เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 228 พรหมจารีต้าซือมิ่งตื่นเถอะ
“เรียกข้าว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน”
เยี่ยนอวี๋แก้ไขคำเรียกของเขาทำให้เพลิงแห่งความสอดรู้สอดเห็นในใจของอินสวินอี้ค่อยๆ ดับลง
ทว่าต้าซือมิ่งที่ถูกแก้กลับไม่สนใจ น้ำเสียงของเขายังคงสง่า กระทั่งแฝงไมตรี ราวกับเอาอกเอาใจ “เอาที่เจ้าชอบ”
“!”
“!!”
ผู้คนที่สงบลงครู่หนึ่งก็ตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่าอีกครั้ง!
พวกเขารู้สึกได้ว่าต้าซือมิ่งปฏิบัติต่อปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนต่างจากปกติ!
หรือว่า… ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนผู้งดงามท่านนี้ ลูกของนางคือลูกของต้าซือมิ่งจริงๆ!
นะ… นี่มัน…
นะ…. นั่นมัน…
เชี่ย! มารดามันเถอะ…
“ตะ… ต้าซือมิ่ง?” กู้หยวนซูตะลึงงัน เพราะว่าต้าซือมิ่งที่อ่อนโยน เป็นที่ชื่นชอบและอัธยาศัยดีเช่นนี้ แม้แต่เซ่าซือมิ่งในตำหนักซือมิ่งเช่นนางก็ไม่เคยเห็น!
เฉินฉุนเฟิงเองก็กลืนน้ำลายอย่างเหลือเชื่อ เขารู้สึกฟ้าร้องโครมคราม เขาเองก็ไม่เคยเห็นต้าซือมิ่งท่านนี้ปฏิบัติต่อผู้ใดอย่างเป็นมิตรเช่นนี้ ในความทรงจำของเฉินฉุยเฟิง ต้าซือมิ่งที่ดำรงตำแหน่งซือมิ่งห้าปีท่านนี้ เขามีชีวิตดุจดั่งเทพมาตลอด เขาดำรงตำแหน่งซือมิ่งในตำหนักซือมิ่งอย่างเฉยชา จนกระทั่งองค์จักรพรรดิท้าทายอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ ต้าซือมิ่งผู้หลุดพ้นจากทางโลกก็แสดงความสามารถอันแก่กล้า ‘บดขยี้’ จักรพรรดิผู้ทะเยอทะยานจนเป็นฝุ่นธุลี
ทว่าหลังจากนั้น ผู้คนมากมายต่างคิดว่าต้าซือมิ่งอายุน้อยต้องการขยายอำนาจเข้าปกครองต้าซย่า เขากลับหลุดพ้นทางโลกต่อไป จากไปโดยไม่สนใจเรื่องภายหลังแม้เพียงน้อย…
ดังนั้น…
“ต้าซือมิ่ง?”
เฉินฉุยเฟิงเหม่อมองต้าซือมิ่งอย่างสงสัยในชีวิต แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ถูกพลังนิรนามของต้าซือมิ่งสะเทือนจนตกใจ เขารีบหลุบตาลงทันที
ใช่แล้ว! ไม่ผิด เขายังเป็นต้าซือมิ่งไร้เทียมทานคนนั้น ถึงแม้เขาจะดู ‘เป็นมิตร’ ทว่าก็เป็นมิตรกับปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ความจริงก็เป็นดั่งที่เฉินฉุยเฟิงคิด หลังจากต้าซือมิ่งพูดกับมารดาของเด็กน้อยเสร็จแล้ว เขาก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ถึงแม้จะไพเราะดั่งเครื่องดนตรี ทว่ากลับแฝงความแปลกแยกและดูแคลน “พวกเจ้ารวบรวมกำลังไว้ที่นี่ ต้องการกระทำสิ่งใด”
“!” เฉินคั่วสะดุ้ง รีบโยนความรับผิดชอบไปทันที “กระหม่อมได้รับคำบัญชาให้ติดตามกู้เซ่าซือมาโยวตู ทุกอย่างดำเนินการตามคำสั่งของเซ่าซือมิ่งกู้พ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมก็เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”
“กระหม่อมก็เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!…”
