เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 259 ซึ่งหน้าไม่ได้ก็ซุ่มแล้วกัน
ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลที่ไร้ปฏิกิริยาใดๆ
และขณะที่คนส่วนใหญ่นึกว่า…
ขณะที่มันจะถูกฉีกกระจายไปนั้น ก็ยังคงนิ่งเช่นเคย ยังคงปกคลุมเมืองโยวตูไว้ลับๆ ราวกับว่ามันข้ามแม่น้ำแสงจันทร์เป็นล้านจั้ง! เถาวัลย์ที่ขนาดใหญ่จนไม่สามารถอธิบายได้นั้นเหมือนเป็นเพียงสายฝนเล็กๆ เท่านั้น
ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเล…มันไม่แม้แต่จะขยับเลยแม้แต่นิด!
ทั้งยังดูเหมือนสว่างและชัดเจนมากขึ้นภายใต้การเกื้อหนุนของกองทัพเมืองโยวตู
“ให้ตายเถอะ!”
อินสวินอี้ที่เกือบจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ก่อนหน้านั้น บัดนี้ได้กลายเป็นคนหยาบคายแล้ว เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่า! ภาพม้วนที่ไม่มี ‘การเกื้อหนุน’ จากต้าซือมิ่งนั้นจะ ‘แข็ง’ เพียงนี้!
อย่างที่ทุกคนทราบว่าก่อนหน้านี้ต้าซือมิ่งก็ไม่ได้ ‘เกื้อหนุน’ ภาพม้วน เขาเพียงแค่ปล่อยพลังเทพออกมาไม่ให้พลังภายนอกไปกัดเซาะและรบกวนการบำบัดน้ำของเยี่ยนอวี๋ได้
ภาพม้วนขุนเขาและทะเลนี้ถูกผนึกด้วยตราประทับของแดนมืดวิญญาณอสูร หลังจากที่เยี่ยนอวี๋ซ่อมแซมผนึกได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว มันจึงแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น! ดังนั้น…
ชิ้งงง!
ชิ้งๆ!
เถาวัลย์ขนาดใหญ่อับอายจนกริ้วโกรธ คิดจะเอาจริงแล้ว เพียงแต่ขณะที่ทะยานเข้าไปบนภาพม้วน มันก็ยังคงไม่ขยับ ราวกับกำลังมองดูเด็กน้อยอยู่อย่างไรอย่างนั้น ช่างนิ่งเหลือเกิน!
ซี๊ดดด! เฉินฉุนเฟิงและคนอื่นที่รู้ตัวต่างก็หายใจเข้า เขาเพิ่งได้รู้! ว่าภาพม้วนในตำนานเป็นดั่งที่เล่าขานกันจริงๆ
ถึงแม้นี่จะเป็นเพียงเงาร่างก็ตาม! แต่ก็สามารถหยุดสัตว์ประหลาดใหญ่นี้ได้!
แต่ทว่าเถาวัลย์ที่ไม่สามารถทำอะไรภาพม้วนได้ มันก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายและลองแยกไปทางสองฝั่งของแม่น้ำเย่ว์หมิง และพุ่งไปทางกองทัพเมืองโยวตูและค่ายกลขุนเขาและท้องทะเลของสำนักจวินจื่อ
แต่น่าเสียดาย…
โครม ค่ายกลขุนเขาและท้องทะเลของกองทัพเมืองโยวตูที่โบราณและลึกลับเหมือนภาพม้วน พวกเขาได้หยุดเถาวัลย์ขนาดใหญ่ไว้อย่างมั่นคง ไม่ถอย! และไม่บาดเจ็บด้วย!
