เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 155 ข้าสุดยอดทุกด้าน!
ซูอัน รู้สึกประทับใจกับคำพูดปลุกใจของ เจียงลั่วฝู เขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนั้นจริงใจกับเขา จริง ๆ อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่เขาเพิ่งมาเก่งกาจเอาตอนนี้มันค่อนข้างซับซ้อนเกินไป อย่างน้อย ๆ เขาก็ไม่สามารถบอกนางได้ว่า ซูอัน คนเก่านั้นเป็นขยะจริง ๆ ไม่ได้เสแสร้งเลยแม้แต่น้อย
ในท้ายที่สุด เขาทำได้แค่เปลี่ยนหัวข้อโต้แย้งเป็นแบบสุดโต่ง “ถ้าศัตรูของข้าคือจักรพรรดิ ท่านปกป้องข้าได้ด้วยรึเปล่า?”
เจียงลั่วฝู ที่ยังคงรู้สึกชื่นชมตัวเองที่คิดคำพูดสวยหรูเหล่านั้นออกมาได้ เมื่อได้ยินคำถามนี้ของซูอัน นางแทบจะสำลักทันที สีหน้าที่เคยเรียบเฉยของนางพลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ “เอ่อ…หากเป็นกรณีนั้น ข้าเกรงว่าข้าคงจะทำอะไรไม่ได้มากสักเท่าไหร่…แต่เดี๋ยวนะ เจ้าคิดว่าจักรพรรดิเป็นใคร? เจ้ามีความสามารถมากพอทำให้เขาจ้องจะเล่นงานเจ้าได้เลยงั้นเหรอไง?”
“ข้าล้อเล่น! ท่านลืมมันไปก็แล้วกัน เอาเป็นว่าข้าจะเก็บคำพูดของท่านเอาไว้ในใจและทำ ทุกอย่างที่จำเป็น เอาล่ะ ข้าคิดว่าข้าควรจะกลับไปเรียนได้แล้ว” ซูอัน ตอบกลับ
เจียงลั่วฝู กระดิกนิ้วของนาง “เจ้าลืมอะไรไปรึเปล่า?”
ซูอัน เอนศีรษะไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว เขากำลังสงสัยว่านางกำลังขอจูบลาจากเขาใช่ไหม? เสน่ห์ของเขามันร้ายแรงขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?
เจียงลั่วฝู ขมวดคิ้วและเบี่ยงตัวหลบทันที เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างพวกเขาสองคน “เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้า! ข้าหมายถึงเงิน 7,500,000 ตำลึงเงินที่เจ้าสัญญาเอาไว้ต่างหาก ไหนมันอยู่ที่ไหน?”
ในที่สุด ซูอัน ก็รู้ว่านางหมายถึงอะไร เขาถอดรองเท้า จากนั้นดึงตั๋วหนี้ออกมาวางลงบนโต๊ะด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน
“…” เจียงลั่วฝู
คิ้วของ เจียงลั่วฝู ขมวดเข้าหากันแน่นเป็นปมจากนั้นนางค่อย ๆ ใช้ด้านท้ายของพู่กันที่อยู่บนโต๊ะเขี่ยตั๋วหนี้ที่พับอยู่ให้เปิดออก “นี่มันตั๋วหนี้นี่นา?”
