เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1653 พวกเจ้าไปเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด
ตอนที่ 1,653 พวกเจ้าไปเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด
ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ราวกับมีคนกดปุ่มหยุดเล่นชั่วคราว
หลังจากผ่านไปอึดใจใหญ่…
เพล้ง!
หัวกะโหลกของโครงกระดูกผลึกแก้วระเบิดกระจาย
ห้องเก็บโครงกระดูกพังถล่มลงไป
และกระดองเต่ายักษ์ก็ยุบตัวลง
การพังทลายเกิดขึ้นเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ไม่ต่างไปจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
ฝุ่นผงสีขาวลอยตลบในอากาศ
บนเกาะกระดองเต่าเกิดความเงียบปกคลุม
ได้ยินเสียงโครงกระดูกพังถล่มทลาย
“พวกเรารีบถอย”
องค์ชายหลิงเยวียนหลงระเบิดเสียงคำราม
เฟิงเสี่ยวไป๋และกลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บรีบล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปหลายลมหายใจ
ฝุ่นผงและหมอกควันเริ่มจางตัวลง
เกาะกระดองเต่ากลายเป็นซากปรักหักพัง
ภูตอเวจีสาวพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด พยายามจะกระแทกฝ่ามือใส่หลิงเฉิน
ผมยาวสลวยของหลิงเฉินปลิวไสว หน้าไม้ในมือของนางเปลี่ยนเป็นชุดเกราะคุ้มกันร่างกาย และนางก็รีบหลบหนีไปยืนอยู่ด้านหลังองค์ชายหลิงเยวียนหลงด้วยความรวดเร็วทันเวลาพอดี
“ประเสริฐ”
องค์ชายหลิงเยวียนหลงระเบิดเสียงหัวเราะ เรียกค้อนคว่ำนภากลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง และเพียงเขาสะบัดมือเบา ๆ เท่านั้น ค้อนขนาดเล็กก็ขยายใหญ่กลายเป็นค้อนยักษ์ ลำแสงสีเงินเป็นประกายระยิบระยับ ให้ความรู้สึกกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับองค์ชายหลิงเยวียนหลง
ตู้ม!
ค้อนยักษ์ตวัดฟาดใส่
ภูตอเวจีสาวถูกค้อนฟาดลอยกระเด็นออกไป
ร่างกายครึ่งหนึ่งระเบิดเป็นม่านหมอกเลือด
ค้อนคว่ำนภาเป็นอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับ 70 แม้มันจะยังฟื้นคืนพลังกลับมาได้ไม่เต็มที่ แต่เมื่อมาอยู่ในมือผู้ใช้ที่มีขอบเขตพลังถึงขั้นจอมเทพจักราอย่างองค์ชายหลิงเยวียนหลง พลังทำลายล้างของมันก็นับว่าน่ากลัวยิ่งนัก
เมื่อภูตอเวจีสาวไม่มีพลังเสริมจากกระดูกอาถรรพ์ นางจึงรับมือกับการโจมตีไม่ได้อีกแล้ว
“เวลาของเจ้าหมดลงแล้ว!”
ร่างกายขององค์ชายหลิงเยวียนหลงพลันปกคลุมด้วยชุดเกราะทองแดง
นี่คือชุดเกราะเล่นแร่แปรธาตุระดับ 31 สามารถช่วยเสริมสร้างพลังโจมตีและเพิ่มพูนพลังในการตั้งรับ ชุดเกราะชุดนี้เป็นผลงานชิ้นเอกขององค์ชายหลิงเยวียนหลงเมื่อเขาเลื่อนขั้นขึ้นสู่ขอบเขตจอมเทพจักราได้สำเร็จ
แม้ว่าชุดเกราะของเขาจะไม่ได้ดีเลิศเหมือนวัตถุมโนหิรัญในมือของหลิงเฉิน แต่นี่ก็นับว่าเป็นของคู่กายที่สูงส่งมากแล้ว
เมื่อสวมใส่ชุดเกราะเข้าไป ร่างกายขององค์ชายหลิงเยวียนหลงก็สูงใหญ่มากขึ้น
คลื่นพลังถูกปลดปล่อยออกมาจากช่องว่างของชุดเกราะ
องค์ชายหลิงเยวียนหลงใช้สองมือถือด้ามจับค้อนคว่ำนภาและพุ่งตัวออกไปข้างหน้าด้วยความเกรี้ยวกราด
ตู้ม!
