เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1732 ไซบอร์ก
ตอนที่ 1,732 ไซบอร์ก
“ฮ่า ๆๆ…”
สีหน้าของหลินซิงเฉิงบอกชัดถึงความตื่นเต้นสุดขีด เขาก้มมองสองแขนของตนเอง ปรากฏว่ากระดูกที่ทิ่มแทงผิวหนังออกมานั้นกลับมีลักษณะเป็นโลหะสีทองคำที่เคลือบด้วยของเหลวสีดำคล้ายน้ำมัน “ประเสริฐ ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากเพียงใด เจ้าก็มีค่ามากเพียงนั้น ฮ่า ๆๆ”
“จะหัวเราะอะไรนักหนาวะ”
หลินเป่ยเฉินกระแทกฝ่ามือลงไปอีกครั้ง
“วิชาเท้าถล่มพันภูผา!”
หลินซิงเฉิงหมุนตัวและกระโดดเตะด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด
ทันใดนั้น ฝ่าเท้าของหลินซิงเฉิงก็เคลื่อนที่เหนือกว่าความเร็วเสียงพุ่งเข้ามากระแทกใส่ฝ่ามือของหลินเป่ยเฉิน
“ก็ยังจักจี้อยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะเยาะ รับลูกเตะโดยไม่ได้บาดเจ็บใด ๆ
ทันใดนั้น เขางอนิ้วรวบขาทั้งสองข้างของหลินซิงเฉิงก่อนจะยกอีกฝ่ายขึ้นห้อยหัว “เจ้ากับข้ามันยังห่างชั้นกันมากเกินไป… ข้าขอถามเจ้า บัดนี้ สหายของข้าอยู่ที่ใด?”
หลินซิงเฉิงยิ้มออกมาเล็กน้อย
ทันใดนั้น ขาของเขาก็ถูกกระชากขาดออกอยู่ในกำมือของหลินเป่ยเฉิน
ไม่ใช่สิ
หากอธิบายให้ถูกต้องก็คงต้องกล่าวว่าหลินซิงเฉิงตั้งใจถอดขาของตนเองออกไปต่างหาก
กระดูกขาของเขาไม่ใช่กระดูก
แต่เป็นโลหะสีทองคำ
สะท้อนประกายระยิบระยับ
มีความแหลมคมไม่ต่างไปจากคมกระบี่
“วิชากระบี่พิฆาตกลางหิมะ”
หลินซิงเฉิงทิ้งตัวเอาหัวทิ่มลงไปบนพื้น ก่อนที่จะหมุนร่างของตนเองด้วยความเร็วไว กระดูกขาที่โผล่พ้นออกมานั้นไม่ต่างไปจากคมกระบี่ที่ตวัดตัดหิมะและน้ำแข็งปลดปล่อยอานุภาพการโจมตีใส่หลินเป่ยเฉินด้วยความหนักหน่วงรุนแรง
ลำแสงกระบี่สาดประกาย…
แสงสีขาวสว่างวูบ
หลินเป่ยเฉินถึงกับอุทานออกมาด้วยตกตะลึง “นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
หลินซิงเฉิงกำลังใช้วิชาการต่อสู้รูปแบบใด?
หลินเป่ยเฉินยื่นมือออกไปข้างหน้าและจับกระดูกที่เป็นโลหะบริเวณขาของหลินซิงเฉิงเอาไว้ เขาเพิ่มแรงบีบมหาศาล จนได้ยินเสียงโลหะหักงอผิดรูป แล้วของเหลวที่มีลักษณะเหมือนน้ำมันก็ไหลเปรอะเต็มฝ่ามือของหลินเป่ยเฉิน
กระดูกขาทั้งสองข้างของหลินซิงเฉิงหักงอผิดรูปผิดร่างไม่ต่างไปจากก้อนพลาสติกบิดเบี้ยว
ร่างกายที่หมุนวนพลันหยุดชะงัก
แต่สิ่งที่น่าตลกก็คือศีรษะของหลินซิงเฉิงยังคงหมุนต่อไป ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังกร๊อบ แล้วศีรษะของเขาก็กลิ้งกระเด็นไปอีกทางหนึ่ง
หลินเป่ยเฉินถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
นี่มันอะไรกันเนี่ย
นี่เขากำลังเจออยู่กับพวกไซบอร์กหรือไง?
“แข็งแกร่ง แข็งแกร่ง แข็งแกร่ง…”
ศีรษะของหลินซิงเฉิงที่กลิ้งไปบนพื้นระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ประเสริฐนัก ประเสริฐที่สุด เจ้าเป็นผู้ที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอ...”
หลินเป่ยเฉินสะบัดข้อมือเล็กน้อย
แล้วชิ้นส่วนร่างกายของหลินซิงเฉิงก็หลุดออกไปจากมือเขา
ล้วนแต่เป็นโครงกระดูกโลหะทั้งสิ้น
แต่แน่นอนว่าอวัยวะภายในของหลินซิงเฉิงย่อมไม่ใช่โลหะ
หลินเป่ยเฉินรู้สึกเหมือนตนเองกำลังอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์สักเรื่องหนึ่ง
“เจ้าคงฝึกวิชาตามสายเลือดผู้แปลงกายสินะ?”
หลินเป่ยเฉินจ้องมองไปที่ศีรษะของหลินซิงเฉิงและถามต่อไป “เจ้าเปลี่ยนกระดูกของตนเองเป็นกระดูกที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุมาแล้วใช่หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินเคยได้ยินมาว่าสายเลือดผู้แปลงกายสามารถนำเครื่องมือเล่นแร่แปรธาตุมาปรับเปลี่ยนเข้ากับร่างกายของตนเองได้อย่างไม่มีปัญหา
ลักษณะจะคล้าย ๆ กับแขนกลเทพเจ้าดาวเหนือของฉู่เหิน หากอาจารย์ฉู่อยู่ที่นี่ อาจารย์ก็คงถูกยึดถือเป็นผู้ใช้วิชาตามสายเลือดผู้แปลงกายเช่นกัน
ทว่า การเปลี่ยนกระดูกแตกต่างจากการเปลี่ยนแขนขา อย่างเช่นการเปลี่ยนโครงกระดูกทั้งตัวของหลินซิงเฉิง นี่คือสิ่งที่หลินเป่ยเฉินไม่เคยคาดคิดมาก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม หลินเป่ยเฉินต้องยอมรับเลยว่าการดัดแปลงร่างกายของหลินซิงเฉิงคือสิ่งที่ยากต่อการรับมือไม่น้อย
กระดูกขาที่ใช้แทนคมกระบี่ของหลินซิงเฉิงมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารจอมเทพจักรพรรดิระดับ 5 หากเปลี่ยนคู่ต่อสู้เป็นคนอื่น หลินซิงเฉิงก็คงได้รับชัยชนะไปนานแล้ว
แต่โชคร้ายที่เขาพบคู่ต่อสู้เป็นหลินเป่ยเฉิน
ผลปรากฏว่าวิชากระบี่พิฆาตกลางหิมะนั้นสามารถสร้างรอยขีดข่วนให้แก่ผิวหนังของหลินเป่ยเฉินได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น… และมันไม่สามารถตัดเส้นผมของเขาได้แม้แต่เส้นเดียวด้วยซ้ำ
“ถูกต้อง”
ศีรษะของหลินซิงเฉิงค่อย ๆ ลอยขึ้นมาในอากาศ “นี่ไม่ใช่ร่างกายของข้า แต่เป็นเพียงร่างที่ข้าเลือกใช้งานเท่านั้น ไม่เคยมีผู้ใดบีบบังคับให้ข้าต้องอยู่ในสภาพนี้มาก่อน เจ้ารู้หรือไม่ว่าการสร้างร่างกายดัดแปลงขึ้นมาสักร่างหนึ่งนั้นต้องใช้เงินมากเพียงใด?”
“นี่เจ้าเล่นเกมไซเบอร์พังก์มากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?”