“ด้วยอิทธิพลของสถาบันและความเฉลียวฉลาดของท่านอาจารย์ใหญ่ ข้าแน่ใจว่ามันคง ไม่ยากแน่นอนที่ท่านจะทวงหนี้จากสำนักดอกบ๊วยได้สำเร็จ” ซูอัน หัวเราะแห้ง ๆ พลางตอบกลับ
“ข้าก็สงสัยอยู่ว่าทำไมเจ้าถึงใจกว้างได้ขนาดเงินจำนวนมากให้กับสถาบัน… เฮ้อ ช่างเถอะ ๆ เมื่ออาจารย์ข้าเองก็รู้สึกแย่นิดหน่อยที่ข้าเอาเปรียบเจ้าเกินไป เอาเป็นว่าแบบนี้มันก็ถือว่าพวกเราหายกันก็แล้วกัน ข้าจะช่วยเจ้าจัดการกับเรื่องคู่ประลองของเจ้าให้ เอาล่ะ ตอนนี้เจ้ากลับไปเรียนได้แล้ว” เจียงลั่วฝู เอ่ยขึ้นพลางโบกมือไล่
“ทราบแล้ว! งั้นข้าขอตัวก่อนก็แล้วกันนะท่านอาจารย์ใหญ่สุดสวย!” ซูอัน โบกมือก่อนที่จะวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
ริมฝีปากของ เจียงลั่วฝู ขดเป็นรอยยิ้มเล็กน้อยขณะที่นางพึมพำเบา ๆ “ช่างเป็นเด็กที่น่าสนใจจริง ๆ ”
แต่เมื่อหันกลับมามองดูตั๋วหนี้อีกรอบที่เพิ่งออกมาจากรองเท้าของซูอันแบบสดร้อย ๆ รอยยิ้มของนางก็เปลี่ยนเป็นแข็งค้างทันที อาจเป็นเพียงจินตนาการของนาง แต่นางรู้สึกเหมือนว่าได้กลิ่นเหม็นจากมัน อาจารย์สาวพลังชี่ของนางพยายามทำความสะอาดมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะโยนพู่กันที่นางใช้เขี่ยมันในตอนแรกทิ้งลงถังขยะไป
ในขณะเดียวกัน ซูอัน ก็เดินกลับห้องเรียนของเขาไปด้วยสีหน้าสบายใจที่ในที่สุดเขาก็สามารถขจัดตั๋วหนี้นั่นออกไปได้โดยที่เขาได้รับการตอบแทนเป็นการช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิ์เข้าไปในมิติลับได้ง่ายขึ้น
จนเมื่อเขา มาถึงห้องเรียน ทุกคนก็เข้าสู่บทเรียนกันแล้ว อาจารย์ผู้สอนเป็นชายวัยกลางคนร่างผอมที่มีผมเป็นมันเงา
ซูอัน แอบย่องไปที่ที่นั่งของเขาอย่างเงียบเชียบ แต่ในทันใด ก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าห้อง “ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามาในห้องเรียน!”
เสียงดังนี้ทำให้นักศึกษาที่กำลังกรนหลายคนตื่นขึ้น ทุกคนรีบหันไปมอง ซูอัน อย่างรวดเร็ว
ซูอัน คิดว่ามันน่าหัวเราะเล็กน้อยที่อาจารย์ผู้สอนคนนี้ตวาดใส่เขาอย่างกะทันหัน “ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าท่านกำลังจดจ่ออยู่กับกระดาน ข้าเลยไม่อยากจะรบกวนท่านจึงเลือกที่จะเข้าห้องมาแบบเงียบ ๆ ”
“อย่างน้อยที่สุดถ้าเจ้ามาสายเจ้าก็ควรตะโกนรายงานข้าก่อนเข้าห้องเรียน ไม่ใช่จู่ ๆ ก็แอบเข้ามาแบบนี้ การกระทำของเจ้าเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรกับการดูหมิ่นข้าซึ่งเป็นอาจารย์ผู้สอนของเจ้า!” อาจารย์ผู้สอนตวาดขึ้นเสียงด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
ซูอัน รู้สึกโกรธเล็กน้อยพลางคิดในใจ ทำไมไอ้อาจารย์คนนี้ถึงต้องทำเรื่องเล็ก ๆ ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ด้วย? ข้าไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ ทำไมเขาถึงแสดงความเป็นศัตรูกับข้า แบบนี้?
นักศึกษาส่วนใหญ่ในชั้นเรียนรู้สึกยินดีที่เห็น ซูอัน ถูกต่อว่าเช่นนี้ หลายคนยังตกอยู่ในความสิ้นหวังกับการที่เมื่อหลายวันก่อนเห็นว่า ซูอัน มีหญิงสาวในสิบอันดับสุดยอดสาวงามถึง 3 คนให้ความช่วยเหลือซึ่งมันทำให้พวกเขาอิจฉาเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสุขมากที่เห็นคนที่พวกเขาหมั่นไส้ต้องทนทุกข์
ซูอัน ตอบกลับอย่างสบาย ๆ ว่า “ข้ามาสายเพราะอาจารย์ใหญ่เจียงเรียกข้าไปคุยกับนาง อ้อ หากท่านไม่เชื่อข้า ท่านสามารถไปถามอาจารย์ใหญ่เจียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย”
ชายวัยกลางคนสำลักคำพูดของ ซูอัน ‘ไอ้เด็กคนนี้คนนี้พยายามดึงนำอาจารย์ใหญ่เข้ามาเอี่ยวในเรื่องนี้ ?’
