เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 777 สายพันธุ์ฆ่าไม่ตาย
ตอนที่ 777 สายพันธุ์ฆ่าไม่ตาย
เป็นศีรษะของชายหัวล้านผู้หนึ่ง
จริงด้วยสิ
ทำไมถึงต้องบรรยายซ้ำด้วยนะ?
หลินเป่ยเฉินใบหน้ากระตุกเมื่อจ้องมองไปยังหัวมนุษย์ที่โผล่ขึ้นมา
แล้วเขาก็ได้พบว่าหัวมนุษย์หัวนั้นกลับมีใบหน้าที่คุ้นเคย
หากไม่ใช่ใบหน้าของเหลียงหยวนเตาแล้วยังจะเป็นใบหน้าของใครได้อีก?
เห็นได้ชัดว่าการฟื้นคืนชีพกลับมาครั้งนี้ ทำให้ชายอ้วนลดน้ำหนักลงไปได้หลายกิโลกรัม ชั้นไขมันบนใบหน้าหายไป เผยให้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น ดวงตากลมโตมากขึ้น กล่าวโดยรวมก็คือนี่เป็นใบหน้าที่หล่อเหลาทีเดียว
แต่แน่นอนว่าเมื่อนำมาเทียบกับหลินเป่ยเฉินก็ยังห่างไกลกันอีกหลายพันโยชน์*
*โยชน์ หมายถึง ชื่อหน่วยวัดระยะตามมาตราวัดของไทยสมัยโบราณ กำหนด ๔๐๐ เส้นเป็น ๑ โยชน์, เทียบมาตราเมตริก เท่ากับ ๑๖ กิโลเมตร.
ชายศีรษะล้านหมุนลำคอไปรอบ ๆ ก่อนที่ช่วงหัวไหล่จะโผล่พ้นขึ้นมาจากแอ่งโลหิต
“ข้ากลับมาแล้ว”
เหลียงหยวนเตาแสยะยิ้มให้แก่หลินเป่ยเฉิน
นับเป็นรอยยิ้มเหยียดหยามที่น่าเจ็บใจที่สุด
หลินเป่ยเฉินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น
ไอ้อ้วนโรคจิตคนนี้มันเป็นเอเลี่ยนสายพันธุ์ฆ่าไม่ตายหรือไงนะ?
นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถอธิบายได้อีกต่อไป หลินเป่ยเฉินไม่ทราบเลยว่าเพราะเหตุใดผู้ปกครองมณฑลเฟิงอวี่ถึงสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกครั้งที่ฟื้นกลับมา ระดับพลังก็จะสูงมากกว่าเดิมสองเท่า ซ้ำหน้าตายังหล่อเหลามากขึ้นอีกด้วย
ไม่ทราบว่ามีวิชาใดที่ช่วยให้มีความสามารถเช่นนี้ด้วยหรือ?
หลินเป่ยเฉินคิดแล้วก็อยากฝึกบ้างเช่นกัน
เด็กหนุ่มตั้งใจว่าหากสามารถสังหารเหลียงหยวนเตาได้เมื่อไหร่ เขาก็จะลองค้นซากศพของอีกฝ่ายดูสักหน่อย เผื่ออาจจะได้คัมภีร์ดี ๆ มาติดตัวเพิ่มเติมก็เป็นได้
จังหวะที่หลินเป่ยเฉินกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เหลียงหยวนเตาก็โผล่พ้นขึ้นมาจากแอ่งโลหิตบนพื้นดินเต็มตัวแล้ว
ร่างกายยังคงอ้วนท้วม
แต่กลับสามารถมองเห็นมัดกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน
อย่างน้อยก็ถูกจัดอยู่ในระดับความอ้วนแบบคนธรรมดา ไม่ใช่อ้วนแบบผิดมนุษย์มนาที่ทำให้ผู้คนขยะแขยง
และที่สำคัญก็คือเส้นผมบนศีรษะค่อย ๆ งอกกลับมาอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียว เหลียงหยวนเตาก็มีเส้นผมสีดำยาวสลวยปรกหัวไหล่
“เจ้าคงคิดไม่ถึงเลยล่ะสิ?”
ดวงตาของเหลียงหยวนเตาทอประกายวิบวับด้วยความสะใจ เขาเหยียดยิ้มกว้าง หัวเราะในลำคอและกล่าวว่า “ข้ากลับมาแล้ว หลินเป่ยเฉิน ทุกครั้งที่เจ้าฆ่าข้า ข้าก็จะยิ่งมีพลังเพิ่มมากขึ้น ทุกครั้งที่เจ้าลงมือ ข้าก็ยิ่งเข้าใจในกระบวนท่าของเจ้ามากกว่าเดิม… วันนี้ เจ้าไม่มีทางรอดอีกแล้ว”
หลินเป่ยเฉินรู้สึกรำคาญใจเป็นอย่างยิ่ง
เจอศัตรูร้ายกาจเช่นนี้ช่างน่าปวดหัวเหลือเกิน
ประเด็นสำคัญก็คือเขาต้องรีบหาจุดอ่อนเพื่อสังหารชายอ้วนให้ได้
เสียแต่ว่าเด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าตนเองไม่มีความอดทนสักเท่าไหร่
เห็นได้ชัดว่าเหลียงหยวนเตาก็มีนิสัยนี้เช่นเดียวกัน…
ต่อจากนี้ไป หากหลินเป่ยเฉินโจมตีผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เขาคงต้องถึงแก่ความตายเป็นแน่แท้
แต่มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ
ในฐานะของคนที่ทะลุมิติมาจากโลกอื่น ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา หลินเป่ยเฉินสามารถเอาตัวรอดจากอุปสรรคขวากหนามใหญ่หลวงได้เสมอ
แล้วเขาจะต้องมาตายเพราะไอ้อ้วนโรคจิตคนหนึ่งเช่นนี้หรือไง?
