เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 607 เพลงดาบล้างผลาญสรรพสิ่ง
บทที่ 607 เพลงดาบล้างผลาญสรรพสิ่ง
บทที่ 607 เพลงดาบล้างผลาญสรรพสิ่ง
“นิ้วทองคำ?” ลมหายใจของอู๋ตี้ถี่กระชั้นขึ้น ชื่อนี้บ่งบอกได้อย่างดีเยี่ยมว่าเคล็ดวิชานี้มากพิษสง!
เขาต้องเรียนรู้เคล็ดวิชานี้ให้ได้หลังจากที่จับไอ้เด็กนี่สำเร็จ
ทักษะการเคลื่อนไหวนั้นหาได้ยาก แต่ทักษะการต่อสู้ก็หายากเช่นกัน
หลังจากรับใช้ตระกูลอู๋มานานหลายปี นอกจากหินพลังชี่และสมุนไพรวิญญาณที่เอาไว้ใช้บ่มเพาะ เขาก็ได้รับเคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับต่ำเพียงไม่กี่ทักษะเท่านั้น ตอนนี้เขาอยู่ที่ระดับหก เคล็ดวิชาต่อสู้ที่เคยได้รับมาก็ไม่เพียงพออีกแล้ว…
นี่คือเหตุผลที่เขายังคงใช้ ‘ดาบอัคคี’ มาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะเป็นทักษะที่เขาได้รับมาตั้งแต่ช่วงวัยหนุ่มก็ตาม
ตอนนี้เขาอายุมากขึ้น ระดับการบ่มเพาะของเขาก็หยุดนิ่ง หนทางที่เขาจะสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้จึงเหลือแค่ทางเลือกเดียวคือหาเคล็ดวิชาต่อสู้ใหม่ที่ดีกว่าเดิม และตอนนี้ ซูอันได้เสนอโอกาสนั้นให้เขา!
สวรรค์ส่งสิ่งที่ข้าต้องการมาให้ ไม่เพียงแต่ส่งศัตรูเก่ามาให้ข้าเท่านั้น ทั้งยังมอบเคล็ดการต่อสู้ระดับสูงและกระเป๋ามิติเก็บของระดับปรมาจารย์อีกสองใบให้ข้าด้วย!
เขารู้สึกราวกับว่าโชคทั้งหมดในชีวิตของเขาที่ผ่านมารวมกันยังไม่สามารถเทียบได้กับโชคของเขาในวันนี้
ความปรารถนาอันร้อนแรงเริ่มครอบงำจิตใจของอู๋ตี้ เขาพุ่งเข้าหาซูอัน อีกครั้ง ดาบในมือของเขาเหวี่ยงไปมาอย่างไม่ลดละ ทิ้งร่องรอยของภาพติดตาไว้ เขาพอใจกับสภาพร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมของตัวเองในวันนี้มาก เขาต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งร้อยยี่สิบส่วนจากหนึ่งร้อยส่วน!
เขารู้สึกว่านอกจากเจ้าเมืองจันทร์กระจ่าง และผู้นำของตระกูลหลักต่าง ๆ แล้ว ไม่มีใครในเมืองนี้ที่สามารถต่อกรกับตัวตนปัจจุบันของเขาได้…
ซูอันรีบใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันเพื่อหลบการโจมตีในขณะที่มองหาโอกาสในการโต้กลับ
พวกเขาทั้งสองแลกกระบวนท่ากันเกือบร้อยครั้ง
การต่อสู้นี้ไม่เพียงทำให้ซูอันปรับตัวเข้ากับความเร็วและความแข็งแกร่งในปัจจุบันดีขึ้นเท่านั้น เขายังคุ้นเคยกับการใช้ดัชนีทานตะวันมากขึ้นอีกด้วย
อู๋ตี้วิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงแรกของการต่อสู้ เขาได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่ไป ๆ มา ๆ เด็กคนนี้กลับว่องไวราวกับแมลงสาบ ไล่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ทัน!
ในที่สุด อู๋ตี้ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อเห็นซูอันเริ่มว่องไวมากขึ้นเรื่อย ๆ
สัญญาณเตือนเริ่มดังขึ้นในใจของเขา ในที่สุดก็ตระหนักว่าซูอันกำลังใช้เขาเป็นคู่ฝึก!