ท่านยั่วยุ หยางเว่ย สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +44!
เมื่อได้ยินเช่นนี้หยางเหว่ยก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ไอ้เด็กคนนี้มันเกี่ยวข้องกับอาจารย์ใหญ่เจียงจริง ๆ งั้นเหรอ? ที่ผ่านมาข้าไม่เคยเห็นนางยุ่งเกี่ยวกับนักศึกษาคนไหนมาก่อนเลย ในตอนแรกข้าคิดว่าไอ้เด็กนี่เป็นแค่นักศึกษาธรรมดา ๆ เท่านั้น การจัดการกับมันคงไม่ได้ยากอะไรเท่าไหร่ดังนั้นข้าจึงตกลงที่จะรับงานนี้แบบง่าย ๆ แต่แล้ว ไหงตอนนี้เรื่องมันกลับซับซ้อนกว่าที่ข้าคิดแบบนี้ล่ะเนี่ย!
แต่มันสายเกินไปแล้วที่จะเปลี่ยนใจตอนนี้
“เหตุใดอาจารย์ใหญ่เจียงจึงเรียกเจ้าไปพบ?” หยางเว่ย ถามขึ้นโดยหวังว่าจะได้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างซูอันกับอาจารย์ใหญ่ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ซูอัน ยักไหล่ “นางแค่ถามข้าว่าชีวิตในสถาบันเป็นอย่างไรบ้าง และข้าปรับตัวเข้ากับชีวิตในสถาบันได้ดีไหมก็แค่นั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางเว่ย ก็ยิ่งรู้สึกหนักใจมากยิ่งขึ้น “เอาล่ะ งั้นเจ้ากลับไปนั่งที่ของตัวเอง ได้แล้ว”
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มสอนต่อ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ซูอัน กับอาจารย์ใหญ่เจียง มันเป็นยังไงกันแน่ อาจารย์ใหญ่เจียงที่เขารู้จักไม่ใช่คนที่จะใส่ใจอะไรกับนักศึกษามากนักแต่ในทันใด เขานึกขึ้นได้ว่าอาจารย์ใหญ่เจียงอยู่คนเดียวมาหลายปีแล้ว นอกจากเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ในอีกชั้นเรียน มันก็ดูเหมือนว่านางไม่มีญาติหรือเพื่อนเลย นางจะเกี่ยวข้องกับ ซูอัน ได้อย่างไร?
เป็นไปได้มากว่ามันน่าจะเป็นเพราะ อ๋องฉู่ ขอให้นางดูแล ซูอัน ดังนั้นนางจึงน่าจะเรียกเขาไปเพื่อถามไถ่ให้ผ่าน ๆ ไปก็เท่านั้นเอง ฮึ่ม! ข้าเกือบโดนไอ้เด็กนี่หลอกแล้วไหมล่ะ!
ท่านยั่วยุ หยางเว่ย สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +58!
ซูอัน รู้สึกงุนงง ไอ้อาจารย์คนนี้มันเป็นบ้าอะไรของมัน ทำไมอยู่ดี ๆ มันก็โกรธข้าขึ้นมา อีกรอบแบบนี้?
“ลูกพี่ ท่านสุดยอดมาก ๆ เลยท่านรู้ตัวรึเปล่า!” เว่ยสั่ว พูดขึ้นพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ ซูอัน
“มีหลายสิ่งที่ข้าสุดยอด ว่าแต่เจ้าหมายถึงด้านไหน?” ซูอัน ถามกลับทันที
เว่ยสั่ว ยกนิ้วให้กับความไร้ยางอายที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้… ลูกพี่ของข้านี่ช่างเหลืออดเหลือทนจริง ๆ! “จะมีเรื่องไหนอีกล่ะลูกพี่ มันก็เรื่องที่ท่านไปชนะบ่อนจนได้เงินตั้ง 7,500,000 ตำลึงเงิน ยังไงล่ะ! ท่านรู้รึเปล่าว่าวีรกรรมของท่านเรื่องนี้มันแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว และทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าท่านมันสำเร็จได้ยังไง!”
ซูอัน หัวเราะพร้อมกับตอบท่าทีถ่อมตัว “โธ่ ๆ มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก มันก็แค่หนึ่งในความสามารถที่ข้าซ่อนเอาไว้ตลอดไม่อยากให้ใครรู้ก็เท่านั้นเอง!”