เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1631 ภารกิจล้มเหลว
ตอนที่ 1,631 ภารกิจล้มเหลว
ศีรษะของหลินเป่ยเฉินยังคงตั้งอยู่ดีบนบ่าของเขา ใบหน้าปราศจากบาดแผล ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
คุณชายหลินยังมีชีวิตอยู่?
อี้ซูหนานกับลู่เชาต่างก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
พรึ่บ!
พลัน มือสังหารคนที่สามก็ศีรษะระเบิดกระจายไปเช่นกัน
มือสังหารคนสุดท้ายเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีจึงรีบหลบหนีไปด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด
ขึ้นชื่อว่ามือสังหารเมื่อพลาดโอกาสลงมือ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือหลบหนีให้เร็วมากที่สุด
ไม่มีเหตุผลให้สู้อีกต่อไป
สำหรับมือสังหารระดับสูง สิ่งสำคัญมากที่สุดก่อนการลงมือทำภารกิจ ก็คือการเตรียมแผนการหลบหนี
ตราบใดที่สามารถแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มผู้คนข้างถนนได้สำเร็จ มือสังหารก็จะสามารถผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าปลอมตัวเป็นคนใหม่ ไม่ต่างจากหยดน้ำที่กลืนหายลงไปในมหาสมุทร
ต่อให้เป็นผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิ ก็ไม่มีทางตามล่าตัวพวกมันได้อีก
แต่อย่างไรก็ตาม…
พรึ่บ!
ต้นขาข้างหนึ่งของมือสังหารคนสุดท้ายระเบิดกระจาย
ตัวคนล้มลงบนพื้นถนน แต่มือสังหารมักมีปฏิกิริยาตอบรับที่รวดเร็วเสมอ มันข่มกลั้นความเจ็บปวด ใช้มือยันกายลุกขึ้น และดีดตัวพุ่งเข้าไปหากลุ่มชาวเมือง…
พรึ่บ!
แต่มือสังหารยังไปไม่ทันถึงกลุ่มชาวเมือง แขนซ้ายของมันก็ระเบิดกระจาย
พลั่ก!
มือสังหารสูญเสียการทรงตัวต้องล้มลงนอนจมกองเลือด
ขณะนี้ หน่วยรักษาความปลอดภัยของกองทัพหลิวเยวียนได้มาถึงแล้ว
“เร็วเข้า จับตัวมันไปสอบปากคำ”
อี้ซูหนานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและนำป้ายประจำตัวเจ้าหน้าที่ออกมาแสดง
“มือสังหารตายแล้วขอรับ”
นายทหารหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้าไปสำรวจดูมือสังหารคนสุดท้ายที่แขนขาดขาขาดอย่างละข้าง ก่อนจะส่ายศีรษะเล็กน้อย รายงานว่า “ฆ่าตัวตายขอรับ มันซ่อนยาพิษเอาไว้ที่ใต้ลิ้น… เอ๊ะ?”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
ผิวหนังของนายทหารหนุ่มผู้นั้นก็กลายเป็นสีเขียวเข้ม ตัวคนยืนแข็งค้าง ก่อนจะล้มพับลงไปบนพื้นดิน
พลัน อี้ซูหนานนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบออกคำสั่งว่า “นี่คือยาพิษดับวิญญาณของหอสลายวิญญาณ… ทุกคนรีบถอยออกมาเร็วเข้า อย่าเข้าไปใกล้ รีบถอยห่างออกมาเดี๋ยวนี้”
อี้ซูหนานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ ความรู้ด้านทฤษฎีของนางจึงกว้างขวาง หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่านายทหารหนุ่มผู้นั้นถูกพิษอันใด ด้วยเหตุนี้จึงต้องรีบร้องเตือนให้ผู้คนถอยห่างออกมา
น่าเสียดายที่นายทหารหนุ่มผู้นั้นเสียชีวิตลงแล้ว
สถานการณ์กลับมาอยู่ในการควบคุมอีกครั้ง
กำลังเสริมจากกองทัพปรากฏตัวเพิ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่ลู่เชาผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่สำนักพยาบาล
แม้ว่าอี้ซูหนานจะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แต่โลหิตก็หยุดไหลแล้ว นางนำผ้าพันแผลมาพันไว้รอบหน้าผากและยืนกรานที่จะติดตามหลินเป่ยเฉินต่อไป
เจ้าหน้าที่สาวมีสีหน้าเคร่งเครียด ต้องการจะปกป้องหลินเป่ยเฉินด้วยชีวิต บัดนี้ นางจึงยืนหยัดอยู่ข้างหน้าหลินเป่ยเฉินไม่ต่างจากกระต่ายน้อยที่หมายคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่หมาป่าตัวใหญ่
“ข้าน้อยมีนามว่าเมิ้งอู่เหนียน คุณชายหลินไม่ต้องตกใจ ได้โปรดติดตามข้าน้อยมาเลยขอรับ” นายทหารวัยสี่สิบปีผู้หนึ่งสวมใส่ชุดเกราะนักรบเดินเข้ามาประสานมือแสดงความเคารพ
“หยุดอยู่ตรงนั้น แสดงป้ายประจำตัวของเจ้าออกมาซะ”
อี้ซูหนานคำรามด้วยน้ำเสียงดุดัน
เมิ้งอู่เหนียนหยุดชะงัก ก่อนยิ้มเล็กน้อยและล้วงมือหยิบแผ่นเหล็กซึ่งเป็นป้ายประจำตัวออกมาแสดงต่อหน้าหลินเป่ยเฉิน
“อ้อ เป็นคนของกองทัพจริง ๆ เชิญเข้ามาได้…”
อี้ซูหนานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่คำพูดยังไม่ทันขาดหาย
ฟิ้ว!
เข็มแหลมจำนวนหนึ่งก็ถูกยิงออกมาจากใต้แผ่นป้ายประจำตัวของเมิ้งอู่เหนียน
ระยะห่างไม่เกินห้าก้าว
ความเร็วของเข็มแหลมพุ่งเป็นลำแสง
อี้ซูหนานรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ แต่ก็สายเกินไปที่จะร้องเตือน นางขยับเข้ามาขวางหน้าหลินเป่ยเฉิน พยายามจะใช้ร่างกายของตนเองรับเข็มพิษแทนเขา
แต่หัวไหล่ของนางก็ถูกดันออกไป
ปรากฏว่าหลินเป่ยเฉินยกแขนขึ้นมากันไม่ให้อี้ซูหนานมาขวางทาง รู้ตัวอีกที เจ้าหน้าที่สาวก็ถูกผลักกระเด็นออกมาแล้ว
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงของเข็มแหลมปักสู่ร่างกายมนุษย์ดังขึ้นต่อเนื่อง
อี้ซูหนานเบิกตาโต
หญิงสาวคิดไม่ถึงเลยว่าบุคคลที่ตนเองหมายใช้ชีวิตปกป้องเพื่อดูแลความปลอดภัย เขากลับเป็นฝ่ายปกป้องนางจากการถูกเข็มพิษทิ่มแทง
บัดนี้ อี้ซูหนานน้ำตาไหลริน
หากคุณชายหลินถูกลอบสังหารจนถึงแก่ความตายในวันนี้ นั่นก็หมายความว่าภารกิจของนางล้มเหลว และนี่ก็จะกลายเป็นตราบาปในชีวิตของอี้ซูหนานไปตลอดกาล
การลอบสังหารครั้งนี้เป็นฝีมือของหอสลายวิญญาณ
ไม่ว่าจะเป็นการระเบิดเกวียนสี่ล้อ หรือการส่งมือสังหารมาทำให้อี้ซูหนานกับลู่เชาได้รับบาดเจ็บ
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเมิ้งอู่เหนียนและส่วนที่ควรจะเป็นฟันในปากของมัน ก็กลับกลายเป็นเขี้ยวอันแหลมคม บ่งบอกชัดเจนว่าเมิ้งอู่เหนียนผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์
มันไม่สนใจต่อสู้อีกแล้ว
เมิ้งอู่เหนียนรีบล่าถอยด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด
ผู้ใดก็ตามที่ถูกเข็มทรพิษทิ่มแทง ต่อให้อยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิก็ไม่มีทางรอดชีวิตเด็ดขาด
บัดนี้ เข็มแหลมเหล่านั้นถูกยิงใส่หลินเป่ยเฉินจนเด็กหนุ่มไม่ต่างไปจากเม่นตัวหนึ่ง
ไม่มีหนทางช่วยเหลือ ไม่มีหนทางรักษา มีเพียงแต่รอคอยความตายเท่านั้น
ภารกิจสำเร็จแล้ว
เมิ้งอู่เหนียนยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม
แต่มันหลบหนีออกมาได้ไม่เกินสิบก้าว แขนซ้ายก็ระเบิดแสงสว่างวูบ
ม่านหมอกเลือดสาดกระจายในอากาศ
แขนซ้ายของมันหายวับไปกับตา
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เสียงที่แปลกประหลาดดังขึ้นอีกสามครั้งซ้อน
แล้วแขนขวากับขาอีกสองข้างของ ‘เมิ้งอู่เหนียน’ ก็ระเบิดกลายเป็นม่านหมอกเลือดไปเช่นกัน
“รวดเร็วเกินไปแล้ว”
เมิ้งอู่เหนียนตกตะลึงถึงขีดสุด
ก่อนลงมือปฏิบัติภารกิจ มันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลินเป่ยเฉินเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการโจมตีด้วยวิชาปราณกระบี่คงกระพัน เมิ้งอู่เหนียนทราบดีว่าเด็กหนุ่มมักโจมตีตามแขน ขาและศีรษะของเป้าหมาย ด้วยเหตุนี้ มันจึงระมัดระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว
แต่สิ่งที่ ‘เมิ้งอู่เหนียน’ กำลังพบเจออยู่นี้ มีความรวดเร็วเกินกว่าจะเป็นลำแสงกระบี่ด้วยซ้ำ
เป็นความรวดเร็วที่เกินจินตนาการ
ต่อให้อยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิ ก็ไม่แน่ว่าจะมีความรวดเร็วของลำแสงกระบี่น่ากลัวถึงเพียงนี้
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในสมองของนักฆ่า
ตัวคนล้มลงกับพื้นดิน
เมิ้งอู่เหนียนตั้งใจจะกัดยาพิษที่ซ่อนอยู่ใต้ลิ้น แต่นายทหารจากกองทัพหลิวเยวียนก็รีบเข้ามาปลดกระดูกขากรรไกรของมันออกเสียก่อน
ดังนั้น ‘เมิ้งอู่เหนียน’ จึงได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกควบคุมตัวทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
และสิ่งที่ทำให้มันตกตะลึงมากที่สุดก็คือหลินเป่ยเฉินซึ่งถูกเข็มพิษยิงใส่ร่างกายเป็นจำนวนมาก กลับไม่ได้ถูกพิษร้ายแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างที่คิด
เด็กหนุ่มเพียงสะบัดแขนขาเล็กน้อย
เข็มพิษเหล่านั้นก็กระเด็นหลุดออกมา
ปรากฏว่าเข็มพิษที่ถูกยิงออกไปเมื่อสักครู่นี้ ไม่สามารถแทงทะลุผิวหนังของหลินเป่ยเฉินได้เลยแม้แต่เล่มเดียว
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ก่อนที่ ‘เมิ้งอู่เหนียน’ จะหมดสติไป มันก็ได้แต่ถามคำถามนั้นกับตนเองซ้ำไปซ้ำมา