อู๋ตี้รู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปได้หากเขาต้องการหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้
เขาเปลี่ยนกลยุทธ์โดยเลือกที่จะใช้การโจมตีแบบวงกว้าง เพื่อทำให้ซูอันพลาดพลั้งเผยช่องโหว่
เขาแทงดาบลงไปที่พื้น คลื่นความร้อนแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางรอบตัวเขาราวกับวงแหวน
เปลวไฟพวยพุ่งออกมาราวกับงูยักษ์ กลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า
“เจ้าชอบหลบเหมือนคนขี้ขลาดนี่นา มาดูกันว่าเจ้าจะหลบการโจมตีครั้งใหญ่นี้ได้หรือไม่!” อู๋ตี้พูดพลางพ่นลมหายใจ
ท่าทีของซูอันเปลี่ยนไป เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ จึงเรียกกระบี่ไท่เอ๋อร์ออกมาอย่างรวดเร็ว และใช้ทักษะกระบี่เกล็ดหิมะ
แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่มีความสามารถในการแช่แข็งทุกสิ่งรอบตัวเหมือน ฉู่ชูเหยียน แต่เกล็ดหิมะที่ปรากฏล้อมรอบตัวเขา ทำให้อุณหภูมิเย็นลงพอที่จะต้านทานเปลวไฟที่โหมเข้ามา
“กระบี่เกล็ดหิมะ!” อู๋ตี้หดตัว ภาพของทักษะนี้ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำของเขา นี่คือทักษะที่ฉู่ชูเหยียนเคยเอาชนะเขามาก่อน!
ฮึ่ม! แต่ข้าไม่เชื่อว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งเทียบเท่าฉู่ชูเหยียน!
อันที่จริงข้าจะไม่แพ้ฉู่ชูเหยียนอีกครั้งแม้ว่านางจะอยู่ที่นี่!
อู๋ตี้โกรธมาก เปลวไฟบนพื้นผิวของดาบยาวของเขายิ่งร้อนแรง “เพลงดาบล้างผลาญสรรพสิ่ง!” เขาคำราม
เขายกดาบขึ้นเหนือหัว เปลวไฟปะทุสูงหลายสิบจั้ง และฟาดลงมาที่ซูอันด้วยพลังมหาศาล
ด้วยการใช้วิชาร่างก้าวทานตะวัน ทำให้ซูอันแยกออกเป็นสองร่างในทันที
อู๋ตี้เยาะเย้ย การโจมตีของเขาจะสามารถหลบหลีกอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
เขาโคจรพลังชี่จนสุดแรงเกิด และดาบอัคคีก็แยกออกเป็นหลายสิบเล่มอย่างฉับพลัน เรียงเป็นแนวโค้งด้านหนึ่งไปจรดอีกด้านหนึ่ง
หากดาบเล่มแรกตั้งตรง ดาบจำนวนนับสิบเล่มที่เหลือจะถูกเรียงจนคล้ายเป็นรูปทรงพัด ไม่มีทางที่ซูอันจะหลีกเลี่ยงได้ไม่ว่าทักษะการเคลื่อนไหวของเขาจะน่าเกรงขามเพียงใดก็ตาม
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อดาบที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟพากันฟาดลงมา
บริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี พื้นดินไหม้เกรียม หญ้าที่เคยปกคลุมพื้นที่ก่อนหน้านี้ก็ระเหิดกลายเป็นไอทันที เผยให้เห็นดินเปล่าที่อยู่ข้างใต้ เศษหินปลิวว่อนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง และอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้
เป็นไปได้ไหมที่ศพของไอ้เด็กนั่นจะถูกเผาจนไม่เหลือซาก?
อู๋ตี้เย้ยหยัน ศึกนี้จบลงง่ายเกินไป
เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เขาไม่ได้เรียนรู้ทักษะนิ้วทองคำได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะรั้งรอหลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งที่น่าตกใจของซูอัน
“เฮ้! นั่นมันเพลงดาบบ้าบออะไรกัน? เจ้าตะโกนว่า ‘เพลงดาบล้างผลาญสรรพสิ่ง’ ซะดูอลังการ แต่สิ่งที่ข้าเห็น ข้าเห็นเจ้าก็แค่ฟันดาบรัว ๆ เหมือนสับหมูบนเขียงเนี่ยนะ!”
