เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 786 สุสานของหยาจาง
———-
บทที่ 786 สุสานของหยาจาง
ซูอันยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร
มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเชื่อใจเด็กสาวซึ่งเขาไม่ได้เอ่ยออกไป สารคดีเกี่ยวกับอินซางที่เขาเคยดูในชีวิตก่อนหน้านี้กล่าวถึงภาชนะทองสัมฤทธิ์ที่มีหัวอยู่ข้างใน ภาชนะทองสัมฤทธิ์นั้นถูกเรียกว่า ‘เหยี่ยน’ ตามที่สารคดีอธิบาย
เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ได้โกหก
เมื่อเดินต่อไปซักพักก่อนจะถึงปากอุโมงค์ เด็กสาวก็ชี้เข้าไปข้างในและพูดว่า “สุสานของราชวงศ์ซางตั้งอยู่ข้างใน ชาวซางได้ตั้งข่ายอาคมที่ป้องกันไม่ให้บรรดาน้องชายของข้า (กุมารทอง) และตัวข้าเข้าไปได้ แต่ข้าเชื่อว่าพวกท่านสามารถเข้าไปได้อย่างอิสระ”
“เจียงเจียง ข้าจะหาหัวของเจ้าและตราหยกพบแน่ ๆ” ซูอันสัญญากับนางอีกครั้ง เขาเห็นใจนางและต้องการช่วยนางให้พ้นจากภาระนี้โดยเร็วที่สุด
“ขอบคุณ!” ดวงตาของเด็กสาวเป็นประกาย “พวกท่านโปรดระวังตัวด้วย ระหว่างทางอาจมีอันตรายได้”
ซูอันพยักหน้า เขาย่อมจะระมัดระวังแม้ว่านางจะไม่พูดเตือนก็ตาม เขาจะละทิ้งการระวังตัวในที่แบบนี้ได้อย่างไร?
หลังจากบอกลาเจียงเจียงแล้ว ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานก็พากันเดินเข้าไปข้างใน อย่างไรก็ตามเมื่อก้าวถึงปากทางออก เขารู้สึกราวกับว่าเดินชนประตูกระจกเข้าอย่างจัง
“ผนึก? ซูอันเริ่มกระวนกระวายใจ เขาสังเกตเห็นโครงร่างของม่านพลังสีฟ้าอ่อน และลวดลายเทาเที่ยที่คุ้นเคยเคลื่อนลอยไปตามพื้นผิวของมัน เช่นเดียวกับลวดลายนก มังกร และสัตว์ลึกลับทุกประเภท อย่างไรก็ตาม ม่านพลังนี้ดูระดับสูงกว่าม่านพลังที่ผนึกหลุมยักษ์ข้างบนมาก
“อา!” เด็กสาวร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก และอารมณ์ร่าเริงของนางจางหายไปอย่างฉับพลัน “ข้าไม่คิดว่ามันจะป้องกันไม่ให้พวกท่านเข้าไปด้วยเช่นกัน ข้าคิดว่าม่านพลังนี้ใช้ได้กับข้าเท่านั้น”
ซูอันปลอบนางทันที “เจียงเจียง เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกท้อแท้ เรามาลองหาวิธีอื่นเข้าไปข้างในกันก่อน”
ทางเข้าอยู่ตรงนี้ เขาต้องเข้าไปข้างในไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ชายหนุ่มพยายามค้นหากลไกที่ซ่อนอยู่พักใหญ่ แต่น่าเสียดายที่การค้นหาของเขาไร้ผล
ซูอันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันไปหาหมี่ลี่ “พี่หญิงใหญ่ ท่านมีข้อเสนอแนะอะไรไหม?”
หมี่ลี่พ่นลมหายใจ “ถ้าสภาพร่างกายข้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ม่านพลังแบบนี้ไม่มีทางหยุดข้าได้เลย”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?” ซูอันจงใจแกล้งนาง
หมี่ลี่ดูกระอักกระอ่วนในทันที “สำหรับตอนนี้…ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ซูอันส่ายหัว
ท่านจะอวดไปทำไมถ้าท่านไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้???
