CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1542 โจรร้ายออกอาละวาด

  1. Home
  2. เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]
  3. บทที่ 1542 โจรร้ายออกอาละวาด
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 1,542 โจรร้ายออกอาละวาด

“คุณชายหลิน คุณชายหลิน มีคนตายอยู่หน้าบ้านพักของท่าน รีบออกมาดูเร็วเข้า เกิดอะไรขึ้น?”

เสียงอุทานของผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนดังขึ้นจากหน้ารั้ว

“มาเร็วจริงนะ”

หลินเป่ยเฉินรับประทานผลไม้ชิ้นสุดท้ายกลืนลงคอและตะโกนถามว่า “ท่านลุงอวี้ อย่าเพิ่งตื่นตกใจไป…”

เด็กหนุ่มเดินออกไปต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความสงบ

และเขาก็พบว่าผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนกำลังยืนมองศพชายฉกรรจ์ชุดดำบนพื้นดินด้วยสีหน้าตกตะลึง

“เขาเป็นใคร? เหตุไฉนจึงมาตายอยู่ที่นี่?”

อวี้อู๋เฉียนสอบถาม

หลินเป่ยเฉินพิจารณาอย่างระมัดระวัง อาการตกตะลึงของผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนคงไม่ใช่การแสดงแน่ ๆ มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนจะไม่รู้จักคนตายจริง ๆ

“ไม่รู้เหมือนกันขอรับ ตื่นมาเช้านี้ ข้ากำลังนั่งพักผ่อนอย่างสบายใจ อยู่ดี ๆ คนผู้นี้ก็บุกเข้ามาข่มขู่ข้า เขาเชื่อว่าข้ายังมีผลเซียนเหนือฟ้าเก็บเอาไว้อยู่กับตัว เขาข่มขู่ให้ข้าส่งผลเซียนเหนือฟ้าให้เขา มิเช่นนั้นแล้ว เขาจะสังหารข้าด้วยความโหดร้ายอำมหิต…”

หลินเป่ยเฉินอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แต่ผู้ใดจะคิดเลยว่าชายผู้นี้กลับมีสายตาย่ำแย่ ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้ามาทำร้ายข้านั้น เขากลับเดินสะดุดเท้าตนเองจนล้มลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง ส่งผลให้แขนข้างหนึ่งกับศีรษะครึ่งซีกระเบิดหายไปกับตาเลยขอรับ”

อวี้อู๋เฉียนเลิกคิ้วสูงด้วยความพิศวง

ผู้ใดเชื่อคำอธิบายของหลินเป่ยเฉินก็คงเป็นคนเสียสติแล้ว

นี่ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด

ผู้ตายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นจอมเทพระดับ 3 ต่อให้ตายระหว่างการต่อสู้ก็ยังเป็นไปได้ยาก

แล้วคนเราจะเดินสะดุดเท้าตนเองล้มลงไปทำให้แขนกับศีรษะระเบิดตัวได้อย่างไร?

เห็นได้ชัดว่าผู้ตายถูกโจมตีอย่างโหดเหี้ยมต่างหาก

ผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนเป็นคนฉลาด เมื่อหลินเป่ยเฉินเอ่ยคำแก้ตัวออกมาเช่นนี้ เขาก็ไม่คิดถามอะไรอีกและไม่ซักถามด้วยซ้ำว่าเด็กหนุ่มยังมีผลเซียนเหนือฟ้าเหลืออยู่จริงหรือไม่

ทั้งสองคนเดินเข้าสู่ลานโล่งหน้ากระท่อม หลินเป่ยเฉินผายมือไปที่กองฟางกองหนึ่งและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเชิญนั่ง ไม่ต้องเกรงใจ”

อวี้อู๋เฉียนพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

เขากำลังคิดว่าหลินเป่ยเฉินเป็นคนไม่ปกติ

คนบางคนเมื่อตรวจพบว่าตนเองไม่มีทางฝึกวิทยายุทธ์ได้เด็ดขาด อารมณ์ความรู้สึกก็มักจะจมตัวอยู่กับความเศร้าและความหมดหวัง แต่สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ ตลอดเวลาที่พักอาศัยอยู่บนยอดเขาหลิวหลี่แห่งสำนักกระบี่เหินฟ้า หลินเป่ยเฉินไม่เคยแสดงความเศร้าเสียใจออกมาเลยสักครั้ง

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก

และเพราะความที่หลินเป่ยเฉินไม่เคยแสดงความเสียใจใด ๆ ออกมาเลย ผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนจึงมักจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้

“คุณชายหลิน ข้ามีข่าวดีมาแจ้งให้ท่านทราบ”

อวี้อู๋เฉียนนั่งลงบนกองฟางตามคำเชิญและกล่าวต่อ “คุณชายเซียวปิงน้องชายของท่านคือยอดอัจฉริยะแห่งสำนักกระบี่เหินฟ้าที่แท้จริง เขาคิดถึงท่านมากและอยากจะพบท่านมานานแล้ว ในที่สุด ท่านเจ้าสำนักก็อนุญาตให้คุณชายหลินได้เข้าร่วมการฝึกวิทยายุทธ์เป็นกรณีพิเศษขอรับ”

“หา?”

หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ “เขาจะให้ข้าฝึกวิชาใดหรือ?”

หลินเป่ยเฉินไม่ได้พบเจอเซียวปิงนานนับเดือน แต่เจ้าเด็กอ้วนผู้นี้ก็ไม่เคยลืมเลือนพี่ชายร่วมสาบานเลยจริง ๆ

“ท่านเจ้าสำนักอนุญาตให้คุณชายหลินฝึกวิชาสำรวจจิตขอรับ”

อวี้อู๋เฉียนกล่าว “นี่คือวิชาฝึกสมาธิขั้นพื้นฐานของสำนักกระบี่เหินฟ้า มีความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ต่อให้ไม่มีผู้ชี้นำก็สามารถฝึกฝนด้วยตนเองได้ เหมาะสมสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกวิทยายุทธ์ แต่ว่า…”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ สีหน้าของชายวัยกลางคนก็ปรากฏความลำบากใจขึ้นมา

“แต่ว่าอะไร?”

หลินเป่ยเฉินถาม

อวี้อู๋เฉียนตอบด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วนใจ “เดิมที นี่คือมติที่ได้รับการอนุมัติจากสมาชิกในสำนักแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งรองเจ้าสำนักอย่างท่านชิวเหิงกลับคัดค้านไม่เห็นด้วย”

“เฮอะ ในเมื่อนี่เป็นการอนุญาตจากท่านเจ้าสำนัก แล้วรองเจ้าสำนักจะคัดค้านได้อย่างไร” หลินเป่ยเฉินอดรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้

พวกผู้ติดตามที่ไม่มีมันสมองสมควรจับมาตีให้ตายจริง ๆ

“ท่านชิวเหิงเป็นผู้อาวุโสระดับสูงในสำนักกระบี่เหินฟ้า นอกจากดำรงตำแหน่งรองเจ้าสำนักแล้ว เขายังรับผิดชอบเรื่องการฝึกวิทยายุทธ์ให้แก่ศิษย์ในสำนักอีกด้วย เมื่อท่านชิวเหิงส่งเสียงคัดค้าน จึงไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธ” อวี้อู๋เฉียนตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “สุดท้าย ท่านเจ้าสำนักจึงต้องเรียกประชุมบรรดาผู้อาวุโสใหญ่อีกครั้งและผลการประชุมก็ออกมาว่าในอีกสามวันหลังจากนี้ คุณชายหลินจะต้องเข้ารับการทดสอบก่อน หากคุณชายสามารถผ่านการทดสอบได้สำเร็จ คุณชายก็จะได้รับอนุญาตให้ฝึกวิชาสำรวจจิตต่อไป”

“ข้าต้องเข้ารับการทดสอบอะไรบ้าง?”

หลินเป่ยเฉินถามออกมาอีกครั้ง

เขาอยากจะลองฝึกวิชาสำรวจจิตอะไรนั่นดูสักครั้ง เพราะอยากรู้นักว่าวิชาของผู้คนในแดนมหาแผ่นดินนั้น จะแตกต่างจากพวกวิชายุทธ์ที่เขาเคยฝึกมาก่อนหน้านี้หรือไม่

“บัดนี้ข้าก็ยังไม่รู้เช่นกัน แต่มันเป็นการทดสอบที่ท่านชิวเหิงเป็นผู้ควบคุมด้วยตนเอง” อวี้อู๋เฉียนกล่าวและพยายามปลอบใจหลินเป่ยเฉินว่า “ข้าขอแนะนำให้คุณชายลองเข้ารับการทดสอบดู เพราะนี่คือโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง”

“ได้สิ งั้นข้าจะลองดูสักตั้ง”

หลินเป่ยเฉินตอบรับอย่างกระตือรือร้นและถามต่อไป “ว่าแต่ว่าเหตุไฉนท่านรองเจ้าสำนักชิวเหิงถึงต้องคัดค้านเรื่องนี้ด้วย? ข้าไปทำอะไรให้เขาโกรธแค้นหรืออย่างไร? ทำไมถึงต้องจ้องจะขัดขวางข้าเช่นนี้?”

