เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 795 ในที่สุดก็ตายจริงๆ ซักที ...ล่ะมั้ง
ตอนที่ 795 ในที่สุดก็ตายจริงๆ ซักที …ล่ะมั้ง?
ตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา เหลียงหยวนเตามีความสามารถในการลอกเลียนแบบวิชาการต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม แม้แต่เคล็ดวิชากระบี่ของเกาเฉิงฮั่นก็ถูกลอกเลียนแบบไปเช่นเดียวกัน แต่เกรงว่าการจะลอกเลียนแบบกระบวนท่าในวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรให้ได้ครบทุกท่านั้นคงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากเกินไป
นี่คือสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรนั้นไม่ธรรมดา
เสียเพียงอย่างเดียวคืออาจารย์ติงมอบคัมภีร์เล่มนี้มาให้เขาแค่ครึ่งเล่ม
หลินเป่ยเฉินกระชับด้ามจับกระบี่สายฟ้าในมือและใช้ออกมาด้วยสองสามกระบวนท่าแรกจากวิชากระบี่ 17 คาบสมุทรที่ตนเองสามารถใช้ได้อย่างชำนาญ
ด้วยร่างกายที่ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในขั้นเซียน ประกอบกับพลังปราณธาตุทั้งห้าชนิดที่อยู่ในตัว ใช้เวลาต่อสู้เพียงชั่วชงน้ำชาหนึ่งถ้วยเท่านั้น เหลียงหยวนเตาก็ไม่สามารถรับมือเด็กหนุ่มได้อีกแล้ว
และกระบวนท่าหลังๆ ของวิชากระบี่ 17 คาบสมุทร ก็คือสิ่งที่เหลียงหยวนเตาไม่สามารถลอกเลียนแบบได้อีกแล้วเช่นกัน
ควับ! ควับ! ควับ! ควับ!
เสียงคมกระบี่ตวัดตัดผ่านอากาศ
ร่างกายของเหลียงหยวนเตาพลันถูกฟันขาดเป็นหลายท่อนไม่ต่างจากแคร์รอทต้นหนึ่งด้วยฝีมือของหลินเป่ยเฉิน
“เป็นไปไม่ได้”
ทันใดนั้น เกาเฉิงฮั่นร้องอุทานออกมาเหมือนเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อบางอย่าง
เพราะสิ่งที่เกาเฉิงฮั่นพบเห็นก็คือ การโจมตีเมื่อสักครู่นี้ หลินเป่ยเฉินไม่ได้ใช้พลังปราณธาตุดิน ไม่ได้ใช้พลังปราณธาตุน้ำ
แต่เด็กหนุ่มใช้พลังปราณธาตุทองคำ
นี่มันอะไรกันเนี่ย…
เกาเฉิงฮั่นอ้าปากพะงาบๆ
นับเป็น… พลังปราณธาตุชนิดที่สามแล้วไม่ใช่หรือ?
เกาเฉิงฮั่นยกมือขยี้ตา และเมื่อเลือดกำเดาไหลออกจากจมูก ในที่สุด เขาถึงได้มั่นใจว่าสิ่งที่ตนเองเห็นคือความจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา
หลินเป่ยเฉินสามารถควบคุมพลังปราณธาตุได้ถึงสามชนิด
เจ้าเด็กหนุ่มหน้าขาวผู้นี้สามารถทำได้อย่างไรกัน?
เกาเฉิงฮั่นรู้สึกเพียงแต่ว่าความรู้เกี่ยวกับการฝึกวิทยายุทธ์ของเขาไม่สามารถนำมาใช้กับหลินเป่ยเฉินได้เลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า คราวนี้ล่ะ ถึงเวลาแก้แค้นของข้าบ้างแล้ว” เมื่อหลินเป่ยเฉินคำรามออกมาเสียงดัง เขาก็ตวัดกระบี่ตัดศีรษะของเหลียงหยวนเตาและจ้วงแทงหัวใจแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี
คมกระบี่สาดประกายวูบวาบ
เหลียงหยวนเตาเสียชีวิตลงเป็นครั้งที่แปด
ร่างกายที่เต็มไปด้วยเกล็ดสีดำตกลงไปในบ่อโลหิต
สภาพการตายในครั้งนี้น่าอนาถมากกว่าครั้งไหนๆ
ถึงแม้การฟื้นคืนชีพครั้งนี้จะทำให้เหลียงหยวนเตามีพลังต้านทานการโจมตีคู่ต่อสู้มากกว่าทุกครั้ง แต่สถานการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้นจนจบลง เหลียงหยวนเตาไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มได้อีกแล้ว
และจังหวะที่ศพของเหลียงหยวนเตาเลือนหายไป ทุกคนก็ได้แต่สงสัยว่าครั้งนี้ผู้เป็นท่านเจ้าเมืองจะถึงแก่ความตายจริงๆ หรือไม่?
หรือว่าเหลียงหยวนเตาจะฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นครั้งที่เก้า
หลินเป่ยเฉินยืนรออยู่ข้างบ่อโลหิตด้วยความตื่นเต้น
ครั้งนี้แตกต่างกว่าทุกครั้งตรงที่เด็กหนุ่มเฝ้าภาวนาขอให้เหลียงหยวนเตาฟื้นคืนชีพกลับมาพร้อมด้วยความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม เนื่องจากหลินเป่ยเฉินคิดจะอาศัยการต่อสู้กับเหลียงหยวนเตาขัดเกลาการใช้พลังปราณธาตุทั้งห้าชนิดของตนเองให้มีความคุ้นชินมากยิ่งขึ้น
หลินเป่ยเฉินตั้งใจจะใช้วิชากระบี่ 17 คาบสมุทรออกมาทุกกระบวนท่าในรวดเดียว
เขาตัดสินใจแล้ว
เมื่ออยู่ในขอบเขตพลังขั้นเซียน การใช้วิชากระบี่ 17 คาบสมุทรนอกจากจะช่วยมอบพลังการโจมตีที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นแล้ว มันก็ยังทำให้หลินเป่ยเฉินมีความสง่างามและดูหล่อเหลามากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน เพียงแต่ต้องขยันหมั่นฝึกซ้อมหน่อยเท่านั้นเอง…
ด้วยเหตุนี้ หลินเป่ยเฉินจึงยืนรอคอยอยู่ข้างบ่อโลหิตอย่างมีความสุข
“ดูเจ้าจะตื่นเต้นเหลือเกินนะ”
เกาเฉิงฮั่นโน้มตัวเข้ามาพูด
หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ก็ข้าถูกทนมันรังแกมาตั้งนาน นี่ก็ได้เวลาที่ข้าจะชำระแค้นเสียที”
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะชนะเหลียงหยวนเตาได้?”
เกาเฉิงฮั่นถามออกมาด้วยความพิศวง
หลินเป่ยเฉินพยักหน้าตอบว่า “ย่อมมั่นใจขอรับ”
เกาเฉิงฮั่นถอนหายใจออกมา “น้องชาย เจ้าช่างเป็นเด็กหนุ่มเลือดร้อนเหลือเกิน ว่าแต่ว่า… เจ้าสามารถควบคุมพลังปราณธาตุทั้งสามชนิดนั้นได้อย่างไร?”
หลินเป่ยเฉินยักไหล่และพูด “ก็ควบคุมธรรมดานี่แหละขอรับ ไม่เห็นมันจะเป็นเรื่องยากตรงไหน”
ฟังที่พูดเข้าสิ
เกาเฉิงฮั่นพยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้แสดงความหมั่นไส้ออกมาอย่างเต็มที่ “ไม่เลวเลย ถือว่าเจ้าเป็นยอดอัจฉริยะตัวจริง แต่อย่าเพิ่งได้ใจมากเกินไป นี่ก็แค่ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น อย่างน้อยข้าก็เคยรู้มาว่าก่อนหน้าเจ้า ยังมีบุคคลผู้หนึ่งที่นอกจากมีพลังขั้นเซียนแล้ว ยังสามารถครอบครองพลังปราณธาตุได้ถึงสองชนิดอีกด้วย”
“เอ๋?”
หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เขาคือใครหรือขอรับ?”
เกาเฉิงฮั่นตอบว่า “เว่ยหมิงเฉิน”
หืม?
คราวนี้หลินเป่ยเฉินเป็นฝ่ายที่ต้องชะงักบ้าง
ที่แท้ก็เป็นไอ้หมอนั่น
ดูท่าทางแล้วเว่ยหมิงเฉินมีความน่ากลัวไม่น้อยทีเดียว
นอกจากมีพลังอยู่ในขั้นเซียนเหมือนกันแล้ว
เว่ยหมิงเฉินก็ยังมีพลังปราณธาตุถึงสองชนิดอีกด้วย?
หรือว่าหมอนั่นมันก็มีโทรศัพท์มือถือให้ปั๊มพลังเหมือนกัน?
เด็กหนุ่มเหม่อมองหน้าเกาเฉิงฮั่นอย่างใช้ความคิด
เกาเฉิงฮั่นรีบพูดว่า “เจ้าอย่าได้มองข้าด้วยสายตาเช่นนี้ หากเจ้าไม่ได้เลื่อนระดับขึ้นมาอยู่ในขั้นเซียนเช่นกัน ข้าก็ไม่สามารถบอกความลับขั้นสูงสุดเช่นนี้ให้เจ้าได้รู้เด็ดขาด”
ทันใดนั้น หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
เว่ยหมิงเฉินมีสถานะเป็นมือกระบี่ผู้แข็งแกร่งจากเมืองไป๋หยุน คงมีหญิงสาวมากมายยอมพลีกายถวายชีวิตให้เขาไม่เลือกหน้า แล้วเหตุไฉนเว่ยหมิงเฉินถึงต้องคิดแย่งชิงหลิงเฉินไปจากเขาด้วย?
อ้อ หลินเป่ยเฉินลืมไปเลย เว่ยหมิงเฉินกับหลิงเฉินมีสัญญาหมั้นหมายอยู่ก่อนแล้ว เป็นเขาเองต่างหากที่ไปแย่งหลิงเฉินมาจากเว่ยหมิงเฉิน
แต่ถึงอย่างไรหลินเป่ยเฉินก็ยังยอมไม่ได้อยู่ดี
เห็นได้ชัดว่าการรับมือกับเว่ยหมิงเฉิน เขาคงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง
หากเว่ยหมิงเฉินไม่มีความมั่นใจในระดับพลังและขุมกำลังของตนเอง หมอนั่นก็คงไม่คิดโค่นล้มราชวงศ์แน่นอน เพราะต้องไม่ลืมว่าทางองค์จักรพรรดิก็มีผู้มีพลังขั้นเซียนคอยคุ้มครองอารักขาอยู่อีกหลายคนเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เว่ยหมิงเฉินมีพลังปราณธาตุแค่สองชนิด
ส่วนหลินเป่ยเฉินมีถึงห้าชนิด
ยังไงเขาก็ได้เปรียบอยู่เห็นๆ
เมื่อคิดได้ดังนี้ หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกโล่งอกมากขึ้น
รอให้สะสางเรื่องราวในนครเจาฮุยจบเสียก่อนเถอะ หลินเป่ยเฉินตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเดินทางไปที่มณฑลเฉียนเกา เพื่อเปิดโปงความชั่วร้ายของเว่ยหมิงเฉินให้ทุกคนได้รับรู้
เด็กหนุ่มพลันหันกลับไปมองบ่อโลหิตอีกครั้ง
เอ๊ะ?
นี่ก็ผ่านมาได้พักใหญ่แล้ว ทำไมเหลียงหยวนเตาถึงยังไม่ฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอีก?
บ่อโลหิตไม่มีความเคลื่อนไหว
ไม่มีฟองอากาศ
“เฮ้ย ช้าเกินไปแล้วนะ รีบๆ ออกมาได้แล้ว”
หลินเป่ยเฉินตะโกนใส่บ่อโลหิตขนาดใหญ่นั้น
ไม่มีการตอบสนอง
หรือว่าเหลียงหยวนเตาจะตายแล้วจริงๆ?
หลินเป่ยเฉินกวาดสายตามองทั่วพื้นผิวบ่อโลหิต ซึ่งกว้างใหญ่ราวกับทะเลสาบสีแดงเข้ม
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มถึงได้รู้ว่าเมื่อร่างที่แปดของเหลียงหยวนเตาตกตายลงไป เส้นรอบวงของบ่อโลหิตก็ลดขนาดลง ไม่ได้ใหญ่โตกว้างขวางเท่าเดิมอีกแล้ว
“สงสัยจะตายจริงๆ แล้วละ” ในดวงตาของเกาเฉิงฮั่นทอประกายวิบวับด้วยความดีใจ
ปรากฏว่าเหลียงหยวนเตาก็ยังคงสามารถตายได้เหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไปเช่นกัน
สร้างความผิดหวังให้แก่หลินเป่ยเฉินเป็นอย่างยิ่ง
“แค่นี้เองเหรอวะ?”
เด็กหนุ่มสบถด้วยความเสียดาย
น่าเจ็บใจจริงๆ
ความรู้สึกขณะนี้ไม่ต่างจากตอนที่เล่นเกมออนไลน์ เมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามไล่ตบตายมาตลอดหลายตา รอจนกระทั่งได้อาวุธวิเศษมาเตรียมเอาคืน ทว่า ผู้เล่นอีกฝ่ายกลับออกจากระบบไปหน้าตาเฉย…
“ข้าว่าเรารอกันอีกสักนิดเถอะขอรับ”
หลินเป่ยเฉินพูดด้วยน้ำเสียงขัดใจ
บางทีผู้เล่นอีกฝ่ายก็อาจแค่พักไปกินข้าว อีกไม่นานน่าจะเข้ามาเล่นเกมต่อ
แต่รอจนผ่านไปหนึ่งก้านธูปกันเต็มๆ ยังคงไม่มีวี่แววของเหลียงหยวนเตา
ในทางกลับกัน บ่อโลหิตที่กว้างขวางไม่ต่างจากทะเลสาบ ก็เริ่มลดขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้ง
“หรือว่าจะตายแล้วจริงๆ วะ?”
หลินเป่ยเฉินแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน
“เงียบหายไปเช่นนี้ ข้ามั่นใจว่าเหลียงหยวนเตาคงต้องตายแล้วแน่นอน”
เกาเฉิงฮั่นยิ้มกว้างและพูดต่อ “เหลียงหยวนเตาตายแล้ว เหลียงหยวนเตาตายแล้วจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า วิกฤตการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว… ข้าช่างโชคดีเหลือเกิน”
หลินเป่ยเฉินยืนมองบ่อโลหิตที่ลดขนาดลงเรื่อยๆ ด้วยความเร็วขั้นสูงสุด จากนั้น เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับความเป็นจริง
เหลียงหยวนเตาตายแล้ว
เขายังไม่ทันได้เอาคืนให้สาแก่ใจเลย
อีกอย่าง เหลียงหยวนเตาตายไปโดยที่หลินเป่ยเฉินยังไม่ทันได้ค้นหาสมบัติติดตัว