เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 326 กู้หยวนซูผู้รนหาความพ่ายแพ้
ตอนที่ 326 กู้หยวนซูผู้รนหาความพ่ายแพ้!
“คุ้มกัน!”
หยางถิงซานที่ก่อนหน้านี้ยังดูมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น บัดนี้เขาก็กำลังกางม่านคุ้มกันปกป้องศิษย์สำนักที่อยู่บริเวณใกล้เคียงไว้อย่างลนลาน
ตู้ม!
แม้อสูรมังกรสีครามเป็นเพียงเงาลวง แต่ก็โจมตีจนเหล่าศิษย์สำนักน้อยใหญ่จนพวกเขามีสภาพทุลักทุเลไม่น้อย หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้มีอดีตผู้อาวุโสของพวกเขามาด้วยไม่น้อย สภาพคงทุลักทุเลกว่านี้ ทว่าไม่เพียงเท่านี้…
“กระจาย!”
ในขณะที่เยี่ยนอวี๋ยืมมือมังกรสีครามที่อัญเชิญมาโดยชิงเหอเซิ่งฟาดลงไปที่สำนักคุนอู๋นั้น สิ่งมีชีวิตทั้งห้าที่นางควบคุมก็ยังกัดกลืนภาพลวงชิงเหลียนในสนามประลองจนหมดสิ้น
แซ่ด!
พรวด…
ชิงเหอเซิ่งที่บาดเจ็บสาหัสถึงสองคราก็อาเจียนออกมาเป็นเลือดไม่หยุด ก่อนจะล้มสลบไป
“ท่านเจ้าสำนัก!”
เหล่าศิษย์สำนักชิงเหลียนร้อนรน ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งก็รีบขึ้นไปนำตัวชิงเหอเซิ่งลงมา พวกเขาไม่กล้าปริปากพูดอะไรกับเยี่ยนอวี๋ด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรคนมีตาย่อมรู้เห็นว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนออมมือให้แล้ว มิเช่นนั้นชิงเหอเซิ่งคงตายคาที่อย่างมิต้องสงสัย
นี่ก็คือปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน! เยี่ยนจื่ออวี๋อดีตแจกันดอกไม้[1]จอมสำรวยที่ไม่มีแม้แต่พลังวิชาท่านนั้น
“มะ มารดามันเถอะ!”
“สวรรค์!”
ฝูงชนอุทานเสียงดังเซ็งแซ่อย่างไม่อยากจะเชื่อ! ไม่คิดเลยว่าปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนผู้เลอโฉมดุจนางฟ้า ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนอายุเพียงสิบเก้าและอายุน้อยกว่าต้าซือมิ่งท่านนี้จะแข็งแกร่งเพียงนี้
คำกล่าวที่ว่ากู้กุ้ยเฟยเป็นตำนานรุ่นใหม่อันดับหนึ่งในต้าซย่านั้น ผิด!
คำกล่าวที่ว่าหลิงหยางจวินเป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นใหม่อันดับหนึ่งในต้าซย่านั้นก็ผิด!
ที่พูดกันว่า…
ผิดๆๆ! ผิดทั้งนั้น!
ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยน เยี่ยนจื่ออวี๋ คือตำนานรุ่นใหม่แห่งต้าซย่าที่แท้จริง เป็นตำนานที่เทียบเคียงกับต้าซือมิ่งอมตะแห่งตำหนักซือมิ่ง นางไม่เพียงแต่งดงาม นางยังแข็งแกร่งขั้นสุด!
