เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1598 แผนสำรอง
ตอนที่ 1,598 แผนสำรอง
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
วิชาปราณกระบี่คงกระพันคือตัวแทนของวิชาที่ไร้เทียมทานในเมืองชิงอวี้ สุดท้าย วิชานี้ก็พบกับการป้องกันที่ทะลวงไม่ได้แล้ว
ดังนั้น นี่จึงเป็นจุดจบของหลินเป่ยเฉินใช่หรือไม่?
ดวงตาจำนวนมากจับจ้องมองไปที่หลินเป่ยเฉิน
หลินเป่ยเฉินยังคงมีสีหน้าสงบสุขุม
กล่าวตามตรง เขาไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย
เพราะการใช้พลังปราณปีศาจระดับจอมปีศาจศักดิ์สิทธิ์มาหลอมรวมเป็นลูกกระสุนปืน AWM นั้น ไม่ช้าก็เร็วต้องมีผู้คนสามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว
เขาไม่เคยประมาทฝีมือของผู้คนในแดนมหาแผ่นดิน
นอกจากแต่ละคนจะมีวิชาฝีมือต่างกันไปแล้ว พวกเขายังมีอาวุธคู่กายแตกต่างกันไปอีกด้วย
ในโลกใบนี้ แม้จะเป็นผู้แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
ทว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่มีความหมาย
เพราะเด็กหนุ่มยังมีแผนสำรอง
ในเวลาเดียวกันนี้
“เด็กน้อย เจ้ารู้จักผู้คนในภพภูมิดาราจักรหรือไม่?”
ท่านข้าหลวงใหญ่เหยียนอวี้หลงสามารถรับการโจมตีจากวิชาปราณกระบี่คงกระพันได้ถึงสามกระบวนท่าติด จิตใจจึงฮึกเหิมห้าวหาญ ดวงตาจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความเกรี้ยวกราด
หลินเป่ยเฉินไม่ตอบรับคำใด
เหยียนอวี้หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “สิ่งที่เจ้ากระทำลงไปคือความผิดที่ให้อภัยไม่ได้ เจ้าอายุเพียงเท่านี้ จิตใจกลับอำมหิตเหลือเกิน หากข้าปล่อยให้เจ้าได้เติบโตไปมากกว่านี้ เจ้าจะกลายเป็นบุคคลที่ชั่วช้าสามานเพียงใด? ในฐานะท่านข้าหลวงใหญ่ประจำอาณาจักรหลิวเยวียน...”
“เป็นแค่ตัวประกอบพูดมากจังเลยวะ”
หลินเป่ยเฉินโพล่งขึ้นขัดจังหวะด้วยความรำคาญใจ
เขาทำท่าทางเหมือนกำลังแบกอะไรอยู่บนหัวไหล่ขวา
เป็นวิชาปราณกระบี่วิชาใหม่อีกแล้วหรือ?
หลังจากนั้น…
ตู้ม!
แล้วคลื่นพลังมหาศาลก็ถูกยิงเข้าใส่ไปที่ร่างของเหยียนอวี้หลง
หกโล่มรกตประจัญบานที่ก่อสร้างเป็นค่ายกลกระดองเต่าถูกคลื่นพลังมหาศาลนี้กระแทกเข้าใส่จนค่ายกลแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี
โล่ทั้งหกบานลอยวนเวียนอยู่รอบกายเหยียนอวี้หลง แต่สุดท้ายมันก็ลอยกระเด็นออกไปเพราะไม่สามารถต้านทานพลังการโจมตีจากหลินเป่ยเฉินได้
หลังจากนั้น คลื่นพลังก็กระแทกเข้าใส่ร่างของท่านขุนนางเหยียนอวี้หลงอย่างรุนแรง
ต้องทราบก่อนว่าเหยียนอวี้หลงเป็นผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม แต่ถึงกระนั้นก็ยังตั้งรับไม่ทัน ชุดเกราะที่สวมใส่อยู่บนร่างกายแตกกระจาย ได้ยินเสียงกระดูกแตกหักดังกร๊อบ ไม่ทราบเลยว่ากระดูกในร่างกายที่อ้วนท้วมนั้นแตกสลายลงไปกี่ชิ้น…
พรวด!
โลหิตไหลทะลักออกมาจากปาก
ร่างกายของเหยียนอวี้หลงโชกไปด้วยโลหิต ตัวคนลอยกระเด็นออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ สุดท้ายก็ไปกระแทกเข้ากับกำแพงห้องพิจารณาคดีของสำนักกระบี่เหินฟ้าที่ตั้งอยู่ทางด้านหลัง ห้องพิจารณาคดีพังถล่มลงมา กลุ่มควันและฝุ่นผงฟุ้งตลบในอากาศ…
“เชี่ย…”
หลินเป่ยเฉินสบถคำหยาบออกมา สีหน้าแปรเปลี่ยนไป
เขายกเครื่องยิงระเบิด Type 69 ลงจากไหล่ขวา ก่อนจะหันไปจ้องมองอวี้อู๋เฉียนและกล่าวเสียงเครียดว่า “ผู้อาวุโสอวี้ นี่ไม่ใช่ความผิดของข้านะ… ข้าไม่จ่ายค่าซ่อมแซมสำนักให้ท่านแน่”
อวี้อู๋เฉียนไม่ได้ยินอีกแล้วว่าหลินเป่ยเฉินพูดอะไรออกมา
กลุ่มผู้คนที่รวมตัวกันอยู่ในลานหินต่างก็เบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ
คลื่นความตกตะลึงแผ่ปกคลุมทั่วทุกตัวคน
หลินเป่ยเฉินสามารถเอาชนะท่านข้าหลวงใหญ่เหยียนอวี้หลงได้แล้วหรือ?
หลินเป่ยเฉินสามารถเอาชนะท่านข้าหลวงใหญ่เหยียนอวี้หลงได้จริง ๆ หรือ?
นี่คือพลังทำลายล้างชนิดใดกันแน่?
นี่เป็นพลังปราณกระบี่ที่เกินขีดจำกัดของขั้นจอมเทพแล้วไม่ใช่หรือ?
ครั้งนี้ หลินเป่ยเฉินไม่ได้ยกปืนขึ้นมาเป่าปลายกระบอกปืนอีก
เพราะเขากลัวตัวเองจะปากไหม้
หลินเป่ยเฉินรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องยิงระเบิด Type 69 มีอานุภาพการทำลายล้างรุนแรงดังที่หวัง
ค่ายอาคมกระดองเต่าของหกโล่มรกตประจัญบานถูกทำลายลงไม่เหลือชิ้นดีต่อหน้าต่อตาผู้คนจำนวนมาก
หลินเป่ยเฉินยิ่งพึงพอใจมากไปกว่าเดิม
นับตั้งแต่ที่เข้าร่วมการประลองระหว่างสองเผ่าพันธุ์ หลินเป่ยเฉินก็พยายาม ‘ค้นหา’ อาวุธชิ้นใหม่ให้แก่ตนเองเสมอ และการซื้อเครื่องยิงระเบิด Type 69 รุ่นล่าสุดก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
โชคดีที่การขนส่งมาได้ทันเวลา
สุดท้าย เครื่องยิงระเบิดก็อยู่ในมือของเขาแล้ว
มิเช่นนั้น หลินเป่ยเฉินก็คงไม่กล้ามาเปิดฉากมีปัญหากับเหยียนอวี้หลงแน่ ๆ
“เสี่ยวหู ไปเอาโล่พวกนั้นมาซะ”
หลินเป่ยเฉินกระโดดลงจากหลังเจ้าเสือเสี่ยวหู ก่อนตบก้นของมันอย่างแรง
เจ้าเสืออสูรกลายพันธุ์พุ่งตัวเป็นลำแสงสีทองคำออกไปข้างหน้าด้วยความเชื่อฟัง
หลินเป่ยเฉินภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ใดบอกกันนะว่าคนขี่หลังเสือแล้วจะลงมาไม่ได้?
เขาเพิ่งกระโดดลงมาหยก ๆ เลยนี่ไง
“น้องรัก ไปลากตัวมันมา”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่งอีกครั้ง
เซียวปิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย รีบวิ่งเข้าไปลากขาเหยียนอวี้หลงซึ่งอยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัสเข้ามาหาหลินเป่ยเฉิน
ในเวลาเดียวกันนี้ เจ้าเสืออสูรเสี่ยวหูก็เก็บหกโล่มรกตประจัญบานเสร็จสิ้นพอดี
“เก่งมาก”
หลินเป่ยเฉินโยนอาหารเม็ดที่ซื้อมาจากแอปเถาเป่าในหมวดอาหารแมวออกไปจำนวนหนึ่ง
เจ้าเสือกระดิกหางด้วยความตื่นเต้นดีใจ มันนอนหมอบลงบนพื้นรับประทานอาหารเม็ดเหล่านั้นอย่างเอร็ดอร่อย
เสี่ยวหูชื่นชอบอาหารแมวเป็นพิเศษ
นี่คือ ‘เรื่องประหลาด’ ที่หลินเป่ยเฉินเพิ่งค้นพบได้ไม่นาน
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอาหารแมวเหล่านี้หรือไม่ที่ทำให้เจ้าเสือเสี่ยวหูเชื่อฟังเขามากขึ้น
“เสี่ยวหู ใช้ปัสสาวะของเจ้าปลุกเขาขึ้นมาหน่อย”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงรื่นเริงใจ
เจ้าเสือเสี่ยวหูไม่ลังเลแม้แต่น้อย มันวิ่งมาหยุดอยู่ตรงใบหน้าของเหยียนอวี้หลงและยกขาหลังขึ้นทันที
“นี่มันอะไรกันเนี่ย…”
ในที่สุด ท่านข้าหลวงใหญ่ก็ฟื้นคืนสติ สายตาของเขายังพร่ามัว ยังคงรู้สึกเวียนศีรษะอยากอาเจียน รู้สึกได้ว่าใบหน้าเปียกแฉะด้วยของเหลวอะไรบางอย่าง ขุนนางร่างอ้วนจึงแลบลิ้นเลียโดยไม่รู้ตัว
น้ำอะไรกันนะรสชาติถึงหวานเช่นนี้…?
หลังจากนั้น ท่านข้าหลวงใหญ่ก็ส่ายศีรษะไล่ความมึนงง ภาพที่เห็นจึงชัดเจนมากขึ้น
เขาเห็นว่าหลินเป่ยเฉินกำลังก้มหน้ามองมาที่ตนเองพร้อมกับยิ้มเหยียดหยาม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ฉายวนซ้ำอีกครั้งในความทรงจำของเหยียนอวี้หลง
“บัดซบ…”
เหยียนอวี้หลงตกตะลึงและพยายามระเบิดพลังปราณออกมาจากร่างกาย
แต่ว่า…
พลั่ก! พลั่ก!
โลหิตพุ่งกระฉูดออกมาสองสาย
พุ่งกระฉูดออกมาจากสองขาของเขา
หลินเป่ยเฉินยกปืนอินทรีหิมะขึ้นเป่าปลายกระบอกปืน… เมื่อไม่มีหกโล่มรกตคอยคุ้มครองร่างกายอีก แม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ระดับ 3 ก็ยังไม่อาจต้านทานอานุภาพของกระสุนปืนอินทรีหิมะได้เมื่อถูกจ่อยิงในระยะประชิดตัว
แน่นอนว่าเหยียนอวี้หลงก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
“อ๊าก อ๊าก...”
เหยียนอวี้หลงส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือด
ด้วยความที่เสพสุขอยู่กับอำนาจมาอย่างยาวนาน ท่านข้าหลวงใหญ่จึงไม่เก่งเรื่องการทนทานความเจ็บปวดเหมือนผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป
“เฮ้อ ที่แท้ท่านข้าหลวงใหญ่ก็กลัวความเจ็บปวดนี่เองสินะ”
หลินเป่ยเฉินทำเสียงจิ๊จ๊ะในปาก
พลัน ใบหน้าของเหยียนอวี้หลงบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชัง!