เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 281 หัวใจเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เริ่มว้าวุ่นแล้ว
“!”
เยี่ยนอวี๋ที่ลืมตากะทันหันสบตาเข้า!
…ดวงตาสีม่วงงดงามคู่หนึ่ง
อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ ทั้งมีสีม่วงและเป็นประกายราวกับจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ทำให้เยี่ยนอวี๋ตกใจไปชั่วขณะ นางคาดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้จะใกล้เข้ามาในช่วงที่กลิ่นอาย ‘หายไป’ แต่นางยังไม่ทันได้สติกลับมาเลยสักนิด…นางก็ถูกจูบเข้าแล้ว
ต้าซือมิ่งที่เต็มไปด้วยความคิดชั่วร้ายกำลังจุมพิตนางอยู่ และนี่เป็นสิ่งที่เขาหวังมาตั้งนานแล้ว
แต่ต้าซือมิ่งที่ควบคุมตัวเองรู้จัก ‘ทำแต่พอfu’ เขาได้ค่อยๆ ถอยกลับอย่างน่าเสียดายในขณะที่ปฐมราชินีกำลังลืมตา “หญิงงามที่หลับใหลต้องจุมพิตถึงจะตื่นจริงๆ ด้วย”
เยี่ยนอวี๋กะพริบตาราวกับว่ามองต้าซือมิ่งอย่างใจเย็น มองจนฝ่ายหลังยังคงทำตัวปกติ ทั้งยังถามอีกว่า “ยังไม่ตื่น? เช่นนั้นข้าจะจุมพิตอีกรอบ”
“เจ้ากล้ารึ!” เยี่ยนอวี๋ไม่เคยพบเคยเจอคนที่หน้าไม่อายเช่นนี้มาก่อนจริงๆ แต่เมื่อครู่…เมื่อครู่นี้…
ไม่รอให้เยี่ยนอวี๋คิดทบทวนดีๆ ต้าซือมิ่งบางคนก็ยื่นมืออันเรียวยาวราวกับหยกไปที่นาง “ไปราชสำนักด้วยกันหรือไม่…หืม?”
“ราชสำนัก?” เยี่ยนอวี๋สีหน้าจริงจัง นางอยากไปที่ราชสำนักจริงๆ เพียงแค่คาดไม่ถึงว่า ‘โอกาส’ จะมาถึงเร็วเพียงนี้ “จะไม่เป็นการกระตุ้นพวกเขาหรือ”
“ข้ารับรอง” ต้าซือมิ่งไม่กลัวเลยสักนิด แต่หลังจากที่เขามองเจ้าตัวน้อยแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ไม่พาเสี่ยวเป่าไปด้วยแล้ว ข้าจะไปส่งเขาไว้ที่พี่รองก่อน?”
“ก็ดีเหมือนกัน” เยี่ยนอวี๋พยักหน้าแล้วลุกขึ้น ชุดตัวในสีแดงทำให้นางดูมีเสน่ห์ยั่วยวนของหญิงสาวมากขึ้น และมีความเย็นชาในตอนกลางวันน้อยลง
ดังนั้นรอให้เยี่ยนอวี๋สวมเสื้อคลุมเสร็จ ต้าซือมิ่งบางคนถึงได้ลืมตาขึ้น แล้วค่อยๆ อุ้มลูกน้อยที่นอนหลับสนิทแล้วไปที่พี่รอง ทำเอาฝ่ายหลังตกใจไปครู่หนึ่ง “ไปเยือนราชสำนักตอนมืดค่ำ? ปลอดภัยหรือ!”
“พี่รองวางใจได้ หากไม่มั่นใจแล้วข้าจะพาเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไปได้อย่างไรกัน”
“…เช่นนั้นพวกเจ้าระวังตัวด้วย เสี่ยวเป่าให้เป็นหน้าที่ข้าเอง” เยี่ยนจื่อเสาที่รับหลานชายมาพูดขึ้นอีกว่า “ไม่ต้อง…กลับมาเร็วมากก็ได้”
“ได้” ต้าซือมิ่งที่รู้เจตนาของพี่รองเผยรอยยิ้มออกมา
เยี่ยนจื่อเสามองต่อไปไม่ได้อีกแล้ว “เจ้าเองก็อย่าได้ใจไป ดูเจ้าสิ…หน้าตาก็ไม่แย่นัก ทั้งยังจัดการทางท่านพ่อของข้าได้แล้ว แต่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยังคงไม่สนใจเจ้า ข้ายังเป็นกังวลแทนเจ้า แต่มีเรื่องเดียวเท่านั้น…อย่าได้รังแกเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เด็ดขาด!”
