เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 257 ผู้เสแสร้งต้องโดนฟ้าผ่า
อิงหลงอาวุโสตกลงไปราวกับน้ำตก ขณะที่มันปรากฏตัวในแดนผนึกนั้นก็ถูกกายเนื้อของตนเอง ‘ดูด’ ไปแล้ว ทั้งพื้นที่สั่นสะท้าน
ตัวอิงหลงอาวุโสเองก็ ‘ตะลึง’ เช่นกัน! “นี่มัน…คือ…”
อิงหลงอาวุโสที่สามารถ ‘มองเห็น’ ได้และสามารถรับรู้ผ่านการรับรู้ที่คุ้นเคย มั่นใจว่าตนกำลังหวนคืนกลับสู่ร่างเดิมนั้น มันไม่อยากจะเชื่อจริงๆ! เพราะมันเองก็ไม่รู้ว่าร่างมังกรของมันเองอยู่ที่ใด!
สำหรับอสูรระดับมันแล้วนั้น ร่างมังกรไม่ได้สำคัญมากนัก เพียงแค่พลังจิตวิญญาณครบ บวกกับปีกคู่นั้น มันก็จะสามารถสร้างร่างมังกรร่างใหม่ได้แน่นอน
บางทีความรู้สึกที่ได้กลับเข้าสู่ร่างมังกรของตนเองกับการสร้างร่างกายใหม่นั้นคงไม่อาจเทียบกันได้! ยิ่งไปกว่านั้นมันที่กำเนิดในดินแดนภูเขาและทะเลโบราณ ร่างมังกรที่มีอยู่แต่เดิมนั้นไม่อาจเลียนแบบได้! เพราะในร่างมังกรนั้นมีพลังแห่งดินแดนภูเขาและทะเลโบราณอยู่
มาจาก…
“ปฐมราชินี!?”
อิงหลงอาวุโสที่ตะลึงอย่างหาที่สุดไม่ได้ มันคาดไม่ถึงจริงๆ! ว่ามันไม่เพียงแต่สามารถมองเห็นปฐมราชินีได้เท่านั้น แต่ปฐมราชินียังต่อกายเนื้อของมันทั้งหมดกลับมาด้วย มัน…
อิงหลงอาวุโสน้ำตาคลอ มันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกในใจของตนเองได้ มันรู้เพียงว่า…หากปฐมราชินีกลับมา ทุกอย่างย่อมดีไปเสียหมด
“ได้แล้ว รีบกลับเข้าร่างของเจ้าแล้วฟื้นฟูมันซะ” เยี่ยนอวี๋ที่รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาตื่นเต้นมากพูดปลอบเบาๆ แต่กลับทำให้น้ำตาของอิงหลงไหลริน
ซึ่งทำเอาเม่ยเอ๋อร์มึนงง เพราะนางเพิ่งเคยเห็นอิงหลงขนาดยักษ์ร้องไห้ฟูมฟายเช่นนี้เป็นครั้งแรก ราวกับว่ามีแม่น้ำสองสายกำลังไหลลงจากดวงตาของมังกรอย่างไรอย่างนั้น
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางที่รู้สึกขนลุกอดไม่ได้ที่จะคิด ผู้ใต้บังคับบัญชาของนางไม่ชอบร้องไห้นี่! เหตุใดจึงได้ร้องไห้ฟูมฟายเช่นนี้ได้เล่า
โชคดีที่อิงหลงอาวุโสควบคุมตัวเองได้อย่างรวดเร็ว “ขออภัยปฐมราชินีด้วย ข้าน้อย…ข้าน้อยควบคุมตัวเองไม่ได้” ถึงแม้อยากจะร้องไห้ตั้งแต่เจอปฐมราชินีครั้งแรกแล้วก็ตาม แต่เพราะว่ากลัวโดนก่นด่าจึงไม่กล้าร้อง
แต่บัดนี้ แม้แต่อิงหลงอาวุโสเองก็ยังไม่สังเกตว่ามันได้ปลดปล่อย ‘ตัวตนจริงๆ’ ของมันออกมาต่อหน้าปฐมราชินีโดยไม่รู้ตัวแล้ว แต่ก่อนมันไม่กล้าเลยสักนิด ไม่ได้เพราะเกรงกลัวในปฐมราชินีแต่อย่างใด เพียงแค่ไม่กล้าเท่านั้น…
“เอาล่ะๆ รีบเถอะ” เยี่ยนอวี๋ที่โบกมือให้ปวดศีรษะเล็กน้อย ไม่อยากเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาร้องไห้อีกต่อไปแล้ว รู้สึกแปลกๆ ในใจ
อิงหลงอาวุโสที่ยังคงร้องไห้อยู่เรื่อยๆ พยักหน้าจริงจัง “ขอรับ ข้าน้อยจะไม่ทำให้ปฐมราชินีผิดหวังแน่นอน”
“อืม” เยี่ยนอวี๋ที่หน้าตึงหวังเพียงว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาจะไม่ร้องไห้ต่อไปอีกแล้ว!
ต้าซือมิ่งเห็นทั้งสองจึงได้เผยรอยยิ้มออกมา แม่ของลูกน้อยที่แสร้งเคร่งขรึม ช่างน่ารักเสียจริง
“เจ้าหัวเราะอะไร!” เยี่ยนอวี๋ที่เห็นต้าซือมิ่ง ‘แอบหัวเราะ’ พอดีสีหน้านิ่งเกร็ง
ต้าซือมิ่งหลุดปาก “เจ้าน่ารักเสียจริง”
เยี่ยนอวี๋ “…”
ปฐมราชินีเยี่ยนที่เม้มปากเล็กน้อยรู้สึกว่าถึงเวลาที่ควรจะคุยกับต้าซือมิ่งดีๆ แล้ว!
แต่ต้าซือมิ่งเพียงแค่หาวอย่างสง่างามเท่านั้น “ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าไปนอนก่อนนะ”
เยี่ยนอวี๋ที่เห็นว่าร่างกายของเขาอ่อนแออยู่นั้น ทำได้เพียงเก็บคำพูดเอาไว้ “ส่งเสี่ยวเป่ามาให้ข้า”
ต้าซือมิ่งผู้ใจดีได้ส่งมอบเจ้าตัวน้อยออกไป และเขาก็ได้เดินเข้าไปในกระโจมที่เพิ่งตั้งเสร็จเมื่อครู่นี้ แล้วนอนอย่างสบายใจ
ไม่นานเยี่ยนอวี๋ก็ได้ยินเสียงหายใจของต้าซือมิ่งบางคน หลังจากนั้นนางก็พบว่านางกำลังสนใจว่าคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่!
“…” เยี่ยนอวี๋ที่เก็บการรับรู้นั้นไว้เงียบๆ รู้ดีว่าเป็นเพราะการพัวพันของคนผู้นี้ จึงทำให้นางสับสน จนแทบจะลุ่มหลงเข้าไปในทางของเขาแล้ว
แต่ทว่า…
ขณะเดียวกันที่อิงหลงอาวุโสได้รวมร่างกายและฟื้นฟูเข้าด้วยกันนั้น! กู้หยวนซูที่อยู่บริเวณฝั่งของแม่น้ำเย่ว์หมิง นางก็กำลังบรรลุขั้นวิญญาณปฐมภูมิเช่นเดียวกัน ทั้งยังราบรื่นมากเสียด้วย
“ศิษย์พี่หญิงจะบรรลุแล้ว!” เซี่ยเย่ามองดูตำหนักสวยงามที่ปรากฏและหายไปบนท้องฟ้า และรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นสัญญาณว่าศิษย์พี่หญิงจะบรรลุขั้นวิญญาณปฐมภูมิแล้ว
ว่ากันว่าบรรพบุรุษตระกูลกู้แห่งสำนักเหยาไถเซียนนั้นสร้างจากตำหนักเซียนตำหนักหนึ่ง เพียงแค่ไม่ใช่ผู้ไร้ประโยชน์ก็ย่อมสามารถอัญเชิญวิญญาณจากตำหนักเซียนได้ หากเป็นศิษย์ยอดเยี่ยมก็จะสามารถอัญเชิญวิญญาณวิหคเทพจากตำหนักเซียนนได้ รวมถึงแก่นวิญญาณอสูรโบราณ…ซีหวังหมู่ด้วย