ทำไมอยู่ดี ๆ เขาถึงต้องเจอคู่ต่อสู้แข็งแกร่งขนาดนี้ด้วยนะ?
หรือว่าคนเขียนวางพล็อตผิดพลาด?
หลินเป่ยเฉินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจ
“การต่อสู้รอบต่อไปเริ่มขึ้นแล้ว”
เหลียงหยวนเตายกยิ้มมุมปาก เลือดสีแดงสดไหลหยดลงไปจากชั้นไขมันบนร่างกายที่ลดจำนวนไปไม่ใช่น้อย พลัน ชายอ้วนยกมือขึ้นมาดีดนิ้วแผ่วเบา
ป๊อก!
คลื่นเสียงแผ่กระจายในอากาศ
พรึบ!
แล้วบาดแผลที่อยู่บนหน้าอกของหลินเป่ยเฉินก็มีโลหิตพุ่งกระจายออกมา ผิวหนังเปิดออก เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อและกระดูกหน้าอกสีขาวโพลนที่อยู่ด้านใน
“นายท่านเจ้าคะ…”
เฉียนเหมยกับเฉียนเจินเห็นดังนั้นก็ตกใจสุดขีด เตรียมจะวิ่งเข้ามาหา
แต่หลินเป่ยเฉินยกมือห้ามเอาไว้
เขาไม่ได้ก้มมองที่บาดแผลของตนเองสักนิด
ก็แค่การระเบิดตัวของเศษกระดูกที่หลงเหลืออยู่ในบาดแผลของเขาเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร
หลินเป่ยเฉินแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ดวงตาร้อนผ่าวด้วยไฟแห่งโทสะ
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถฟื้นคืนชีพได้ตลอดไป…”
กล้ามเนื้อของเด็กหนุ่มแข็งเกร็ง มือกระชับกระบี่สายฟ้าและพุ่งตัวออกไปข้างหน้าอีกครั้ง
การต่อสู้ครั้งที่สามเริ่มขึ้น
ขวับ! ขวับ! ขวับ!
คมกระบี่สาดประกายวูบ
เหลียงหยวนเตายื่นมือออกมาข้างหน้า และนำแท่งกระดูกขึ้นมาจากแอ่งโลหิตด้านล่างอีกครั้ง
รูปทรงของแท่งกระดูกชิ้นนี้มีความคล้ายกับกระบี่ที่สุด
เมื่อเทียบกับแท่งกระดูกชิ้นก่อนหน้านี้ กระดูกแท่งใหม่มีความสวยงามและดูมีความแข็งแรงมากกว่ากระดูกแท่งเก่า จังหวะที่ปะทะกับกระบี่สายฟ้า แท่งกระดูกยังสามารถอ่อนตัวไปตามแรงปะทะได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น หากเรียกว่านี่คืออาวุธวิเศษชนิดหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก
เคล้ง! เคล้ง!
เสียงคมกระบี่ปะทะกัน
ประกายไฟสาดกระจายในอากาศ
หลินเป่ยเฉินพุ่งทะยานราวกับมังกรผู้คลุ้มคลั่ง ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้จักความหวาดกลัว เขาทุ่มเทแสดงฝีมือการต่อสู้ทุกกระบวนท่าที่ตนเองมีความชำนาญและสามารถเล่นงานเหลียงหยวนเตาได้ก่อนหน้านี้ออกมาทั้งหมด
แต่ชายอ้วนกลับรับมืออย่างง่ายดาย
เหลียงหยวนเตาถึงกับแสดงกระบวนท่าที่มีความคล้ายคลึงกับกระบวนท่ากระบี่ที่หนึ่งและกระบวนท่ากระบี่ที่สองจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรออกมาแล้ว
ในเวลาเดียวกันนี้ ความสามารถในการรักษาการบาดเจ็บของเหลียงหยวนเตาก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ถึงจะถูกฟันด้วยกระบี่สายฟ้าเกิดเป็นบาดแผลฉกรรจ์ แต่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น บาดแผลเหล่านั้นก็หายวับไป และเหลียงหยวนเตาก็พร้อมที่จะต่อสู้ได้ทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เหลียงหยวนเตาสะบัดกระบี่กระดูกขาวในมือ
คมกระบี่สาดประกายวูบ
เกิดเป็นสายเลือดพุ่งออกมาจากร่างกายหลินเป่ยเฉิน
ครั้งนี้ คุณชายหลินตกเป็นรองฝ่ายตรงข้ามแล้วจริง ๆ
“บ้าเอ๊ย ระดับพลังของเราก็ใช่ว่าจะต่ำต้อยสักหน่อย ขนาดเปิดแอปฟังเพลงช่วย กินโอสถต้าหลี่ แถมยังใช้วิชาโลหิตกระชากวิญญาณ แต่ก็ยังสู้ไอ้อ้วนนี่ไม่ได้อีกเหรอวะ มันจะเป็นไปได้ยังไง…”
จิตใจของหลินเป่ยเฉินเกิดความร้อนรน
นี่คือเหตุการณ์ที่เขาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน
เคล้ง!