ซี๊ดดด…
ผู้คนบนฝั่งของแม่น้ำเย่ว์หมิงจำต้องสูดหายใจเข้าอีกเฮือกหนึ่ง! ภาพม้วนที่แข็งแกร่งเพียงนี้ หลังจากที่ไม่มีการเกื้อหนุนจากต้าซือมิ่งนั้น ได้เผยความเป็นตำนานของมันออกมาอย่างแท้จริงต่อทุกคน
และจวินอั้นเทียนที่เดิมเพียงแค่จะอัญเชิญกระบี่สวรรค์มาเท่านั้น ในที่สุดเขาก็โล่งใจเสียที ไม่ต้องสู้สุดชีวิตแล้ว “ภาพม้วนขุนเขาและท้องทะเลของตำหนักไท่ชาง ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ในขณะนั้นเอง ไม่เพียงแต่จวินอั้นเทียนเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ แต่ทุกคนที่เห็นฉากนี้! ก็คิดเช่นนี้เช่นกัน ที่ต่างกันคือทุกคนกำลังยินดีกับเมืองโยวตู แต่เฉาหมิงเฉิงไม่ใช่
ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจในการดำเนินการนัก แต่เฉาหมิงเฉิงมีสัญชาตญาณว่าเถาวัลย์นี้ต้องเกี่ยวข้องกับ ‘สหาย’ ที่ไปถึงเมืองลั่วสุ่ยพร้อมกันแน่ๆ
แต่เฉาหมิงเฉิงในตอนนี้รู้สึกว่า ‘สหาย’ น่าจะมีแผนการอื่นอีก จึงไม่ได้ทำอะไรมากนัก เพียงแค่คอยส่งสัญญาณลับๆ ให้กับสี่คนที่มาด้วยให้รีบตามหาตัวคุณหนูใหญ่เยี่ยน
ทั้งยังเพราะเฉาหมิงเฉิงไม่มีท่าทีมากมายนัก อินสวินอี้ถึงได้ไม่สนใจเขา แต่ตอนนี้เขาได้ขึ้นไปบนท้องฟ้าและยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับจวินอั้นเทียน “เจ้าว่าอย่างไร”
“มั่นคง” จวินอั้นเทียนเก็บแสงสีขาวรอบตัวไว้ สายตามองไปตามเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่แสงยันต์ประกายไปทางสองฝั่งของแม่น้ำเย่ว์หมิง
“ข้าเกรงว่าจะไม่เกิดปัญหาที่เมืองโยวตู แต่เกิดปัญหาที่เมืองลั่วสุ่ยและที่อื่นๆ บนชายฝั่งแม่น้ำเย่ว์หมิง เพราะนี่ไม่ใช่น้ำท่วม เกรงว่าจะได้รับผลกระทบทั้งตอนกลางและตอนบน” อินสวินอี้เป็นกังวลพื้นที่อื่นมาก
แต่จวินอั้นเทียนกลับตอบว่า “ไม่หรอก ข้าคิดว่าปลายเถาวัลย์นี้น่าจะอยู่ที่เมืองโยวตู ถูกภาพม้วนโจมตีเข้า มันลุกไม่ขึ้นก็ย่อมไม่สามารถก่อคลื่นขึ้นมาได้”
นี่เป็น ‘เรื่องดี’ ที่อินสวินอี้คาดไม่ถึง ใจที่เป็นกังวลของเขาดวงนั้นในที่สุดก็สามารถวางลงได้แล้ว แต่เมื่อพิจารณาถึง ‘น้ำท่วม’ ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทำให้เขาไม่สามารถวางใจได้อย่างสมบูรณ์
จวินอั้นเทียนก็ได้เสนอแนะ “เตรียมกำลังเสริมไว้ให้พร้อม ข้าคิดว่าเถาวัลย์นี้ต้องต่อกรยากแน่นอน”
“วางใจเถิด” อินสวินอี้รู้อยู่แก่ใจ “พรุ่งนี้หลังจากที่ข้าไป เรื่องที่เหลือต้องวานเจ้าแล้ว”
“เจ้าคิดจะเข้าเมืองหลวงในช่วงนี้จริงหรือ” จวินอั้นเทียนถาม
“ไม่อย่างนั้นล่ะ” อินสวินอี้ยืนมือไว้ด้านหลัง แล้วมองเมืองโยวตูที่ยังไม่ฟื้นฟูข้างล่าง “โยวตูตอนนี้ยังทำสงครามไม่ได้ น้ำท่วมยังไม่ถูกแก้ ชาวบ้านเมืองโยวตูกลับบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“แต่ทว่า…” จวินอั้นเทียนเป็นห่วงว่าอินสวินอี้จะไปแล้วกลับมาไม่ได้อีก
“ยังมีหลิวเฟิงอย่างไรเล่า!” อินสวินอี้รู้อยู่แก่ใจ “หากกลับมาไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้พวกเจ้าคอยช่วยเหลือหลิวเฟิงแล้ว เขาน่ะ…ยังเด็กอยู่”
“ท่านอ๋อง” จวินอั้นเทียนที่รู้ว่าอินสวินอี้เช่นนี้คือกำลังฝากฝังลูก แต่กลับไม่รู้จะห้ามอย่างไร เพราะโยวตูในตอนนี้ ไม่เหมาะที่จะทำสงครามจริงๆ
อย่างแรกคือ โยวตูที่มีปัญหาภายใน ทุกกองทัพล้วนยุ่งอยู่กับ ‘การบำบัดน้ำท่วม’ ไม่สามารถแยกตัวมาทำสงครามได้ สองคือหากไม่สนใจปัญหานี้ แล้วเปิดศึกเลย เช่นนั้นโยวตูต้องถูกน้ำท่วมซัดจนสูญสิ้นแน่นอน โยวตูในตอนนี้ เป็นเพียงฝ่ายไร้ประโยชน์เท่านั้น
ที่อินสวินอี้ต้องการคือโยวตูที่เจริญรุ่งเรืองเหมือนเก่า แต่หยวนคังฮ่องเต้ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าโยวตูจะเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ และนี่คือข้อแตกต่างมากที่สุดของพวกเขา
“ข้าคิดว่าที่ข้าต้องการก็คือโยวตูที่เจริญรุ่งเรืองแล้ว แต่ดูแล้วคงไม่ใช่อย่างนั้น” อินสวินอี้รู้ดี แต่เขาไม่อาจแก้ไขอะไรได้ และไม่สามารถทิ้งโยวตู ทิ้งชาวบ้านเช่นหยวนคังฮ่องเต้ได้ นั่นเป็นราษฎรของเขาทั้งนั้น
จวินอั้นเทียนเองก็เข้าใจดี ทั้งยังเข้าใจดีกว่าอินสวินอี้เสียด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่องครักษ์รายงานไม่หมดนั้น เขาได้เข้าใจหมดแล้ว เขารู้ว่าเฉาหมิงเฉิงไปที่เมืองลั่วสุ่ยก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมายังเมืองโยวตู ทั้งยังทิ้งผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งไว้ที่เมืองลั่วสุ่ยด้วย
เพียงแต่สุดท้ายผู้แข็งแกร่งที่มาจากเมืองหลวงนั่นหายตัวไป แต่หลังจากที่พวกเขาหายไปไม่นาน เถาวัลย์ขนาดใหญ่นี้ก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
ดังนั้นจวินอั้นเทียนยังคงหวังว่า “ท่านอ๋องระวังตัวด้วย บางทีต้าซือมิ่งอาจจะกลับมาในไม่ช้านี้แล้วก็ได้”
“เจ้าวางใจเถิด ข้ารักตัวเองจะตายไป หากต้องขี้ขลาดข้าย่อมขี้ขลาดถึงที่สุด” อินสวินอี้กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมทั้งชี้เถาวัลย์ขนาดใหญ่ตรงหน้านี้กล่าวว่า “หากมันยังคงเสแสร้งเช่นนี้ต่อไป บางทีข้าอาจจะไม่ไปเมืองหลวงแล้วก็ได้”
“…ก็จริง” จวินอั้นเทียนพูดได้เพียงว่า ความคิดของท่านอ๋องคนนี้ชัดเจน แต่นี่คือความจริง ตราบใดที่เถาวัลย์นี้ยังคงไหลไปเรื่อยๆ ใครเล่าจะข้ามแม่น้ำไปทางเหนือได้
ที่น่าเสียดายคือ จวินอั้นเทียนเพิ่งจะกล่าวจบ…
เถาวัลย์ขนาดใหญ่ก็หยุดการเคลื่อนไหวลง ทั้งยังถอยกลับไปยังแม่น้ำเย่ว์หมิง
นี่มัน…
“เอ่อ…” อินสวินอี้จับหน้าของตน “สงสัยข้าหน้าใหญ่ ทำให้เถาวัลย์นี้ยอมถอยให้ข้าแล้ว”
จวินอั้นเทียน “…”
นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าและจริงจัง แต่พอท่านอ๋องอินเป็นผู้กล่าวกลับน่าขันเช่นนี้เล่า
แต่ไม่ว่าจวินอั้นเทียนจะคิดอย่างไร ความจริงก็คือเถาวัลย์ได้ถอยกลับลงไปแล้ว ไม่นานแม่น้ำเย่ว์หมิงก็เงียบสงบลง เป็นความเงียบที่แปลกประหลาด
“เกรงว่าคงไปเตรียมท่าไม้ตายแล้ว” เฉินฉุนเฟิงคิดว่าต้องเป็นเช่นนี้แน่ เถาวัลย์นั่นยังมีความคิดอยู่ มันรู้ว่าทำเช่นนั้นต่อไปก็ไร้ประโยชน์
ทว่าผู้คน ‘รอแล้วรอ’ เถาวัลย์ขนาดใหญ่นี้ก็ไม่ทำอะไรเลย!
จนฟ้าสว่าง…
เฉาหมิงเฉิงที่ตามหาคุณหนูใหญ่เยี่ยนไม่พบนั้นเดินมาหาอินสวินอี้ “โยวตูอ๋อง พวกนกกาในจวนของท่านเก็บของมาหนึ่งคืนแล้ว ไปได้แล้วกระมัง!”
“แน่นอน” อินสวินอี้ที่วางแผนยอมแพ้มาหนึ่งคืน เขารู้สึกว่าได้วางแผนต่อจากนี้ไปหมดแล้วจึงไม่ได้ยื้อเวลาต่อไป “ขอใต้เท้าเฉานำทางด้วย”
“ย่อมได้” เฉาหมิงเฉิงพยักหน้าพอใจ ทั้งยังตรวจสอบคนรอบๆ อินสวินอี้ด้วย พบว่าคนในตระกูลอินนั้นอยู่กันครบ เพียงแต่อินหลิวเฟิงที่ไม่อยู่ที่นี่เท่านั้น
แต่เฉาหมิงเฉิงรู้ว่าอินหลิวเฟิงได้ลงไปในแม่น้ำพร้อมกับคุณหนูใหญ่เยี่ยน ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร หากไม่ได้รับการคุ้มครองจากพลังวิเศษนั้น ส่วนมากล้วนตายไปแล้ว
ดังนั้น เฉาหมิงเฉิงจึงไม่ได้ถามเรื่องอินหลิวเฟิงต่อไป เพียงแค่สั่งให้คนไป ‘เชิญ’ อินสวินอี้ออกจากกระโจมค่าย เฉิงคั่วและคนอื่นๆ ได้เตรียมการรอไว้ก่อนแล้ว
“โยวตูอ๋อง เชิญขอรับ” เฉิงคั่วในฐานะแม่ทัพใหญ่ นำหน้าพาอินสวินอี้ไปยังค่ายกลเคลื่อนเวหาที่ร่ายไว้ก่อนหน้าแล้ว
แม้ว่าแม่ทัพเมืองโยวตูจะทำใจไม่ได้ แต่ก็ทำอะไรอินสวินอี้ไม่ได้ จึงได้แต่ส่งท่านอ๋องของพวกเขาไปเงียบๆ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาลับๆ! ต้องปกป้องเมืองโยวตูไว้ให้ดีแน่ นี่เป็น ‘ความสงบ’ ที่ท่านอ๋องของพวกเขาแลกมาด้วยอิสระ รวมถึงชีวิตด้วย
เพียงแต่น่าเสียดาย…
ไม่ว่าจะเป็นอินสวินอี้หรือจวินอั้นเทียน หรือว่าแม่ทัพเมืองโยวตูก็ตาม พวกเขาล้วนคาดไม่ถึงว่าเฉิงคั่ว เฉินฉุนเฟิงและชิงอ้ายเฟิง รวมถึงศิษย์สำนักชิงเหลียนได้ ‘เชิญ’ ทั้งตระกูลอินสวินอี้ไปพร้อมกัน
แต่ทหารราชสำนักที่เฉิงคั่วพามามากมาย! รวมถึงกองทัพตำหนักซือมิ่ง กองทัพสำนักคุนอู๋กลับไม่ได้จากไป เฉาหมิงเฉิงเองก็ด้วย!
ดังนั้นอินสวินอี้ที่กำลังจะถูกส่งไปยังเมืองหลวง สัมผัสได้ว่าเฉาหมิงเฉิงไม่อยู่ เขาก็รู้แล้วว่าต้องไม่ดีแน่! แต่เขาก็ทำได้เพียงหวังว่าจวินอั้นเทียนจะรับมือได้
หลังจากนั้น…
“รายงาน!”
“ประมุขสำนัก! กองทัพเสริมที่ท่านอ๋องเตรียมไว้ ตายเพราะถูกพิษทั้งหมดเลยขอรับ” สีหน้าของหัวหน้าสำนักจวินจื่อที่เข้ามารายงายซีดเซียว ข่าวนี้ช่างร้ายแรงเหลือเกิน
จวินอั้นเทียนลุกขึ้น เดินไปทางกระโจมค่ายราชสำนักโดยตรง แต่เขาเพิ่งจะเดินออกจากกระโจมค่ายไม่นาน ผู้แข็งแกร่งจากราชสำนำทั้งสี่ก็โจมตีเขาแล้ว
นี่ยังไม่นับ…
“กองทัพโยวตูฟังคำสั่ง! ข้าได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทให้รวมกองทัพโยวตู ผู้ใดที่ยอมช่วยเหลือราชสำนัก ให้รีบหยุดการต่อต้านไว้ และล้อมผู้ต่อต้านเอาไว้! ฆ่าไม่ต้องปรานี ประหารเก้าชั่วโคตร!”