เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 324 ชำระแค้นสองชาติ
ตอนที่ 324 ชำระแค้นสองชาติ!
เยี่ยนชิงตกใจ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!”
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์…” พี่น้องตระกูลเยี่ยนก็ตะลึงงัน พวกเขากำลังคิดว่าวันนี้สำนักคุนอู๋ต้องให้อดีตผู้อาวุโสของพวกเขาลงแข่งเหมือนที่ท่านพ่อของพวกเขาคิด
ถึงแม้พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้เกียรติยศของสำนักคุนอู๋เสียหายมากก็ตาม แต่สำนักที่ไร้ยางอายเช่นนี้ก็คงไม่สนใจเรื่องความอับอายเช่นนี้อยู่แล้ว มิเช่นนั้นเหตุใดอดีตผู้อาวุโสจึงพากันมามากมายเช่นนี้เล่า
ความคิดเช่นนี้ทำให้เยี่ยนชิงและบุตรชายทั้งสองของเขาตัดสินใจที่จะกลับคำ พวกเขาจะให้แม่นางน้อยตระกูลของตนลงแข่งไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าแม่นางน้อยจะรวดเร็วเช่นนี้
เยี่ยนชิงจึงรีบเอ่ยขึ้น “ช้าก่อน การท้าชิงของบุตรสาวข้าเป็นโมฆะ!”
“ท่านพ่อ?” เยี่ยนอวี๋ไม่พอใจ
เยี่ยนชิงได้แต่เกลี้ยกล่อม “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ฟังพ่อนะ เจ้าก็เห็นว่าสำนักคุนอู๋พาคนมามากมายเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย เรื่องนี้ต้องให้พี่ใหญ่เจ้าไป เจ้าไปมิได้”
แต่แล้วกู้หยวนซูก็เอ่ยอย่างร้อนอกร้อนใจ “ขออภัย เจ้าสำนักเยี่ยน ในฐานะที่ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเป็นขุนนางชั้นสูงของราชสำนัก ในเมื่อลั่นวาจาแล้วก็ควรรักษาสัจจะ ดังนั้นข้าคิดว่าการท้าประลองของนางถือว่ามีผลแล้ว อัครมหาเสนาบดีหยาง ติ้งซีอ๋อง แม่ทัพเฉินพวกท่านคิดเห็นเช่นไร”
“ข้าคิดว่าสมควรดังนั้น” หยางเฟิ่งหยวนย่อมเห็นด้วยแน่นอน เพราะว่าเท่าที่เขาทราบ ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนท่านนี้แม้จะมีวิชาหลอมยาไร้เทียมทาน แต่ในด้านฝีมือการสู้รบแล้วอาจจะไม่เก่งเท่าสาวใช้และเยี่ยนจื่อเยี่ย
นอกจากนี้ ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเป็นตัวเชื่อมระหว่างสำนักชางอู๋และต้าซือมิ่ง หากกำจัดปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนได้ในสนามประลอง เช่นนั้นความสัมพันธ์ของต้าซือมิ่งและสำนักชางอู๋จะยังคงดีเช่นนี้รึ ฮึ
หยางเฟิ่งหยวนคิดว่าไม่ว่าจะพูดจากมุมไหน การท้าประลองโดยคุณหนูใหญ่เยี่ยนท่านนี้ย่อมเป็นเรื่องได้เปรียบของสำนักคุนอู๋ เป็นประโยชน์กว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้มาก!
ทว่าติ้งซีอ๋องกลับพูดขึ้นว่า “ถึงอย่างไรการท้าประลองข้องเกี่ยวกับความเป็นความตาย ในเมื่อปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเป็นถึงขุนนางชั้นสูงในราชสำนัก ย่อมควรปกป้องหวงแหนตนเอง วันข้างหน้าจึงจะทำคุณประโยชน์ให้แก่ราชสำนักได้ ดังนั้นในเมื่อเจ้าสำนักเยี่ยนบอกว่าเป็นโมฆะ ข้าคิดว่าควรให้สำนักชางอู๋หารือกันเพื่อเลือกอีกคนหนึ่งประลอง”
“แต่ว่า…” กู้หยวนซูกำลังจะโน้มน้าวติ้งซีอ๋อง
เยี่ยนอวี๋กลับลุกขึ้นยืน “ข้ารักตนเองมาก สำนักคุนอู๋ สำนักเหยาไถ สำนักชิงเหลียนมิใช่คู่ต่อสู้ของข้า มิต้องหารืออีกแล้ว”
ทันใดนั้นทุกคนก็วิพากวิจารณ์กันเสียงดังเซ็งแซ่ “ท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนท่านนี้ปากดีจริงๆ!”
“นั่นน่ะสิ! หรือว่านางมีพลังไม่ธรรมดาจริงๆ”
“คงมิใช่หรอก แม้ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเป็นเทพธิดา แต่พลังวิเศษของนางก็เพิ่งถูกปลุกไม่นาน มิอาจเทียบกับต้าซือมิ่งได้ และข้าก็ไม่เคยได้ยินว่านางมีพลังการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดานะ”
…
หลายๆ คนรู้ว่าเยี่ยนอวี๋มีวิชาหลอมยาไร้เทียมทาน รูปโฉมงามงด และยังเป็นสตรีผู้สร้างโลก แต่กลับไม่เคยได้ยินว่านางมีพลังการต่อสู้เหนือชั้น ดังนั้นเมื่อนางพูดเช่นนี้ออกมา หลายๆ คนจึงรู้สึกว่านางประมาทคู่ต่อสู้เกินไปแล้ว
เว้นแต่เฉิงคั่ว เฉินฉุนเฟิง และคนที่ได้ประจักษ์สงครามโยวตูครึ่งแรกในครานั้นต่างรู้ว่าพลังการต่อสู้ของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนท่านนี้ไม่ธรรมดา!
เฉิงคั่วจึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้าคิดว่าในเมื่อปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนมั่นใจเช่นนี้ พวกข้าก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยว ฝ่าบาทเพียงให้พวกข้าควบคุมกฎระเบียบการแข่งขัน ดังนั้นไม่ว่าสำนักชางอู๋ตัดสินใจเช่นไร พวกเราก็มิควรเข้าไปยุ่งมิใช่หรือ”
“ใช่แล้ว” ติ้งซีอ๋องเห็นด้วย “เชิญท่านประมุขสำนักเยี่ยนตัดสินใจ”
เยี่ยนชิงย่อมไม่ยินยอม แต่เยี่ยนอวี๋ก็วิ่งเข้าไปกอดเขาไว้แล้ว “ท่านพ่อ ท่านจะกลับคำเช่นนี้มิได้นะเจ้าคะ”
“แต่ว่า…” เยี่ยนชิงคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรให้บุตรสาวสุดที่รักของตนออดอ้อนแล้วปล่อยผ่านไป เขาต้องมั่นคงเข้าไว้! เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของบุตรสาวเชียวนะ
แต่แล้วต้าซือมิ่งก็เอ่ยขึ้นขณะป้อนข้าวลูกว่า “ท่านพ่อตา ให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไปเถอะ นางรอวันนี้มานานมากแล้ว”
“ท่านพ่อ!” เยี่ยนอวี๋คว้ามือของท่านพ่อเจ้าน้ำตาไว้แน่น “ให้ข้าแก้แค้นแทนท่านแม่เถอะนะ” แก้แค้นแทนแม่นางน้อย ท่านพ่อเจ้าน้ำตาในชาติก่อน และแก้แค้นแทนครอบครัวตระกูลเยี่ยนด้วย
สำนักคุนอู๋ทำลายสำนักชางอู๋จนสูญสิ้น ฆ่าบิดาเจ้าน้ำตา ขังพี่รอง พี่ใหญ่ก็ถูกสำนักคุนอู๋ลอบวางแผนทำร้าย ยากนักที่นางจะมีโอกาสดีเช่นนี้ นางจะต้องทำให้พวกเขาถูกฝังพร้อมกับมารดาและครอบครัวที่จากไปในชาติก่อนให้ได้
มีเพียงความตายของพวกเขาเท่านั้นที่สามารถปลอบประโลมวิญญาณวีรชนที่จากไป…
แต่แล้วเยี่ยนชิงยังคงไม่ยอม! เยี่ยนจื่อเยี่ยและเยี่ยนจื่อเสาก็เช่นกัน “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ พวกพี่ทำได้แน่นอน”
“ไม่เหมือนกัน” เยี่ยนอวี๋แสดงแววตามาดมั่น “พวกท่านเคยคิดหรือไม่ว่าหากครานั้นข้าแต่งงานกับกู้หยวนเหิงไปอย่างโง่เขลา พี่รองจะเป็นอย่างไร สำนักจะเป็นเช่นใด และท่านพ่อท่านจะเป็นอย่างไร พี่ใหญ่พี่ก็อาจจะถูกจับไปในที่สุด ข้าเคยฝันว่าพวกท่านตายอย่างอนาถ ข้าก็เลยอยากประลองเอง ฝันร้ายของข้าจะไม่มีวันจบหากไม่ได้ฆ่าพวกเขา”
นี่คือผลกรรมและคือจุดจบ เยี่ยนอวี๋รู้ดี ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องไป!