กระบี่กระดูกขาวพัวพันกับกระบี่สายฟ้า
และขณะที่สะเก็ดไฟสาดกระจายในอากาศนั้นเอง กระบี่สายฟ้าก็หลุดออกจากมือของหลินเป่ยเฉิน มันพุ่งเป็นเส้นโค้งกลางอากาศก่อนจะตกลงไปปักพื้นดินห่างไกลออกไปหลายสิบวา
หลินเป่ยเฉินจึงอยู่ในภาวะวิกฤติที่แท้จริงเมื่อไม่มีอาวุธอยู่ในมืออีกต่อไป
เห็นดังนั้น บรรดาผู้รับชมที่อยู่โดยรอบก็อุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“ฮื่อ สมแล้วที่คุณชายหลินเป็นผู้ที่ถูกเลือกจากเทพีกระบี่ แม้แต่ยามที่กระบี่หลุดลอยออกจากมือ เขาก็ยังมีความสง่างามยิ่งนัก…” เจ้าสำนักสุราหมื่นไหพูดออกมาเสียงดัง
ศิษย์น้องหญิงเห็นดังนั้นก็รีบขยับตัวถอยหนีทันที เพราะไม่อยากถูกผู้คนจดจำได้ว่าตนเองมาที่นี่พร้อมกับเจ้าสำนักผู้นี้
“อุ๊วะฮ่าฮ่าฮ่า…”
เหลียงหยวนเตาระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ
“เป็นไงบ้าง หลินเป่ยเฉิน รู้แล้วใช่ไหมว่านี่จะต้องเป็นจุดจบของเจ้า…”
เขาพุ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่มพร้อมกับกระบี่กระดูกขาว
แต่ลมหายใจต่อมา หลินเป่ยเฉินผู้ที่ทำกระบี่สายฟ้าหลุดออกจากมือ กลับมีดวงตาทอประกายวูบวาบด้วยความมั่นใจในอะไรบางอย่าง
เด็กหนุ่มทำมือเป็นรูปทรงแปลกประหลาด
พริบตานั้น ได้ยินเสียงดังปังปังปังกลบเสียงพูดของเหลียงหยวนเตาหมดสิ้น
ปังปังปัง!
เสียงนั้นดังสะท้านสะเทือน
โลหิตสาดกระจายออกมาจากร่างกายเหลียงหยวนเตา
บัดนี้ หลินเป่ยเฉินยื่นมือซ้ายออกมาข้างหน้าเล็กน้อย คล้ายกับว่าเขากำลังถืออะไรบางอย่าง ในขณะที่มือขวายกขึ้นอยู่ในระดับช่วงท้องด้านล่าง นิ้วกลางนิ้วนางและนิ้วก้อยงอรวมกัน ในขณะที่นิ้วชี้หักงอมากกว่านิ้วอื่นคล้ายกับกำลังเกี่ยวรัดอะไรบางอย่าง
ในเวลาเดียวกันนี้ เด็กหนุ่มระเบิดเสียงคำรามออกมาด้วยความสะใจ “ย๊ากกก”
นี่คือการโจมตีที่คล้ายคลึงกับวิชาฝ่ามือลำแสงพิฆาต
เพียงแต่ว่ามีรายละเอียดบางอย่างแตกต่างกันไปเล็กน้อย
ขณะนี้ บรรดามือกระบี่ระดับยอดปรมาจารย์ต่างก็เห็นอย่างชัดเจนว่ามีพลังลมปราณจำนวนมากพุ่งออกมาจากเบื้องหน้าหลินเป่ยเฉิน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าพลังเหล่านั้นถูกยิงออกมาได้อย่างไร แต่มันก็พุ่งทะลวงร่างกายของเหลียงหยวนเตาด้วยความแม่นยำรุนแรง ม่านโลหิตสาดกระจายในอากาศไม่หยุดยั้ง เช่นเดียวกับเนื้อหนังและกระดูกที่ปลิวว่อนในอากาศ
และด้วยการจู่โจมที่ต่อเนื่องเช่นนี้เอง ต่อให้เหลียงหยวนเตามีความสามารถเยียวยาบาดแผลได้รวดเร็วขนาดไหน มันก็กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อีกแล้ว
ร่างกายของชายอ้วนเริ่มเผยให้เห็นถึงอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง