CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 297 หวงภรรยาอวดบุตรวิถีหรงซือมิ่ง

  1. Home
  2. เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน
  3. ตอนที่ 297 หวงภรรยาอวดบุตรวิถีหรงซือมิ่ง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 297 หวงภรรยาอวดบุตรวิถีหรงซือมิ่ง!
เยี่ยนอวี๋สัมผัสได้ถึง ‘ความสะเทือน’ ของต้าซือมิ่ง นางมองไปที่เขาทันที

“จื่ออวี๋ เจ้ามิต้องมองเขา! แดนเทพเราก็เปิดได้ เราจะเปิดให้เจ้าดูบัดเดี๋ยวนี้ หากเขาสัตย์ซื่อจริง ไยจึงมิกล้าทดสอบ หากเขามิใช่พรหมจารีแล้ว ย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของเราอีกต่อไป!” หยวนคังฮ่องเต้กล่าวอย่างมั่นใจ

เยี่ยนอวี๋นัยน์ตาเคร่งขรึมเล็กน้อย นางคิดถึงความผิดปกติของต้าซือมิ่งในช่วงระยะนี้ ตั้งแต่ที่เสี่ยวเป่าดื่มน้ำค้างหลิงเซียงไป เขาก็แปลกพิกล ถึงแม้จะน้อยนิดมาก แต่ก็หนีไม่พ้นสัมผัสของนาง ทว่านางก็มั่นใจมากเช่นกันว่าเสี่ยวเป่าเป็นบุตรของเขา

สำหรับเรื่องนี้แล้ว ไม่ว่าเมื่อใดเยี่ยนอวี๋ก็เชื่อว่าไม่ใช่เพียงเพราะสองพ่อลูกหน้าตาเหมือนกันมาก ยังเป็นเพราะมีเพียงเขาที่นางไม่สามารถมองเห็นได้ เป็นคนที่นางออกจากสามโลกแล้วก็มิสามารถเห็นได้

“เกิดอะไรขึ้น” เยี่ยนอวี๋เพียงแค่อยากรู้ว่ามีอะไรที่นางพอจะช่วยได้หรือไม่

แต่เมื่อทุกคนได้ยินคำถามเช่นนี้ ต่างก็คิดว่าเป็นการสงสัยในตัวต้าซือมิ่ง ทว่าฝ่ายหลังไม่คิดเช่นนี้ เพราะว่าเขาเห็นความกังวลในสายตาของนางออก ถึงแม้นางจะไม่รู้ตัวก็ตาม

ดังนั้นหรงอี้จึงยกมือขึ้นจับใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน “ใครบางคนคิดไปเองน่ะ มิต้องเป็นห่วง”

“แต่ว่า…” จู่ๆ เยี่ยนอวี๋ก็คิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาเจาะเลือดเสี่ยวเป่า! ครานั้นเขากำลังทดสอบหรือ เช่นนั้นหมายความว่าเขาเองก็คิดว่าตนเองยังเป็นพรหมจารีใช่หรือไม่

หากเป็นเช่นนี้ แม้จะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่เยี่ยนอวี๋…

หยวนคังฮ่องเต้เอ่ยขึ้นอีกครั้งโดยไม่ปล่อยให้นางคิดต่อไป “จื่ออวี๋ เจ้ามิต้องถามเขาหรอก คนต่ำทรามเช่นนี้จะยอมรับการกระทำของตนได้อย่างไร!”

วาจาสัตย์ตรงเช่นนี้โน้มน้าวผู้คนที่มุงดูไปไม่น้อย เพราะว่าพวกเขาคิดว่า หากหยวนคังฮ่องเต้ไม่มีหลักฐานจริงๆ ท่านก็คงไม่กล่าวเช่นนี้ ดังนั้นแล้วหรือว่า… ความจริงจะเป็นเช่นนี้จริงๆ

“มิใช่เพคะ”

เยี่ยนอวี๋กลับเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “มิใช่ท่าน ท่าน…”

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”

ต้าซือมิ่งที่ในที่สุดก็ปริปาก เขาขัดจังหวะภรรยาที่กำลังจะพูดแทนตนเองและยังยื่นมือไปบีบข้อมือนางเบาๆ นัยน์ตาสีม่วงลุ่มลึกของเขาปรากฏรอยยิ้มจางๆ

อินสวินอี้เห็นดังนั้นก็ร้อนใจ รู้สึกราวกับจักรพรรดิไม่รีบแต่ขันทีรีบแทน ไม่สิ! ถุย! เขาไม่ใช่ขันทีเสียหน่อย ทว่าเขาก็จำเป็นต้องเตือนต้าซือมิ่ง “ต้าซือมิ่ง ท่าน…” รีบพูดอะไรหน่อยสิ!

ต้าซือมิ่งจึงละสายตาจากภรรยา แต่เขายังคงจับข้อมือของภรรยาไว้ ไม่ยอมปล่อยมือเลย ในเมื่อนานๆ ทีเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จะไม่สลัดเขาออก

ส่วนหยวนคังฮ่องเต้… ต้าซือมิ่งไม่เห็นเขาในสายตาเสียด้วยซ้ำ “ในเมื่อท่านมั่นใจเช่นนี้ เช่นนั้นก็เปิดแดนเทพเถิด”

“ต้าซือมิ่ง!” กู้หยวนซูพลันลุกขึ้น “ท่านจำเป็นต้องลดตัวตกต่ำเช่นนั้นหรือ ปล่อยให้ผู้อื่นทดสอบร่างพรหมจารีของท่าน?”

ในขณะนั้นเอง…

“ใช่แล้ว! มิสมควร!” เฉินฉุนเฟิงในฐานะที่เป็นเซ่าซือมิ่งเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในตำหนักซือมิ่ง เขาก็จำเป็นต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตำหนักซือมิ่ง “ตำหนักซือมิ่งของข้าเป็นดินแดนเทวสิทธิ์! มิอาจหยามเหยียดเช่นนี้ได้!”

หยวนคังฮ่องเต้ยิ้มเย็นชา “บัดนี้ไม่ใช่เราที่ต้องการศักดิ์ศรี แต่เป็นหรงต้าซือมิ่งที่ทำให้อำนาจเทพเจ้าแปดเปื้อนเอง ดันกล่าวด้วยตนเองว่าตนมิใช่พรหมจารีแล้ว เขาทำให้ตนเองต้องอับอาย!”

เฉินฉุนเฟิงเข้าใจดี แต่เขาก็ไม่สามารถทำให้ต้าซือมิ่งเปลี่ยนใจได้ บัดนี้ทำได้เพียงปกป้องศักดิ์ศรีของตำหนักซือมิ่งไว้เป็นการชั่วคราว “ไม่ว่าอย่างไร ตำหนักซือมิ่งก็มิสมควรถูกหยามเช่นนี้! มิเช่นนั้นต้าซย่าจะทำให้เหล่าทวยเทพไม่พอใจได้”

“ใช่แล้ว” เหล่านักบวชบางส่วนที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนในตำหนักซือมิ่งก็พูดสำทับ

น่าเสียดายที่หยวนคังฮ่องเต้มิใช่คนที่ยอมฟังง่ายๆ เขาชอบวางอำนาจเผด็จการมากกว่า “พูดไปก็ไร้ประโยชน์! ข้าตัดสินใจแล้ว ทหาร! เตรียมเครื่องถวายเปิดแดนเทพ”

“ฝ่าบาท…” เฉินฉุนเฟิงวิงวอนหมอบกราบลงบนพื้น แต่ก็รู้ดีแก่ใจว่าเขามิอาจขัดขวางไว้ได้ เขาถึงกับเคียดแค้นปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนท่านนั้น หากไม่ใช่เพราะนาง ต้าซือมิ่งก็ไม่ดึงดันจะทำตามใจตนเอง ฝ่าบาทก็คงไม่เหยียดหยามตำหนักซือมิ่ง

สำหรับต้าซือมิ่งผู้แข็งแกร่งแล้ว บางทีเขาอาจจะไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ถึงอย่างไรเขาก็หลุดพ้นทางโลกแล้ว แต่คนที่ยังคงทำหน้าที่ของตนในตำหนักซือมิ่ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เกรงว่าจะไร้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์แล้ว!

แต่ไม่ว่าเฉินฉุนเฟิงจะคิดอย่างไร ทุกอย่างก็ตระเตรียมจวนจะเรียบร้อยเป็นไปตามที่หยวนคังฮ่องเต้ประสงค์ ทำเอาอินสวินอี้ร้อนรน อันที่จริงเขาอยากถามต้าซือมิ่งเหลือเกินว่าคิดจะทำอะไรกันแน่

ตามความเข้าใจของอินสวินอี้ที่มีต่อท่านเทพท่านนี้ เขาย่อมไม่เชื่อว่าท่านเทพท่านนี้จะปล่อยให้ผู้อื่นสบประมาทอย่าง ‘นั่งรอความตาย’ เช่นนี้! ถึงแม้ว่าดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ท่านเทพท่านนี้จะต้องพิสูจน์ว่าเสี่ยวเป่าเป็นบุตรของเขาผ่านแดนเทพ แต่ถ้าทดสอบแล้ว…

“ต้าซือมิ่ง!” กู้หยวนซูรู้สึกเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง นางรู้ดีที่สุดว่าที่หยวนคังฮ่องเต้กระทำเช่นนี้ ไม่ว่าสุดท้ายผลจะเป็นอย่างไร ต้าซือมิ่งผู้ศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานก็ต้องสูญเสียอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของเขา ไม่สามารถอยู่เหนือสรรพสิ่งเช่นเมื่อก่อน! ต้องตกลงมาจากแท่นบูชา

ถึงอย่างไรต้าซือมิ่งในอดีตก็ไม่เคยถูกใครกระทำเช่นนี้มาก่อน! หากผู้ใดกล้าหมิ่นประมาทความศักดิ์สิทธิ์ของต้าซือมิ่ง จุดจบมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือตาย!