“ฮื่อ คุณชายอย่าได้พูดจาเช่นนั้น”

อวี้อู๋เฉียนสะดุ้งโหยงและกระซิบว่า “หากคำพูดเหล่านี้ล่วงรู้ไปถึงหูผู้อาวุโสชิว รับรองได้ว่าคุณชายถูกไล่ออกจากสำนักกระบี่เหินฟ้าแน่นอน…”

หลังจากหยุดชะงักไปเล็กน้อย ชายวัยกลางคนก็กล่าวต่อ “อันที่จริงนั้น เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน คุณชายเซียวปิงน้องชายของท่านมีสายเลือดขั้นสูงสุด เมื่อได้เข้าสำนักจึงกลายเป็นคนโปรดของท่านเจ้าสำนักโดยทันที บรรดาสมุนไพรวิเศษและทรัพยากรทั้งหมดที่ควรจะถูกส่งมอบให้แก่หลานสาวของผู้อาวุโสชิวนั้น กลับตกเป็นของคุณชายเซียวปิงหมดสิ้น หลานสาวของท่านรองเจ้าสำนักมีนามว่าชิวลั่วเหยา นางเป็นคุณหนูน้อยที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก บัดนี้ ปู่กับหลานจึงรู้สึกไม่พอใจพวกท่านสองพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง

หลินเป่ยเฉินเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

ที่ไหนมีผู้คน ที่นั่นย่อมมีความอิจฉาริษยา

“น่าเสียดายที่ข้ามีตำแหน่งต่ำต้อย จึงไม่สามารถกล่าวอะไรเพื่อคุณชายหลินได้เลย มีเพียงคุณชายเซียวปิงเท่านั้นที่พอจะช่วยออกหน้าแทนท่านได้บ้าง… ช่างน่าอาย ช่างน่าอายเหลือเกิน”

อวี้อู๋เฉียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียใจ

หลินเป่ยเฉินพูดว่า “ไม่เป็นไร ท่านลุงอวี้ ท่านอย่าได้โทษตนเองเลย ความจริงข้าก็รู้อยู่แล้วว่าท่านเป็นเพียงผู้อาวุโสระดับปลายแถวในสำนักเท่านั้น”

อวี้อู๋เฉียนกะพริบตาปริบ ๆ

ที่เขาพูดออกไปเช่นนั้นก็เพื่อตั้งใจจะปลอบโยนหลินเป่ยเฉินและไม่ได้หมายความตามที่พูดจริง ๆ สักหน่อย

“คุณชายรู้ได้อย่างไร?”

อวี้อู๋เฉียนถาม

“หากท่านเป็นผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งสูงส่ง สำนักกระบี่เหินฟ้าก็คงไม่ส่งท่านเข้าไปสำรวจบึงน้ำดำในป่าฝนเขียวหรอก ที่นั่นอันตรายจะตาย มีแต่พวกลูกสมุนชั้นปลายแถวเท่านั้นแหละที่ถูกส่งตัวเข้าไป”

หลินเป่ยเฉินตอบด้วยสีหน้าร่าเริง

“ข้า…”

อวี้อู๋เฉียนแทบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความช้ำใจตาย

หัวใจของเขาเหมือนถูกคมมีดกรีดแทง

อวี้อู๋เฉียนไม่อยากพูดคุยอีกต่อไป เพราะคำพูดของหลินเป่ยเฉินสามารถฆ่าคนได้จริง ๆ

หลินเป่ยเฉินยิ้มกริ่มและกล่าวต่อไปว่า “ท่านอย่าได้เป็นกังวลไปเลย ท่านลุงอวี้ยังหนุ่มยังแน่น อนาคตยังอีกยาวไกล ตอนนี้ท่านอาจจะมีตำแหน่งต่ำต้อย ไม่แน่ว่าอีกหน่อยอาจได้ไต่เต้าขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งสูงส่งก็เป็นได้”

“ขอบคุณคุณชายที่ให้กำลังใจ”

อวี้อู๋เฉียนกล่าวด้วยความซาบซึ้ง

“ด้วยความยินดี… ว่าแต่ว่าในเมื่อข้ากำลังจะได้เริ่มฝึกวิทยายุทธ์แล้ว ท่านลุงอวี้ ไม่ทราบว่าพวกท่านแบ่งแยกขั้นพลังกันอย่างไรบ้าง?”