เพ่ยเหมียนหมานพูดขึ้น “อาซู ดูเหมือนว่าข้าจะ…เข้าไปได้…”
ซูอันตกตะลึง เขาหันกลับไปมองเพ่ยเหมียนหมานและเห็นว่านางยื่นมือผ่านม่านพลังเข้าไปได้ มือของนางเคลื่อนผ่านม่านพลังโดยไร้ซึ่งการถูกต่อต้านใด ๆ
เขารีบลองดู แต่มือของเขาก็ไม่อาจผ่านเข้าไปได้เหมือนเดิม
“ผู้หญิงคนนี้อาจมีความสัมพันธ์บางอย่างกับอินซาง ดูเหมือนว่าจะเป็นเจตจำนงสวรรค์จริง ๆ ที่เจ้าสองคนได้เข้ามาในมิติลับนี้ด้วยกัน” หมี่ลี่กล่าว
ซูอันจำได้ว่าก่อนหน้านี้มีเศษเสี้ยวของความทรงจำปรากฏขึ้นในความคิดของเพ่ยเหมียนหมานเป็นครั้งคราว จากนั้นเขาพยักหน้าเห็นด้วย
เพ่ยเหมียนหมานจับมือของซูอัน “มาดูกันว่าเราทั้งคู่จะเข้าไปได้ไหมถ้าเราทำแบบนี้”
ซูอันจับมือนางและพยายามเดินผ่านเข้าไป ม่านพลังที่เคยเป็นเหมือนกำแพงแข็งกลับกลายเป็นดั่งธาตุอากาศอย่างน่าประหลาดทันที และมือของเขาก็สามารถทะลุผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
เขาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วหันไปทางเด็กสาวที่อยู่ข้างหลังพวกเขา “เจียงเจียง เราจะพาเจ้าเข้าไปข้างในด้วยกัน”
เด็กสาวก็ตื่นเต้นเช่นกัน แต่โชคร้ายที่ท้ายที่สุดหลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง พวกเขากลับไม่อาจหาวิธีที่จะจับมือของเจียงเจียงได้ และผนึกนี้ยังคงป้องกันไม่ให้นางเข้าไปด้านใน
“พี่ชาย พี่สาว ดูเหมือนข้าจะเข้าไปไม่ได้จริง ๆ” นางกล่าว “หลังจากนี้ข้าคงต้องขอรบกวนให้พวกท่านช่วยข้าจริง ๆ แล้ว”
ซูอันไม่ได้พยายามต่อไป หลังจากกล่าวคำปลอบใจอีกเล็กน้อย เขาก็เดินตามเพ่ยเหมียนหมานผ่านผนึกเข้าไป
ทั้งสองคนเดินลงบันไดไป รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาได้ลงลึกไปอีกชั้นหนึ่งก่อนจะเจอเส้นทางเดินกว้างใหญ่อีกครั้ง
พวกเขาเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง และไม่นานพวกเขาก็ได้เห็นพระวิหารปรากฏอยู่เบื้องหน้า
ซูอันรู้สึกงุนงง ทำไมถึงมีวัดในสถานที่แบบนี้?
ทั้งสองเดินเข้าไปดูข้างใน ใช้เวลาไม่นานก็รู้ว่านี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นสถานที่สำหรับวางป้ายชื่อผู้วายชนม์และวางเครื่องบูชาแก่วิญญาณผู้ล่วงลับไปแล้ว
หมี่ลี่มองไปที่ป้ายชื่อก่อนจะเอ่ยขึ้น “สุสานของหยาจาง”
“หยาจางคือใคร?” ซูอันถาม
หมี่ลี่ส่ายหัวและพูดว่า “อินซางดำรงอยู่มานานกว่าหนึ่งพันปีก่อนราชวงศ์ฉิน และบันทึกมากมายก็สูญหายไป ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่จากอาวุธที่จัดวางอยู่ใกล้ ๆ เขาน่าจะเป็นแม่ทัพตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ความจริงที่ว่าเขาถูกฝังพร้อมกับกษัตริย์ ซึ่งก็หมายความว่าระหว่างมีชีวิตอยู่เขาคงมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพที่ใหญ่โต ป้ายหยกที่เจ้ากำลังมองหาอยู่อาจอยู่แถวนี้ เจ้าควรเข้าไปดูข้างใน”
“เข้าไปอีกลึกไหม?” ซูอันตัวแข็ง
หมี่ลี่กล่าวว่า “ในราชวงศ์ซางสุสานของบรรดาเชื้อพระวงศ์หรือองค์จักรพรรดิรุ่นก่อน ๆ จะถูกสร้างอยู่ใต้สถานที่สักการะอยู่แล้ว ดังนั้นข้าคิดว่าสุสานจะต้องอยู่ลึกลงไปอีกจากจุดที่เรายืนอยู่ เจ้าจงมองไปรอบ ๆ มันน่าจะมีทางลงไปสักแห่ง”