เหล่าขุนนางราชสำนักที่ขี้ขลาดขึ้นมาในทันใดก็โยนความรับผิดชอบไปที่กู้หยวนซู ความจริงแล้วพวกเขาก็ได้รับคำสั่งมาช่วยเหลือกู้หยวนซูจริงๆ ดังนั้นโดยหลักการแล้ว พวกเขาก็แค่พูดตามความจริงเท่านั้น
กู้หยวนซูหน้าซีดลงอีกครั้ง นางคุกเข่าข้างหนึ่งลง “ทูลต้าซือมิ่ง ซูเอ๋อร์ได้รับบัญชาองค์จักรพรรดิให้มาเชิญโยวตูอ๋องผู้มิอาจแก้ไขปัญหาอุทกภัยและปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนผู้อาจเป็นภัยต่ออุทกภัยครั้งนี้ไปเมืองหลวงเพื่อทูลรายงานต่อพระพักตร์องค์จักรพรรดิเพคะ”
“ก่อนที่กระหม่อมจะได้รับบัญชา กระหม่อมก็ได้ยินจากปากหัวหน้าผู้บัญชาการเหอบ้างแล้ว” เฉินฉุนเฟิงพูดสำทับกู้หยวนซูอย่างผู้ ‘มีคุณธรรม’ ทำให้ฝ่ายหลังโล่งใจเล็กน้อย
ถึงแม้ต้าซือมิ่งมิได้ปลดปล่อยพลังใดๆ ออกมา ทว่าแรงกดดันที่แผ่ซ่านอย่างไม่รู้ตัวของเขาทำให้ผู้คนในเหตุการณ์ที่เข้าใกล้เขาต่างรู้สึกยอมจำนนโดยไม่รู้ตัว
กู้หยวนซูก็เช่นกัน นางจึงรู้สึกซาบซึ้งที่เฉินฉุนเฟิงเอ่ยปากในเวลานี้ จากนั้นนางก็อธิบายต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “หากการกระทำใดของซูเอ๋อร์ทำให้ท่านขุ่นเคือง ได้โปรดท่านอภัย ซูเอ๋อร์ก็แค่ทำตามพระบัญชา”
เมื่อสิ้นเสียงพูดของนาง แม้แต่เม่ยเอ๋อร์ก็สัมผัสถึงความเสแสร้งในความน่าสงสารนั้น ทำให้นางขมวดคิ้วก่อนจะตีตัวออกห่างสตรีจอมปลอมคนนี้ นางทำให้เม่ยเอ๋อร์รู้สึกสะอิดสะเอียนจริงๆ
ทว่านอกจากเม่ยเอ๋อร์แล้ว ผู้คนมากมายในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกว่ากู้หยวนซูน่าสงสาร
ผู้นำทัพสำนักเหยาไถเซียนท่านนั้นก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่แล้ว ต้าซือมิ่ง! ศิษย์พี่ก็แค่ทำตามพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ท่านอย่าทำให้นางลำบากใจเลย พวกข้าล้วนได้รับบัญชาจากองค์จักรพรรดิ ได้โปรดท่านต้าซือมิ่งอย่าขัดขวาง”
“เป็นช่นนี้” เฉินคั่วสำทับ
“ต้าซือมิ่งโปรดอย่าทำให้พวกกระหม่อมลำบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ” ผู้นำทัพที่เหลือต่างคุกเข่าวิงวอน กลายเป็นผลลัพธ์ที่กู้หยวนซูต้องการ
กู้หยวนซูเชื่อว่า ภายใต้การขอร้องวิงวอนของผู้คนมากมายเช่นนี้ แม้แต่ต้าซือมิ่งก็ต้องเห็นใจ
แต่น่าเสียดาย…นางไม่รู้จักต้าซือมิ่งท่านนี้เลย
ต้าซือมิ่งที่ถูกผู้คนคุกเข่าวิงวอน เขาไม่แม้แต่จะมองพวกเขาด้วยซ้ำ เขากลับชายตามองสตรีที่อุ้มลูกอยู่ข้างกาย “เมื่อครู่เจ้าสั่งคนให้จับเซ่าซือ ใช้ทำอันใดหรือ”
เยี่ยนอวี๋ที่จู่ๆ ถูกถาม นางก็ชะงักเล็กน้อย ไม่คิดว่าต้าซือมิ่งจะถามคำถามนี้กับนางอย่างกะทันหันเช่นนี้ นางจึงส่ายศีรษะ “มิได้ทำอันใด แต่เดิมข้าคิดว่าจะเกิดสงคราม จึงจับตัวแกนนำไว้ก่อน”
“…” คนราชสำนักอ้ำอึ้งไร้คำพูด
แม้แต่กู้หยวนซูก็โกรธเคือง “เกรงว่าจะมิใช่เช่นนี้หรอก! คุณหนูใหญ่เยี่ยนอาศัยอำนาจส่วนรวมแก้แค้นเรื่องส่วนตัวน่ะสิไม่ว่า!”