ดังนั้น เมื่อมีคนเลือดเนื้อตระกูลกู้แห่งสำนักเหยาไถเซียนใกล้จะบรรลุขั้นนั้น ก็จะมีสัญลักษณ์ตำหนักเซียนออกมา! ดังนั้นอินสวินอี้และคนอื่นๆ บนฝั่งแม่น้ำเย่ว์หมิงรู้จักสัญลักษณ์นี้ดี
“เซ่าซือมิ่งกู้จะบรรลุแล้วอย่างนั้นหรือ” เฉิงคั่วตกใจ เขาจำได้ว่าตอนที่เพิ่งมาที่นี่ ฌานตบะของเซ่าซือกู้ผู้นี้ยังไม่ถึงขั้นบรรลุขั้นเลย
“ร่างกายฟ้าประทารช่างต่างจากปกติจริงๆ” ชิงอ้ายเฟิงพูดได้เพียงว่าคุณหนูใหญ่กู้แห่งสำนักเหยาไถเซียนผู้นี้ยอดเยี่ยมจริงๆ นี่เพิ่งจะอายุยี่สิบกว่าเท่านั้น ดูท่าแล้วจะเข้าใกล้ระดับตำนานแล้ว!
อินสวินอี้จึงอดไม่ได้ที่จะวิจารณ์ลับๆ เขาไตร่ตรอง คนผู้นี้ตั้งนานไม่บรรลุ ลงไปใต้แม่น้ำหนเดียวก็บรรลุแล้ว แต่ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับไร้ร่องรอยใดๆ
หากจะบอกว่าไม่มีอะไรแอบแฝงเลยอินสวินอี้ไม่เชื่อจริงๆ! เพียงแต่ว่าเขาที่เพิ่งจะพยายามจับ ‘ความหมายแฝง’ ได้ไม่กี่คำนั้นก็ถูกองครักษ์บางคนขัดไว้เสียก่อน “ท่านอ๋อง มีเรื่องด่วนขอรับ เมืองหลวง…”
ไม่ทันที่องครักษ์คนนี้จะกล่าวจบ “ใต้เท้าเฉาจากเมืองหลวงมาถึง…” เสียงจากทางตอนเหนือดังมาสู่ผู้คนรอบๆ
“ใต้เท้าเฉาจากเมืองหลวงมาถึงแล้ว!”
เสียงประกาศดังเข้ามาใกล้กว่าเดิม บ่งบอกว่าเฉาหมิงเฉิงและผู้ร่วมทางรวดเร็วมาก ไม่ถึงครึ่งเค่อ! เฉาหมิงเฉิงทั้งห้าคนก็ปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคนแล้ว
“นี่มัน…” เฉิงคั่วและคนอื่นๆ ตกใจ เพราะพวกเขาไม่ได้รับ ‘สัญญาณ’ ก่อน และไม่รู้เลยว่าทางราชสำนักมีขันทีพิเศษมา คนคนนี้ก็มาถึงเสียแล้ว!
แต่ทว่าคนในที่เกิดเหตุส่วนใหญ่รู้จักเฉาหมิงเฉิง รู้ว่าเขาเป็นคนเลื่องชื่อก่อนหน้านี้! ดังนั้นหลังจากที่ตะลึงไปชั่วขณะแล้ว เฉิงคั่วและคนอื่นๆ ก็กล่าวอย่างเกรงใจว่า “ใต้เท้าเฉิง”
ผู้มียศต่ำกว่าต่างก็คารวะ “ใต้เท้าเฉิง”
เฉาหมิงเฉิงมาถึงอย่างเร่งด่วน ในมือยังถือพระบัญชาไว้ด้วย!