แต่แล้ว “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์!” เยี่ยนชิงที่อุ้มเด็กน้อยบุกขึ้นเวทีประลองกอดบุตรสาวสุดที่รักไว้ เขาปล่อยเสียงร้องไห้โฮ “เจ้าทำเอาพ่อตกใจหมดเลย!”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ ‘เปียกปอน’ อีกครั้งก็งุนงง
เยี่ยนอวี๋ก็งุนงงเช่นกัน นางเพียงแค่กระดิกนิ้วก็ชนะแล้วนี่นา? อืม ถึงแม้นางจะออมมือให้มากเพียงเพื่อต้องการหลอกสำนักคุนอู๋ แต่นางก็ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใดๆ เลยนี่
ทว่าเยี่ยนชิงยังคงร้องไห้ด้วยความตกใจ เขายังปล่อยเสียงโฮอย่างไม่สนใจอะไร ทำเอาทุกสำนักในสนามประลองแสดงสีหน้างุนงงกันไปหมด “?” พวกเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเยี่ยนชิงร้องไห้เรื่องอะไร! บุตรสาวของเจ้าชนะใสๆ เช่นนี้ เจ้ากลับร้องไห้ราวกับนางถูกรังแกหนักหนา ใครก็ได้ช่วยอธิบายทีเถอะ แม้แต่คนมีตาก็ไม่สามารถเข้าใจได้หรอกนะ
โชคดีที่เยี่ยนจื่อเยี่ยขึ้นไปปลอบท่านพ่อไว้ “ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ท่านพ่อ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วมิใช่หรือขอรับ ใจเย็นๆ นะ ทุกคนมองอยู่ เสี่ยวเป่าก็ตกใจเพราะท่านพ่อแล้ว”
เยี่ยนชิงกลั้นน้ำตาไว้ทันที เขาหลุบตาลงก็เห็นเจ้าตัวน้อยกำลังมองเขาอย่างไร้เดียงสา เขาคิดว่าเจ้าตัวน้อยคงตกใจจริงๆ จึงปลอบเด็กน้อยอย่างรู้สึกผิดว่า “ไม่เป็นไรนะ เสี่ยวเป่า ท่านแม่เจ้าไม่เป็นอะไร”
“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่เข้าใจ เพราะเขารู้ว่าท่านแม่ของเขาปกติดี แต่ท่านตาของเขาดูไม่ดีเลย ร้องไห้ฟูมฟายเช่นนี้ หรือว่าถูกตีมานะ?
เยี่ยนอวี๋โล่งอก “พอแล้วท่านพ่อ รีบพาเสี่ยวเป่าลงไปเถอะ ข้าต้องประลองต่ออีก”
“เช่นนั้นเจ้าระวังตัวหน่อยนะ อย่าบาดเจ็บล่ะ” เยี่ยนชิงกำชับ
เยี่ยนอวี๋ผงกศีรษะ นางรีบไล่ท่านพ่อลงไปจากเวทีและแอบกุมขมับเล็กน้อย
เยี่ยนชิงเดินไปพลางเหลียวมามอง ราวกับว่าหากคลาดสายตาไปเพียงเล็กน้อย บุตรสาวจะถูกโจมตี ทำเอาแต่ละสำนักรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ได้ยินมานานแล้วว่าเจ้าสำนักสำนักชางอู๋รักบุตรยิ่งชีพ ดูท่าจะเป็นจริงตามนั้น เจ้าสำนักเยี่ยนท่านนี้รักบุตรเกินจริงกว่าที่ล่ำลือกันมาเสียอีก” ตี๋อูหวนทอดถอนใจ
ผู้อาวุโสสำนักเนี่ยผานกลับพูดติดตลกว่า “หากท่านเจ้าสำนักมีบุตรสาวยอดเยี่ยมเช่นนี้ ท่านเองก็คงรักหวงแหนไม่แพ้กัน!”
“ไม่ใช่สิ ตั้งแต่ที่แม่นางน้อยตระกูลเยี่ยนท่านนี้ถูกตัดสินว่าเป็นผู้ไร้พลัง เยี่ยนชิงก็รักนางเช่นนี้แล้ว เกรงว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย” ตี๋อูหวนดูออกว่าเป็นเพราะแม่นางตระกูลเยี่ยนในอดีตไร้ความสามารถ เมื่อครู่นี้เจ้าสำนักท่านนี้จึงรู้สึกหัวใจแตกสลายเช่นนี้ เขายังไม่เคยชินกับบุตรสาวเปี่ยมพรสววรรค์ในปัจจุบัน
หลายๆ คนก็คิดถึงเรื่องนี้จึงไม่มีผู้ใดกล้าเยาะเย้ยเยี่ยนชิงอีก ในโลกที่ผู้คนนับถือผู้แข็งแกร่งนี้ แม้แต่เครือญาติ โดยทั่วไปแล้วก็ย่อมมีความลำเอียงเพราะความสามารถและพรสวรรค์
แน่นอนว่าก็มีคนเช่นชือปี้เหลียนเช่นกัน นางหัวเราะเย้ยหยัน “ไม่รู้จักกฎระเบียบเลย สู้ลัทธิเซิ่งเหลียนแห่งภาคกลางของเราไม่ได้แม้แต่น้อย”
ทว่าไม่มีผู้ใดสำทับนาง แม้แต่ศิษย์ลัทธิเซิ่งเหลียนเองก็ไม่มีใครให้ท้าย เพราะว่าพวกเขายังตะลึงกับการโจมตีกลับของเยี่ยนอวี๋เมื่อครู่นี้!
กู้หยวนซูที่นั่งบนตำแหน่งประธานก็จ้องเยี่ยนอวี๋เขม็งอย่างเหลือเชื่อ นางรู้สึกเหมือนไฟสุมทรวงเพราะความอิจฉา เพราะนางคิดว่าครั้งที่แล้วที่เจอเยี่ยนอวี๋ที่โยวตู นางยังไม่แข็งแกร่งเช่นนี้ บัดนี้จู่ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้นมา ต้องเป็นเพราะต้าซือมิ่งถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตนเองแน่ๆ!
…
“รอบต่อไป สำนักเหยาไถเซียน” ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง เยี่ยนอวี๋ไม่สนใจ นางมองไปที่สำนักเหยาไถเซียน และก็เห็นกู้หยวนหมิงที่มองนางอยู่ก่อนหน้าแล้ว
เยี่ยนอวี๋พยักหน้าให้เล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย กู้หยวนหมิงทำท่าจะลุกขึ้นลงประลอง เขาคิดว่าในเมื่อนางต้องการกำจัดสำนักคุนอู๋ เช่นนั้นสำนักเหยาไถเซียนก็ไม่ควรขัดแข้งขัดขานาง
แต่แล้ว กู้หยวนหมิงยังไม่ทันปริปาก กู้หยวนซูก็พูดขึ้นว่า “ข้าเอง”
นี่มัน…
“กุ้ยเฟยที่แต่งเข้าราชสำนักแล้วลงแข่งได้หรือ”
“คงไม่ได้กระมัง!…”
ผู้คนมากมายที่รู้กฎเกณฑ์ราชสำนักดีอดพูดขึ้นไม่ได้
ทว่ากู้หยวนซูก็เหินขึ้นไปบนเวทีประลองแล้ว “แม้แต่ปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนผู้เป็นขุนนางที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักยังร่วมพิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนักได้ แล้วเหตุใดข้าจึงเข้าร่วมด้วยไม่ได้เล่า”
“เหนียงเหนียง…” กู้หยวนหมิงอยากห้ามนาง แต่กู้ปิ่งคุนก็เข้ามาห้ามเขาไว้ก่อนและเอ่ยขึ้นว่า “ตามระเบียบแล้ว กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงที่แต่งเข้าราชสำนักไม่สามารถร่วมประลองในพิธีแต่งตั้งเจ็ดสำนักจริงๆ แต่ตามกติกาของการท้าชิงต่างจากกติกาทั่วไปมาตั้งแต่อดีต ดังนั้นจึงมิใช่ข้อห้ามใดๆ”
“ใช่แล้ว!” หยางถิงซานรีบสำทับ นั่งบนภูดูเสือกัดกัน สำหรับสำนักคุนอู๋แล้วย่อมเป็นเรื่องดี ถึงแม้เขาเองก็อยากกำจัดพวกสารเลวสำนักชางอู๋เหล่านี้ด้วยตนเองเช่นกันก็ตาม
ทว่าติ้งซีอ๋องคัดค้าน “น้องสะใภ้เป็นคนของราชสำนัก ย่อมไม่สมควรร่วมการประลองใดๆ”
“เช่นนั้นปราชญ์มหาสำนักเยี่ยนเล่า” กู้หยวนซูเถียงกลับ ไม่ว่าอย่างไรวันนี้นางจะต้องเหยียบเยี่ยนอวี๋นังแพศยาผู้นี้ให้จมดินด้วยตนเอง ทำให้ต้าซือมิ่งเห็นว่าใครกันแน่ที่คู่ควรกับเขา ใครกันแน่ที่มีสิทธิ์ยืนเคียงข้างเขา!
[1] แจกัน เปรียบเปรยถึงหญิงสาวที่สวยแต่ไร้ความสามารถหรือสวยแต่รูปจูบไม่หอม