ทว่าบัดนี้…

“เริ่ม!”

หยวนคังฮ่องเต้ ผู้แข็งแกร่งตระกูลซย่าโหวที่มีพลังวิเศษ เขาก็มีความสามารถในการเปิดแดนเทพของตำหนักซือมิ่งแห่งต้าซย่าเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขากล้าท้าทายอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์

ครั้งที่แล้วที่หยวนคังฮ่องเต้โจมตีต้าซือมิ่ง เขาก็ทำให้ต้าซือมิ่งบาดเจ็บขณะที่ราชสำนักเปิดแดนเทพกระทันหัน! ถึงอย่างไร…

วิ้ง!

เมื่อนแสงแรกที่สว่างจากแดนเทพปรากฏ ทุกคนในเหตุการณ์สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันศักดิ์สิทธิ์มหาศาล! และแรงกดดันนี้… ทำให้เยี่ยนอวี๋สั่นสะท้าน เพราะว่านี่เป็นแรงกดดันศักดิ์สิทธิ์ของนางเมื่อครั้นนางยังรุ่งโรจน์ ถึงแม้จะจางมากก็ตาม แต่นางจำไม่ได้ว่านางเคยทิ้งพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ในสถานที่แห่งนี้ ทว่าในบัดนี้นางพอจะเข้าใจความต้องการของต้าซือมิ่งแล้ว… เพราะว่าเมื่อแดนเทพเริ่มต้นขึ้น เมื่อแสงศักดิ์สิทธิ์ปรากฏ แดนเทพที่สัมผัสเยี่ยนอวี๋ได้พลันส่องสว่างเจิดจ้า!

วิ้ง!

วิ้ง!… แสงหลากสีอันศักดิ์สิทธิ์ทะลักไปหาเยี่ยนอวี๋ในทันที!

นี่เป็นเหตุการณ์ที่แม้แต่เยี่ยนอวี๋ก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะว่ากลิ่นอายของนางกำลัง ‘กลับรัง’ กลับไปในร่างกายของนาง เป็นสิ่งที่ร่างกายบอบบางนั้นมิอาจปฏิเสธได้

แต่ก็เป็นเพราะฉากเช่นนี้ ทำให้ทุกคนในห้องโถงตะลึงตาโพลง! รวมถึงหยวนคังฮ่องเต้ที่กำลังเริ่มเปิดแดนเทพและกู้หยวนซูที่เคียดแค้นชิงชัง

ถึงอย่างไรหยวนคังฮ่องเต้ก็ไม่เคยเห็นแสงสีรุ้งศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมา ทุกคนในเหตุการณ์ที่เคยเห็นแดนเทพต่างก็รู้ว่าแดนเทพไม่มีแสงสีรุ้งเช่นนี้ไหลออกมาเช่นกัน ฉะนั้น…

“!”

ทุกคนในเหตุการณ์อ้ำอึ้ง!

หากจะบอกว่า ‘เทพธิดา’ ที่ก่อนหน้านี้หยวนคังฮ่องเต้เรียกขานนั้น สำหรับทุกคนที่ได้ยินแล้วย่อมคิดว่าเป็นเพียงเล่ห์อุบายของพระองค์ เป็นเพียงคำเรียกขานตามมารยาทเพื่อทำให้นางยอมเข้ามาในวังแห่งนี้ได้ ทว่าในยามนี้ พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่ามิใช่เช่นนั้น!

“ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน! นาง…” อินสวินอี้ที่ตั้งสติได้ก่อนผู้ใดเข้าใจทันทีว่าเหตุใดต้าซือมิ่งจึงยอมปล่อยให้หยวนคังฮ่องเต้หมิ่นประมาท ก็เพราะว่าเขาเห็นว่าชื่อเสียงของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนสำคัญกว่าอำนาจและตำแหน่งของเขา! และเพราะว่าต้าซือมิ่งรู้ดีว่าเรื่องนี้ยืมมือหยวนคังฮ่องเต้จะได้ผลที่ดีกว่า เพราะว่าทุกคนต่างรู้ว่าหยวนคังฮ่องเต้ไม่สามารถควบคุมพลังแดนเทพได้! ยังไม่ทันสมรสก็ตามใจเช่นนี้เสียแล้ว…

“นางเป็นเทพธิดาจริงๆ!” เฉินฉุนเฟิงที่เติมคำในช่องว่างให้ก็อยากจะตบหน้าตนเอง เมื่อครู่นี้เขายังขุ่นเคืองหาว่าเยี่ยนอวี๋ใช้ความงามยั่วเย้าผู้อื่น บัดนี้เหลือเพียงความตะลึง!

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป คำดูหมิ่น คำเหยียดหยาม และคำว่าร้ายที่เคยปรากฏบนตัวเยี่ยนอวี๋ (เยี่ยนจื่ออวี๋) ท้ายที่สุดก็กลายเป็นอดีต ถูกลบล้างกลายเป็นประวัติศาสตร์

เพราะว่านางเป็นเทพธิดาจริงๆ! เกิดมาบนความศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้นางในตอนนี้มีบุตรแล้ว นั่นก็เพียงลิขิตสวรรค์ ผู้ใดกล้าบอกว่านางนอนกับชายไม่เลือกหน้า เกรงว่าจะถูกสวรรค์ลงโทษ

ไม่เพียงเท่านี้…

วิ้ง

ชั่วขณะที่ต้าซือมิ่งยกมือขึ้นเพื่อรวบรวมแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์แห่งแดนเทพ แสงนั้นก็ปฏิเสธเขา เพราะเขาไม่ใด้อยู่ใน ‘ร่างพรหมจารี’ แล้ว

“นี่มัน…”

เฉินฉุนเฟิงและคนอื่นๆ ก็พบว่าหรงต้าซือมิ่งเหมือนกับหยวนคังฮ่องเต้ที่ทำได้เพียงอัญเชิญแสงแห่งแดนเทพ ทำได้เพียงยืมพลังของมันมาใช้ ราวกับว่าไม่สามารถรวมตัวกับมันอีกแล้ว!?

นี่มัน…

“ไม่ ไม่เหมือนกัน!” อินสวินอี้กลับพบว่าแสงสีรุ้งศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างกายเยี่ยนอวี๋ มันรวมตัวเข้าไปในร่างกายของต้าซือมิ่ง ทำให้ต้าซือมิ่งมองภรรยาด้วยสีหน้าอมยิ้ม เยี่ยนอวี๋ถลึงตาใส่เขา! ริมฝีปากบางๆ อันเย้ายวนของเขาก็ค่อยๆ ยกขึ้น…

อินสวินอี้รีบเอ่ยขึ้นว่า “ข้าเข้าใจแล้ว! เทพผสานเทพ ย่อมมิอาจกล่าวว่าสูญเสียร่างอันบริสุทธิ์นั้นไปแล้ว ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเป็นเทพธิดา ต้าซือมิ่งเป็นเทพบุตร ช่างเป็นคู่แท้จริงๆ! ดูสิ แสงนั่นผสานตัวกันแล้ว”

“ใช่! ใช่จริงๆ ด้วย!” อินหลิวเฟิงตบมือดังป้าบ เขาเองก็เห็นแสงที่แผ่กระจายออกมาจากร่างเยี่ยนอวี๋เข้าไปในร่างของต้าซือมิ่งหรงแล้ว มันผสานรวมกันแล้ว!

ภาพตรงหน้า… ทำให้หยวนคังฮ่องเต้หน้าดำหน้าแดง! ทว่าอินสวินอี้ยังพูดต่อว่า “ไม่สิ! ไม่เพียงเท่านี้! ลมปราณของทั้งสามคนนี้ยังสั่นพ้องด้วย! สมแล้วที่เป็นครอบครัวเดียวกัน นี่เรียกได้ว่าเป็นเทพให้กำเนิดเทพ”

“ใช่แล้ว ท่านพ่อ! ข้าจำได้ว่า แสงแห่งแดนเทพสามารถปัดเป่าวิชาชั่วร้ายต่างๆ เช่นวิชามารและวิชาลวงตา หากเป็นเช่นนี้ หน้าตาเสี่ยวเป่าไม่เห็นเปลี่ยนเลย!” อินหลิวเฟิงผสมโรง

“ก็นั่นน่ะสิ!” อินสวินอี้กล่าวปิดท้าย

“หุบปาก!” หยวนคังฮ่องเต้ทนไม่ไหวอีกต่อไป

ต้าซือมิ่งกลับกล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ความจริงเป็นเช่นนี้”

ความจริงเป็นเช่นนี้… เพียงคำว่าความจริงเป็นเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หยวนคังฮ่องเต้กระอักเลือดแล้ว

แต่แล้ว… เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 297 หวงภรรยาอวดบุตรวิถีหรงซือมิ่ง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์