เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 539 ขอความช่วยเหลือ
บทที่ 539 ขอความช่วยเหลือ
บทที่ 539 ขอความช่วยเหลือ
ซูอันรู้สึกอับอาย “อ…เอ่อ ว่าแต่เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรนะ?”
ฉู่ชูเหยียนกำลังจะตอบ แต่ดวงตาของนางกลับแข็งค้างและแก้มของนางก็ร้อนจนแทบไหม้ก่อนจะรีบพูดเตือนเสียงดัง “เจ้าใส่เสื้อผ้าซะก่อน! เราจะรอเจ้าข้างนอก!”
ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันทุกคืน ดังนั้นนางจึงรู้นิสัยของสามีได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนี้ชอบนอนเปลือยกาย และนางไม่ต้องการให้แม่ของนางเห็นว่ามีอะไรอยู่ใต้ผ้าห่ม!
ฉินหว่านหรูได้แอบเห็นส่วนนูนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางผ้าห่มแล้ว ในฐานะผู้หญิงที่มีประสบการณ์ นางจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรได้อย่างไร?
แม้แต่หัวใจของฉินหว่านหรูก็เริ่มเต้นแรงเมื่อนางเดาได้ถึงขนาดที่เกินจริงของมัน นางหันกลับไปอย่างแข็งทื่อแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย
ทันใดนั้น นางก็เข้าใจชัดเจนว่าทำไมลูกสาวผู้แสนเย็นชาและจองหองของนางถึงถูกชายคนนี้ปราบจนสำเร็จ
ความคิดที่ว่าลูกสาวของนางซึ่งมีความโดดเด่นในทุก ๆ ด้าน ถูกบังคับให้ยอมจำนนด้วยวิธีการที่เรียบง่ายและหยาบคายเช่นนี้ มันน่าขยะแขยงจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อความโกรธของนางหมดไป นางเริ่มยอมรับมุมมองของลูกสาว ท้ายที่สุด ประสบการณ์ของนางได้สอนนางว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น แรงดึงดูดทางกายภาพยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด…
ซูอันแต่งตัวและเดินออกมาหลังจากนั้นไม่นาน ไม่มีร่องรอยของความเขินอายปรากฏบนใบหน้าของตัวเองอีกแล้ว
ฉินหว่านหรูถอนหายใจ ลูกเขยคนนี้ช่างหน้าด้านจริง ๆ!
กลับเป็นฉู่ชูเหยียนที่ดูเขินอายแทน “อาซู โปรดมากับข้าสักครู่ เราต้องขอความช่วยเหลือจากใครบางคน”
ฉินหว่านหรูพูดขึ้นเสริมเช่นกัน “ใช่ ไม่มีทางที่เราจะสามารถรวบรวมเงินได้สิบหกล้านตำลึงด้วยตัวเอง ดังนั้นเราต้องขอยืมเงินจากผู้อื่น ตระกูลฉู่ของเรามีเมตตาต่อผู้อื่นมาหลายปีแล้ว ดังนั้นคราวนี้คงจะมีผู้ที่พอจะให้ความช่วยเหลือแก่เราได้บ้าง”
อย่างไรก็ตามในใจของซูอันกลับรู้สึกเย้ยหยันเมื่อได้ยินคำพูดของแม่ยายตัวเอง เขาคิดว่าแค่ไม่มีใครเหยียบซ้ำในขณะที่ตระกูลฉู่กำลังล้มลงก็ดีมากแล้ว แต่แน่นอนเขาเก็บความคิดนี้ไว้กับตัวเอง และสิ่งที่เขาตอบกลับคือ “เข้าใจแล้ว!”
ขณะที่ทั้งสองออกเดินทาง ซูอันก็ถามขึ้น “เราจะไปที่ไหนกัน?”
“สถาบันจันทร์กระจ่าง!” ฉู่ชูเหยียนมองไปยังตึกที่อยู่ไกลออกไป
“สถาบัน?” ซูอันตกใจมาก พวกเขาจะมุ่งหน้าไปสถาบันจันทร์กระจ่างในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
“เราได้บริจาคเงินจำนวนมากให้กับสถาบันจันทร์กระจ่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” ฉู่ชูเหยียนอธิบาย “ตระกูลฉู่รักษาความสัมพันธ์อันดีกับสถาบันจันทร์กระจ่างมาโดยตลอด ซึ่งการไปที่นั่นเป็นที่แรกน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด”
ซูอันเข้าใจมากขึ้น แต่ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงที่มีความสุขก็ดังขึ้นไม่ห่างจากเขาเท่าไหร่ “พี่ใหญ่ ท่านจะไปสถาบันจันทร์กระจ่างกับเราด้วยงั้นเหรอ?”
ฉู่ฮวนเจาคว้ามือของฉู่ชูเหยียนไว้
“ใช่ ข้ากำลังจะไปสถาบันจันทร์กระจ่าง” ฉู่ชูเหยียนลูบหัวน้องสาวของนางอย่างเอ็นดู
“นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้ไปสถาบันจันทร์กระจ่างกับพี่ใหญ่!” ฉู่ฮวนเจา กล่าวว่าเสียงของนางแต่งแต้มด้วยความคิดถึง
ฉู่ชูเหยียนตอบกลับด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “สองสามปีมานี้ ข้ายุ่งมากจนไม่มีเวลาที่จะไปเป็นเพื่อนเจ้า”
ฉู่ฮวนเจาส่ายหัว “ท่านต้องดูแลเรื่องสำคัญของตระกูลอยู่ตลอด! ข้าจะกล้ารบกวนท่านได้ยังไง?’
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกประหลาดใจ นางลูบหัวน้องสาวแล้วพูดว่า “ฮวนเจาของข้าโตขึ้นแล้ว”
ฉู่ฮวนเจาหน้าบึ้ง “ทำไมท่านกับพี่เขยชอบจับหัวคนอื่น? ข้าใช้เวลาทั้งเช้าจัดผมของข้า ท่านรู้บ้างไหม?”
ฉู่ชูเหยียนเหลือบมองซูอันโดยไม่รู้ตัว ผู้ชายคนนี้เคยลูบหัวน้องสาวของนางด้วยเหรอ?
ซูอันสะดุ้งโหยง “อย่าเข้าใจสิ่งที่นางพูดผิดไป! ข้าแค่ลูบหัวนางแบบนี้”
เขาเอื้อมมือไปขยี้ผมของฉู่ฮวนเจาทำให้ดูเหมือนรังนก
ฉู่ฮวนเจาเกือบจะระเบิดด้วยความโกรธ
“พี่เขยหน้าเหม็น!”
—
ท่านยั่วยุฉู่ฮวนเจาสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 333!
—
ครั้งนี้ฉู่ฮวนเจาโกรธจริง ๆ นางวิ่งไล่ตีซูอันอย่างไม่ลดละ
ฉู่ชูเหยียนยิ้มเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังเล่นกัน ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่พวกเขาจะใกล้ชิดกัน ตระกูลของพวกนางต้องการความอบอุ่นแบบนี้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม หัวใจของนางก็เย็นชาเมื่อนึกถึงอาสองและอาสามของนาง
หลังจากฉู่ฮวนเจาไล่ตามเขาไปสักพัก ความโกรธของนางก็หายไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็วิ่งกลับไปคว้าแขนพี่ใหญ่ของนาง
“หยุดตรงนั้นเลย! เจ้ากำลังสัมผัสภรรยาของข้า อย่าพยายามขโมยนางไปจากข้า!” ซูอันแทรกเข้าไประหว่างพวกนางและเอามือโอบไหล่แต่ละข้างของพวกนางเอาไว้
“ท่านมันขี้งก!” ฉู่ฮวนเจาบ่น อย่างไรก็ตามนางก็พิงไหล่เขา
ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะ ช่วยทำตัวสุภาพหน่อย!”
เสียงของซูอันไม่พอใจ “การโอบไหล่ภรรยาตัวเองในที่สาธารณะมีอะไรไม่เหมาะสม?”
ฉู่ชูเหยียนหน้าแดง และไม่ได้โต้แย้งอะไร
ดวงตาของเฉิงโซวผิง เจียวซานเหอ และผู้ติดตามคนอื่น ๆ ของพวกเขาเบิกกว้าง พวกเขาคาดหวังอย่างเต็มที่ว่าคุณหนูใหญ่จะโกรธเกรี้ยว เมื่อ ซูอันกอดพวกนางพี่น้องอย่างโจ่งแจ้ง ใครจะรู้ว่านางจะยอมเงียบ ๆ
เฉิงโซวผิงหัวเราะคิกคักขณะที่เขายักคิ้วไปทางคนอื่น ๆ และพูดเสียงเบา “ดูเหมือนว่าเราไม่ต้องรออีกแล้ว จ่ายมา! จ่ายมา!”
ดูเหมือนว่าพวกเขาบางคนจะเดิมพันกันว่าซูอันจะลงเอยด้วยการแต่งงานกับคุณหนูรองด้วยอีกคนหรือไม่ ซึ่งเฉิงโซวผิงน่าจะเป็นฝั่งที่เดิมพัน ‘ทั้งสองพี่น้อง’
แม้ว่าเจียวซานเหอและคนอื่น ๆ จะเห็นว่าคุณหนูรองและนายน้อยใกล้ชิดกันแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะออกมาเหมือนที่เฉิงโซวผิง ทำนายไว้ เพราะซูอันมีฉู่ชูเหยียนอยู่แล้ว และตระกูลฉู่ก็มีชื่อเสียงให้ต้องรักษา
เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกันดังนั้นการพนันจึงบังเกิด
เฉิงโซวผิงยืนยันว่าคุณหนูรองก็จะเป็นของนายน้อยด้วยเช่นกัน เจียวซานเหอและคนอื่น ๆ ไม่เห็นด้วย ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงเต็มใจลงเดิมพันอย่างมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจียวซานเหอและคนอื่น ๆ ยังคงดื้อรั้นปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ “ฮึ่ม! พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกัน เราจะสรุปผลลัพธ์ได้ยังไง?”
“เจ้าลองดูให้ดี ๆ สิ!” เฉิงโซวผิงอารมณ์เสีย
เจียวซานเหอปกป้องตัวเอง “ข้า เจียวซานเหอ ดูเหมือนคนที่ไม่ยอมรับความจริงงั้นเหรอ? แต่สิ่งที่ข้าเห็นตอนนี้เป็นเพียงการพิสูจน์ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันยังไม่ใช่บทสรุป!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกทหารคุ้มกันคนอื่น ๆ ก็เริ่มแสดงความคิดเห็นของตัวเองขึ้นมาบ้าง
ฉู่ชูเหยียนหันกลับมา “พวกเจ้าคุยอะไรกันอยู่?”
“ม…ไม่มีอะไรคุณหนูใหญ่!” ทุกคนตื่นตกใจและหุบปาก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณหนูใหญ่จัดการกิจการส่วนใหญ่ของตระกูลฉู่ นางได้รับความเคารพและเคารพนับถืออย่างมากจากทุกคนภายในตระกูล
เฉิงโซวผิงยิ้ม คนพวกนี้กล้าดูถูกนายน้อย! คอยดูเถอะ เมื่อพวกเขาแพ้เดิมพัน ตาของพวกเขาก็จะสว่างสักที
ไม่มีทางที่คุณหนูรองจะรอดจากเงื้อมมือของนายน้อยได้!
…
ในขณะเดียวกัน ฉินหว่านหรูก็เดินทางไปถึงคฤหาสน์ตระกูลหลี่ที่อยู่ใกล้เคียง
แม้ว่าตระกูลหลี่จะไม่ถูกนับเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมือง แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นตระกูลชนชั้นสูงของเมืองจันทร์กระจ่าง
ตระกูลฉู่รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลหลี่ และฉู่จงเทียนได้แสดงมิตรภาพต่อตระกูลหลี่มาโดยตลอด
นี่คือเหตุผลที่ตระกูลหลี่ เป็นจุดหมายแรกของฉินหว่านหรู
หลี่เจิ่นเจียน ปรมาจารย์ของตระกูลหลี่ แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อสถานการณ์ของตระกูลฉู่
เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เป็นกันเอง ฉินหว่านหรูได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเขา
หลี่เจิ่นเจียนเดินไปหาฉินหว่านหรูด้วยรอยยิ้ม “พี่ฉู่และฮูหยินต่างก็แสดงความเอาใจใส่ต่อข้าเป็นอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าจะเพิกเฉยต่อพวกท่านได้ยังไง?”
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เขาพูด มือของเขากลับค่อย ๆ เคลื่อนไปยังก้นของฉินหว่านหรูด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก!