เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 27 สู่ขอมาเป็นฮูหยินน้อย
นี่มันเล่นตลกบ้าอะไรกัน
ความสามารถล้ำเลิศ พิสดารดุจภูตผีสร้างขึ้นอย่างนั้นหรือ
พลังเหนือธรรมชาติดุจภูตผีที่มนุษย์ธรรมดามิอาจทำได้อย่างนั้นหรือ
ผี…
กับผีน่ะสิ
“…” องครักษ์ชุดดำที่พูดสะเปะสะปะในใจ ก็มองกลับไปที่นายน้อยของตนด้วยตาเป็นประกาย “นายน้อย! ท่านสู่ขอเทพธิดาท่านนี้เป็นฮูหยินน้อยเถอะขอรับ สุดยอดมาก!”
นายน้อยตกใจกับความคิดแปลกใหม่ของลูกน้องของเขา ทว่าเขาก็อดพยักหน้าเห็นด้วยไม่ได้ “หากนิสัยเข้ากันได้ ไปกันได้ ก็ดีอยู่หรอก”
“นายน้อย ท่านตั้งเงื่อนไขมากเกินไปแล้วขอรับ นางงดงามเช่นนี้ เก่งกาจเพียงนี้ ท่านยังคิดเรื่องไร้สาระเหล่านี้อีก มิน่าตีนผมของท่านจึงล่นไปข้างหลังมากขึ้นทุกวัน” องครักษ์ชุดดำอดแขวะขึ้นอย่างไร้มารยาทไม่ได้
นายน้อยที่หมดคำพูดอยากจะต่อยองครักษ์ที่ไม่รู้จักหักห้ามปากคนนี้นัก! งามแล้วไม่ต้องสนใจสิ่งอื่นหรืออย่างไร หากเป็นเช่นนี้ เขาส่องกระจกทุกวัน ก็งามดีหรอก แต่เมื่อเทียบกับผู้ที่มีความเป็นได้สูงที่อาจจะเป็นหญิงงามยอดสำรวยคนนี้แล้ว หน้าตาของเขาก็ด้อยไปเลยจริงๆ โว้ยย…ไม่ใช่แล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
นายน้อยรีบดึงความคิดที่ถูกลูกน้องชักนำไปนอกลู่นอกทางกลับมา เขามองลงไปข้างล่าง ครุ่นคิดอย่างจริงจัง แล้วพูดว่า “เกรงว่านางจะมีเจ้าของแล้ว คงไม่ยินยอม อย่าทำให้นางลำบากใจเลย”
“ไม่นะขอรับ นายน้อย หรือท่านไม่มั่นใจว่าท่านจะสู้กู้ชีหลางเจ้าคนสารเลวคนนั้นได้อย่างนั้นหรือขอรับ” องครักษ์ชุดดำตกใจ “เทียบกับเรื่องนี้แล้ว ข้าเป็นห่วงองครักษ์หญิงคนนั้นมากกว่าเสียอีก นางดูเหมือนเก่งกาจกว่าข้าเสียอีก ต่อไปท่านคงจะไม่มีอำนาจมากนัก”
“…” นายน้อยไม่อยากสนใจองครักษ์ของตนแล้ว
ในขณะเดียวกัน เยี่ยนจื่อเสาที่ฟื้นกลับมาเป็นคนปกติ และหลุดออกจากเครื่องพันธนาการในรถคุมนักโทษแล้ว ในที่สุดเขาก็พบแสงสว่างอีกครั้ง เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป และสัมผัสถึงความอบอุ่นดั่งแสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ
สติของเยี่ยนจื่อเสาที่ค่อยๆ กลับคืนมานั้น ก็ทำให้เขามั่นใจว่าคนที่ช่วยเหลือเขาคือน้องสาวของเขาที่ไม่ได้เจอกันนานแสนนาน ความรู้สึกของเขาท่วมท้นสุดจะพรรณนา
เยี่ยนจื่อเสามีคำถามมากมายที่อยากถาม มีเรื่องราวมากมายที่อยากรู้ แต่แล้วเขาก็ทำได้เพียงมองหญิงสาวตรงหน้ารถคุมนักโทษเงียบๆ มองดูนางค่อยๆ ดึงมือเรียวงามกลับมา แล้วสบตากับเขา
“หายแล้วหรือยัง” เยี่ยนอวี๋ถาม
เยี่ยนจื่อเสาชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ดีขึ้นมากแล้ว เจ้า…” ชั่วขณะหนึ่ง เขาอยากจะถามว่า เจ้าคือเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ใช่หรือไม่
แต่แล้วคำถามนี้ก็ถูกกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าน้องสาวผ่านเรื่องราวมามากมาย บัดนี้นิสัยของนางเปลี่ยนไปมากแล้ว ย่อมเป็นเพราะเรื่องราวที่ได้ประสบมา แล้วไฉนเขาจึงจะถามเช่นนั้นได้เล่า
หรือว่านิสัยของน้องเปลี่ยนไปมากแล้ว ก็ไม่ใช่น้องสาวของเขาแล้วอย่างนั้นหรือ ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน ไม่ว่าน้องสาวจะเป็นอย่างไร ก็คือน้องสาวของเยี่ยนจื่อเสา
เยี่ยนอวี๋เห็นสีหน้าเขาดีขึ้นมาก ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ครั้นกำลังจะหันกลับไปเรียกบิดา เยี่ยนจื่อเสากลับพูดขึ้นว่า “สีหน้าของเจ้าซีดมาก ลำบากเจ้าแล้ว พี่เองที่ไร้ประโยชน์” ทั้งไม่สามารถช่วยเจ้าเมื่อครั้นเจ้าตกยากลำบาก และยังทำให้เจ้ากังวลในยามนี้ด้วย
“อ้ะ! อะเนะเนะ…” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยส่งเสียงร้องดังขึ้นอย่างอดใจไม่ไหวทันที เขาเห็นว่าท่านแม่คนงามของเขาเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว เขาจึงอยากคุยกับแม่ของเขา มีเพียงท่านแม่คนงามเท่านั้นที่รู้ว่าเขาพูดอะไร
“เสี่ยวเป่า” จุดสนใจของเยี่ยนอวี๋ถูกเด็กน้อยดึงไปทันที นางส่งสัญญาณให้เม่ยเอ๋อร์อุ้มเด็กน้อยมา เม่ยเอ๋อร์ก็ส่งคืนกลับไปยังอ้อมกอดที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว
“อ้ะเนะเนะ…” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยกลับไม่ต้องการให้ท่านแม่คนงามกอด เขาดูออกว่าท่านแม่คนงามของเขาเหนื่อยมากแล้ว แต่เยี่ยนอวี๋หอมตัวน้อยอย่างไม่สนใจนัก จากนั้นจึงหันไปทางเยี่ยนชิง แล้วพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อ ปล่อยพี่รองออกมาเถิด เบามือเล็กน้อยนะเจ้าคะ พี่รองยังไม่หายดี”
“อ้อ! อื้มๆ” เยี่ยนชิงโบกมือให้ลูกน้องปฏิบัติตาม ส่วนตนก็เดินไปข้างกายลูกสาว แล้วพูดว่า “พี่รองของเจ้าพูดถูก เจ้าพักผ่อนบนหลังของพ่อก่อนเถิด”
“?” เยี่ยนอวี๋ไม่เข้าใจ
เยี่ยนชิงจึงหันหลังให้ แล้วนั่งยองลงไป ท่าทีคล่องแคล่วราวกับคุ้นชิน
ยอดฝีมือของหอเจ้าสำนักเห็นจนชินตา พวกเขาเดินไปไขรถคุมนักโทษอย่างไม่รู้สึกแปลกใจ
เยี่ยนอวี๋ “…”
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์?” เยี่ยนชิงไม่เห็นลูกสาวขึ้นมาเสียที จึงหันกลับไปเร่งเร้า
“ไม่ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋รู้สึกเคอะเขิน
“อ้ะ!” เยี่ยนตัวน้อยดิ้นจนแขนหลุดออกมาข้างหนึ่ง และชี้ไปที่หลังของท่านตา เขาอยากให้ท่านแม่คนงามของเขาขึ้นไปพักผ่อนอย่างใจตรงกับท่านตา
เยี่ยนอวี๋ “…”
นางยังคงอยากปฏิเสธ
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่อยากให้พ่อแบกแล้วหรือ” ในที่สุดเยี่ยนชิงก็พบว่าลูกสาวไม่อยากขึ้น จากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เศร้าหมองลงทันที
เยี่ยนอวี๋ได้ยินดังนั้น ก็กลัวว่าท่านพ่อคนนี้จะร้องไห้ นางจึงฝืนใจขึ้นหลังพ่อคนนี้ทันที ก็ได้! ขี่ก็ขี่
เยี่ยนชิงชะงักไปครู่หนึ่ง ความเสียใจมากมายพลันมลายหายไปในทันที ฟ้าสวรรค์รู้ว่า ครั้งนี้เขาไม่ได้อยากร้องไห้ เพียงแต่เขากำลังคิดว่า ลูกสาวสุดที่รักโตแล้วจริงๆ ไม่เหมือนตอนเด็กที่กระโดดขี่หลังเขาอย่างมีความสุขแล้ว
ไม่คิดว่า…
เอ๋?
