกวนซูย้าวมากเกินไป ดูเหมือนเด็กๆ กำลังเตรียมอะไรบางอย่างอยู่ พวกเขามักใช้ประโยชน์จากวันหยุดมารวมตัวกัน ไม่รู้ว่าเล่นหรือสนทนาอะไรกันอยู่
สิ่งที่ทำให้ซูย้าวเป็นกังวลมากกว่านั้นก็คือ เธอนอนอยู่บนเตียงมานานกว่าสามเดือนแล้ว เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ผลการตรวจแต่ละครั้งก็ผ่านไปด้วยดี เธอค่อนข้างโล่งใจ หลินโม่ป่ายบอกว่าเธอสามารถทำกิจกรรมได้มากขึ้น เช่น เดินเล่นช้าๆ เล่นโยคะหรืออื่นๆ
ลี่เฉินซีจะปลีกเวลาออกมาทำโยคะกับเธอ ซึ่งการออกกำลังกายนี้เป็นประโยชน์และผลดีต่อการคลอดในอนาคต
ในแต่ละวันเมื่อเวลาผ่านไป ข่าวการตั้งครรภ์ของโม่หว่านหว่านก็นับว่าเป็นข่าวดีเช่นกัน ทั้งสองจึงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และพูดคุยถึงการเตรียมซื้อของให้ลูกๆ
แต่สิ่งที่พวกเธอไม่คาดคิดก็คือ ลี่เฉินซีและลู่ส้าวหลิงเรียกได้ว่าซื้อห้างสรรพสินค้าเอาไว้ เพราะพวกเขากำลังจะย้ายไปบ้านใหม่ในไม่ช้านี้ สิ่งของทั้งหมดจึงถูกส่งไปที่นั่น
เมื่อทั้งสองคนเห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึง
ของใช้เด็กทารกเกือบทุกอย่างซื้อไว้มากมายจนสามารถเปิดห้างสรรพสินค้าได้ ท่าทางอันยิ่งใหญ่เช่นนี้สอดคล้องกับสไตล์ของชายทั้งสองจริงๆ แต่ในอีกแง่มุมก็เรียกได้ว่าฆ่าทำลายความสุขในการเดินซื้อของของสาวๆ ไป!
ด้วยเหตุนี้ ซูย้าวใช้มือประคองท้องของเธอเอาไว้และมองไปยังลี่เฉินซีโดยไม่ได้พูดอะไร เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิด จึงขมวดคิ้วพูดว่า “ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า? ผมเตรียมไว้น้อยไปหรือว่ายังไม่พอ?”
เธอหลับตาลงอย่างเบื่อหน่ายและต้องการจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงปาก เธอก็กลืนมันเข้าไปตามเดิม “ลืมมันไปเถอะค่ะ คุณเตรียม……ได้ดีมาก!”
บ้านใหม่อยู่ไม่ไกลจากวิลล่าที่อาศัยอยู่ตอนนี้เท่าไหร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเช่นกัน ที่ดินล้วนราคาแพงราวกับทอง บ้านใหม่หรูหราคล้ายกับวิลล่าในตอนนี้ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียว คือบ้านหลังใหม่นี้มีขนาดใหญ่มากเกินจินตนาการ
ตกตอนเย็น ลี่เฉินซีพาซูย้าวไปกินขนมขึ้นชื่อ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเคยชินกับการกินอาหารประเภทนี้กับเธอ เขาเคยหลีกเลี่ยงมันเหมือนเจองูและแมงป่อง แต่ตอนนี้เขากลับมีความสุขที่ได้กิน บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าความรัก!
เพราะรักใครบางคน จึงอดทน ยอมรับและชื่นชอบ
เพราะความรัก เขาที่เป็นประธานบริษัทผู้สง่างาม แต่งตัวดีในชุดสูท ได้ปรากฏตัวที่แผงขายอาหารริมถนน มองดูภรรยาของเขารับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และใช้มือเช็ดปากของเธอ
หลังอาหารเย็น ทั้งสองก็เดินกลับบ้านไปด้วยกัน
ซูย้าวจับมือของเขา ทุกครั้งจากหางตาของเธอที่มองไปจะสังเกตเห็นรถที่วิ่งตามมาในระยะไกลออกไปคันหนึ่ง
แต่ถ้าเธอจำไม่ผิด ‘การสะกดรอย’ นี้ดำเนินมาสักพักแล้ว
เป็นตำรวจที่ส่งคนมาเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของเธอ แต่นี่มันไม่นานเกินไปเหรอ?
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะเขาคอยติดตามซูย้าวตลอดเวลา ลี่เฉินซีไม่ค่อยไปที่บริษัท ทำให้งานล่าช้ามาก แม้ว่าซูย้าวจะตำหนิเขาเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และขอให้เขาไปจัดการธุระของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่เขายังยืนกรานไม่จากเธอไปสักวินาทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องทำงาน
อาจต้องใช้เวลาสองสามวันสำหรับการเดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศ ก่อนออกเดินทาง ลี่เฉินซีกำชับเจี่ยงเวินอี๋นับพันครั้ง ก่อนจะดึงลูกชายทั้งสองมากำชับแล้วกำชับอีก ในวันต่อมา เขาจึงเดินทางไปสนามบินอย่างอาลัยอาวรณ์
หลังจากที่เขาจากไป ซูย้าวและโม่หว่านหว่านกำลังเดินซื้อของ พวกเธอสังเกตไปเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจว่าคนที่ติดตามเธอราวกับเงานั้น……หายตัวไปแล้ว!
เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้มองผิดไป ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงค้นหารอบๆ บริเวณใกล้เคียงอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่พบ
โม่หว่านหว่านสงสัยว่าเธอเป็นอะไรไป แต่ซูย้าวก็ไม่ได้อธิบายมากจนเกินไป เพียงแค่หาข้ออ้างปลีกตัวออกมา
ในคืนนั้น เธอเดินออกไปจากคฤหาสน์และมองไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววคนที่คอย ‘ปกป้อง’ เธอก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้น
สองสามวันต่อมา เธอเดินทางไปมาระหว่างคฤหาสน์ตระกูลซู บริษัทลี่ซื่อและซูเปอร์มาร์เก็ต พาเด็กๆ ออกไปกินข้าว แต่ก็ยังไม่พบคนเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงกำหนดได้ชัดเจนว่า บางทีคนเหล่านั้นอาจถอนกำลังกลับไปแล้วจริงๆ เนิ่งจากมีค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงหากว่าคุ้มกันไปนานๆ เป็นการคุ้มกันเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ครั้งก่อนเธอเพียงบังเอิญไปเห็นเข้าเท่านั้น
ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง ซึ่งต่อให้ตายซูย้าวไม่เต็มใจที่จะเชื่อ นั่นก็คือคนเหล่านั้นไม่ได้มุ่งเป้าหมายมาที่เธอตั้งแต่แรก แต่เป็น……ลี่เฉินซี!
พวกเขาต้องการจับจ้องไปยังลี่เฉินซี สืบสวนเขาติดตามเขา กล่าวคือเขาน่าจะเข้ารับตำแหน่งไปแล้ว……เขาเข้ารับหน้าที่และกิจการของอานเจียเย้นก่อนหน้าทั้งสิ้นนั้น