นี่ทำให้อินสวินอี้มีความรู้สึกไม่ดีนัก แต่เฉาหมิงเฉิงก็ได้เปิดพระบัญชาออกแล้วอ่านทันที “ใต้เท้าทุกท่าน รวมถึงโยวตูอ๋องรับพระบัญชา”
เฉิงคั่วและคนอื่นๆ คุกเข่าน้อมรับ “กระหม่อมรับพระบัญชา!”
“โยวตูอ๋อง?”
“กระหม่อมอินสวินอี้ รับพระบัญชา” ระหว่างที่อินสวินอี้กำลังโค้งตัวคำนับนั้นก็ได้ยินเฉาหมิงเฉิงกล่าว “ตามการเปิดเผยของสวรรค์ พระบัญชาของฝ่าบาท ด้วยการที่ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองโยวตูได้ ซึ่งเป็นภัยต่อเมืองหลวง โยวตูอ๋องจึงต้องรับผิดชอบทั้งหมด แต่ด้วยการที่ตระกูลอินรับใช้ราชสำนักมาโดยตลอด จึงยังไม่ตัดสินโทษ ให้ย้ายไปยังเมืองหลวง นี่คือพระเมตตา
รับสั่งให้ ผู้บัญชาการทหารม้า…เฉิงคั่ว เฉินฉุนเฟิงแห่งตำหนักซือมิ่ง ชิงอ้ายเฟิงแห่งสำนักชิงเหลียน เหลียงเฉิงคุนแห่งสำนักคุนอู๋ และขันทีพิเศษ…เฉาหมิงเฉิงรับพระบัญชา”
พระบัญชาเช่นนี้…
อยู่ในความคาดหมายของทุกคน
ดังนั้นหลังจากที่เฉาหมิงเฉิงอ่านพระบัญชาเสร็จ เฉิงคั่วและคนอื่นๆ ที่รับบัญชาทำได้เพียงกล่าวต่อโยวตูอ๋องว่า “โยวตูอ๋อง เชิญขอรับ”
“โยวตูอ๋อง รับบัญชา” เฉาหมิงเฉิงเองก็จ้องโยวตูอ๋องเขม็งหลังจากเก็บพระบัญชาแล้ว จากนั้นผู้แข็งแกร่งที่มีกลิ่นอายแปลกประหลาดสี่คนด้านหลังก็ล้อมโยวตูอ๋องไว้ตั้งนานแล้ว
อินสวินอี้ที่ยืนตัวตรง เขาคาดไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้ ดังนั้นเขาจึงรับบัญชา “กระหม่อม น้อมรับพระบัญชา”
“ท่านอ๋อง!”
“ท่านอ๋อง!…”
ทหารเมืองโยวตูและองครักษ์จวนอ๋องต่างสับสนวุ่นวายไปหมด
คนจากราชสำนักต่างตักเตือน!
แต่อินสวินอี้ได้สั่งการลงไป “ใจเย็นก่อน!”
“ท่านอ๋อง! มาร…” องครักษ์บางคนเกือบจะพูดออกไปแล้วว่า “มารดามันเถอะ! ใครจะไปฟังคำพูดของหยวนคังฮ่องเต้นั่นกัน!”
แต่อินสวินอี้ไม่ให้โอกาสเขาพูดออกไป “หมายถึงเจ้านั่นแหละ! ต้าเหมา”
องครักษ์กัดฟันแน่นไม่พอใจแค่นเสียง หึ! และไม่ได้พูดต่อไปเหมือนเอ้อร์เหมา
“โยวตูอ๋องรู้ดี” เฉาหมิงเฉิงกล่าวจบก็นำพระบัญชาในมือยื่นให้กับอินสวินอี้ แต่ฝ่ายหลังกลับไม่รับมาแล้วถามกลับว่า “ตามพระบัญชาแล้ว จะให้ข้าย้ายไปเมืองหลวงทั้งตระกูลใช่หรือไม่”
“ใช่แล้ว” เฉาหมิงเฉิงพยักหน้า
“เช่นนั้นข้าคงต้องเก็บสัมภาระเสียหน่อยกระมัง” อินสวินอี้ถาม
เฉาหมิงเฉิงรีบปฏิเสธ “ไม่จำเป็น เมืองหลวงมีไว้ให้พร้อมแล้ว”
“แต่ข้ามีสนมมากมาย หญิงสาวเหล่านี้จะออกจากบ้านทีไม่ได้รวดเร็วนัก เจ้าควรต้องเคารพดอกไม้ของข้าบ้างสิ! คงไม่ทำเหมือนที่จับคนร้ายแล้วจับทั้งตระกูลข้าไปตอนดึกๆ ดื่นๆ หรอกนะ! ฝ่าบาทบอกแล้วว่าตระกูลข้าช่วยเหลือราชสำนักมาโดยตลอด ยังไม่ลงทัณฑ์นี่”
เฉาหมิงเฉิง “…”
“ว่าอย่างไร” อินสวินอี้เท้าเอวถาม
เฉาหมิงเฉิงทำได้เพียงให้เวลาเล็กน้อย “เช่นนั้นก็ให้เวลาโยวตูอ๋องเป็นเวลาหนึ่งคืน พรุ่งนี้ยามตะวันขึ้นค่อยตามข้าไปยังเมืองหลวง” นี่ก็ถือเป็นหนึ่งในการคาดเดาของเขาด้วยเช่นกัน เขาจะได้ใช้เวลานี้ตามหาคุณหนูใหญ่เยี่ยน
“เช่นนั้น ต้าเหมา…เจ้าไปบอกเหล่าเหนียงเหนียงที ข้าจะเฝ้าอยู่ที่นี่ต่อไป ต้องวานให้แม่ทัพเฉิง หัวหน้าชิงและเซ่าซือเฉินช่วยด้วย” อินสวินอี้สั่งการเป็นเรื่องเป็นราว
เฉาหมิงเฉิงตกใจเล็กน้อย ถึงจะกล่าวว่า “โยวตูอ๋อง! นี่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตพระบัญชาของฝ่าบาทนะ”
“แต่นอกพระบัญชาเป็นคำสั่งของต้าซือมิ่ง ตราบใดที่พระบัญชายังไม่ดำเนินการ ข้าย่อมเฝ้าอยู่ที่แม่น้ำเย่ว์หมิงต่อไป และไม่อาจจากไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เซ่าซือเฉินคิดเห็นอย่างไร” อินสวินอี้กล่าวตอบ
เฉินฉุนเฟิงที่ถูกขานชื่อ เขาจะคิดเห็นอย่างไรได้อีกเล่า เขาก็ทำได้เพียงพยักหน้าเท่านั้น “เป็นเช่นนั้นจริงๆ ขอรับ ใต้เท้าเฉา”
แต่เฉาหมิงเฉิงกลับกล่าวขึ้น “ขออภัย ข้าทำตามคำสั่งฝ่าบาทเท่านั้น! ปัญหาเรื่องน้ำท่วมของเมืองโยวตู ฝ่าบาทมีแผนการใหม่แล้ว โยวตูอ๋องไม่จำเป็นต้องกังวลไป ตรงหน้านี้ไม่เพียงแต่แม่ทัพเฉิงและใต้เท้าคนอื่นๆ ที่ไม่สามารถเฝ้าอยู่ที่นี่ต่อได้เท่านั้น แต่ท่านเองก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องออกจากพื้นที่แห่งนี้”
เพียงแต่คำพูดของเขาเพิ่งจะสิ้นสุดลง…
ผ่างงง!
สายฟ้าสายหนึ่งผ่าลงกลางอากาศ!