“ได้” ต้าซือมิ่งที่ตอบส่งๆ ได้จากไปแล้ว
เยี่ยนจื่อเสารีบนวดๆ ใบหน้า “…จริงๆ เลย ข้าจะไปพูดเช่นนั้นทำไมกัน!” ถึงแม้จะอยากให้น้องสาวมีครอบครัวที่ดีมากก็ตาม แต่เมื่อนึกถึงน้องสาวที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจะถูกแต่งออกไปแล้วนั้น ในใจก็ยังรู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก! เครียด!
“สมน้ำหน้า!” เม่ยเอ๋อร์ที่ปรากฏตัวออกมากล่าวขึ้น พี่รองของคุณหนูใหญ่จอมหักหลังคนนี้ช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ
เยี่ยนจื่อเสาหน้าเศร้าทันที แล้วมองดูหลานชายในอ้อมกอดที่กำลังหลับสนิทจึงได้ถามขึ้นอยากลำบาก “แล้วจะทำอย่างไรได้เล่า”
เม่ยเอ๋อร์ที่แอบมองคุณชายน้อยก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะบอกหรือว่าชายคนนั้นมีใจมากอุบายน่ะ!
ที่แย่ที่สุดคือกล้าปิดบังนางแล้วแอบเข้าไปในห้องของคุณหนูใหญ่ จริงๆ เลย…
เม่ยเอ๋อร์ที่หัวใจลุกเป็นไฟไปฝึกดาบที่สนามของจวนอ๋องอินแล้ว ฝึกจนผู้คนทั้งจวนได้ยินเสียงโหยหวน ไม่สามารถหลับลงได้เลย
…
ณ ราชสำนัก
เยี่ยนอวี๋ที่แยกตำแหน่งได้ผ่าน ‘ความทรงจำ’ กล่าวขั้น “เจ้าจะไปที่ใด”
“เจ้าอยากไปที่ใด” หรงอี้ถามกลับ
“หลังราชสำนัก”
“ที่ฮองเฮา?”
“ไม่เชิง ข้าพอจะรู้ตำแหน่ง” เยี่ยนอวี๋คิดทบทวนอีกครั้ง ถึงได้ชี้ไปทางพระราชวังใต้ดินที่มีอักษรอันชั่วร้ายอยู่
และตำแหน่งที่นางชี้ ทำให้ต้าซือมิ่งที่ตั้งใจจะไปที่นั่นอยู่แล้วตะลึงเล็กน้อย “เจ้ารู้ว่าที่นั่นมีพระราชวังใต้ดินอย่างนั้นหรือ”
“หืม? ข้าเดา” เยี่ยนอวี๋ไม่บอกความจริงแน่นอน
ต้าซือมิ่งบางคนเองก็ไม่ได้ถามต่อ “พอดีเลย ข้าก็ตั้งใจจะไปพระราชวังใต้ดินเช่นกัน”
กล่าวจบ ต้าซือมิ่งที่ไม่พูดพร่ำทำเพลงคว้าตัวนางขึ้นลอยตัวไปทางวังลึก แล้วหยุดที่พระราชวังใต้ดินที่ที่เยี่ยนอวี๋รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย
เพราะค่ำคืนนี้มีภารกิจต้องทำ เยี่ยนอวี๋จึงจำต้องยอมให้ต้าซือมิ่งบางคนแต๊ะอั๋ง แต่เมื่อนางเห็นว่าสถานที่นี้ปกติมาก ไม่มีอักษรชั่วร้ายอยู่เลยนั้น ทำให้นางต้องขมวดคิ้วงามดุจภาพวาดขึ้น “แปลก”
“แปลกจริง” ถึงแม้ต้าซือมิ่งบางคนจะไม่รู้เรื่องชาติก่อนที่ว่า แต่เขาสัมผัสได้ว่าพระราชวังใต้ดินนี้มีพลังงานมืดปนกลิ่นชั่วร้ายแปลกๆ อยู่ แต่ทั้งพระราชวังใต้ดินกลับว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
“เกรงว่าเพิ่งจะถูกจัดการไป” เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้วปม ใช้มือกดเบาๆ ไปที่พื้น สัมผัสได้ว่าด้านใต้มีพลังงานที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าอยู่ แต่ถูกสะกดไว้อย่างดี “ลงไปได้หรือไม่”
“ข้าลองดู” หรงอี้หลอมกายเป็นลำแสงเป็นเงาวิญญาณอันเบาบาง แล้วทะลุเข้าไปใต้พื้น จากนั้นก็หายตัวไป
เยี่ยนอวี๋รออยู่ที่เดิม ในขณะเดียวกันก็สัมผัสถึงรอบๆ ได้ แล้วพบว่าแม้สถานที่แห่งนี้จะว่างเปล่า แต่ก็มีผู้แข็งแกร่งอยู่มากมายเช่นกัน!
แต่ทว่าการทะลุเข้าไปของต้าซือมิ่งบางคนยังคงไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้ แม้นเขาจะใช้กระบวนท่าไปมากมายเพียงใดก็ตามก็ไม่มีใครพบกลิ่นอายของเขาได้
เยี่ยนอวี๋รู้ดีว่าไม่ใช่เพราะผู้แข็งแกร่งของราชสำนักไร้ความสามารถแต่อย่างใด เพียงแต่เพราะว่า “กลิ่นอายของเขาพิเศษมาก เป็นข้าก็ไม่อาจสัมผัสถึงการมีอยู่ของเขาได้แม้นเขาจะตั้งใจแผ่ซ่านกลิ่นอายออกมาก็ตาม”
มิเช่นนั้น เมื่อครู่นาง…
เยี่ยนอวี๋ที่จู่ๆ ก็นึกถึงจุมพิตเมื่อครู่แววตาครึ้มลงเล็กน้อย ทั้งยังสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นวูบที่ริมฝีปากที่คอยรังควานนางอยู่ไม่วายจนถึงบัดนี้
ความรู้สึกนั้น…
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์?”
“หืม?”
เยี่ยนอวี๋ที่เพิ่งพบว่าต้าซือมิ่งกลับมาแล้วตัวแข็งทื่อ “ขออภัย ข้าเหม่อไป” เหม่อถึงขั้นไม่รู้ว่าคนคนนี้กลับมาแล้ว
ต้าซือมิ่งกลับพูดติดตลกข้างหูนางว่า “ไม่เป็นอะไรหรอก ในพระราชวังใต้ดินนี้ถูกตัดขาดด้วยกลิ่นอายของข้าแล้ว พวกเขาไม่สามารถรับรู้อะไรได้ แต่ข้างล่างนี้น่าสนใจจริงๆ”
เยี่ยนอวี๋เบนหน้าออกไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “เช่นนั้นเจ้ายังจะพูดใกล้เพียงนี้อีก”
ต้าซือมิ่งยิ่งยุยิ่งทำ “เพราะว่าฉนวนกันเสียงไม่ดี”
เยี่ยนอวี๋ “…”
เหตุใดจึงมีเหตุผลไปเสียหมด!
“ไปเถอะ เราไปจากข้างบน ข้างล่างเป็นเพียงเส้นทางทะลุเส้นทางเท่านั้น” ต้าซือมิ่งที่กล่าวจบแล้วคว้าตัว ‘อวี๋เอ๋อร์’ ขึ้นอีกครั้งค่อยๆ จากไปจากพระราชวังใต้ดิน
และผู้พิทักษ์ที่อยู่นอกพระราชวังใต้ดินไม่รับรู้อะไรใดๆ เลย คนที่พวกเขาต้องห้ามนั้นได้พา ‘ภรรยาน้อยๆ’ ท่องเที่ยวที่นี่ไปหนหนึ่งแล้ว เหลือเพียงเขียนประทับไว้ว่า ‘ต้าซือมิ่งข้าได้พาภรรยามาท่องเที่ยวไปหนหนึ่งแล้ว’
…
ต้าซือมิ่งที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ตำแหน่งที่เขาปรากฏตัวคือที่วังหันซือ!
ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายตกใจ “กู้หยวนซู?”
“ดูท่าแล้วจะเป็นนาง” ต้าซือมิ่งที่ก่อนมาไม่รู้เลยว่าจะ ‘พบ’ กู้หยวนซูได้ตะลึง “จุดสุดท้ายของพระราชวังใต้ดินอยู่ด้านล่างตำหนักแห่งนี้”
เยี่ยนอวี๋นึกถึงชาติก่อน “เข้าไปดูกัน”
“อืม” หรงอี้ไม่มีปัญหา
ทั้งสองได้เข้ามาในตำหนักแล้ว แต่กู้หยวนซูไม่รับรู้อะไรเลย นางยังคงปาของอยู่ “ไร้ประโยชน์! ข้าให้พวกเจ้าไปทูลฝ่าบาท พวกเจ้าไม่ไปอย่างนั้นรึ!”
“ทูล…ทูลเหนียงเหนียงเพคะ บ่าว…บ่าวทูลไปแล้วเพคะ” นางกำนัลแทบจะร้องไห้แล้ว
เยี่ยนอวี๋กลับพบว่า! ภาพลางๆ ในสถานที่แห่งนี้เหมือนกับที่นางสัมผัสได้ใน ‘ชาติก่อน’ ! แต่เมื่อชาติก่อนกู้หยวนซูเป็นชายาโปรด แต่ทว่าตรงหน้านี้กลับเป็นฮองเฮาที่ถูกปลดแล้วถูกกักขังไว้ที่วังเย็นอย่างนั้นหรือ ชายาโปรดก็อาศัยอยู่ที่วังเย็นด้วยอย่างนั้นหรือ
“เป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ” ต้าซือมิ่งที่สัมผัสได้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังเหม่อลอยอยู่ได้ถามขึ้นเบาๆ อยู่ข้างหู
ทำให้เยี่ยนอวี๋หูอ่อนระทวย อยากจะถอยกลับอย่างไม่คุ้นชิน แต่ต้าซือมิ่งกอดนางไว้แน่น ถอยกลับไม่ได้เลย แต่กลับถูกเขากอดเข้าไปอีก
นี่ทำให้เยี่ยนอวี๋เกือบจะผลักคนออกแล้ว แต่กู้หยวนซูดูเหมือนพบอะไรบางอย่าง “ใคร! ใครแอบดูข้า!”
เยี่ยนอวี๋ไม่ขยับแล้ว นางพบแล้วว่ากู้หยวนซูตรงหน้านี้ต่างจากแต่ก่อนมากนัก ตามหลักแล้วกู้หยวนซูที่สูญเสียความช่วยเหลือจากปีศาจระกาแล้วต้องไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งเดียวกับปีศาจระกาไปแล้ว
นี่เป็นสิ่งที่เยี่ยนอวี๋ไม่อาจเข้าใจได้
ต้าซือมิ่งบางคนกลับรู้ว่านางคิดอะไรจึงได้กล่างต่อไปข้างหูนางว่า “ปีศาจระกาตนนั้นน่าจะอยู่ในร่างของนาง เหลือความเป็นปีศาจเอาไว้ก็เพื่อจะค่อยๆ ยึดร่างกายของนาง กลับกลายเป็นโอกาสทองของนางไปเสียนี่”
“เจ้าช่างรู้ดีจริงๆ” เยี่ยนอวี๋จ้องบุคคลที่เข้าใกล้มากขึ้นอีก เป็นสัญญาณเตือนให้เขาอย่าได้เข้าใกล้อีก!
ต้าซือมิ่งบางคนน่าสงสาร ทำได้เพียงมองภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งเข้าเรือน
เยี่ยนอวี๋ไม่สนใจเขา เบนความสนใจไปที่กู้หยวนซู แต่กู้หยวนซูที่ถึงแม้จะรับรู้ได้แต่ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงคนทั้งสองที่ซ่อนตัวอยู่ในอากาศได้เลย
วิชาพรางตัวเช่นนี้มาจากฝีมือของต้าซือมิ่งอยู่แล้ว ทำให้เยี่ยนอวี๋จำต้องยอมแพ้ แม้นจะเป็นนางก็ไม่อาจพรางตัวได้ดีเท่าเขา อย่างน้อยก็ตอนนี้ก็ทำไม่ได้
แต่ทว่า…
เยี่ยนอวี๋มั่นใจในเบื้องต้นแล้วว่า กู้หยวนซูตรงหน้านี้น่าจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงในชาติก่อน ไม่ใช่ปีศาจระกาเก้าเศียรที่นางคาดไว้ เกรงว่านี่ถึงจะใช่
กู้หยวนซูอาจจะแว้งกัดปีศาจระกาภายใต้ความบังเอิญเมื่อชาติก่อน ไม่ใช่ที่นางคาดไว้ว่าปีศาจระกาเก้าเศียรควบคุมกู้หยวนซู เยี่ยนอวี๋ที่แยกแยะอะไรๆ ออกแล้ว ค่อยๆ มีกลิ่นอายสังหารปรากฏขึ้นในดวงตา!
แต่จิตสังหารเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่นาน! เสียงประกาศก็ดังออกมา “ฝ่าบาทเสด็จ…”