ซูอันนึกถึงอดีตอันน่าเศร้าของเด็กสาวที่พวกเขาทิ้งไว้ข้างนอก เขาไม่อยากเสียโอกาสที่จะช่วยนาง ดังนั้นจึงยอมรับคำแนะนำของหมี่ลี่และเริ่มมองหาทางลง ตอนแรกเขาคิดว่าการหาทางเข้าสุสานคงเป็นเรื่องยาก แต่จริง ๆ แล้วเขาเห็นมันทันทีที่เขาเดินอ้อมไปด้านหลังวิหารแห่งนี้
สิ่งนี้สมเหตุสมผลเช่นกัน ที่นี่คือสุสานของราชวงศ์ซาง ข้างนอกมีการป้องกันมากมาย รวมถึงสัตว์ร้าย วิญญาณร้าย และนักรบโครงกระดูก ทางเข้าสุดท้ายของสถานที่แห่งนี้ก็ถูกป้องกันไว้ด้วยผนึกพลัง ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะเข้ามาได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำให้พื้นที่นี้ซับซ้อนเกินความจำเป็น
ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานเดินลงบันไดไปก่อนจะเห็นพื้นที่โล่งกว้างอีกครั้ง และในระยะที่สายตาพอจะมองเห็น เขาเห็นประตูหนึ่งอยู่ตรงสุดทางเดิน แต่ทว่ามีชิ้นส่วนของรูปปั้นมังกรหักขวางประตูไว้ แต่มันก็ไม่ใหญ่พอที่จะขวางทางพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาใช้พลังชี่ย้ายซากรูปปั้นมังกรไปด้านข้าง จากนั้นจึงผลักประตูเปิดออก
เพ่ยเหมียนหมานจุดไฟขึ้นส่องสว่าง ด้านหลังประตูนั้นคือสุสานอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทว่าการตกแต่งนั้นดูเรียบง่ายมาก มันมีแค่โลงศพขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางห้อง
หมี่ลี่ก็พูดขึ้น “เดี๋ยวนะ? มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”
“มีอะไร! มีอะไร!?” ซูอันตื่นตระหนกไปกับน้ำเสียงของหมี่ลี่ ร่างกายของเขาแข็งเกร็งทันทีโดยสัญชาตญาณ
หมี่ลี่กล่าวต่อว่า “ตามธรรมเนียมการฝังศพ ทั้งหลุมฝังศพและเส้นทางที่นำไปสู่สุสานจะถูกออกแบบอย่างพิเศษเพื่อแสดงสถานะและเกียรติยศของผู้ถูกฝัง หลุมฝังศพของบุคคลที่รุ่งโรจน์ที่สุดจะมีสี่เส้นทางซึ่งเป็นทิศทางที่สำคัญที่จะนำไปสู่หลุมฝังศพ สุสานเหล่านี้มีรูปแบบที่คล้ายกับอักษร ‘หยา’ (亚) ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาเรียกมันว่าสุสานรูปแบบ ‘หยา’ เฉพาะเหล่าจักรพรรดิเท่านั้นที่จะได้รับเกียรติจากการถูกฝังในสุสานประเภทนี้ สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับต่ำลงถัดมา สุสานของพวกเขามีสองเส้นทางซึ่งก็คือทางเหนือและใต้ สุสานเช่นนี้ถูกเรียกว่า รูปแบบ ‘จง’ (中) สุสานประเภทนี้เป็นของขุนนางชั้นสูง พวกมันตั้งอยู่ในที่อื่นและสุสานก็เล็กกว่า สำหรับขุนนางที่มีสถานะต่ำกว่าลงไปอีก หลุมฝังศพของพวกเขามีทางเข้าเดียวเท่านั้น และสุสานของพวกเขาเรียกว่าสุสานรูปแบบ ‘เจีย’ (甲)
“สรุปแล้ว ผู้ที่ได้รับการพิจารณาว่ามีสถานะสำคัญในขณะที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ทั้งหมดจะถูกฝังในสุสานหนึ่งในสามประเภทนี้ อย่างไรก็ตามหลุมฝังศพนี้ไม่มีแม้แต่ทางเดียว ดังนั้นที่ฝังอยู่ที่นี่ควรเป็นคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงขนาดของสถานสักการะข้างบนและสิ่งของจำนวนมากที่ถูกนำมาตั้งวางสักการะ รวมทั้งความจริงที่ว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะตั้งอยู่ใกล้กับสุสานของจักรพรรดิ เจ้าของโลงศพนี้ควรจะเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา อย่างไรก็ตาม หลุมฝังศพที่นี่…ดูเรียบง่ายมาก”
“บางทีสุสานของอินซางอาจแตกต่างจากสุสานของคนรุ่นหลัง” ซูอันตั้งข้อสังเกต “ข้าจะลองหาดูว่าตราหยกที่เจียงเจียงต้องการอยู่ที่ไหน”