เยี่ยนอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ตะลึง เพราะอันที่จริงนางก็ต้องการชำระแค้นส่วนตัวจริงๆ แต่ก็เป็นแค้นส่วนตัวในชาติก่อนที่นางจำขึ้นมาได้ กู้หยวนซูคนนั้น…
เยี่ยนอวี๋ที่กำลังครุ่นคิดว่ากู้หยวนซูอาจจะ ‘กลายพันธุ์’ เช่นกันก็ถูกกู้หยวนซูขัดจังหวะ
เพราะว่ากู้หยวนซูพูดประชดประชันอย่างเยือกเย็นว่า “ถึงแม้ข้าเป็นพี่คนโตของหยวนเหิง แต่หยวนเหิงจะแต่งงานกับภรรยาเช่นใด เป็นการตัดสินใจของเขาเอง มิใช่เรื่องที่พี่สาวเช่นข้าจะยุ่งเกี่ยวได้ คุณหนูใหญ่เยี่ยนโกรธแค้นข้าเพียงเพราะเรื่องเช่นนี้ ช่างไร้เหตุผลจริงๆ”
“!”
“!”
ทุกคนถูกฟ้าผ่าอีกครั้ง! นี่มันเรื่องอะไรกันอีก
ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขาจึงนึกขึ้นได้! ใช่แล้ว คุณหนูใหญ่เยี่ยนเหมือนจะมีใจให้ชีหลางตระกูลกู้ ทำเอารู้กันทั้งต้าซย่า แต่ไม่ใช่บอกว่าเลิกกันแล้วหรือ โอ้ ไม่สิ เป็นข่าวเท็จมิใช่หรือ
ถึงแม้ว่ากู้ชีหลางจะเป็นหนุ่มงามมากความสามารถ กลับสู้ความงดงามของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนมิได้ หากคุณหนูใหญ่เยี่ยนตาไม่บอด ตามหลักแล้วก็คงไม่ตกหลุมรักกู้ชีหลาง
ทว่า…
“หรือว่ายังมีลับลมคมใน?” เฉิงคั่ว เฉินฉุนเฟิงและคนอื่นๆ ต่างมองไปที่เทพธิดาที่งดงามจนไม่เหมือนคนจริงท่านนั้น ฝ่ายหลังกลับนิ่งดุจน้ำ
อินหลิวเฟิงกลับตำหนิขึ้นก่อนผู้ใดโดยไม่รอเยี่ยนอวี๋เอื้อนเอ่ย “กู้เซ่าซือช่างน่าขัน อดีตเป็นเพียงหนุ่มสาวไร้เดียงสา อาจจะตาบอดไปบ้าง แต่บัดนี้เมื่อเติบใหญ่ก็ทางใครทางมัน กู้เซ่าซือยังพูดถึงเรื่องอดีตเช่นนี้ทำไม น่าขันนัก”
“หึ…” กู้หยวนซูยิ้มประชด ครั้นกำลังจะว่าร้ายเยี่ยนอวี๋ต่อไป
ทันใดนั้น…
“อ้อ ข่าวที่ลือกันนั้นเป็นความผิดพลาด คนในข่าวลือนั่นคือข้าเอง” ต้าซือมิ่งที่พูดแทรกขึ้นมาทำเอาทุกคนในเหตุการณ์ตกตะลึงอีกครั้ง โดยเฉพาะอินหลิวเฟิงและอินสวินอี้ที่รู้ข่าวลือนี้ดีกว่าผู้ใด พวกเขาต่าง… ยอมรับอย่างเต็มใจและไม่รู้จะพูดอะไรดี นะ… นี่มัน การกระทำเช่นนี้ คงมีเพียงต้าซือมิ่งเท่านั้นที่ทำได้ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ!
แม้แต่เยี่ยนจื่อเสาเองก็สับสน “สะ… เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ นะ… นี่มันเรื่องจริงหรือ” ดังนั้นคนที่เกี้ยวพาสำเร็จแล้วทิ้งขว้างน้องสาวคนนี้คือต้าซือมิ่งท่านนี้หรือ เขาก็คือสวะคนนั้นหรือ เขาคือพ่อของเสี่ยวเป่าจริงๆหรือ!
“ข้า…” เยี่ยนอวี๋เองก็ตะลึงเช่นกัน ครั้นนางกำลังจะชี้แจงข้อเท็จจริง ต้าซือมิ่งกลับอุ้มเด็กที่หลับลึกคนนั้นมาในขณะที่นางกำลังตะลึงงัน เขาเปิดหน้าของเด็กน้อยให้ท่านลุงรองดู “เสี่ยวเป่าหน้าตาไม่เหมือนข้าหรือ”
เยี่ยนจื่อเสามองแล้วก็ตกใจ เขาเพิ่งค้นพบว่า เด็กน้อยช่างเหมือนกับเขาจริงๆ ทะ… ทั้งหมดนี้… ปะ… เป็นเรื่องจริงหรือ!!?
หรงอี้พึงพอใจกับปฏิกิริยาของท่านลุงรองเป็นอย่างมาก เขาห่อตัวเด็กน้อยกลับไป เพื่อให้เด็กน้อยหลับสบาย ในขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้ลมพัดโดนผิวหนังบอบบางของเขา
“นี่… นี่มัน ขอแสดงความยินดีกับต้าซือมิ่งที่ได้บุตรชาย” อินสวินอี้ผู้รู้มารยาทที่สุดก็รีบกล่าวแสดงความยินดี “งานเลี้ยงครบร้อยวัน ข้าจะมอบของขวัญอย่างงามให้”
“มิบังอาจ” ต้าซือมิ่งรู้สึกชื่นชมโยวตูอ๋องผู้มีหน้ามีตาท่านนี้นัก เขาเหลือบมองอินหลิวเฟิงที่อยู่ข้างหลังโยวตูอ๋อง
อินหลิวเฟิงสัมผัสถึง “อันตราย” ได้อย่างเฉียบแหลม ทว่าเขายังคงมึนงงอยู่ ถึงแม้เขาเตรียมใจไว้แล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าต้าซือมิ่งท่านนี้จะยอมรับเสี่ยวเป่าเป็นบุตรตนได้อย่างรวดเร็วและเฉียบขาดเช่นนี้!
นะ นี่มัน…
“เหลือเชื่อ!” เอ้อร์เหมาพูดแทนเสียงในใจของนายท่านน้อย เขายังรู้สึกเสียดายนัก ช่างน่าเสียดายจริงๆ แต่เดิมเขาคิดว่านายท่านของเขาจะเป็นพ่อเลี้ยงให้เด็กน้อยที่เก่งกาจคนนี้ได้
ทว่าเอ้อร์เหมาผู้ตรงไปตรงมาก็อดตบไหล่นายท่านน้อยของตนเพื่อให้กำลังใจเขามิได้ ถึงแม้จะไม่กล้าเอ่ยปาก แต่ในใจของเขายังคงสนับสนุนให้นายท่านน้อยเกี้ยวพาคุณหนูใหญ่เยี่ยนต่อไป!
ทว่าอินสวินอี้กลับพูดขึ้นว่า “พิธีสมรสของต้าซือมิ่งและปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนในวันข้างหน้า ข้าก็จะมอบของขวัญอย่างงามให้เช่นกัน!” เขาต้องช่วยบุตรชายของตนเล็กน้อย
“มิบังอาจ” ต้าซือมิ่งยิ่งพึงพอใจ
“ไม่!”
กู้หยวนซูที่สะเทือนใจอย่างรุนแรงก็ส่ายศีรษะ “เป็นไปได้อย่างไร ท่านเป็นผู้รับพรจากสวรรค์ ถือครองพลังวิเศษ บริสุทธิ์สูงส่ง ไฉนจึงให้กำเนิดบุตรชายได้ ท่านอย่าหลงเชื่อคนชั่ว พลังวิเศษของท่านไร้ขีดจำกัด ล้วนเป็นเพราะความบริสุทธิ์ไร้มลทินของท่าน ตั้งแต่อดีตกาลตำแหน่งซือมิ่งไม่มีผู้ใดสมรส เพียงเพื่อรักษาพลังวิเศษ พลังของท่านยังคงอยู่ ท่านยังครองร่างอันบริสุทธิ์ไว้ ไฉนจึงให้กำเนิดทายาทได้”