เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1762 ความร้ายกาจของวิชากระบี่สยบฟ้า
ตอนที่ 1,762 ความร้ายกาจของวิชากระบี่สยบฟ้า
“ผนึกกำลังฆ่ามันให้ได้”
สวีฉานหลี่ออกคำสั่งด้วยสีหน้าเย็นชาอำมหิต
ซูอวี้ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพอวี้อวี่และเฉินตั้วอี๋ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเขี้ยวมังกรหันมองหน้ากัน ก่อนที่ชุดเกราะสุดแข็งแกร่งจะปรากฏขึ้นบนร่างกาย และในพริบตาต่อมา กระบี่ซึ่งเป็นอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับ 19 ก็ปรากฏขึ้นในมือของพวกเขา
“วิชากระบี่โกลาหลสังหาร”
“วิชากระบี่คมเขี้ยวมังกร”
แม่ทัพใหญ่ทั้งสองคนร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน
จิตสังหารแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายอันกำยำ
กระบี่ในมือตวัดวูบวาบ
ลำแสงกระบี่พุ่งออกมาเป็นหัวมังกรยักษ์ที่แยกเขี้ยวเข้าหาปี๋อวิ่นเถาด้วยความดุร้ายกระหายเลือด
“วิชากระบี่สยบฟ้า!”
ปี๋อวิ่นเถาร้องตะโกนตอบกลับไป
ลำแสงกระบี่ในมือของเขาสาดประกายเจิดจ้า
ดูเหมือนจะเชื่องช้า ทว่าหนักแน่น
ลำแสงกระบี่พุ่งตัวออกไปเป็นอาชาขาวตัวหนึ่ง
เคร้ง!
เสียงการปะทะกันของกระบี่แทบทำให้ความดันโลหิตของหลินเป่ยเฉินพุ่งสูงอีกครั้ง
ตัวคนโซเซ
ลำแสงกระบี่ครอบคลุมตัวคน
หัวมังกรแตกสลายหายไปพร้อมกับกระบี่ที่แตกหัก
ในชั่วขณะนั้น ทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรงต่างก็มองเห็นแสงสว่างที่ทำให้ตาพร่า
ซูอวี้ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพอวี้อวี่พ่ายแพ้แล้ว!
และเฉินตั้วอี๋ แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเขี้ยวมังกรพ่ายแพ้แล้ว!!
คลื่นแห่งความหนาวเย็นเกาะกินจิตใจของผู้คน
“วิชากระบี่สยบฟ้า”
ปี๋อวิ่นเถาพุ่งตัวออกมาข้างหน้าด้วยความเร็วสายฟ้าฟาด
คมกระบี่แหวกอากาศ
จิตสังหารแผ่ปกคลุมทั่วท้องพระโรง
เมื่อมีกระบี่อยู่ในมือ ก็ดูเหมือนว่าปี๋อวิ่นเถาจะสามารถทำลายล้างตำหนักหมาป่าได้จริง ๆ
คมกระบี่พุ่งตรงเข้าไปหาสวีฉานหลี่ยอดหญิงงามแห่งสภาขุนนาง
“นางสารเลว ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า”
ปี๋อวิ่นเถาแผดเสียงคำราม
ทันใดนั้น เมื่อพลังปราณในร่างกายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ ปี๋อวิ่นเถาก็สามารถทะลวงเลื่อนขั้นพลังขึ้นสู่จอมเทพจักรพรรดิระดับ 3 ได้สำเร็จ
พลังในการโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันนี้
สวีฉานหลี่เบิกตาโต พยายามจะตั้งรับด้วยการใช้วิธีเดิม คือกระแทกฝ่ามือออกมาข้างหน้า
นี่คือวิชาฝ่ามือหยกทมิฬ
เมื่อรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามจากปี๋อวิ่นเถา นางก็โคจรพลังปราณใส่ฝ่ามือตนเองโดยไม่ลังเล หลังจากนั้น สวีฉานหลี่ก็เหินร่างเข้าไปหาชายหนุ่ม
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
นั่นคือเสียงการระเบิดของคลื่นพลังเมื่อฝ่ามือปะทะเข้ากับคมกระบี่
ฝ่ามือเกิดบาดแผล กระบี่แตกร้าว
แต่จิตสังหารยังแรงกล้าด้วยกันทั้งสองฝ่าย
การทุ่มเทพลังโจมตีออกมาในครั้งนี้ หมายความว่าทั้งสวีฉานหลี่และปี๋อวิ่นเถาต่างก็คิดหมายเอาชีวิตอีกฝ่ายด้วยกันทั้งคู่
คลื่นพลังแผ่กระจายไปรอบบริเวณ
ไม่ต่างจากการแผ่กระจายของคลื่นน้ำในมหาสมุทร
ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น
ปรากฏว่าในกลุ่มแขกที่เข้ามาร่วมงานเลี้ยงล่ากวางมีพลังสูงส่งไม่มากพอ จึงได้รับบาดเจ็บจากคลื่นพลังที่แผ่กระจายออกไป
ผู้คนอีกจำนวนมากต้องหลบหนีออกไปนอกตำหนักหมาป่า
หลายสิบลมหายใจให้หลัง การระเบิดตัวของคลื่นพลังก็ยุติลง
ความปั่นป่วนของมวลอากาศยุติลง
ทุกอย่างตกอยู่ในความสงบนิ่ง
กลุ่มคนที่หลบหนีออกมานอกท้องพระโรงเมื่อสักครู่แอบชะโงกหน้ามองกลับเข้าไป แล้วพวกเขาก็ต้องอุทานออกมา
ด้วยว่าศีรษะของสาวงามถูกตัดขาด
ชุดเกราะของปี๋อวิ่นเถาเกิดรอยแตกร้าว ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้เลยว่ากระดูกแตกหักไปกี่ส่วน แต่เขายังยืนอยู่บนขั้นบันไดทองคำด้วยร่างกายที่ตั้งตรงดั่งคันทวน กระบี่ที่แตกหักอยู่ในมือขวา ส่วนมือซ้ายกำลังถือศีรษะของรองผู้คุมสภาสวีฉานหลี่
ใบหน้าของยอดหญิงงามแห่งสภาขุนนางแสดงออกถึงความตกตะลึงสุดขีด ราวกับไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะต้องพบจุดจบของชีวิตเช่นนี้
ทุกคนตกตะลึงและพูดคำใดไม่ออก
นี่คือผลลัพธ์ที่ทุกคนคิดไม่ถึง
รองผู้คุมสภาสวีฉานหลี่เป็นผู้มีพลังขั้นจอมเทพจักรพรรดิมากประสบการณ์ต่อสู้
แล้วจะมาถึงแก่ความตายด้วยน้ำมือปี๋อวิ่นเถาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
ทันใดนั้น ความเงียบก็ถูกทำลายลงไป
ถูกทำลายด้วยเสียงปรบมือของหลินเป่ยเฉิน
“นี่สินะความร้ายกาจของวิชากระบี่สยบฟ้า?”
สีหน้าของเด็กหนุ่มไม่อาจซ่อนเร้นความประหลาดใจ และกล่าวต่อไปด้วยความเคารพเลื่อมใส “เพียงไม่กี่กระบวนท่าก็สามารถสังหารรองผู้คุมสภาได้แล้ว… นับจากนี้ไป เราก็คงไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว!”
นี่คือสุดยอดการโจมตีที่แท้จริง
นับเป็นการโจมตีที่ดุดัน เพียงพริบตาเดียว กระบี่ในมือของปี๋อวิ่นเถาก็ได้ดื่มเลือดศัตรูถึงสามคน
ปี๋อวิ่นเถายังคงยืนถือกระบี่โดดเด่นเป็นสง่าราวกับผู้ที่ยืนอยู่บนยอดเขากลางเมฆหมอก
ในเวลาเดียวกันนี้ บรรดาคนใหญ่คนโตทั้งหลายรวมถึงฮวาไป๋ต่างก็รู้ดีแล้วว่าปี๋อวิ่นเถาได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ ชายหนุ่มกลายร่างเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมอาณาจักรซือเว่ยได้ไม่ยากเย็น…
หากเป็นก่อนหน้านี้ เหล่าขุนนางและแม่ทัพใหญ่คงอยากจะแย่งชิงตัวปี๋อวิ่นเถาเข้ามาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
แต่บัดนี้ ทุกคนต่างทราบดีว่านับจากนี้เป็นต้นไป ปี๋อวิ่นเถาคงรับใช้แต่เพียงเซียนกระบี่นักล่าหัวหลินเป่ยเฉินผู้เดียวเท่านั้น
ฮวาไป๋และพรรคพวกจึงมีความคิดเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า
ปี๋อวิ่นเถาผู้นี้จะปล่อยให้อยู่รอดต่อไปไม่ได้เด็ดขาด
ปล่อยให้อยู่รอดต่อไปก็จะเป็นภัยกับพวกเขาเอง
“ฆ่ามัน”
ในกลุ่มขุนนางใหญ่ได้ยินเสียงผู้คนตะโกนออกคำสั่ง
วูบ!
คมกระบี่พุ่งเข้าหาปี๋อวิ่นเถาเป็นเส้นตรง
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในเวลาเดียวกันนี้ อาวุธลับจำนวนมากก็ถูกซัดออกมาด้วยความเร็วสูงเพื่อสังหารปี๋อวิ่นเถา
บัดนี้ ปี๋อวิ่นเถาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ จึงเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะลงมือ
ปี๋อวิ่นเถายังคงยืนอยู่ที่เดิม
การแก้แค้นของเขาเสร็จสิ้นลงแล้ว
ไม่มีสิ่งใดให้เขาเป็นกังวลอีกต่อไป
หากเขาตาย เขาก็จะได้ไปพบกับบิดามารดา น้องเขยและภรรยาในที่สุด
แต่หลินเป่ยเฉินจะยอมให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
“กำแพงวายุ…”
หลินเป่ยเฉินยกมือโบกสะบัด
แสงสว่างสาดประกายเจิดจ้า
แล้วม่านพลังสายหนึ่งก็กำบังร่างกายให้แก่ปี๋อวิ่นเถา