ภูตอเวจีสาวถูกค้อนฟาดลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง
โลหิตสาดกระจาย
เมื่อนางหมุนตัวตีลังกาลงสู่พื้นดิน พลังปราณปีศาจก็เยียวยาบาดแผลฉกรรจ์ หลังจากนั้น ภูตอเวจีสาวก็ตอบโต้กลับมาโดยการปลดปล่อยพลังปราณเป็นรูปทรงมังกรสีม่วงหลายสิบตัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพุ่งเข้าไปหาองค์ชายหลิงเยวียนหลง
“ฝันไปเถอะ”
องค์ชายหลิงเยวียนหลงทะยานเข้าหามังกรสีม่วงเหล่านั้นพร้อมค้อนขนาดใหญ่ในมือ
ค้อนคว่ำนภาระเบิดแสงสว่างราวกับแสงจันทรา แสงสว่างเหล่านั้นสามารถทำลายคลื่นพลังรูปทรงมังกรสีม่วงสลายลงไปได้หมดสิ้น
ค้อนใหญ่ฟาดลงมาราวกับแสงดาวตก
ภูตอเวจีสาวสีหน้าแปรเปลี่ยนไป ร่างกายปกคลุมด้วยคลื่นพลังปีศาจสีม่วงเข้ม นางย่อกายลงเล็กน้อย ระเบิดเสียงคำรามและยกสองมือขึ้นสูง
พยายามจะรับการฟาดทุบของค้อนพิฆาตด้วยมือเปล่า
ครืน!
แผ่นดินสั่นไหว
ค้อนใหญ่ถูกจับด้วยมือเปล่า
ฉ่า! ฉ่า! ฉ่า!
ค้อนคว่ำนภาระเบิดลำแสงออกมาอีกครั้ง
มือของภูตอเวจีสาวถูกความร้อนเผาไหม้จนได้ยินเสียงเนื้อที่กำลังไหม้ไฟ ผิวหนังเผาไหม้ โลหิตไหลทะลัก บาดแผลฉกรรจ์ขยายขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ฝ่ามือของภูตอเวจีสาวเริ่มหายไปทีละเล็กทีละน้อย
ตามด้วยแขนช่วงล่างของนางทั้งสองข้าง
ฟู่! ฟู่! ฟู่! ฟู่!
บังเกิดกลุ่มไอน้ำเดือดฉีดพ่นออกมาตามข้อต่อชุดเกราะขององค์ชายหลิงเยวียนหลง
บัดนี้ แขนของภูตอเวจีสาวถูกเผาไหม้หายไปถึงบริเวณหัวไหล่แล้ว
ค้อนคว่ำนภากำลังจะฟาดลงไปที่ใบหน้าอันสวยงามของนาง
“ตายซะเถอะ!”
ดวงตาขององค์ชายหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความอำมหิต
แม้ว่าเขาจะได้ครอบครองค้อนคว่ำนภาแล้ว แต่การได้สังหารหัวหน้าภูตอเวจีสาวของเผ่าพันธุ์ปีศาจก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์องค์ชายในราชวงศ์หลิงแห่งดินแดนเกิงจินให้สูงส่งมากขึ้น
ฉ่า! ฉ่า! ฉ่า!
ค้อนใหญ่ที่กำลังร้อนระอุค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงมาอย่างแช่มช้า
ผิวหนังของภูตอเวจีสาวเริ่มมีการเผาไหม้ลุกลามไปทั่วร่างกาย โลหิตไหลทะลักออกมาจากทุก ๆ รูขุมขน
สองเท้าอันเปลือยเปล่าของนางจมหายลงไปใต้พื้นหิน ผิวหนังของขาทั้งสองข้างละลายหายไปจนเห็นกระดูกที่อยู่ด้านใน โลหิตไหลทะลักไม่หยุดยั้ง
ตู้ม!
ภูตอเวจีสาวระเบิดพลังเฮือกสุดท้าย พยายามต้านทานแรงกดของค้อนที่กำลังกดต่ำลงมาเรื่อย ๆ
ฉับพลันนั้น ค้อนคว่ำนภาลอยกระเด็นกลับขึ้นไป
ทันใดนั้น ภูตอเวจีสาวหมุนตัวพยายามหลบหนี
แต่องค์ชายหลิงเยวียนหลงตอบรับเร็วไว เตะตัดขานางจนล้มลงและเหยียบเท้าลงไปบนหน้าอกของภูตอเวจีสาว
ตู้ม!