หลินเป่ยเฉินอดบ่นออกมาไม่ได้
“ร่างกายแตกสลายได้ มีเพียงวิญญาณเท่านั้นที่ยืนยงตลอดกาล”
ดวงตาของหลินซิงเฉิงเป็นประกายวาวโรจน์ “แต่น่าเสียดายที่วิญญาณก็ต้องอาศัยร่างกายในการดำรงชีวิต... เจ้าสงสัยหรือไม่ว่าเหตุไฉน ผู้เฝ้าประตูด้านล่างส่วนใหญ่จึงเป็นผู้ฝึกวิชาตามสายเลือดผู้คงกระพัน? นั่นเป็นเพราะว่าข้ากำลังขุนเจ้าอยู่ไงล่ะ ยิ่งเจ้าดูดซับพลังมากเท่าไหร่ ตัวของเจ้าก็จะยิ่งใหญ่โตมากเท่านั้น และเจ้าก็จะยิ่งแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน เพียงเท่านี้ ร่างกายของเจ้าก็จะสามารถทนรับการทดลองได้อย่างยาวนานแล้ว”
ฟึบ!
หลินเป่ยเฉินสะบัดเส้นผมของตนเอง
ศีรษะของหลินซิงเฉิงพลันถูกเส้นผมฟาดกระเด็นไปกระแทกกับผนังและกระเด้งกลับมา
หลินเป่ยเฉินรู้สึกเพียงแต่ว่าตนเองกำลังจ้องมองไปที่วัตถุโลหะสีทองชิ้นหนึ่งเท่านั้น
“โอกาสสุดท้าย สหายของข้าอยู่ที่ใด?”
หลินเป่ยเฉินใช้นิ้วมือคีบศีรษะของหลินซิงเฉิงขึ้นมา
เปรี๊ยะ!
ทันใดนั้น กะโหลกศีรษะของหลินซิงเฉิงก็เกิดรอยแตกร้าว
ด้านในกะโหลกศีรษะเป็นครึ่งโลหะครึ่งกระดูกขาว
“หากเจ้าอยากช่วยเหลือพวกเขา เจ้าก็ต้องหาข้าให้เจอก่อน”
เสียงของหลินซิงเฉิงก้องกังวานอยู่ในอากาศ
จากนั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดก็ยุติลง
อ้าว?
หลินเป่ยเฉินแสดงสีหน้าประหลาดใจ
คำพูดประโยคสุดท้ายนั้นสื่อสารชัดเจนว่าหลินซิงเฉิงยังไม่ตาย
อย่าบอกนะว่าพวกผู้แปลงกายจะมีร่างดัดแปลงของตนเองสำรองเอาไว้อีก?
เมื่อร่างหนึ่งพังลง ก็ย้ายเข้าไปอยู่ในร่างใหม่?
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มเพิ่งจะสังเกตว่าห้องประจำตำแหน่งของหลินซิงเฉิงได้กลายเป็นสถานที่กว้างใหญ่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ หน้าต่างสีเงินไม่ต่างจากกำแพงกระจกที่ไม่สามารถพังทลายออกไป ตัดขาดทุกสิ่งทุกอย่างจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
“หากที่นี่เป็นค่ายอาคมปิดผนึก งั้นหลินซิงเฉิงก็คงหนีออกไปไม่ได้เหมือนกัน…”
หลินเป่ยเฉินไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย เขามองซ้ายมองขวาและเปิดแอปไป่ตู้ แมปโดยใช้ชื่อของหลินซิงเฉิงเป็นจุดหมายปลายทาง
“จุดหมายอยู่ห่างออกไปห้าวาทางขวามือ…”
เสียงแจ้งเตือนจากการนำทางดังขึ้น
หลินเป่ยเฉินจ่ายเงินเพื่อใช้ฟังก์ชันการนำทางโดยใช้เส้นทางจากสถานที่จริง ณ ปัจจุบัน
ทันใดนั้น ลูกศรสีฟ้าก็ชี้ไปยังทิศทางขวามือของเขา…
กลางอากาศ?
หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดอะไรบางอย่างเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตามการนำทางของลูกศร ทันใดนั้น เขาก็ระเบิดเสียงคำรามและใช้กำปั้นขนาดใหญ่ยักษ์ของตนเองต่อยไปข้างหน้า
ครืน!
ตึกเฉิงซินสั่นสะเทือนไปทั้งหลัง
ทันใดนั้น ในอากาศก็ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาอย่างช้า ๆ
เปรี๊ยะ!
เสียงกระจกแตกร้าวดังขึ้นอย่างชัดเจน
แล้วประตูศิลาบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในอากาศ!!