เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1788 จะตอบคำถามได้หรือยัง
ตอนที่ 1,788 จะตอบคำถามได้หรือยัง?
นี่คือเสียงที่บุคคลปริศนาคุ้นหูเป็นอย่างดี
“หลินเป่ยเฉิน… เจ้า…”
บุคคลปริศนารีบถอยหลังไปด้วยความลนลาน
ตึง! ตึง!
บรรดารูปปั้นหญิงสาวตาบอดขยับเข้ามาขวางทาง
เมื่อไม่มีค้อนคว่ำนภาอยู่ในมือ บุคคลปริศนาก็ไม่สามารถหนีรอดจากการปิดล้อมของรูปปั้นมรณะได้อีกแล้ว
“เจ้าก็รู้จักข้านี่”
หลินเป่ยเฉินเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงก่อนจะเดินสืบเท้าก้าวเข้าไปหา “ทีนี้จะตอบคำถามได้หรือยัง? ‘องค์หญิงไข่มุกขาว’ อยู่ที่ใด? เจ้าเอาอาวุธเล่นแร่แปรธาตุระดับที่ 70 ชิ้นนี้มาได้อย่างไร?”
“ฮ่า ๆๆ เด็กสาวผู้นั้นเป็นนักโทษของเผ่าพันธุ์ข้ามานานแล้ว”
บุคคลปริศนากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าไม่มีทางรู้หรอกว่านางอยู่ที่ใด… เมื่อเจ้าพบเจอนางอีกที นางก็คงกลายเป็นปุ๋ยที่ลงไปคุยกับรากสมุนไพรแล้ว ฮ่า ๆๆ…”
หัวใจของเด็กหนุ่มร้อนผ่าวด้วยความโกรธแค้น
สิ่งเลวร้ายที่สุดอาจเกิดขึ้นได้จริง ๆ
วูบ!
ทันใดนั้น บุคคลปริศนาที่กำลังถอยหนีกลับเคลื่อนกายเข้ามาประชิดตัวหลินเป่ยเฉินเพื่อโจมตีเขา
“วิชาหอกทะลวงใจ!”
บุคคลปริศนาระเบิดพลังโจมตีในขอบเขตจอมเทพจักรพรรดิระดับ 2 ออกมาเต็มอัตรา จุดเด่นของเขาคือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว อาวุธของเขาคือหอกเล่มหนึ่งที่แทงเข้าใส่หน้าอกฝั่งซ้ายของหลินเป่ยเฉินและควรจะตัดขั้วหัวใจของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ
เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย
บุคคลปริศนายิ้มร่า
เมื่อรับทราบว่าคู่ต่อสู้ของตนเองคือหลินเป่ยเฉิน บุคคลปริศนาก็โคจรพลังเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เขาแสร้งทำเป็นอยากหลบหนีเพื่อทำให้หลินเป่ยเฉินตายใจ แต่ความจริงนั้น เขากำลังเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมกระบวนท่าสังหารต่างหาก
เคร้ง!
ได้ยินเสียงโลหะปะทะกันดังกังวาน
แล้วหอกพิฆาตที่ควรจะทะลวงหัวใจของหลินเป่ยเฉินก็แตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
บุคคลปริศนารู้สึกเจ็บปวดที่มือของตนเอง ดูเหมือนกระดูกข้อมือของเขาจะแตกหักแล้ว
การโจมตีอันสมบูรณ์แบบของเขา… ล้มเหลวอย่างนั้นหรือ?
“อ่อนหัดเหลือเกิน นี่เจ้าเพิ่งหัดใช้อาวุธหรืออย่างไร?”
หลินเป่ยเฉินยื่นมือเข้ามาหาลำคอของฝ่ายตรงข้าม ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ “พลังปราณของเจ้าเปิดเผยตัวตนของเจ้าเสียแล้ว เจ้าเป็นสมาชิกของเผ่ามนุษย์ทะเลทราย… ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็คงรู้ดีว่าตะเกียงวิญญาณจำนนของหลินซินเฉิงนั้นอยู่ในมือของข้าแล้ว…”
บุคคลปริศนาถึงกับเบิกตาโตด้วยความสะพรึงกลัว
แต่หลินเป่ยเฉินย่อมไม่เปิดโอกาสให้ศัตรูอยู่รอด
กร๊อบ!
เขาบิดลำคอของอีกฝ่ายอย่างแรง
แล้วลำแสงสีฟ้าอ่อนก็ถูกดูดออกมาจากร่างกายของบุคคลปริศนา
ลำแสงนั้นถูกดูดเข้าไปอยู่ในตะเกียงวิญญาณจำนน
มันคือดวงวิญญาณของบุคคลปริศนานั่นเอง
เมื่อนำวิญญาณไปจองจำอยู่ในตะเกียงดวงนี้ หลินเป่ยเฉินก็จะได้รับทราบข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการ
“เป็นพวกเผ่าพันธุ์มนุษย์ทะเลทรายจริง ๆ ด้วย”
“ปรากฏว่าคนผู้นี้เคยร่วมมือกับหลินซินเฉิงในการก่อการร้ายภายในอาณาจักรซือเว่ยมาก่อน...”
“ตอนที่หัวหน้าผู้คุมสภาฮวาไป๋ก่อกบฏ เจ้าหมอนี่ก็เป็นคนคาบข้อมูลเกี่ยวกับหวงเฉิงอี้มาบอก และให้คำมั่นสัญญากับฮวาไป๋ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ทะเลทรายจะเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรซือเว่ย…”
“องค์ชายหลิงกับหลิงเฉินถูกหลินซินเฉิงจับกุมตัวมาขังไว้ภายในเมืองเทียนหลางซิง เมื่อหลินซินเฉิงถึงแก่ความตาย สองคนนั้นก็ตกมาอยู่ในกำมือของคนผู้นี้…”
“เผ่ามนุษย์ทะเลทรายต้องการจับตัวหลิงเฉินเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองให้ราชวงศ์เกิงจินร่วมมือกับตนเอง…”
“โชคดีที่พวกมันทราบว่าหลิงเฉินมีสถานะสูงส่ง พวกมันจึงไม่กล้าทำอะไรนาง นอกจากจับตัวมาคุมขังเอาไว้เท่านั้น”
“ส่วนสถานที่คุมขัง…”
ในไม่ช้า เด็กหนุ่มก็ได้รับทราบข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการ
การที่หลิงเฉินและองค์ชายหลิงถูกจับกุมตัวคือสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงมากที่สุด
มิน่าล่ะ หลินเป่ยเฉินถึงไม่เคยได้ข่าวจากคนทั้งสองเลย
ส่วนคนอื่น ๆ จากคณะสำรวจสุสานโบราณแห่งอาณาจักรหลิวเยวียนก็ถูกพาตัวไปหลบซ่อนจนหายสาบสูญ
“อ๊าก...”
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากตะเกียงวิญญาณจำนน
วิญญาณของบุคคลปริศนาถูกเผาไหม้หมดสิ้น
แสงตะเกียงดูจะเพิ่มความร้อนแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
หลินเป่ยเฉินไม่ทันได้สังเกต
เพราะเขากำลังใช้ความคิดที่จะไปช่วยเหลือหลิงเฉิน
ดูเหมือนจะไม่มีเวลามาจัดการกับพวกจอมเทพจักราที่เหลือซะแล้วสิ
เมื่อเทียบกับหลิงเฉิน เงินทองก็ไม่มีค่าอันใดเลย
หลินเป่ยเฉินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาเปิดการใช้งานค่ายอาคมทั่วสุสานกษัตริย์และจัดการขับไล่พวกของไฉจูต้าซือ คณะอาจารย์จากสำนักเจิ้งฉีและยอดฝีมือคนอื่น ๆ ออกไปจากสุสานกษัตริย์โดยทันที
…
ณ โลกภายนอก
“เกิดอะไรขึ้น?”
“หะ…หายไปแล้ว”
“สุสานกษัตริย์หายไปแล้ว หายไปได้อย่างไร?”
“ดูนั่นสิ นั่นคือคณะสำรวจที่เข้าไปก่อนหน้านี้นี่นา…”
“พวกเขาถูกส่งตัวกลับออกมาอย่างนั้นหรือ?”
บรรดาผู้คนที่รวมตัวกันอยู่หน้าม่านหมอกขาวพากันร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น
เมื่อสักครู่นี้ พวกเขาเห็นกับตาว่าสุสานกษัตริย์ค่อย ๆ หายไปราวกับละอองน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มยอดฝีมือที่เข้าไปสำรวจสุสานก่อนหน้านี้ก็ได้รับการส่งตัวกลับออกมาอย่างปลอดภัย แต่สีหน้าของพวกเขาบอกถึงความพิศวงงงงวยและไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก
สุสานกษัตริย์ถูกปิดเร็วก่อนกำหนด
“ต้องมีผู้คนแอบควบคุมสุสานกษัตริย์อยู่แน่”
“สุสานกษัตริย์มีเจ้าของคนใหม่แล้ว”
บรรดาอาจารย์อาวุโสจากสำนักเจิ้งฉีพอจะคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก
“ข้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการเลยด้วยซ้ำ”
ใบหน้าของไฉจูต้าซือบิดเบี้ยวด้วยความขุ่นเคืองใจ “ผู้ใดเป็นคนควบคุมสุสานกษัตริย์ ข้าจะต้องหามันให้เจอให้ได้… พวกเจ้าไปหาข้อมูลมาเดี๋ยวนี้”
“เป็นหลินเป่ยเฉิน”
ใครคนหนึ่งส่งเสียงตะโกนขึ้นมา “มีแต่เขาเท่านั้นที่ยังไม่กลับออกมา”
“แล้วก็เจ้าคนที่สวมใส่ชุดเสื้อคลุมสีดำนั่นด้วย…”
อีกคนกล่าวเสริมขึ้น
“ก่อนหน้านี้ บรรดาผู้คนที่หลบหนีออกมาจากสุสานกษัตริย์พร้อมใจกันบอกว่าหลินเป่ยเฉินช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้…”
ในกลุ่มผู้ชม ใครบางคนส่งเสียงตะโกนออกมาและชี้มือไปทางท่านเจ้าสำนักจี๋เตาซานซินแห่งอาณาจักรหงเฉียง “เขาคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“หืม?”
ไฉจูต้าซือหันมาจ้องมองด้วยความประหลาดใจ “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”
เจ้าสำนักจี๋เตาซานซินพยักหน้า “เซียนกระบี่หลินไม่มีทางคิดร้ายต่อผู้ใดแน่นอน”
หลินเป่ยเฉินช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ดังนั้น เจ้าสำนักจี๋เตาซานซินจึงไม่มีทางทรยศต่อหลินเป่ยเฉินเด็ดขาด
“เฮอะ…”
ไฉจูต้าซือระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความไม่พอใจ “คำตอบของเจ้าจะเป็นคำโกหกหรือไม่ อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน”
“พวกเราไปหาหลินเป่ยเฉินกันเถอะ”
ยอดฝีมือที่อยู่ในขอบเขตจอมเทพจักราผู้สวมใส่หน้ากากโลหะสีแดงทั้งสามคนหันมามองที่เยว่อี้และกล่าวว่า “เราจะขอให้เขาส่งมอบสิ่งที่เราต้องการออกมาซะ”