คำพูดของนางทิ่มแทงใจของเยี่ยนชิงสามพ่อลูกเจ็บแปลบ เยี่ยนชิงถึงกับน้ำตาคลอ
ทว่าเยี่ยนหงชวนก็พูดขึ้นว่า “ไปเถอะ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์” เขาพลันกระจ่างว่าเหตุใดเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จึงไม่ใช่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์แล้ว ที่แท้ก็เป็นเพราะฝันร้ายนี่เอง
ใช่แล้ว หากเป็นเช่นนี้ นางที่แต่เดิมไม่มีวิชาจู่ๆ จะปลุกพลังขึ้นมาได้อย่างไร จะเข้ามาช่วยเหลือได้ทันกาลในทุกครั้งที่สำนักตกอยู่ในความอันตรายได้อย่างไร
เพราะว่าบางทีความฝันนี้อาจจะเป็นความจริงที่ควรจะเกิดขึ้น และทั้งหมดนี้ทำให้เด็กน้อยใสซื่อไร้เดียงสาคนหนึ่งในอดีตกลายเป็นคนที่ต้องแบกรับทุกอย่าง
เยี่ยนหงชวนจึงกล่าวว่า “ข้าในฐานะที่เป็นอดีตเจ้าสำนักสำนักชางอู๋ ขอให้เยี่ยนชิงจงฟังคำสั่งข้า ให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไปเถอะ นางทำได้แน่นอน”
เยี่ยนชิงไม่อยากให้นางไปจริงๆ แต่เยี่ยนอวี๋ก็ยัดเสี่ยวเป่าที่เพิ่งทานอิ่มไปให้เขาแล้ว ส่วนนางก็เดินไปทางเวที หากไม่ไปปลีกตัวออกมาอีกนางคงทนน้ำตาของท่านพ่อไม่ไหว
“แม?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าจับศีรษะอย่างงุนงง ท่าทีราวกับยังงัวเงียและยังถูกน้ำตาที่ไหลพรากของท่านตาหยดลงบนศีรษะของเขาแล้ว
เยี่ยนจื่อเยี่ยจับไหล่ของท่านพ่อไว้แน่น พูดเสียงขรึมว่า “ให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไปเถอะ นางรู้ว่าพวกเรารักนางมากแค่ไหน ดูท่าก็คงมั่นใจว่าจะชนะได้จริงๆ”
“ความผิดข้าทั้งนั้น!” เยี่ยนจื่อเสาดวงตาแดงก่ำ “ต้องเป็นเพราะสภาพที่ข้าถูกวางยาทำให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ตกใจ นางจึงฝันเช่นนี้”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่างุนงงไปหมด เขาไม่รู้ว่าเหตุใดท่านตาและท่านลุงแปลกประหลาดเช่นนี้ เขาจึงมองไปที่ท่านพ่อของเขาตาปริบๆ
ต้าซือมิ่งกลับมิได้มองเด็กน้อย เพราะเขาเองก็กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก เขาพอจะเดาความจริงบางอย่างออกจึงมองไปที่ภรรยาที่กำลังค่อยๆ เดินขึ้นไปบนเวที
เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ยังคงเฉยเมยเช่นเคย นางยังคงสง่างามเช่นเคย ทว่ากลับมีกองเพลิงสุมข้างในจิตใจนาง! นางเคยชินกับการไม่แสดงอารมณ์ใดๆ บนใบหน้า กระทั่งเคยชินกับการไม่สุขไม่ทุกข์ เพราะว่านางเป็นปฐมราชินีสร้างโลกที่มีชีวิตอยู่มานานแสนนาน สำหรับนางแล้วการเวียนว่ายตายเกิดก็เป็นเพียงความไม่แน่นอนในชีวิต ทว่าหลังจากที่นางเกิดใหม่เป็นเยี่ยนจื่ออวี๋ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว
นางไม่สามารถเมินเฉยต่อการตายของสรรพสิ่งและการตายของครอบครัว เพราะว่าพวกเขารักนางเช่นนั้น นางถึงกับมิอาจมองดูการเปลี่ยนแปลง ศึกสงคราม และโรคภัยเหล่านั้นอย่างสงบนิ่งได้ จู่ๆ นางก็… พบว่าตั้งแต่ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง นางก็เปลี่ยนไปมากอย่างไม่รู้ตัว ตั้งแต่เสี่ยวเป่า จนถึงท่านพ่อเจ้าน้ำตา พี่ชาย และต้าซือมิ่ง รวมทั้งเม่ยเอ๋อร์ ชุ่ยชุ่ย หลิวเฟิงและเอ้อร์เหมา ล้วนทำให้นางเปลี่ยนแปลงไป ทำให้นางค่อยๆ กลายเป็นนางในตอนนี้ นางรู้จักทุกข์และเศร้า รู้จักแค้น การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้เยี่ยนอวี๋ที่จู่ๆ รู้ตัวก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย ทำเอานางไม่ได้ยินสิ่งที่หยางถิงซานกำลังพูด “ตามกติกาการแข่งขันแล้ว ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนต้องเริ่มท้าจากสำนักชิงเหลียนก่อน ข้าพูดถูกใช่หรือไม่”
แม้กู้หยวนซูจะประหลาดใจ แต่ก็พยักหน้าตอบว่า “ใช่แล้ว”
“เช่นนั้นเชิญท่านปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเริ่มเถิด” หยางถิงซานมองไปที่เยี่ยนอวี๋ที่อยู่บนเวที เพื่อความรอบคอบ เขาต้องให้สำนักชิงเหลียนและสำนักเหยาไถเซียนลองเชิงก่อน!
ชิงเหอเซิ่งเจ้าสำนักสำนักชิงเหลียนเข้าใจจุดประสงค์ของเขาดี ในใจเขากลับไม่เห็นด้วยนัก แต่เขาเป็นคนฉลาดจึงตอบว่า “ในเมื่อปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเป็นผู้ท้าประลอง ศิษย์สำนักข้าใครอยากประลองกับปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ตัดสินใจกันเอาเอง”
เหล่าผู้น้อยใหญ่สำนักชิงเหลียนย่อมรู้ดีว่าเจ้าสำนักไม่ต้องการให้พวกเขาเป็นตัวทดลอง สำนักคุนอู๋ต้องการให้พวกเขาทดลองความสามารถของปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน ฮึ พวกเขาไม่โง่หรอก! แต่แล้ว…
หยางถิงซานกล่าวอย่างมีความหมายแฝงว่า “ในเมื่อเป็นการประลองกับปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน เจ้าสำนักชิงก็อย่าดูแคลนท่านปราชญ์มหาสำนักเกินไป เจ้าสำนักชิงควรประลองด้วยตนเอง ถือเป็นการให้เกียรติ”
นี่มัน…
“หน้าไม่อาย!”
เหล่าสำนักชางอู๋น้อยใหญ่โกรธเกรี้ยว!
ชิงเหอเซิ่งชะงักครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “สมควรเป็นเช่นนั้น” เพราะว่าหยางถิงซานก็ส่งสัญญาณมือให้เขา ทำให้เขาจำเป็นต้องลงแข่งเอง และยังต้องแสดงฝีมือสุดความสามารถ
ส่วนชิงเหอเซิ่งตัวเขาเองก็เป็นนักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ในตำนานคนหนึ่งแล้ว จำเป็นต้องแสดงฝีมืออย่างสุดความสามารถ เขาพูดขึ้นว่า “ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน แม้เจ้าอายุยังน้อย แต่ข้าและเจ้าต่างเป็นนักฝึกฌานระดับตำนานแล้ว เช่นนั้นเราประลองปัญญาด้วยการประลองฝันดีหรือไม่”
ทันใดนั้นเสียงก็ดังเซ็งแซ่!
หลายๆ คนรู้ว่าสำหรับนักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์แล้ว นักฝึกฌานอื่นใดก็ไม่มีพลังจิตวิญญาณสู้นักอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ได้ ส่วนประลองฝันก็คือการประลองการควบคุมพลังจิตวิญญาณ! หรือกระทั่งการควบคุมพลังจิตวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเป็นเช่นนี้…
“ได้”
เยี่ยนอวี๋กลับตอบตกลง