หลินเป่ยเฉินรีบล้วงข้อมูลทันทีที่มีโอกาส

อวี้อู๋เฉียนยังไม่หายเจ็บใจกับคำพูดของหลินเป่ยเฉิน แต่ก็ยังอธิบายด้วยความอดทนว่า “ในแดนมหาแผ่นดิน กลุ่มสำนักผู้ฝึกยุทธ์เช่นสำนักกระบี่เหินฟ้านั้น เราจะแบ่งขั้นพลังเป็นระดับชั้นตามนี้…จอมเทพระดับ 1 คือผู้ฝึกยุทธ์หน้าใหม่ จอมเทพระดับ 2 คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นผู้ชำนาญ จอมเทพระดับ 3 คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยอดฝีมือ จอมเทพระดับ 4 คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นคนเหนือคน จอมเทพระดับ 5 คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเพชรยอดมงกุฎ… แน่นอนว่าในเมืองชิงอวี้ของพวกเรา มีผู้ที่สามารถบรรลุถึงขั้นจอมเทพระดับ 5 ได้ในจำนวนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น”

โฮะๆๆ ขั้นสูงสุดอยู่ที่ระดับ 5 เองหรือนี่

“แล้วบรรดายอดฝีมือในสำนักกระบี่เหินฟ้าขณะนี้มีพลังอยู่ในขั้นใดบ้างขอรับ?”

หลินเป่ยเฉินถามด้วยความอยากรู้

อวี้อู๋เฉียนตอบว่า “ผู้อาวุโสชิวเหิงสามารถบรรลุขั้นจอมเทพระดับ 4 ได้ตั้งแต่สองร้อยปีก่อน แม้จะยังขึ้นไม่ถึงขั้นจอมเทพระดับ 5 แต่ก็ถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองของสำนักเรา แม้จะทำตัวน่ารังเกียจในบางครั้ง แต่คุณชายก็ไม่อาจปฏิเสธความแข็งแกร่งของเขาได้เลย”

หลินเป่ยเฉินยิ้มมุมปากเล็กน้อย “แล้วผู้ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งล่ะขอรับ?”

“แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นท่านเจ้าสำนักหลิวอู่เหยียน ท่านสามารถบรรลุขั้นจอมเทพระดับ 5 ได้เมื่อร้อยปีก่อน และด้วยเหตุนี้เอง ท่านจึงได้ขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าสำนักของพวกเรา”

ข้อมูลครบถ้วนไม่มีขาดตกบกพร่อง

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจ ก่อนกล่าวว่า “ท่านลุงอวี้ ข้าว่าท่านเป็นคนดีมากเลยนะ เหตุไฉนจึงต้องมาเป็นลูกสมุนคนอื่นเช่นนี้หนอ? หากท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ เรื่องการฝึกวิทยายุทธ์ของข้าก็คงง่ายดายแล้ว”

อวี้อู๋เฉียนเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง

ชายวัยกลางคนมีสีหน้าเศร้าสลดขึ้นมาในทันใด

“ข้าเองก็เคยคิดเช่นนี้เหมือนกัน… เฮ้อ แต่อดีตผ่านไปแล้ว ข้าไม่อยากพูดถึงมันอีก”

เขาถอนหายใจออกมา

หลินเป่ยเฉินได้ยินเช่นนี้ก็พอจะคาดเดาเรื่องราวบางอย่างได้เช่นกัน

ถ้าเดาไม่ผิด ตระกูลอวี้น่าจะไม่ใช่ตระกูลธรรมดา

หลินเป่ยเฉินพยายามหลอกถามข้อมูลต่อไป แต่อวี้อู๋เฉียนก็ไม่ยอมพูดอะไรอีกแล้ว

“จริงด้วยสิ ไม่นานมานี้สำนักของเราเกิดเหตุประหลาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณชายหลิน ท่านพักอยู่ที่นี่อย่าได้ออกไปไหนเด็ดขาด หากมีเรื่องเดือดร้อนใด ก็ให้เรียกหาข้าได้ทุกเมื่อ”

ผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนมอบแผ่นหยกสำหรับส่งข้อความให้แก่หลินเป่ยเฉิน เพื่อที่ยามใดหลินเป่ยเฉินตกอยู่ในอันตราย ขอแค่เขาทุบแผ่นหยกนี้ทิ้งเท่านั้น อวี้อู๋เฉียนก็จะได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือทันที

“เหตุประหลาดอันใดหรือขอรับ?”

หลินเป่ยเฉินถามด้วยความสงสัย

อวี้อู๋เฉียนกัดฟันตอบว่า “มีโจรร้ายออกอาละวาดน่ะสิ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าโจรร้ายผู้นี้เป็นใคร แต่ผู้อาวุโสหกคนในสำนักกระบี่เหินฟ้าถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินมีค่าในตัวถูกขโมยไปหมดสิ้น จนกระทั่งถึงบัดนี้ เราก็ยังจับตัวโจรร้ายผู้นี้ไม่ได้เลย”

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย

ทำไมเขาจึงนึกถึงใครบางคนขึ้นมาชอบกลแฮะ

อวี้อู๋เฉียนพลันผุดลุกขึ้นยืนและขอตัวอำลา “คุณชายเตรียมตัวให้พร้อมไว้เถอะ อีกสามวันหลังจากนี้ ข้าจะมารับตัวท่านไปเข้าร่วมการทดสอบ”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 1542 โจรร้ายออกอาละวาด"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์