เสียงดังมาจากข้างหลังเขาซึ่งฟังดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
อู๋ตี้ตกใจ เขาหันกลับมาทันทีและเหวี่ยงดาบไปทางต้นเสียง แต่ไม่เจออะไร จากนั้นเขารู้สึกว่ามีนิ้วแตะที่หลัง จากนั้นร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน ก่อนที่การมองเห็นของเขาจะค่อย ๆ มืดดับลง
ไอ้เด็กนี่มาอยู่ข้างหลังข้าได้อย่างไร!? นี่คือความคิดสุดท้ายของเขา
ซูอันหอบหายใจ ผู้บ่มเพาะระดับหกเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ถ้าไม่ใช่เพราะพี่หญิงใหญ่รังแกเขาจนเรียนรู้วิธีแบ่งออกเป็นสามร่าง เขาอาจจะพบจุดจบไปแล้วก็ได้
นี่คือเหตุผลที่ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะรั้งรออีกต่อไป เขาฉวยโอกาสโจมตีด้วยดัชนีทานตะวันอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าคู่ต่อสู้คนนี้จะตายง่าย ๆ จากการโดนดัชนีเพียงครั้งเดียว…
ถ้าซูอันรู้ก็คงจะใช้กำลังน้อยลง เขาอยากจะทรมานอู๋ตี้อย่างช้า ๆ เพื่อโกยคะแนนความโกรธแค้นอีกสักสองสามชุด
อย่างไรก็ตาม อู๋ตี้ได้ทำหน้าที่ตามจุดประสงค์ในฐานะคู่ฝึกแล้ว ความคิดนี้ทำให้ซูอันรู้สึกดีขึ้นมาก
ซูอันควบคุมลมหายใจของเขาอีกครั้งและเริ่มไตร่ตรองรายละเอียดของการต่อสู้
ชายหนุ่มเคยต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก่อน แต่เขามักจะอาศัยระบบคีย์บอร์ดเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ทีเผลอ นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกที่อาศัยความแข็งแกร่งและทักษะของตัวเองล้วน ๆ
เมื่อฟื้นตัวในที่สุด ซูอันก็เดินไปหาอู๋ตี้ และนำกระเป๋ามิติเก็บของระดับปรมาจารย์ทั้งสองกลับคืนมา
แต่แล้วจู่ ๆ มือของเขาก็สัมผัสถูกอะไรแข็ง ๆ พอหยิบออกมาก็เห็นว่าเป็นกล่องบรรจุขวด
อู๋ตี้ไม่มีอุปกรณ์เก็บของมิติใด ๆ ของจำพวกเช่นกระเป๋ามิติเก็บของค่อนข้างหายากในโลกนี้ แม้ว่าอู๋ตี้จะอยู่ที่ระดับหก แต่เขาก็ยังไม่มีพวกมันไว้ในความครอบครอง
ซูอันเปิดกล่องและพบว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดนั้นเป็นยา อย่างไรก็ตาม เขาสามารถบอกได้ทันทีว่ามันเป็นของสามัญ เขามียาที่ดีเลิศของจี้เติ้งถูแล้ว ดังนั้นจึงไม่สนใจขวดยานี้อีก
ซูอันยังคงค้นศพต่อไป ขณะที่ค้นก็พึมพำเบา ๆ “พี่ชาย เจ้าไม่อยากนอนในที่โล่งแบบนี้ใช่ไหม? ตอนนี้ข้ากำลังค้นศพของเจ้า ถ้าเจ้ามีสักสองสามร้อยตำลึงข้าจะให้เจ้านอนข้างผู้อาวุโสระดับปรมาจารย์สองคนนั้น จะมีโอกาสดี ๆ แบบนี้บ่อย ๆ ได้ยังไงจริงไหม? ลองคิดดูสิ ไม่แน่หลังจากไปอยู่ในยมโลก เจ้าอาจจะสามารถปรึกษาผู้เฒ่าสองคนนั้นเกี่ยวกับการบ่มเพาะได้เมื่อลงหลุมไปด้วยกันแล้ว!”
“บัดซบ ไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว นี่มันบ้าไปแล้ว!”
“เดี๋ยวนะ นี่อะไร?”
ซูอันค่อนข้างโกรธ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็พบคัมภีร์สองเล่มที่ถูกมัดอย่างแน่นหนา