เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1808 หญิงรับใช้
ตอนที่ 1,808 หญิงรับใช้
หลินเป่ยเฉินอ่านเนื้อหาภารกิจรวดเดียวจบ ก็ต้องตบต้นขาด้วยความตื่นเต้น
“โอ๊ย เจ็บนะนายท่าน”
เฉียนเหมยถูต้นขาของตนเองด้วยความเจ็บปวด
“อุ๊ย ขอโทษที พอดีข้าลืมตัวไปหน่อย”
หลินเป่ยเฉินดึงมือกลับมา พยายามสงบจิตใจ
ภารกิจพิเศษมาแล้ว
เนื้อหาภารกิจความรุ่งเรืองของกองทัพเซียนกระบี่ไม่มีสิ่งใดซับซ้อน เพียงออกกำลังกายตามตารางฝึกฝนที่แอปพลิเคชัน Keep ออกแบบมาเท่านั้น มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำตามได้ไม่ใช่หรือ?
และรางวัลที่ได้รับนั้นก็ยอดเยี่ยมมาก
การเลื่อนขั้นพลัง!
หากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป เกรงว่าเหล่ายอดฝีมือทั่วเส้นทางดาราจักรก็คงแทบเสียสติแล้ว
หลินเป่ยเฉินก้มหน้าทบทวนรายละเอียดในการออกกำลังกายอีกครั้ง และพบว่าไม่มีสิ่งใดยากเย็น ภารกิจยังคงเป็นการออกกำลังกายด้วยการเตะขา วิดพื้น กระโดดตบ กระโดดเชือก ซิตอัป ยกน้ำหนัก วิ่งจ๊อกกิ้ง ฯลฯ ไม่มีสิ่งใดแตกต่างไปจากภารกิจก่อนหน้า เว้นแต่เพียงมีการเพิ่มท่าออกกำลังกายด้วยโยคะเท่านั้น
“สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ การออกกำลังกายพวกนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
หลินเป่ยเฉินรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
นี่คือภารกิจที่สำคัญ
ภารกิจของแอปพลิเคชัน Keep นั้นไม่ใช่จะปรากฏขึ้นมาได้ง่าย ๆ
นับตั้งแต่ที่ได้รับการติดตั้งในโทรศัพท์มือถือ แอปพลิเคชัน Keep ก็เคยส่งมอบภารกิจเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
แต่ทุกครั้งภารกิจเหล่านั้นก็สามารถช่วยพลิกสถานการณ์ให้แก่หลินเป่ยเฉินได้เสมอ
ในที่สุด เขาก็ได้รับภารกิจครั้งใหม่เสียที
ของรางวัลสำหรับหลินเป่ยเฉินก็คือการได้เลื่อนขั้นในวิชาเคลื่อนย้ายกระแสปราณ เขาอยากรู้จริง ๆ ว่าหากได้เลื่อนขั้นไปอีกระดับ ร่างกายของตนเองจะมีความแข็งแกร่งเพียงใด?
นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเป่ยเฉินก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ แล้วเขาก็ต้องตบต้นขาอีกครั้ง
“โอ๊ย”
เฉียนเจินร้องอุทาน ก่อนจะหันหนีไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
เด็กสาวคนอื่น ๆ พากันจ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉิน
“อ้อ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ ต้องขออภัยด้วย”
หลินเป่ยเฉินหัวเราะแหะ ๆ และรีบเปลี่ยนเรื่องโดยเร็ว “เดี๋ยวข้าจะส่งตารางการฝึกวิชาให้พวกเจ้าผ่านทางวีแชต โปรดดูให้ละเอียด และทำความเข้าใจการฝึกฝนให้ถี่ถ้วน”
เด็กหนุ่มดาวน์โหลดตารางการออกกำลังกายออกมาจากแอป Keep และส่งต่อให้ทุกคนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
“พี่ใหญ่ นี่คือการฝึกวิชาแบบกลุ่มใช่หรือไม่?”
เซียวปิงสอบถามด้วยความดีใจ
เยว่หงเซียงกับเฉียนเหมยฉีกยิ้มด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้กัน
พวกนางทราบดีถึงการฝึกวิชาแบบกลุ่ม
ทุกครั้งที่หลินเป่ยเฉินให้ผู้คนฝึกวิชาในลักษณะนี้ แม้ว่าขั้นตอนของการฝึกวิชาจะเรียบง่ายไม่ต่างจากการต้มน้ำร้อน แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง
ทุกคนก้มหน้าดูตารางการฝึกฝนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หลินเป่ยเฉินเองก็ตรวจสอบเนื้อหาการออกกำลังกายอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจเช่นกันว่าจะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น
ภารกิจครั้งนี้ไม่ยากเลย
แต่สิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มประหลาดใจก็คือในครั้งนี้โทรศัพท์มือถือถึงกับเอ่ยชื่อหวังจงและโจวเทียนอวิ๋นโดยห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมภารกิจเด็ดขาด
เพราะอะไร?
ทั้งสองคนนั้นก็เป็นสมาชิกกองทัพเซียนกระบี่เหมือนกันนี่นา
แม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ยังรู้จักชื่อพวกเขา
แต่ทำไมถึงห้ามไม่ให้เข้าร่วมภารกิจ?
มีเหตุผลอะไร?
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วด้วยความพิศวง
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว
เพราะหวังจงก็ไม่เคยเข้าร่วมภารกิจเช่นกัน
ดังนั้น ครั้งนี้หลินเป่ยเฉินจึงไม่ได้ซื้อโทรศัพท์มือถือให้หวังจง
หลินเป่ยเฉินรู้สึกมาตลอดว่าพ่อบ้านชรามีความขัดแย้งบางอย่างกับโทรศัพท์มือถือของเขา
แต่ช่างเถอะ อย่าเพิ่งมาคิดถึงเรื่องนี้เลย
สิ่งที่ควรสนใจคือหาสมาชิกร้อยคนจากกองทัพเซียนกระบี่มาทำภารกิจให้ครบถ้วนต่างหาก
สมาชิกทั้งร้อยคนนั้น นอกจากจะต้องมีพรสวรรค์และคุณภาพแล้ว ยังต้องมีความซื่อสัตย์มากพออีกด้วย
หลินเป่ยเฉินลืมไปเลยว่าตนเองไม่มีเวลาจัดการเรื่องนี้อีกแล้ว
เพราะฉะนั้น เขาคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหวังจง
บัดนี้ เมื่อคนรอบตัวเขามีโทรศัพท์มือถือ การติดต่อสื่อสารจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอีกแล้ว
ดังนั้น นี่จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เมื่อจัดแจงทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินเป่ยเฉินก็กลับออกมาจากสุสานกษัตริย์
เมื่อเขากลับไปที่คฤหาสน์ลู่หลิว หวังจงก็รออยู่ก่อนแล้ว
“นายน้อย ได้เวลาออกเดินทางแล้วขอรับ”
พ่อบ้านชราผู้มีคำว่าจงในนามหวังจงมาจากคำว่าจงรักภักดียังคงกล่าวด้วยความกระตือรือร้น “หากไม่รีบออกเดินทางตอนนี้ เดี๋ยวจะไปถึงที่หมายช้าเอานะขอรับ”
…
อุกกาบาตขนาดใหญ่ยักษ์ไม่ต่างจากภูเขาลูกหนึ่งกำลังลอยตัวอยู่ในเส้นทางดาราจักรที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย
ณ ด้านบนอุกกาบาตลูกนั้น คนผู้หนึ่งกำลังพยายามสะกดความตื่นเต้นในหัวใจ เพื่อทำการคุกเข่าให้สวยงามมากที่สุด
“ขอบคุณนายท่านสำหรับความเมตตา”
สตรีผู้นั้นประสานมือทำความเคารพด้วยความอ่อนน้อม
หลังจากรอคอยมาหลายพันปี ในที่สุด วันนี้ที่นางรอคอยก็มาถึงแล้ว
ในที่สุด นายท่านก็กลับมาแล้ว
ด้านหน้าของหญิงสาวเป็นขั้นบันไดหินที่ทอดนำไปสู่บัลลังก์ใหญ่ หญิงวัยกลางคนปริศนาที่เคยปรากฏตัวในสุสานกษัตริย์นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้น
“ลุกขึ้นเถิด หลายปีที่ผ่านมา ต้องรบกวนเจ้ามากแล้ว”
น้ำเสียงของหญิงวัยกลางคนผู้นั้นบอกถึงความเกียจคร้านแต่อ่อนหวาน นี่เป็นน้ำเสียงของหญิงสาวเยาว์วัย สวนทางกับรูปร่างหน้าตาของนางเป็นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้น แสงสว่างก็เป็นประกายระยิบระยับครอบคลุมทั่วร่างของหญิงวัยกลางคน
แล้วรูปร่างหน้าตาของนางก็เปลี่ยนไป
จากหญิงวัยกลางคนหน้าตาธรรมดา บัดนี้ นางกลายเป็นหญิงสาวผู้มีความงดงามอย่างหาตัวจับยาก ชุดกระโปรงขาวขับเน้นผิวขาวผ่องที่ไม่ต่างจากแสงจันทร์นวล ร่างกายของนางสมส่วนสมบูรณ์แบบ สีหน้าท่าทางน่าเกรงขามและชวนให้ผู้คนรู้สึกอยากกราบไหว้ด้วยความเคารพบูชา
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิง
หญิงสาวผู้นี้คือเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิง
ส่วนหญิงรับใช้ที่ติดตามนางทั้งสองคนนั้นก็เป็นผู้อาวุโสจากเผ่าพันธุ์ปีศาจเช่นกัน
ครั้งนี้ เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงเดินทางมาที่อาณาจักรซือเว่ย เพื่อมาตามหาเซี่ยเต๋อจี
เพราะว่าเซี่ยเต๋อจีเคยเป็นหญิงรับใช้ประจำตัวของนาง
ในอดีตตอนที่ออกเดินทางไปทั่วเส้นทางดาราจักร เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงมีหญิงรับใช้ข้างกายสี่คน
คนหนึ่งตาบอด คนหนึ่งหูหนวก คนหนึ่งแขนด้วน และอีกคนก็เป็นใบ้
นับเป็นบุคคลน่าสงสารที่ถูกเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงช่วยเหลือมาจากความทุกข์ทรมาน
เมื่อนางมีเหตุจำเป็นให้ต้องหลบหนี หญิงรับใช้ทั้งสี่ก็แยกย้ายกันไปเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยให้กับผู้เป็นเจ้านาย
บัดนี้ เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงพบตัวหญิงรับใช้เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือสตรีตาบอด เซี่ยเต๋อจี
สำหรับเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิง หญิงรับใช้ทั้งสี่มีค่าไม่ต่างไปจากญาติพี่น้องของตนเอง
นางตั้งใจจะตามหาตัวทุกคนให้พบ
“งานที่ข้าสั่งเอาไว้เรียบร้อยแล้วหรือไม่?”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงสอบถาม
“กราบเรียนนายท่าน ทั้งโลหิตพิสุทธิ์และคัมภีร์แปดชั้นฟ้ารวมไปถึงเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์นั้น ข้าน้อยได้ส่งมอบให้แก่คุณชายหลินหมดสิ้นแล้ว เขาไม่ได้เกิดความสงสัยใด ๆ เลยเจ้าค่ะ…”
เซี่ยเต๋อจีตอบด้วยความเคารพ