เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1723 ไปหาเองถึงที่
ตอนที่ 1,723 ไปหาเองถึงที่
หลินเป่ยเฉินพยักหน้ากล่าวว่า “เจ้าช่วยข้าสืบข่าวเรื่องนี้หน่อยก็แล้วกัน หากมีเบาะแสใด ๆ รีบมารายงานข้าทันที”
เจิ้งเจียงยิ้มด้วยความลิงโลด คุกเข่าข้างเดียวและพูดด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง “นายท่านได้โปรดวางใจ ข้าน้อยจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้เบาะแสเหล่านั้นมาอย่างแน่นอนขอรับ”
เขารู้แล้วว่านับจากนี้เป็นต้นไป ตนเองได้กลายเป็นผู้ติดตามคนใหม่ของเซียนกระบี่นักล่าหัวโดยสมบูรณ์แล้ว
พลัน หลินเป่ยเฉินหันกลับมามองที่ปี๋อวิ่นเถาอีกครั้ง “มาพูดคุยกันดีกว่า หลังจากรับฟังรับชมมาทั้งหมดนี้ ท่านมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้าง?”
ปี๋อวิ่นเถานิ่งเงียบ
“ไม่อยากพูดหรือไม่กล้าพูด?”
หลินเป่ยเฉินถามต่อไป
ปี๋อวิ่นเถาแสดงสีหน้าสับสน กัดฟันกรอด มือจับด้ามจับกระบี่ที่ข้างเอวแนบแน่น เขาอ้าปากคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างออกมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากอยู่ดี
“น่าเบื่อเกินไปแล้ว”
หลินเป่ยเฉินคำรามออกมา
เส้นเลือดที่ลำคอของปี๋อวิ่นเถาปูดโปน เช่นเดียวกับเส้นเลือดบนหน้าผาก แต่สุดท้ายเขาก็ยังก้มหน้านิ่ง ไม่พูดคำใดออกมา
“พวกเราไปกันเถอะ”
หลินเป่ยเฉินหมุนตัวเดินออกมาจากห้องทรมาน
เจิ้งเจียงสั่งให้ผู้คนยกเตียงของเฟิงเสี่ยวไป๋กับฉินโมเหยียนติดตามมาทางด้านหลัง
หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินออกมาจากคุกใต้ดินของหน่วยสืบสวนพิเศษ
อากาศสดชื่น สายลมเย็นโชยพัด
ท้องฟ้าใสกระจ่าง
ยังอีกนานกว่าที่ท้องฟ้าจะมืดมิด
หลินเป่ยเฉินบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปตามท้องถนน
“นายท่านจะไปที่ใดหรือขอรับ?”
เจิ้งเจียงที่ติดตามมาทางด้านหลังถามด้วยความสงสัย
“จะไปที่ใดได้อีกเล่า? ข้าก็ต้องไปหาหลินซิงเฉิงน่ะสิ” หลินเป่ยเฉินตอบเสียงเรียบ “ในเมื่อเขาไม่มาหาข้า ข้าก็ต้องไปหาเขา เขาทำร้ายคนของข้า ก็เท่ากับเขาทำร้ายข้า คนเช่นนี้จะปล่อยให้ลอยนวลไปไม่ได้เป็นอันขาด ไม่งั้นข้าคงนอนไม่หลับแน่ ๆ”
เจิ้งเจียงเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง มองหน้าหลินเป่ยเฉินอย่างไม่อยากเชื่อ
นายท่านเสียสติไปแล้วหรือ?
นี่คิดจะไปหาหลินซิงเฉิงถึงที่จริง ๆ หรือ?
สำนักงานของรองผู้คุมสภาหลินซิงเฉิงมีนามว่าตึกเฉิงซิน นอกจากเป็นที่อยู่อาศัยของบุคคลใกล้ชิดของหลินซิงเฉิงแล้ว ที่นั่นยังมียอดฝีมืออีกสามสิบคนที่พร้อมจะทำงานรับใช้หลินซิงเฉิงได้ทุกเมื่อ และยอดฝีมือเหล่านั้นต่างก็มีทักษะโดดเด่นแตกต่างกันไป
นอกจากนี้ ทั้งภายในและภายนอกตึกเฉิงซินยังมีการจัดวางค่ายอาคมอย่างแน่นหนารัดกุม สำหรับผู้คนในอาณาจักรซือเว่ย พวกเขาต่างรู้ดีว่าตึกแห่งนี้แทบไม่ต่างไปจากถ้ำเสือวังมังกร
“นายท่าน... นายท่านจะไปหาเขาเช่นนี้เลยหรือ?” เจิ้งเจียงสอบถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “หลินซิงเฉิงครองความยิ่งใหญ่มาหลายปี เขาย่อมมีขุมกำลังไม่ธรรมดา บางที หลินซิงเฉิงอาจกำลังรอคอยนายท่านอยู่ก็เป็นได้…”
“ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล”
หลินเป่ยเฉินกล่าวอย่างใช้ความคิด
เจิ้งเจียงยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
แต่เขากลับได้ยินหลินเป่ยเฉินกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมากกว่าเดิมว่า “ข้าจะได้ถอนรากถอนโคนให้สิ้นซากไปเลยในครั้งเดียว”
เจิ้งเจียงพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
…
ตึกเฉิงซิน
หลินซิงเฉิงสวมใส่ชุดขุนนางเต็มยศ ยืนเอามือไขว้หลังอยู่ที่ริมหน้าต่าง สายตาจ้องมองไปยังท้องถนนที่อยู่เบื้องล่าง
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบริเวณมุมปาก
“ไร้เดียงสาเสียจริง”
“สังหารหูจงเซียนในคุกใต้ดินของหน่วยสืบสวนพิเศษ สั่งให้คนปล่อยข่าวไปทั่วเมือง…”
“ฮ่า ๆๆ เขาคิดว่ากลอุบายนี้จะสามารถล่อเสือออกจากถ้ำได้จริง ๆ หรือ?”
“ถึงข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าวางแผนอะไรอยู่ก็เถอะ แต่ข้าไม่มีทางหลงกลเจ้าแน่”
“หูจงเซียนตายไปแล้วจะอย่างไร? ต่อให้เจ้าถล่มคุกใต้ดินของหน่วยสืบสวนพิเศษแล้วจะอย่างไร?”
“จงรออยู่ในคุกใต้ดินไปเถอะ…”
หลินซิงเฉิงพูดด้วยความภาคภูมิใจ
เพราะเขามั่นใจว่าในขณะนี้หลินเป่ยเฉินคงกำลังสับสนมึนงงทำอะไรไม่ถูกอีกแล้ว
เด็กหนุ่มเจ้าของฉายา ‘เซียนกระบี่’ คงคิดไม่ถึงเลยว่าตนเองหยามเกียรติเขาถึงเพียงนี้ แต่หลินซิงเฉิงกลับไม่บุกไปชำระแค้นตามที่คิด
เมื่อไม่เป็นไปตามแผน หลินเป่ยเฉินก็ทำสิ่งใดไม่ถูกอีกแล้ว
นี่คือรูปแบบในการกระทำเรื่องราวต่าง ๆ ของหลินซิงเฉิง
เขาจะไม่มีวันเดินตามจังหวะของฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด
และด้วยกลยุทธ์เช่นนี้เอง หลินซิงเฉิงจึงสามารถจัดการศัตรูมาได้นับครั้งไม่ถ้วน และทำให้เขามีทุกวันนี้ได้ในที่สุด
สิงโตที่ขู่กระต่ายให้หวาดกลัว ก็ต้องใช้ความแข็งแกร่งเช่นกัน
เพื่อจัดการกับหลินเป่ยเฉิน หลินซิงเฉิงจึงวางแผนมาตั้งแต่แรกว่าจะแอบกำจัดหลินเป่ยเฉินอย่างลับ ๆ และจะไม่มีทางเผชิญหน้ากันอย่างซึ่งหน้าโดยเด็ดขาด
ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ว่าอย่างไรหลินซิงเฉิงก็ไม่มีทางไปที่คุกใต้ดินอยู่แล้ว
หลินเป่ยเฉินตั้งใจไปอาละวาด
ก็ปล่อยให้อาละวาดไปเถอะ
ยิ่งอาละวาดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น จะฆ่านักโทษ จะปล่อยนักโทษ หรือทำลายคุกใต้ดิน...
ไม่ว่าทำสิ่งใดก็ถือว่าประเสริฐทั้งสิ้น
เพราะเมื่อเป็นเช่นนี้ หลินซิงเฉิงก็จะมีเหตุผลในการเอาผิดขวัญใจมหาชนแห่งอาณาจักรซือเว่ยได้ถูกต้องตามกฎหมาย
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาได้”
“ใต้เท้าขอรับ ข่าวด่วนล่าสุดแจ้งมาว่าหลินเป่ยเฉินออกจากคุกใต้ดินของหน่วยสืบสวนพิเศษแล้วขอรับ”
“งั้นหรือ ให้คนติดตามไปสิ”
“ใต้เท้าขอรับ…”
“มีอะไร?”
“หลินเป่ยเฉินนำตัวเฟิงเสี่ยวไป๋กับฉินโมเหยียนกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ขอรับ”
“ว่าไงนะ?”
“ใกล้จะถึงแล้วด้วยขอรับ”
บรรยากาศในห้องแปรเปลี่ยนไปทันที
หลินซิงเฉิงนิ่งเงียบอยู่นานก็โบกมือออกคำสั่งให้ผู้ที่เข้ามารายงานล่าถอยออกไป ในจังหวะที่ประตูห้องปิดสนิทลง คิ้วของเขาก็เลิกขึ้นสูงเล็กน้อย
นี่คือสิ่งที่เขาคิดไม่ถึง
หลินเป่ยเฉินตั้งใจมาทำอะไรที่นี่?
มาสงบศึก?
มาอาละวาด?
มาประกาศสงคราม?
หลินซิงเฉิงคิดไปคิดมาก็รู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล ทันใดนั้น เขามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
ณ ลานจัตุรัสด้านล่าง กลุ่มคนมาถึงอย่างรวดเร็ว นำขบวนมาโดยเด็กหนุ่มรูปหล่อในชุดเสื้อคลุมสีขาว เขาหยุดยืนอย่างกะทันหันและเงยหน้ามองขึ้นมาทางหน้าต่างบานนี้พอดี
ดวงตาสองคู่ประสานกันนิ่ง
หลินเป่ยเฉิน!
เขามาแล้ว
ช่างรวดเร็วเหลือเกิน!!