ลูกสาวสุดที่รักที่ไม่ยอมให้ตาแก่คนนี้แบกตั้งแต่อายุสิบสอง กลับเปลี่ยนใจแล้วอย่างนั้นหรือ
เยี่ยนชิงมีความสุขนัก เขาแบกลูกสาวขึ้นมาอย่างรวดเร็วและประหม่าเล็กน้อย ถามขึ้นว่า “สบายดีหรือไม่ เจ้าตัวน้อยถูกทับหรือไม่ ให้พ่ออุ้มเจ้าตัวน้อยดีไหม”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ กลับกันเถอะ” เยี่ยนอวี๋ฟุบหน้าลงบนหลังพ่อ ไม่อยากเงยหน้าขึ้นมา นางหวังเพียงให้รีบกลับถึงสำนักโดยเร็ว รู้สึกน่าอายนัก
“อ้อ! ได้สิ!” เยี่ยนชิงแบกลูกสาวกลับไปสำนักอย่างมีความสุข ไม่มองลูกชายของตนและผู้อาวุโสเก้าเลยแม้เพียงหางตา
“เอ่อ คุณชายรอง ท่านรู้สึกสบายดีใช่หรือไม่ขอรับ” ยอดฝีมือของหอเจ้าสำนักกลับมีใจปลอบประโลมคุณชายรองที่ถูกทอดทิ้ง พวกเขาต่างรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง
“สบายดี ไปเถิด” เยี่ยนจื่อเสาชินแล้ว และไม่รู้สึกไม่ถูกต้องแต่อย่างใด อีกทั้งยังให้คนข้างกายของเขาเดินประคองเขาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม จะได้ตามท่านพ่อและน้องสาวได้ทัน
“ขอรับ…” ยอดฝีมือของหอเจ้าสำนักมองคุณชายรองที่มีความอดทนยิ่งยวดคนนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก พวกเขาจับกุมคนที่ควรจับกุมแล้วก็เดินตามท่านเจ้าสำนักผู้ไร้ซึ่งภาพลักษณ์ของพวกเขาไป
“ผู้อาวุโสเก้า นี่…” คนของผู้อาวุโสเก้าสับสันอีกครั้ง พวกเขาต้องทำอย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องปล่อยผ่านไปอีกเช่นเคยอย่างนั้นหรือ
เมื่อผู้อาวุโสเก้าที่มีสีหน้าโหดเหี้ยมจนมิสามารถโหดเหี้ยมได้อีกถูกถามขึ้น เขาก็สูดหายใจเข้าลึกหลายครั้ง เพื่อป้องกันความดันโลหิตพุ่งสูง ก่อนจะบัญชาเสียงดุดันว่า “นำร่างของเยี่ยนฉี่ซาน และรถคุมนักโทษกลับไป!”
แม้เยี่ยนจื่อเสาในตอนนี้จะกลับมาเป็นดังเดิมแล้วอย่างไร ในเมื่อยาแปรสภาพทำงานแล้ว ย่อมไม่มีวันหวนกลับได้! เรื่องนี้ยังไม่จบเพียงเท่านี้ และจะไม่จบอย่างง่ายดายเช่นนี้แน่
“นายน้อย เช่นนั้นเรา…” เมื่อองครักษ์ที่อยู่ข้างบนเห็นทุกคนจากไปหมดแล้ว ก็อดพูดไม่ได้ว่า “ให้ข้าน้อยส่งจดหมายเข้าพบหรือไม่ พวกเราไปเป็นแขกสำนักชางอู๋กันเถิดขอรับ!”
“อืม” นายน้อยชะเง้อมองแผ่นหลังที่ถูกแบกออกไปไกล พลางครุ่นคิด ใช่เยี่ยนจื่ออวี๋จริงหรือเขาสังเกตอย่างละเอียดกว่าผู้อื่นแล้วพบว่าเยี่ยนอวี๋มีถุงวิเศษ