เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 22 ขันทีคัดเลือกหญิงงาม
เสียงลมหวนโหมกระหน่ำดังขึ้นขณะที่เขากำลังพูด ก่อนจะพัดออกมาจากหน้าต่าง โบกพัดลงไปทำลายรถคุมนักโทษ
ฝูงชนที่อยู่บริเวณรอบ ถูกลมหวนกระโชกแรงจนมิสามารถลืมตาได้ มีผู้รู้คนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ยอดฝีมือแก่นวิญญาณระดับเก้า”
“สมควรตาย!” สีหน้าของศิษย์หอเจ้าสำนักที่มาปกป้องเยี่ยนจื่อเสาพลันเปลี่ยน เพราะว่าการฝึกฝนขั้นสูงสุดในหมู่พวกเขามีเพียงแก่นวิญญาณระดับหกเท่านั้น ยอดฝีมือของหอเจ้าสำนักยังมาไม่ถึง พวกเขาเป็นเพียงองครักษ์ลับที่รับผิดชอบบริเวณนี้จึงปรากฏตัวขึ้นเร็ว
แต่ถึงแม้จะสู้มิได้ ศิษย์หอเจ้าสำนักสองสามนายก็ทุ่มสุดตัว พวกเขาเดินออกมา เพียงไม่สามารถลงมือกับฝูงชนผู้อ่อนแอใสซื่อได้ ก็ทำเอาพวกเขาอัดอั้นมากพอแล้ว! ตอนนี้พวกเขาย่อมมิสามารถทนดูคุณชายรองถูกสังหารต่อหน้าต่อตาได้
แต่แล้ว ผู้เฒ่าผ่ายผอมคนหนึ่งที่คอยคุมรถคุมนักโทษก็สลายลมหวนที่โจมตีมาจากหน้าต่างข้างบนบานนั้นก่อนพวกเขา “นายท่านเหอ ช้าก่อน”
“เยี่ยนฉี่ซาน เจ้าคงไม่รู้ว่าเยี่ยนซาซาหลานสาวของเจ้า ตันเถียนของนางถูกทำลายไปเช่นกัน” นายท่านตระกูลเหอเกรี้ยวกราด ชี้หน้าถามเยี่ยนฉี่ซานผู้คุมเยี่ยนจื่อเสาอย่างเดือดดาล
เยี่ยนฉี่ซานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เข้มขรึมลง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความอำมหิต “ข้าจะมิรู้ได้อย่างไร นายท่านเหอไม่คิดหรือว่า แทนที่จะกำจัดสิ่งชั่วร้ายตัวนี้ในหมัดเดียว สู้ถอนขนของเขาเป็นๆ ไม่สะใจกว่าหรือ”
เหอผิ่นเชา นายท่านปัจจุบันของตระกูลเหอชะงัก เขาไม่ได้คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะทำเช่นนี้ สายตาของเขายังคงมองไปที่ศิษย์หอเจ้าสำนักด้วยสัญชาตญาณ และพูดขึ้นว่า “เกรงว่าความสะใจเช่นนี้ คงจะมิสามารถบรรลุได้”
“ไม่แน่” เยี่ยนฉี่ซานพูดแล้วก็ยื่นมือเข้าไปในรถคุมนักโทษทันที!
ศิษย์ของหอเจ้าสำนักสองสามนายยังไม่ทันตั้งสติได้ เยี่ยนจื่อเสาก็ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ในมือของเยี่ยนฉี่ซานก็จับขนสัตว์แผงหนึ่งที่ติดเนื้อหนังพร้อมเลือดออกมาราวกับกรงเล็บวิหคอินทรี
บาดแผลเหวอะปรากฏขึ้นบริเวณศีรษะจนถึงหลังของเยี่ยนจื่อเสา เยี่ยนฉี่ซานตั้งใจถอนแผงคอสัตว์ที่งอกออกมาอย่างผิดปกติพร้อมเนื้อหนังของเยี่ยนจื่อเสาออกมาด้วย
ภาพโหดร้ายเช่นนี้ ทำเอาฝูงชนที่มุงดูไม่น้อยต่างตกใจ นั่นไม่ต่างจากการลอกหนังและหั่นเนื้อเป็นๆ เลย เป็นความโหดร้ายที่คนปกติไม่สามารถทำได้
ทว่า มีคนในฝูงชนคนหนึ่งกลับร้องตะลึงราวกับคิดอะไรได้ว่า “เขาว่ากันว่าขนของมนุษย์วานรหวาไหวมีอานุภาพเกรียงไกร เป็นวัสดุหลอมอาวุธชั้นยอด”
“นี่มัน…”