ภูตอเวจีสาวพลันใช้เท้าเตะก้อนหินใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างตัว
ฝุ่นผงฟุ้งตลบในอากาศอีกครั้ง
องค์ชายหลิงหยุดชะงัก ไอน้ำร้อนพุ่งออกมาจากข้อต่อของชุดเกราะ มวลพลังไอน้ำร้อนเปลี่ยนเป็นพายุหมุนสลายฝุ่นผงเหล่านั้นหายไปไม่เหลือสิ้น
เขาอยากจะยุติการต่อสู้ครั้งนี้ให้เร็วที่สุด
เฟิงเสี่ยวไป๋และพรรคพวกถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
จบสิ้นแล้ว
ฝันร้ายของอาณาจักรหลิวเยวียนจบสิ้นลงแล้ว
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังกึกก้องทั่วดินแดนแห่งความตาย
ภูตอเวจีสาวตายแล้วใช่หรือไม่?
ทุกคนคิดด้วยความตื่นเต้น
แต่ทันใดนั้นเอง…
วูบ!
ร่างของใครบางคนก็ลอยออกมาจากกลุ่มหมอกควันของแรงระเบิดนั้น
ร่างนั้นทิ้งตัวลงยืนบนพื้นดินในสภาพย่ำแย่ยับเยิน
เป็นร่างขององค์ชายหลิงเยวียนหลง
เมื่อเท้าสัมผัสพื้นดิน องค์ชายหนุ่มก็ต้องชวนเซไปหลายก้าวกว่าจะตั้งหลักยืนได้อย่างมั่นคง
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปที่กลุ่มหมอกควันโดยไม่รู้ตัว
เปลวไฟสีม่วงสว่างไสว
แล้วปีศาจโครงกระดูกตัวหนึ่งที่มีเปลวไฟสีม่วงลุกโชนก็โอบอุ้มภูตอเวจีสาวอยู่ในอ้อมแขนเดินออกมาอย่างช้า ๆ
ปีศาจโครงกระดูกมีรูปร่างเป็นมนุษย์ กระดูกทั่วร่างกายเป็นสีม่วงเข้มดูสวยงาม
กระดูกทุกส่วนงดงามราวกับงานศิลปะชั้นสูง
ปีศาจโครงกระดูกตัวนี้มีลักษณะแปลกประหลาด เบ้าตาของหัวกะโหลกนั้นมีเปลวไฟสีม่วงสว่างไสว เปลวไฟนั้นทำหน้าที่แทนดวงตา จ้องมองมาที่กลุ่มคนด้วยความอาฆาตแค้น
“พวกเจ้าไปเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด ถึงทำร้ายหญิงสุดที่รักของข้าเช่นนี้?”
ปากของหัวกะโหลกนั้นขยับขึ้นลง เสียงพูดฟังระคายหูยิ่งนัก “สงสัยพวกเจ้าจะฟังเพลงของเหลียงจิ้งหรูมากเกินไปแล้วกระมัง?”
กร๊อบแกร๊บ! กร๊อบแกร๊บ! กร๊อบแกร๊บ!
ได้ยินแต่เสียงกระดูกเสียดสีกัน
หลังจากนั้น โครงกระดูกผีอีกเก้าตัวก็เดินออกมาจากกลุ่มหมอกควัน พวกมันมีรูปร่างเป็นโครงกระดูกมนุษย์ แต่ชิ้นส่วนกระดูกอาจจะมีการต่อเติมเสริมแต่งมากผิดปกติอยู่สักหน่อย และอาวุธในมือของพวกมันก็จัดทำขึ้นมาจากชิ้นส่วนกระดูกทั้งสิ้น
พวกมันปลดปล่อยพลังปราณปีศาจ ยืนอยู่ด้านหลังโครงกระดูกผีตัวแรกผู้เป็นหัวหน้า ไม่ต่างจากองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย
นี่คือการปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่
และเป็นการปรากฏตัวอย่างโดดเด่น
อีกทั้งคำพูดคำจายังแปลกประหลาดพิสดาร
ผู้ใดคือเหลียงจิ้งหรู?
สำหรับกลุ่มผู้คน โดยเฉพาะองค์ชายหลิงเยวียนหลง พวกเขาล้วนหยุดชะงักด้วยความตกตะลึง
อย่าบอกนะว่าแม่ทัพใหญ่แห่งกลุ่มวิญญาณปีศาจได้ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว?