เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1697 แผนการในขั้นต่อไป
ตอนที่ 1,697 แผนการในขั้นต่อไป
นายทหารผู้นั้นกลายเป็นกองเนื้อตายคาที่
ตายโดยไม่รู้ตัว!
ไม่ทราบเลยว่าอสูรยักษ์ที่มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์สีแดงตัวหนึ่งปรากฏกายขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
มันมีร่างกายสูงใหญ่มากกว่าผู้คนทั่วไปถึงสามเท่า
เดิมทีมันเพียงมองการต่อสู้อยู่ในกลุ่มคนเงียบ ๆ แต่เมื่อได้ยินนายทหารผู้นั้นออกคำสั่ง อสูรยักษ์ตัวนี้ก็ยื่นมือออกมาตบนายทหารผู้นั้นจนร่างกายแหลกเหลว
แต่หลังจากที่สังหารนายทหารผู้นั้นตายแล้ว เจ้าอสูรแดงก็คล้ายกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาภายใต้หมวกเหล็กของมันสะท้อนประกายแปลกประหลาด
มันไม่ต่างจากเด็กน้อยที่พบว่าตนเองเพิ่งกระทำความผิด อสูรแดงก้มตัวลงไปยังกองเศษเนื้อของนายทหารคนที่มันฆ่าตาย ก่อนจะค่อย ๆ หยิบชิ้นส่วนของชุดเกราะขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และพยายามประกอบชุดเกราะเหล่านั้นเข้าด้วยกันอย่างสุดความสามารถ…
แต่ปรากฏว่าชุดเกราะได้รับความเสียหายหนักหนายิ่ง
สุดท้าย เจ้าอสูรแดงก็ทำได้เพียงปั้นชุดเกราะนั้นให้กลายเป็นก้อนกลม
มันนั่งย่อกายอยู่ตรงนั้น
คลื่นพลังกดดันปลดปล่อยออกมาจากร่างกายอย่างรุนแรง
นักพรตหญิงชินซึ่งกำลังรับชมการต่อสู้พลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงเดินกุมมือเด็กสาวในชุดขาวตรงเข้าไปยังด้านในหอสุราเซียนเมามาย
เด็กสาวในชุดขาวลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้าย ก็ยอมติดตามเข้าไปแต่โดยดี
เจ้าอสูรแดงลุกขึ้นและเดินตามเข้าไปเช่นกัน
ไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวาง
เพราะพลังกดดันที่อสูรแดงปลดปล่อยออกมานั้นน่าสะพรึงเหลือเกิน
ทุกคนย่อมรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการยื่นมือเข้าไปขัดขวางคือการรนหาที่ตาย
หลังจากนั้นไม่นาน
นักพรตหญิงชินก็เดินกลับออกมาจากหอสุราเซียนเมามายพร้อมกับกลุ่มเด็กสาวในชุดกระโปรงขาวอีกสิบกว่าชีวิต
พวกนางต่างก็เป็นเด็กสาวที่ถูกซื้อตัวมาจากหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนหน้านี้
บัดนี้ พวกนางถูกนำไปอาบน้ำชำระร่างกายและสวมใส่ชุดกระโปรงใหม่เอี่ยมสำหรับการเต้นระบำ
กลุ่มเด็กสาวมีสีหน้าตื่นตระหนก ไม่ต่างจากกระต่ายน้อยผู้หวาดกลัว
แต่เด็กสาวที่กระโดดลงมาจากหอสุราชั้นเจ็ดคงพูดอะไรบางอย่างกับพวกนาง ดังนั้นพวกนางจึงยอมติดตามนักพรตหญิงชินออกมาแต่โดยดี
ในเวลาเดียวกันนี้
ตู้ม!
บริเวณการต่อสู้
เงาร่างของคนทั้งสองแยกออกจากกัน
วิชากระบี่โลหิตคลั่งของเติ้งเหยียนชิวนับว่ามีความน่ากลัวยิ่งนัก
การต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ ไม่ทราบเลยว่าเติ้งเหยียนชิวโจมตีใส่เด็กหนุ่มชุดขาวไปกี่กระบวนท่า แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือวิชากระบี่โลหิตคลั่งซึ่งฆ่าคนมานักต่อนักแล้วนั้น กลับไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มผู้นี้ได้แม้แต่ปลายเส้นผม…
เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้มันเป็นมนุษย์หรือเป็นปีศาจกันแน่?
ในเวลาเดียวกันนั้น
หลินเป่ยเฉินรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
การไหลเวียนของพลังปราณในร่างกายเขาเป็นไปอย่างราบรื่น
นี่คือการหลอมรวมพลังจากในมือซ้ายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือจากโทรศัพท์มือถือ และหลินเป่ยเฉินก็สามารถรับมือการโจมตีจากจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนปลายได้โดยไม่มีปัญหา
เพียงแต่ว่า…
เสื้อผ้าเสียหายนิดหน่อย
หลินเป่ยเฉินก้มหน้ามองชุดขาวที่ตนเองสวมใส่และพบว่ามันถูกคมกระบี่ของเติ้งเหยียนชิวฟันจนขาดวิ่นไม่ต่างจากชุดขอทาน
“ให้ตายสิ เจ้าต้องจ่ายค่าชุดให้ข้าด้วย”
เด็กหนุ่มจ้องมองเติ้งเหยียนชิวด้วยความโกรธแค้น
เติ้งเหยียนชิวหยุดชะงักด้วยความมึนงง
เพราะประโยคที่อีกฝ่ายพูดออกมาเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิด
คนปกติที่ไหนกันจะพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมาในสถานการณ์เช่นนี้กัน?
เติ้งเหยียนชิวหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “ฮ่า ๆๆ เด็กน้อย พลังของเจ้ายังต่ำต้อยเกินไป หากเจ้าไม่ได้มีกลุ่มคนหนุนหลังที่ใหญ่โตเพียงพอ วันนี้เจ้าคงต้องตายแล้ว…”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
ตู้ม!
ศีรษะของเติ้งเหยียนชิวก็ระเบิดกระจายกลายเป็นม่านหมอกเลือด
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นเป่าปลายกระบอกปืนอินทรีหิมะ
“นอกจากไม่ยอมจ่ายค่าเสื้อผ้าให้ข้าแล้ว เจ้ายังมาข่มขู่ข้าอีก... หากวันนี้เจ้าไม่ตาย แล้วจะเป็นผู้ใดที่ต้องตายเล่า”
ความรู้สึกของการได้ยิงปืนนั้น…
ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน
กระสุนปืนอินทรีหิมะที่หลอมรวมขึ้นมาจากพลังปราณอสูรระดับจักรพรรดิสามารถฆ่าจอมเทพศักดิ์สิทธิ์ตอนปลายได้ไม่ยากนัก
แต่หลินเป่ยเฉินได้ค้นพบระหว่างการบรรจุกระสุนก่อนหน้านี้ว่า อานุภาพในการทำลายล้างของปืนอินทรีหิมะน่าจะดำเนินมาถึงขีดสูงสุดแล้ว
มันไม่สามารถหลอมรวมพลังขั้นจอมเทพจักราเพื่อใช้เป็นลูกกระสุนได้
สงสัยคงต้องรอให้โทรศัพท์อัปเดตระบบอีกครั้งนั่นแหละ
หลินเป่ยเฉินเก็บปืนกลับไป
หลินเป่ยเฉินหันไปมองเจ้าหุ่นแดง 1 ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
เจ้าหุ่นแดง 1 สะดุ้งโหยง รีบยืนตรง รอรับการดุด่า
“พวกนายทหารที่วิ่งออกมาจะหอสุราเซียนเมามายเหล่านั้น… สังหารทิ้งไปให้หมด”
หลินเป่ยเฉินออกคำสั่ง “ไม่ต้องสนใจชุดเกราะ มันไม่มีค่าอันใด”
เจ้าหุ่นยักษ์ตบมือด้วยความดีใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปเริ่มต้นการฆ่าฟัน
นี่คือสิ่งที่มันถนัดมากที่สุด
โพละ! โพละ! โพละ!
นายทหารในชุดเกราะสีแดงถูกฝ่ามือขนาดใหญ่ยักษ์ตบตายทีละคนทีละคน
ในอากาศเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน
หลินเป่ยเฉินลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศและตะโกนว่า “นายทหารผู้ใดยังไม่อยากตายจงรีบวางอาวุธซะ ใช้มือซ้ายจับหูขวาของตนเอง เช่นเดียวกับใช้มือขวาจับหูซ้ายของตนเอง หลังจากนั้นก็ก้มหัวมองลอดหว่างขา และยืนอยู่ในท่านั้นห้ามขยับเขยื้อน! ใครขยับตาย!”
หลังจากนั้น ภาพที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นหน้าหอสุราเซียนเมามาย
ปรากฏนายทหารในชุดเกราะสีแดงจำนวนมากทิ้งอาวุธของตนเองและยืนอยู่ในท่วงท่าพิสดาร
นี่คือภาพที่แปลกประหลาดยิ่งนัก
หลินเป่ยเฉินเรียกเจ้าหุ่นแดง 2 แดง 3 และหุ่นสีอื่น ๆ ให้มารวมตัวกัน
“ตรวจค้นให้ทั่วเมืองและจับตัวคนที่มีชื่อว่าหลงเซวียนมาให้ได้”
เด็กหนุ่มออกคำสั่ง
หุ่นประกอบจากวิญญาณปีศาจแห่งสนามรบแสดงท่าทีตื่นเต้นและรีบเร่งออกไปปฏิบัติตามคำสั่งทันที
การต่อสู้คือจิตวิญญาณของพวกมัน!!
“หลังจากนี้เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?”
นักพรตหญิงชินสอบถาม
หลินเป่ยเฉินตอบอย่างแช่มช้าว่า “ไม่ใช่แต่เพียงพื้นที่เขตนี้เท่านั้น แต่เมืองเทียนหลางซิงทั้งเมืองจะต้องตกเป็นของข้า และผู้คนจะกล่าวสรรเสริญข้าแต่เพียงผู้เดียว”
ในเมื่อเมืองแห่งนี้ถูกตีตราว่าเป็นเมืองแห่งการล่มสลายไปแล้ว ก็ได้เวลาที่กองทัพเซียนกระบี่จะเข้ามายึดครอง
ซึ่งก็อย่างที่พวกของเย่เทียนหลิงได้คาดหวังเอาไว้ กองทัพเซียนกระบี่ผู้ผดุงความยุติธรรมกำลังจะมาช่วยเหลือผู้คนในอีกไม่ช้า!!