เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1724 เจรจาหน้าตึก
ตอนที่ 1,724 เจรจาหน้าตึก
หลินเป่ยเฉินยืนอยู่ที่ลานจัตุรัสหน้าประตูรั้วของตึกเฉิงซิน ดวงตาจ้องมองไปยังบานหน้าต่างขนาดใหญ่ยักษ์ของชั้นสูงสุดประจำตึกที่มีความสูงกว่าสามสิบชั้น
เขารู้ดีว่าหลินซิงเฉิงต้องอยู่บนนั้น
หลินเป่ยเฉินสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาหาตนเองเบื้องหลังกระจกหน้าต่างอย่างชัดเจน
หลินซิงเฉิงคือหนึ่งในสามผู้กุมอำนาจสูงสุดประจำอาณาจักรซือเว่ยในปัจจุบัน หลินเป่ยเฉินจำได้ดีว่าหวังจงเคยพูดถึงคนผู้นี้มาแล้วหลายครั้ง
แต่หลินเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะมีความแค้นฝังลึกรวดเร็วถึงเพียงนี้!!”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นทำท่าจะใช้นิ้วมือดันแว่นด้วยความเคยชิน
แต่แล้วนิ้วมือของเขาก็เลยขึ้นไป
หลินเป่ยเฉินไม่ได้ยกมือทำท่าดันแว่น
แต่เขาชูนิ้วกลางใส่หน้าต่างบานนั้นแทน!!!
และโดยไม่รอการตอบกลับจากอีกฝ่าย หลินเป่ยเฉินนำเครื่องยิงระเบิด Type 69 ออกมาประทับบนหัวไหล่ ก่อนยกปลายกระบอกขึ้นเล็งไปยังอาคารสูงที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า
นิ้วมือเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเล
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ลูกระเบิดพุ่งเป็นทางแหวกอากาศตรงเข้าไปหาตึกเฉิงซินด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด
ครืน!
แรงระเบิดทำให้พื้นที่ในรัศมีรอบตึกหลายสิบวาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ม่านพลังขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นป้องกันการโจมตีด้วยลูกระเบิดของเครื่องยิงระเบิด Type 69
แรงระเบิดแผ่กระจายไปรอบบริเวณ
พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง
ม่านพลังที่กางกั้นอยู่หน้าตึกเฉิงซินเริ่มเกิดรอยแตกร้าว
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
รอยแตกร้าวลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ
บรรดาผู้คนที่อยู่ในตึกเฉิงซินยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุใดขึ้น พวกเขาเพียงรู้สึกว่าตัวอาคารสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หัวใจกระตุกวูบเหมือนตกอยู่ในกำมือมัจจุราช หลายคนมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว… และพวกเขาก็เห็นแสงสว่างสีส้มเจิดจ้าครอบคลุมพื้นที่รอบบริเวณ จึงส่งเสียงร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก...
“นี่มันอะไรกัน?”
หลินซิงเฉิงผู้อยู่ในสำนักงานชั้นบนสุดผงะถอยหลังตามสัญชาตญาณ ดวงตาบอกชัดถึงความเหลือเชื่อ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลินเป่ยเฉินจะกล้ามาอาละวาดที่นี่จริง ๆ
ไม่มีการแจ้งเตือน!
ไม่มีการสนทนาเจรจา!!
หลังจากชูนิ้วกลางให้เขา หลินเป่ยเฉินก็เปิดฉากโจมตีโดยทันที
หลินเป่ยเฉินกล้าดีอย่างไร?
หลินเป่ยเฉินเสียสติไปแล้วใช่หรือไม่?
สีหน้าของหลินซิงเฉิงแปรเปลี่ยนไป
เขานำสองมือมาประกบเข้าด้วยกันและนิ้วมือทั้งสิบก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเป็นจังหวะสวยงาม
ทันใดนั้น ความแข็งแกร่งของม่านพลังที่กางกั้นตึกเฉิงซินก็เพิ่มความหนาแน่นมากกว่าเดิมหลายเท่า
ด้วยเหตุนี้
คลื่นแรงสั่นสะเทือนและแสงสีส้มที่สว่างเจิดจ้าก็กระจายหายไป
แต่ความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกในจิตใจผู้คนยังคงอยู่
ในขบวนผู้มาเยือน
รองหัวหน้าผู้คุมเจิ้งเจียงแสดงสีหน้าตื่นกลัวออกมาอย่างชัดเจน เขาไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้อีกแล้ว
เจิ้งเจียงยืนอยู่เคียงข้างหลินเป่ยเฉินด้วยความตกตะลึง เขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่างออกมาหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็พูดออกมาไม่ได้อยู่ดี
เพราะกำลังตกตะลึงมากเกินไป
การโจมตีของนายท่านหลินเป่ยเฉินในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังที่อยู่ในขั้นจอมเทพจักรพรรดิ
หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา หลินเป่ยเฉินจะซ่อนเร้นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนเองเอาไว้?
ดูเหมือนเจิ้งเจียงจะเลือกเจ้านายคนใหม่ได้ถูกคนแล้วกระมัง?
ฝุ่นผงจางหายไป
“ไม่ถล่มแฮะ”
หลินเป่ยเฉินมองตึกสูงที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าพร้อมกับกล่าวด้วยความตื่นเต้น “สมแล้วที่เป็นฐานบัญชาการของรองผู้คุมสภา การป้องกันช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก”
อานุภาพของลูกระเบิดจากเครื่องยิงระเบิด Type 69 ในขณะนี้ มีความสามารถมากพอที่จะสังหารจอมเทพจักรพรรดิตอนปลายได้อย่างสบาย ๆ
แต่ตึกสูงที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าเขาหลังนี้ นอกจากเศษฝุ่นที่กระจัดกระจายกับหน้าต่างบางบานที่แตกกระจายไปแล้ว ก็ไม่มีความเสียหายใดเกิดขึ้นอีกเลย
นี่คือความแข็งแกร่งของม่านพลัง
ม่านพลังป้องกันที่ยังช่วยทำให้ตึกเฉิงซินปลอดภัย
นี่คือครั้งแรกที่หลินเป่ยเฉินได้พบเจอกับค่ายอาคมป้องกันการโจมตีระดับสูงถึงเพียงนี้
หรือว่าในตึกเฉิงซินจะมีผู้ที่ใช้วิชาตามสายเลือดผู้ใช้ค่ายอาคมอยู่ด้วย?
หลินเป่ยเฉินอดคิดถึงเยว่หงเซียงขึ้นมาไม่ได้
เสี่ยวเซียงเซียงของเขามีพรสวรรค์และชำนาญในการสร้างค่ายอาคมไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดินตงเต้า หากนางได้มาอยู่ในเส้นทางดาราจักร เยว่หงเซียงก็คงกลายเป็นหนึ่งในผู้ใช้ค่ายอาคมชั้นนำแล้วกระมัง?
เมื่อนึกถึงอนาคตที่สดใส หลินเป่ยเฉินก็ไม่กล่าวคำใดออกมาอีก เขาบรรจุลูกระเบิดใส่เครื่องยิงระเบิด Type 69 อีกครั้ง
ไม่มีปัญหาใดแก้ไขด้วยลูกระเบิดไม่ได้
หากยิงลูกแรกไม่ได้ผล…
งั้นก็ต้องยิงลูกต่อไป!!
แต่จังหวะที่เด็กหนุ่มกำลังจะเหนี่ยวไกนั้นเอง เสียงเย็นชาก็ดังออกมาจากห้องชั้นบนสุดของตึกเฉิงซินและลอยมาเข้าหูของหลินเป่ยเฉิน
“เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าหลิงไท่ซือกับหลิงหลิงอยู่ที่ใด?”
เป็นเสียงของหลินซิงเฉิง
หลินเป่ยเฉินเกือบจะเหนี่ยวไกยิงแล้ว แต่ยังหยุดชะงักเอาไว้ได้ทัน
เขาเงยหน้ามอง
ด้านหลังกระจกที่แตกร้าว ร่างของหลินซิงเฉิงปรากฏขึ้น
สีหน้าเคร่งเครียด
สายตาที่จ้องมองมายังหลินเป่ยเฉินผู้อยู่ด้านล่างมีความคมกริบไม่ต่างจากกระบี่คู่หนึ่ง
เคร้ง! เคร้ง!
ป้ายเหล็กสองชิ้นถูกโยนลงมาที่แทบเท้าของหลินเป่ยเฉิน
นี่เป็นป้ายประจำตัวสมาชิกตระกูลหลิงของหลิงไท่ซือกับหลิงหลิง
หลินเป่ยเฉินเคยติดต่อกับพวกเขามาระยะหนึ่ง จึงจดจำป้ายเหล็กสองชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดีไม่มีทางลืมเลือน
“อวี้พั่วเซียว”
“ประมุขตระกูลเซิน”
“องค์ชายหลิง”
“ชื่อเหล่านี้มีความหมายกับเจ้าบ้างหรือไม่?”
เสียงของหลินซิงเฉิงยังคงกล่าวต่อไป แต่มีเพียงพวกเขาได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น
น้ำเสียงของท่านรองผู้คุมสภาเต็มไปด้วยความเย็นชาอำมหิต “หากเจ้ายังไม่อยากตาย งั้นก็จงเข้ามาภายในตึกเฉิงซินแห่งนี้ซะ ตึกหลังนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามสิบสามชั้น หากเจ้ารอดชีวิตขึ้นมาถึงชั้นบนสุดได้ ข้าจะมอบโอกาสให้เจ้าได้มาต่อสู้กันอย่างยุติธรรม”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะตอบกลับไป
“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย? หากเจ้ากล้าทำอะไรกับพวกเขา ข้าจะทำให้เจ้าต้องตายโดยไร้แผ่นดินกลบฝัง”
หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปอย่างไม่ยี่หระ