เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 309 เจ้าหลอกข้างั้นเหรอ
บทที่ 309 เจ้าหลอกข้างั้นเหรอ?
ซูอันอังนิ้วตรงจมูกของเฉียวเสวี่ยอิงและสังเกตเห็นว่าการหายใจของนางตอนนี้แผ่วเบามาก
เลิกคิดที่จะทำลายผนึกสวรรค์ได้เลย และต่อให้เขาพานางออกไปจากที่นี่ในทันทีก็ไม่แน่ว่านางจะมีชีวิตอยู่นานพอจะพบกับคนที่สามารถช่วยชีวิตนางได้
ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะหยุดอยู่กับที่ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ใช้คะแนนความโกรธแค้นทั้งหมดสุ่มรางวัลโดยหวังว่าเขาจะได้บางสิ่งบางอย่างเพื่อช่วยชีวิตนาง ตนเคยสุ่มได้ ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ มาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นจึงยังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว
และถ้าเขาสุ่มบางอย่างออกมาช่วยจัดการกับผนึกสวรรค์ได้ นั่นจะดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะแค่ผนึกปฐพีเองก็เกือบจะฆ่าพวกเขาทั้งคู่ได้แล้ว แน่นอนว่าผนึกสวรรค์ย่อมยากขึ้นไปอีก
เหตุผลที่เขาสุ่มรางวัลในตอนนี้ เพราะเขาไม่อยากทำต่อหน้าหมี่ลี่ ซูอันจึงตั้งใจไว้ชีวิตทหารราบดินเผาตัวสุดท้ายชั่วคราวเพื่อที่จะได้ไม่ถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากผนึกปฐพีหลังจากที่ทำลายผนึกได้สำเร็จ
ในขณะนี้ชายหนุ่มมีคะแนนความโกรธแค้น 49,217 แต้ม ซึ่งน้อยกว่าครั้งก่อน ๆ ที่เขาจะสุ่มรางวัล ทหารราบดินเผาที่ขาดสติปัญญามอบคะแนนความโกรธให้กับเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น…
ในตอนนี้เขาสามารถสุ่มรางวัลได้ 492 ครั้ง ซูอันไม่สนใจที่จะทำพิธีเอาฤกษ์เอายามตามปกติอีกต่อไปเนื่องจากชีวิตของเฉียวเสวี่ยอิงแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขารีบสุ่มรางวัลทันที
ขอบคุณที่ร่วมสนุก… ขอบคุณที่ร่วมสนุก… ผลไม้พลังชี่… ขอบคุณที่ร่วมสนุก…
ซูอันมักจะรู้สึกหดหู่เมื่อเขาได้รับข้อความ ‘ขอบคุณที่ร่วมสนุก’ แต่ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะหดหู่อีกต่อไป เขายังคงสุ่มรางวัลซ้ำแล้วซ้ำอีก สวดอ้อนวอนอย่างหนักเพื่อให้ได้อะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์…
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รับ ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ หรือของวิเศษหรือทักษะใด ๆ เขาได้รับเพียงผลไม้พลังชี่เท่านั้น… แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้!
ตอนนี้เหลือจำนวนครั้งการสุ่มอีกเพียงสองครั้งเท่านั้น
“บัดซบ ข้าคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง? ได้โปรดเถิด จักรพรรดิหยก พระโคตมะพุทธเจ้า และเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดในโลกใบนี้ โปรดประทานพรให้ข้าได้ ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ ในการสุ่มรางวัลครั้งนี้ด้วย!” ซูอันอธิษฐาน
อย่างไรก็ตาม ผลการสุ่มรางวัลครั้งต่อไปยังคงเป็น ‘ขอบคุณที่ร่วมสนุก’
ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามสวดอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ เขาพึมพำซ้ำไปซ้ำมา “พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เบื้องบนโปรดอวยพรข้า ข้าไม่ต้องการของวิเศษที่เลิศเลอมากมายในครั้งต่อไป ขอแค่ข้าได้ ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ ก็พอในครั้งนี้! เอ๊ะ ไม่สิ ๆ ข้าขอต่อรองเพิ่มก็ได้ สามครั้งต่อไปที่ข้าสุ่มรางวัลในอนาคต ข้าไม่ขอได้รับอะไรเลยก็ได้ขอเพียงแค่ครั้งนี้ให้ข้าสมหวังก็พอ!”
ถึงแม้เขารู้สึกว่าตนเองอาจจะสูญเสียโอกาสครั้งใหญ่ในสามครั้งต่อไปจากนี้ขณะที่ชายหนุ่มกำลังอธิษฐาน เมื่อคิดถึงเฉียวเสวี่ยอิงที่เสียสละอายุขัยของนางครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยเขาและขณะนี้ใกล้จะถึงตายแล้ว ก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็ควรทำสิ่งนี้เพื่อนาง…
เขาไม่เคยรู้สึกลำบากใจกับการสุ่มรางวัลเท่านี้มาก่อน
มืออันสั่นเทาของเขากดลงบนแป้นพิมพ์ และเครื่องหมายไฟเริ่มเคลื่อนไปทั่ว ในที่สุดเมื่อมันหยุดที่หมายเลข ‘1’
ชายหนุ่มประทับใจมากจนน้ำตาไหล “โอ้สวรรค์…ดูเหมือนว่าข้ายังเป็นคนโปรดของท่าน!”
แต่เมื่อมองจากอีกมุมมองหนึ่ง ความจริงที่ว่าในช่วงสามสี่ร้อยครั้งที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับอะไรดี ๆ เลย แต่กลับมาได้เอาตอนที่เขาอธิษฐานขอแลกกับโชคดีในสามครั้งถัดไป ทำให้เขารู้สึกเหมือนโชคชะตากำลังเล่นตลก
ซูอันรีบเท ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ เข้าไปในปากเฉียวเสวี่ยอิง ร่างกายของนางสั่นสะท้าน ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เฉียวเสวี่ยอิงกำลังหมดสติอยู่ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถกลืนของเหลวได้ด้วยตัวเอง ไม่นานยาเริ่มหยดจากมุมริมฝีปากของนาง…
ซูอันปวดใจ บัดซบเอ๊ย! ยานี่ราคาแพงยิ่งกว่าทองซะอีก! เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงทำได้เพียงเทยาเข้าปากของตัวเองก่อนป้อนยาแบบปากต่อปากให้กับนางทีละนิด
ด้วยกลัวว่าน้ำยาอันล้ำค่าจะรั่วไหลออกมา เขาจึงไม่กล้าขยับปากออก มองภายนอกดูเหมือนคู่รักกำลังจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม…
‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ ให้ผลที่วิเศษเช่นเคย ไม่นานนักหลังจากที่ดื่มยาลงไป เฉียวเสวี่ยอิงก็เริ่มลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรกที่เห็นคือซูอันกำลังจุมพิตนางอยู่ ทำให้นางตกตะลึงกับภาพที่เห็นครู่หนึ่งก่อนจะรีบผลักเขาออกไปทันทีและตะโกนว่า “เจ้าทำบ้าอะไร?!”
ขณะที่นางพูด นางยกแขนขึ้นเพื่อเช็ดปากที่เปียกชื้นโดยไม่รู้ตัว
—
ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 123!
—
“เช็ดปากทำไม! นั่นยาทั้งนั้น!” ซูอันอุทาน “ข้ายังไม่ได้บ่นเรื่องความเหม็นของน้ำลายเจ้า แต่เจ้าทำเหมือนว่าข้าเอาเปรียบเจ้างั้นเหรอ ทำคุณบูชาโทษชัด ๆ?”
เฉียวเสวี่ยอิงโกรธจนตัวสั่น “ไอ้วิปริต! ทั้ง ๆ ที่ข้าไม่ได้สติทำไมถึงมาฉวยโอกาสกันแบบนี้!”
—
ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 168!
—
ผู้หญิงคนนี้นี่ยังไง? นางโกรธมาก แต่นางให้คะแนนความโกรธแค้นแก่ข้านิดเดียว? ปกติมันต้อง + 999 ไม่ใช่เหรอ?
“อะไรที่เจ้าเรียกว่า ‘ฉวยโอกาส’? ข้าพยายามช่วยเจ้านะ! ก็เจ้าไม่ยอมกลืนยาที่ข้าเทใส่ปากให้ ข้าก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากป้อนยาด้วยปากอย่างที่เจ้าไม่พอใจนั่นแหละ!”
หญิงสาวตกตะลึง นางรู้สึกถึงรสยาที่ปลายลิ้น และดูเหมือนว่ายาจะมีคุณภาพสูงมาก นางไม่เคยดื่มอะไรที่มีฤทธิ์ในการรักษาแรงขนาดนี้มาก่อน
นางรู้สึกได้ว่าร่างกายส่วนใหญ่ฟื้นตัวแล้ว แม้แต่รอยแผลจากลูกธนูที่ไหล่ของนางก็ไม่เจ็บอีกต่อไป เหลือแต่อาการคันซึ่งเป็นสัญญาณว่าแผลกำลังอยู่ในระหว่างการฟื้นตัว
เมื่อนางรู้ว่าตัวเองเข้าใจอีกฝ่ายผิด นางก็พูดกระอึกกระอักว่า “อ่า… ข้าขอโทษ ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจว่าผู้หญิงคนไหน ๆ ก็จะต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้”
“นั่นเป็นเพราะพวกนางเป็นคนแปลกหน้า แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราสองคนจูบกัน ทำไมเจ้าถึงรู้สึกขุ่นเคืองข้าอีก?” ซูอันตอบโต้
เฉียวเสวี่ยอิงหน้าแดง “จะเหมือนกันได้ยังไง? ข้าทำเพื่อช่วยเจ้า ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะจูบเจ้าหรืออะไรจริง ๆ สักหน่อย!”
ซูอันรู้สึกผิด “ข้าเองก็ทำเพื่อจูบเจ้า…อ…เอ๊ย! ข้าตั้งใจจะช่วยเจ้าเหมือนกันต่างหาก!”
เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นางผละออกจากอ้อมแขนของซูอันเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างตัวเองกับเขา “เอาเป็นว่า ข้าจูบเจ้าก่อนหน้านี้เพื่อใช้ ‘สายสัมพันธ์ครึ่งชีวิต’ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เราไม่ใช่คู่รักกัน ดังนั้นโปรดอย่าจูบข้าโดยไม่มีเหตุผลอีก”
“อย่าจูบแบบไม่มีเหตุผลเหรอ?” ชายหนุ่มรู้สึกขบขันกับคำพูดนั้น “พูดอีกอย่างก็คือ ข้าจูบเจ้าได้เท่าที่มีเหตุผลอันสมควรหรือถ้าเจ้ายินยอมใช่ไหม?”
เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกสับสนกับความหมายทั้งหมดที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ นางตอบอย่างเหลืออด “ข้าจะยินยอมได้ยังไง?”
“พูดยาก” ซูอันพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา ดังนั้นนางจึงเมินไปทางอื่นและบ่นว่า “ไม่มีอะไรแบบนั้นแน่นอน… หืม? เดี๋ยวนะ…”
นางหันมาจ้องมองเขาเมื่อนางนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ถ้าเจ้ามียาทำไมเจ้าไม่เอามันออกมาใช้ตั้งแต่แรก? เจ้าตั้งใจหลอกให้ข้าใช้ ‘สายสัมพันธ์ครึ่งชีวิต’ งั้นเหรอ?”
—
ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666!
—
ในใจของนางเต็มไปด้วยการคาดเดาร้อยแปด นี่ข้าเสียท่าแผนการที่น่ารังเกียจของไอ้วิปริตนี่จริง ๆ เหรอ? นั่นมันครึ่งชีวิตของข้าเชียวนะ!
“เจ้าอย่าใส่ร้ายข้า! ข้าเพิ่งได้มันมาต่างหาก ถ้าข้ามีมันมาตลอด ข้าคงใช้มันไปนานแล้ว ข้าไม่ยอมเสี่ยงตายเหมือนก่อนหน้านี้หรอก! อีกอย่างนะ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้ามีทักษะลับ ‘สายสัมพันธ์ครึ่งชีวิต’ อะไรนั่นตั้งแต่แรก ดังนั้นข้าจะหลอกให้เจ้าใช้มันได้ยังไง?”
เฉียวเสวี่ยอิงคิดว่าข้อโต้แย้งนี้สมเหตุสมผลเช่นกัน ‘สายสัมพันธ์ครึ่งชีวิต’ เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง แม้แต่ซือคุนก็ไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ซูอันจะรู้ถึงการมีอยู่ของมัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อนางมองไปโดยรอบ นางก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย “ถ้างั้นเจ้าได้ยามาจากไหนกัน? แถวนี้ก็ไม่มีใครนี่นา?”
“ข้ามีวิธีของข้า เช่นเดียวกับที่เจ้ายอมจ่ายราคาแพงเพื่อใช้ ‘สายสัมพันธ์ครึ่งชีวิต’ ข้าก็ต้องจ่ายราคาแพงสำหรับยานี้เช่นกัน!”