สายตาของผู้ฝึกฝนส่วนหนึ่งที่มองไปทางเยี่ยนจื่อเสา พลันเป็นประกายด้วยความโลภ! ในเมื่อมนุษย์วานรหวาไหวคือสัตว์ร้ายที่ผู้คนต้องจัดการ เช่นนี้หากพวกเขาทึ้งขนสักสองสามเส้น ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก
และในขณะที่พวกเขาคิดเช่นนี้นั้น เยี่ยนฉี่ซานก็เอ่ย “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าผู้ใดก็สามารถทึ้งแผงคอสัตว์ของสัตว์ชั่วร้ายตัวนี้ได้ ข้ารับรองว่า พวกเจ้าจะไม่ถูกโจมตีใดๆ”
เกิดความโกลาหลในหมู่ฝูงชนขึ้นทันที ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะได้รับผลประโยชน์ดีงามเช่นนี้ ผู้พบเห็นก็มีส่วนได้หรือ
“เยี่ยนฉี่ซาน! เจ้าบังอาจ!” ศิษย์หอเจ้าสำนักก่นด่า
เยี่ยนฉี่ซานกลับยิ้มเยือกเย็นตอบว่า “เหตุใดจะมิกล้าเล่า หรือว่าท่านนี้มีความเกี่ยวข้องกับหอเจ้าสำนักจริงๆ”
“เจ้า!” ศิษย์หอเจ้าสำนักโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กลับไม่กล้าตอบว่า ‘ใช่’ เพราะคำพูดของเยี่ยนฉี่ซานนั้น มีจุดประสงค์ชัดเจนเหลือเกิน ขอเพียงพวกเขาพูดจากปากตนเองว่า ‘สัตว์ประหลาด’ ตัวนี้คือคุณชายรองเสา เช่นนั้นทั้งหมดก็ไม่ใช่เพียงข่าวลือธรรมดาๆ แล้ว
เยี่ยนฉี่ซานมองทะลุ เขาจึงกล้าหัวเราะเย้ยหยัน “ในเมื่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เช่นนั้นนี่ก็คือสัตว์ร้ายมนุษย์วานรหวาไหว ทุกคนสามารถฆ่ามันได้ แล้วการดึงขนสัตว์ไปใช้จะมีความผิดอันใด”
“เจ้า…” ศิษย์หอเจ้าสำนักโมโหจนเลือดขึ้นหน้า กลับไร้ซึ่งหนทางช่วยเหลือ ได้แต่ตั้งตารอยอดฝีมือคนอื่นๆ ของหอเจ้าสำนักเข้ามาเสริม มิเช่นนั้นคุณชายรองต้องทุกข์ทรมานเป็นแน่
“ทุกท่าน เชิญเถิด” เยี่ยนฉี่ซานไม่เกรงกลัวใดๆ เพราะเขารู้ดีว่า จะไม่มีคนของหอเจ้าสำนักมาอีก บัดนี้พวกเขายังเอาตัวเองไม่รอดเลย
ส่วนเยี่ยนจื่อเสา…
ฮึ!
ในฐานะที่เยี่ยนจื่ออวี๋ทำร้ายหลานสาวยอดฝีมือของเขา ก็จงนั่งรอให้ทุกคนมาถลกหนัง ทึ้งขน หั่นเนื้อพี่ชายของนางเสีย เพราะนี่คือราคาที่นางต้องจ่าย
“ฮ่าๆๆ ดี! เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้ว” เมื่อเหอผิ่นเชาเฝ้าดูลาดเลาแล้ว ก็ลงมือกับเยี่ยนจื่อเสาอย่างไม่เกรงใจทันที
“เจ้าบังอาจ!” ศิษย์หอเจ้าสำนักกลับข่มขู่อย่างไม่ลดละ “ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กับมนุษย์วานรหวาไหวหรือไม่ หากไม่มีคำสั่งของเจ้าสำนัก มิว่าผู้ใดก็ห้ามแตะต้องเป็นอันขาด”
“ไสหัวไป!” เหอผิ่นเชาไม่พูดพล่ามอีก เขาปล่อยพลังแก่นวิญญาณระดับเก้า สะเทือนจนศิษย์หอเจ้าสำนักกระเด็นลอยออกไป ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งก็จับแผงคอสัตว์บนศีรษะของเยี่ยนจื่อเสาทันที
เยี่ยนจื่อเสาไม่สามารถขยับตัวได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการหลบหลีก เขาจึงถูกดึงทึ้งแผงคอสัตว์อีกครั้งอย่างไม่แปลกใจนัก ความเจ็บปวดที่ถูกถลกเนื้อหนังนั้น ก็แทรกซึมเข้าทุกอนูสัมผัสของเขาอีกครั้ง
อ้ากก
แม้เยี่ยนจื่อเสาจะไม่อยากร้องโหยหวน แต่การตอบสนองต่ออาการเจ็บปวดขั้นสูงสุดนั้น ทำให้เขามิสามารถอดกลั้นไว้ได้เลย
ฮ่าๆๆ… เหอผิ่นเชาหัวเราะอย่างสะใจ “สะใจจริงๆ!” ผู้ใดจะคิดว่า ชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในตอนนั้น ลูกชายของเจ้าสำนักเยี่ยน กลับตกอับถึงขั้นปล่อยให้ผู้คนทำร้ายเช่นนี้ได้
และการเริ่มลงมือก่อนของเหอผิ่นเชา ก็กระตุ้นให้ผู้ฝึกฌานส่วนหนึ่งที่อาจหาญต่างลงมือกับเยี่ยนจื่อเสา ไม่ว่าอย่างไร ก็โทษหมู่ประชาไม่ได้มิใช่หรือ ถึงแม้ประมุขเยี่ยนจะไล่ตาม ข้างหน้าก็มีคนแบกรับไว้อยู่แล้ว
จากนั้น เสียงร้องโหยหวนอันเจ็บปวดของเยี่ยนจื่อเสาก็ดังไปทั่วทั้งบริเวณอย่างต่อเนื่อง เสียดแทงหัวใจของศิษย์หอเจ้าสำนักทั้งสี่นายยิ่งนัก แต่พวกเขาในตอนนี้ก็ถูกคนของเยี่ยนฉี่ซานจับกุมไว้แล้ว จึงทำได้เพียงมองดูภาพตรงหน้าเท่านั้น “ไม่! เลวทราม! เลวทรามยิ่งนัก”
พวกเขาอยากจะตะโกนอย่างไม่สนใจว่า นี่คือคุณชายรองเสา! นี่คือคุณชายรองเสา! แต่พวกเขาไม่กล้า พวกเขาไม่กล้าทำให้ครอบครัวของเจ้าสำนักต้องพังพินาศ
อ้ากกก
เสียงกรีดร้องแหบแห้งและโหดร้ายนั้น ทำให้เหล่าสามัญชนที่มามุงดูนั้น เริ่มรู้สึกสงสาร แต่ก็มีคนที่สะใจและกรูเข้าไปทำร้ายกันมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนชิงและคนอื่นๆ ที่ควรจะมาถึงแล้ว กลับถูกคนของราชสำนักขัดขวางไว้ เนื่องจากผู้อาวุโสเก้าพาขันทีคัดเลือกหญิงงามของราชสำนักมาที่หอเจ้าสำนัก และปิดกั้นหอเจ้าสำนักไว้
“ท่านประมุขหอสำนัก…” ผู้ดูแลอาวุโสของหอเจ้าสำนักสีหน้าดูไม่ดี เพราะว่ายอดฝีมือที่เขาเพิ่งส่งออกไปนั้น บัดนี้กลับถูก ‘เชิญ’ กลับมาหอเจ้าสำนักอย่างไร้ร่องรอย
และในเวลานี้ ผู้อาวุโสเก้าที่เดินนำขบวนคัดเลือกหญิงงามเข้ามาในหอเจ้าสำนัก ก็พูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินว่า ในเมืองเพิ่งจับกุมสัตว์ประหลาดที่มีสายเลือดของมนุษย์วานรหวาไหว เห็นว่าหน้าตาคล้ายจื่อเสามาก ท่านประมุขหอสำนักอย่าแทรกแซงเรื่องนี้เลยดีกว่า”
“ใช่แล้ว ข้าก็ได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่หน้าที่ของข้า แต่ข้าก็เชื่อว่า ท่านเจ้าสำนักเยี่ยนชิงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสัตว์ร้ายอย่างมนุษย์วานรเช่นนี้ ข้าจะสั่งให้คนจัดการต่อเอง” ขันทีคัดเลือกหญิงงามเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนสวมชุดราชสำนักงามวิจิตร แววตาของเขามองเยี่ยนชิงอย่างหยิ่งผยอง ครั้นมองไปที่เยี่ยนอวี๋ที่อยู่ด้านข้างก็ชะงักงัน
ในฐานะที่เป็นขันทีคัดเลือกหญิงงามที่ถูกแต่งตั้งโดยจักรพรรดิหยวนคัง เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้โอหังท่านนี้ก็ได้แต่ตั้งคำถามกับตนเอง เขาไม่เคยพบเห็นสตรีงดงามเช่นนี้มาก่อน
งดงาม!
ช่างงดงามยิ่งนัก!