เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 904 ใครขู่ใคร?
บทที่ 904 ใครขู่ใคร?
บทที่ 904 ใครขู่ใคร?
ใบหน้าของนางเริ่มแดงในตอนแรก จากนั้นก็มืดลง “เจ้าเด็กบ้า เจ้านี่ช่างกล้านัก! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมีความคิดหยาบคายต่อจักรพรรดินีของเจ้า!”
—
ท่านยั่วยุหลิวหนิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
นางไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสา นางจึงไม่เขินอายกับเรื่องนี้และด่าเขาทันที
ซูอันขมวดคิ้วและทำได้แค่พยายามอธิบายตัวเอง “เรื่องนี้ไม่สามารถตำหนิกระหม่อมได้! ผู้ชายธรรมดาทุกคนย่อมมีปฏิกิริยาแบบเดียวกันถ้าพวกเขาเห็นสาวงามอย่างพระองค์ มันคงจะแปลกกว่านี้ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยพะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดินียิ้มเยาะ “เจ้าพูดเกินจริงเกินไปหรือเปล่า?”
“นี่หมายความว่าเสน่ห์ของฝ่าบาทนั้นรุนแรงเกินไปพะย่ะค่ะ” ซูอันกล่าวหน้าตาเฉย
จักรพรรดินีแค่นเสียงหัวเราะ “โอ้? คิดว่าข้าควรจะดีใจกับมันไหม?”
ซูอันวางนางลงบนเตียงพร้อมกับถอนหายใจ “องค์จักรพรรดินีไม่ใช่สตรีธรรมดาและควรรู้ว่ากระหม่อมไม่ได้ตั้งใจ กระหม่อมไม่เคยต้องการที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะพระองค์… อะแฮ่ม! โชคชะตากำหนดไว้ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ต้องปฏิเสธหรอกพะย่ะค่ะ…”
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีเข้าใจเหตุผลของเขา อย่างไรก็ตามนางเคยชินกับการเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่า การปล่อยให้เขาลอยนวลหลังจากล่วงละเมิดเช่นนี้ไม่ใช่นิสัยของนาง “ฮึ่ม! เรื่องแบบนี้จะถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้หญิงอย่างเราได้อย่างไร? เจ้ากล้าที่จะดูหมิ่นข้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าไร้ทั้งกฎเกณฑ์และมารยาท และพิสูจน์ว่าเจ้าเป็นเพียงคนเลวทราม ข้าควรทูลเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิให้เจ้าถูกทุบตีจนตายดีหรือไม่!”
นางสังเกตเห็นแววชั่วร้ายที่แวบผ่านดวงตาของซูอัน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะกดลงบนตัวนาง
“อ…อะไร…เจ้ากำลังทำอะไร?” จักรพรรดินีถามด้วยความตื่นตระหนกกับน้ำหนักของชายคนหนึ่งที่กดทับลงมา
ซูอันกดไหล่ของนางอย่างไม่สะทกสะท้านและจ้องนางอย่างเย็นชา “องค์จักรพรรดินีเป็นผู้ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน กระหม่อมเพิ่งช่วยชีวิตฝ่าบาทไว้! เป็นเรื่องหนึ่งถ้าไม่ตรัสขอบใจกระหม่อมสักประโยค แต่กลับมาข่มขู่กันแบบนี้ กระหม่อมไม่อาจยอมรับได้!”
ดวงตาของจักรพรรดินีเบิกกว้าง “นั่นไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่เจ้าจะดูหมิ่นข้า!”
นางเริ่มที่จะเสียใจกับการกระทำของตัวเองแล้ว คำพูดคุกคามของนางเป็นกลวิธีทางการเมืองธรรมดา ๆ เพื่อทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวและมีช่องว่างที่จะผูกมัดเขาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม นางไม่คิดว่าเขาจะทำตัวแตกต่างจากคนทั่วไป และหันกลับมาเป็นฝ่ายจู่โจมนาง
เป็นไปได้ไหมว่าชายผู้นี้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ในวังหลวง? อย่างไรก็ตาม นางยังคงเป็นจักรพรรดินี! เขากล้าทำกับนางแบบนี้ได้อย่างไร? ช่างขาดความเคารพต่อผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง!
นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าตั้งแต่ซูอันเข้ามาในวัง ซูอันเหมือนถูกพันธนาการด้วยเชือก เขาถูกห้อมล้อมด้วยขั้วอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากมายไม่ว่า จักรพรรดินี ราชันลมปราณ หรือตระกูลอื่น ๆ ในเมืองหลวง หากเขาไม่มีจิตใจที่กล้าแกร่งพอเขาจะมีชีวิตรอดจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร?!
สถานการณ์ทุกวันนี้ทำให้เขาเคร่งเครียดและอดทนอดกลั้นไว้มากแล้ว ตอนนี้จักรพรรดินีกลับพ่นคำพูดไร้สาระใส่เขาอีก วิธีที่นางกล่าวโจมตีเขาผู้ซึ่งช่วยชีวิตนางไว้ทำให้อารมณ์เครียดที่เก็บกดไว้ระเบิดออกมา
ตัวเองเป็นเพียงผู้มาจากต่างโลกและไม่มีความเคารพต่อราชวงศ์ในระดับเดียวกับชาวพื้นเมืองในโลกนี้
สายตาของซูอันเย็นชา “องค์จักรพรรดินีโปรดเข้าใจให้ชัดว่าพระองค์กระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของกระหม่อมด้วยตนเองตั้งแต่แรก ซึ่งกระหม่อมยังไม่กล่าวหาพระองค์เลยว่ายั่วยวนกระหม่อมก่อน! ดังนั้นพระองค์จะอ้างว่ากระหม่อมปฏิบัติด้วยความไม่เคารพได้อย่างไร?”
“ข้าเนี่ยนะ? ยั่วยวนเจ้า?” แม้แต่จักรพรรดินีซึ่งปกติแล้วค่อนข้างจะอารมณ์เย็นก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดโทสะ “ข้าเป็นมารดาแห่งแผ่นดิน จักรพรรดินีผู้สูงศักดิ์! ทำไมข้าถึงต้องลดตัวไปยั่วยวนคนต่ำชั้นไร้ยางอายอย่างเจ้า!?”
—
ท่านยั่วยุหลิวหนิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444…444…444…
—
ซูอันคำราม “ก็พูดยาก องค์จักรพรรดินีอาจมีรูปลักษณ์งดงามสูงส่ง แต่กลับรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ภายในวัง พระองค์อาจพลาดมีพระทัยให้กับชายหนุ่มที่เพิ่งพบเจอบ้างก็เป็นได้”
สายตาของจักรพรรดินีเริ่มเย็นชา “น่ารังเกียจอย่างยิ่ง! เจ้าไม่รู้หรือว่าคำพูดพวกนี้อาจนำไปสู่การกำจัดทั้งตระกูลของเจ้าไปถึงเจ็ดชั่วโคตร?”
—
ท่านยั่วยุหลิวหนิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999…999…999…
—
นางต้องการจะสั่งประหารญาติของเขาทั้งหมด!
ซูอันก็รู้สึกขุ่นเคืองเช่นกัน “ฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ ขณะนี้มีนักฆ่ามากมายอยู่ข้างนอก แม้ว่ากระหม่อมจะสังหารฝ่าบาท ทุกคนก็จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของนักฆ่า ไม่มีใครสงสัยกระหม่อมหรอก”
ลมหายใจของจักรพรรดินีเริ่มขาดห้วง หน้าอกใหญ่ของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็ว แน่นอนเมื่อได้ยินประโยคนี้ นางจึงไม่กล้ายั่วยุเขาอีกต่อไป
ทุกสิ่งที่ชายผู้นี้ทำมาจนถึงขณะนี้พิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นคนไม่ยี่หระอะไร นางอาจจะตายได้ง่าย ๆ เพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ดวงตาของนางสั่นไหว นางตัดสินใจพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ก่อนหน้านี้ข้าผิดเอง ข้าขอโทษเจ้าด้วย ได้โปรดลุกออกไปจากตัวข้าแล้วมานั่งคุยกันดี ๆ”
นางได้ตัดสินใจแล้วว่าเมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว นางจะสั่งให้ขันทีลู่ไปกำจัดเจ้าวายร้ายผู้นี้อย่างลับ ๆ
ทว่าซูอันเห็นการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง ‘ท่านยั่วยุ หลิวหนิง สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!’ เข้ามาผ่านระบบคีย์บอร์ดของเขา
ถ้าข้าไม่มีระบบคีย์บอร์ดนี้ ข้าคงโดนเจ้าหลอกไปแล้ว!
ซูอันถอนหายใจ “ฝ่าบาทวางแผนที่จะกำจัดกระหม่อมหลังจากที่ทำให้เชื่อใจใช่ไหมล่ะพะย่ะค่ะ?”
จักรพรรดินีตกใจมาก ชายคนนี้สามารถอ่านใจผู้อื่นได้หรือไม่? เขาล่วงรู้ความคิดของข้าได้อย่างไร?
หน้าของนางซีดลงทันทีเพราะรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลง ผู้ชายคนนี้คงไม่ปล่อยนางไป ถ้าเขารู้ว่านางวางแผนจะทำอะไร มีนักฆ่าจำนวนมากอยู่ข้างนอกเช่นกัน และเขาสามารถโยนความผิดให้พ้นตัวได้อย่างง่ายดาย
พยานที่เป็นขันทีสองคนที่อยู่ข้างนอกไม่ใช่ผู้บ่มเพาะ พวกเขาคงไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้
ความคิดนี้ขจัดความลังเลใจที่ค้างอยู่ ในที่สุดนางพยายามโคจรพลังชี่อีกครั้งเมื่อรวบรวมกำลัง เสร็จแล้วนางก็ตัดสินใจซัดฝ่ามือเข้าใส่ซูอันอย่างฉับพลัน
ซูอันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เขาคว้าข้อมือนางแล้วกดลงกับเตียง พลังชี่ที่นางโคจรรวบรวมไว้ด้วยความยากลำบากสลายหายไปในทันที
จักรพรรดินีกำลังจะน้ำตาไหล ระดับการบ่มเพาะของนางเพียงพอที่จะครองโลกทั้งใบ
ในอดีต นางสามารถฆ่าเขาได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว ทว่าตอนนี้นางตกต่ำจนถูกสุนัขรังแก…ไม่สิ ถูกสุนัขตัวหนึ่งกดทับ! มันเป็นชะตากรรมที่น่าเศร้าอย่างแท้จริง
ซูอันชักแท่งพิษออกจากดวงแก้วผู้รอบรู้ตามสัญชาตญาณ กริชสีดำจ่อไปที่ลำคอของจักรพรรดินี
จักรพรรดินีสามารถสัมผัสถึงความอันตรายยิ่งยวดของมันได้อย่างแจ่มชัด นี่คืออาวุธที่ทำลายได้ถึงดวงวิญญาณ ความตายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว นางร้องไห้ออกมาและหลับตาลงโดยสัญชาตญาณ
แท่งพิษหยุดค้างที่คอสีขาวราวกับหิมะของนาง แววตาของซูอันสั่นไหว เขาไม่ใช่ฆาตกร การฆ่าคนตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากทำ
แต่ถ้าเขาไม่ทำ ผลที่ตามมาก็จะไม่มีที่สิ้นสุด
เขาจะหยุดกลางทางไม่ได้
จักรพรรดินีรู้สึกถึงความลังเลใจของเขา นางลืมตาและเยาะเย้ย “ทำไม? เจ้าไม่กล้าลงมือกับข้าตอนนี้เหรอ? ฮึ หากเจ้ายอมคุกเข่าขอโทษข้าด้วยความเคารพสามครั้ง ข้าอาจจะพิจารณายกโทษให้เจ้าก็ได้!”
“คุกเข่าขอโทษบิดาเจ้าเถอะ!!!” ซูอันระเบิดความโกรธ เขาพลิกตัวนางให้นอนคว่ำจากนั้นง้างฝ่ามือฟาดลงบนก้นอันใหญ่โตอวบอิ่มของนางเสียงดังลั่น
จักรพรรดินีรู้สึกในหัวโล่งไปหมดเมื่อถูกตีก้น นางเหลียวหลังมองเขาด้วยความงุนงง พูดอะไรไม่ออก
ทางด้านของซูอันเมื่อตีกันนางแบบนี้แล้ว เขาจึงไม่อาจถอยได้อีก เขาตบนางต่อไปอย่างใจร้าย แต่เอ…ทำไมข้ากลับรู้สึกค่อนข้างดี…
“โอ๊ย!! เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้า!?”
“หยุดตีข้า!”
“ข้าผิดไปแล้ว! ยังไม่พอเหรอ?”
“อ่า…”
จักรพรรดินีส่งเสียงร้องสูง ทำให้ซูอันตกตะลึง นางไม่ยอมแพ้ง่ายไปหน่อยเหรอ?
ดวงตาของจักรพรรดินีเต็มไปด้วยน้ำตา และร่างกายของนางก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ “ข้าจะสับร่างของเจ้าเป็นหมื่นชิ้น!”
นางกัดฟันพูด ดูเหมือนนางจะสะอื้นไห้
นางถือกำเนิดในตระกูลใหญ่ จากความทรงจำแรกสุดของนาง พี่สาวของนางเคยเป็นจักรพรรดินี และต่อมานางก็เป็นจักรพรรดินีเช่นกัน นางมีความสุขกับสถานะที่สูงส่งและชีวิตที่ฟุ่มเฟือยอยู่เสมอ นางจะเคยโดนกระทำแบบนี้มาก่อนได้อย่างไร?
นางกำลังจะสาปแช่งอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น ร่างของนางถูกพลิกหงายและปากของนางก็ถูกปากของซูอันประกบอย่างดูดดื่ม “อืม…อ๊ะ…”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ซูอันยืดตัวและเช็ดน้ำลายรอบปากของนาง เสียงของเขาเย็นชา “ท่านเอาแต่บอกว่าข้าทำให้ท่านขุ่นเคือง และยังใช้ข้อกล่าวหานี้ข่มขู่ข้าด้วยความตาย ดี ตอนนี้ข้าทำให้ท่านขุ่นเคืองจริง ๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับข้าในอนาคต ข้าจะทูลให้จักรพรรดิทราบว่าท่านถูกชายอื่นข่มเหงเรียบร้อย มาดูกันว่าท่านจะเป็นจักรพรรดินีต่อไปได้อย่างไร!”
จักรพรรดินีมึนงงอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ความโกรธเริ่มแรกของนางผ่านไป นางก็ตระหนักว่านางไม่มีทางย้อนเวลากลับได้
ทว่าทันใดนั้น เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นที่หน้าประตู “ช่างเป็นคู่ชู้ที่หวานชื่นจริง ๆ!”