เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 367 สมแล้วที่เป็นผู้ชายของข้า!
ทั้งต้าซย่าสั่นสะเทือน ทันใดนั้นเอง…
ดูนั่นสิ!
ขณะที่พื้นดินสั่นไหวอยู่นั้น สายตาอันเฉียบแหลมของอินสวินอี้ก็เห็นแสงสีม่วงที่แผ่ออกมาจากต้าซือมิ่งแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลชัดเจน จากนั้นแสงสีม่วงเจิดจ้าเหล่านั้นก็ทยอยจางหายไปก่อนจะกลายเป็นสีที่สอดคล้องกับดาวธาตุทั้งแปด อันได้แก่ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ลม สายฟ้า แสงและความมืด
ตี้ชิวดินแดนแต่เดิมของเมืองหลวงถูกกำราบด้วยพลังที่เป็นตัวแทนต้นกำเนิดของโลกทั้งเก้า จากนั้นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น…
เมืองหลวง! อีอิ่นผุดลุกขึ้น เขาเป็นคนแรกที่พบว่าเมืองหลวงที่แต่เดิมสูญหายไปแล้วกำลังถูก ‘ดึง’ กลับมาและยังจับต้องได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในขณะที่พลังของดาวทั้งเก้าดวงรวมตัวเข้าด้วยกัน หมอกสีเลือดทางทิศเหนือก็หายไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าการหลอมรวมถูกสกัดไว้แล้ว
สุดยอดไปเลย!
ต้าซือมิ่งเก่งกาจนัก!
สมแล้วที่ต้าซือมิ่งเป็นบุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งต้าซย่า! จวินอั้นหยวนและคนอื่นๆ พากันอุทานอย่างไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกได้ว่าต้าซือมิ่งเก่งกาจกว่าเทพจริงมากนัก ถึงอย่างไรเทพจริงสององค์ที่เพิ่งมาเมื่อไม่นานนี้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าด้อยกว่ามาก…
แต่ทุกคนก็ไม่คิดว่าเทพจริงจะไม่มีความสามารถเลยจริงๆ เพราะเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าพวกเขาได้ตระหนักจากเรื่องนี้ว่าความแข็งแกร่งของต้าซือมิ่งและปราชญ์หาสำนักเยี่ยนไม่ธรรมดาจริงๆ
ก็ใช่… ในเมื่อท่านทั้งสองเป็นเทพธิดาและเทพอยู่แล้ว
และในชั่วขณะนี้เอง กู้หยวนหมิงที่เงียบมาโดยตลอดก็กำหมัดพลางคิดว่า ‘มีเพียงเขาที่เหมาะสมกับจื่ออวี๋ที่สุด มีเพียงเขาที่ทำให้จื่ออวี๋หลีกเลี่ยงจากโศกนาฏกรรมได้’
จื่ออวี๋…
กู้หยวนหมิงที่ไม่เคยสู้หน้านางได้ตั้งแต่ที่นางปรากฏตัว ในที่สุดเขาก็มองไปที่นางผู้ซึ่งในสายตามีเพียงชายที่อยู่บนฟ้า ทำเอาเขาอดรู้สึกใจเต้นแรงเพราะความปวดใจและความเสียใจไม่ได้
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากที่กู้หยวนหมิงอุ้มกู้หยวนซูลงจากเวทีแล้ว ในคืนนั้นเขาฝันถึงอะไร และก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเข้าไปในราชสำนักนำตัวเยี่ยนซูซูที่ถูกขังออกมา โดยให้เหตุผลว่าเข้าไปเก็บสัมภาระของกู้หยวนซู ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดรู้ว่ากู้หยวนหมิงได้ตรวจสอบและรู้ว่า ‘คำทำนาย’ มากมายของเยี่ยนซูซู อันที่จริงคงเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้น เป็นชาติที่แล้วของพวกเขาทุกคน ‘จื่ออวี๋…’
กู้หยวนหมิงเพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดครั้งแรกที่เขาพบสตรีงดงามไร้ที่ติคนนี้จึงรู้สึกเจ็บปวดจนมิอาจหายใจได้! เพราะว่าเขาเป็นคนส่งนางไปสู่ทางตัน หากเขาไม่ได้พานางเข้าไปในพระราชวัง หากนางไม่ได้พบกับพี่ใหญ่ของเขา นางคงไม่ต้องตายอย่างอนาถเช่นนี้
เพลิงหงส์ฟ้าแผดเผาเมืองหลวงจนมอดไหม้ รวมถึงตัวนางเอง ที่น่าเจ็บใจคือพี่ใหญ่ของเขาไม่ได้ตายเพราะเพลิงครั้งนั้น ฮ่องเต้หยวนคังก็เช่นกัน สำนักคุนอู๋ก็เช่นกัน ล้วนไม่ได้มอดไหม้…
‘ชาตินี้นางจึงกลับมาแก้แค้น’ กู้หยวนหมิงเข้าใจดีและเขาก็รู้สึกดีใจนับครั้งไม่ถ้วนที่นางแก้แค้นสำเร็จแล้ว นางทำให้พี่สาวและน้องชายของเขาได้รับสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับแล้ว
ทุกสิ่งที่พวกเขาเคยทำกับนางก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาถูกพันมีดหมื่นแล่ ดังนั้นพวกเขาห้ามตาย ตนจะต้องเลี้ยงดูพวกเขาอย่างดี ทางที่ดีที่สุดต้องทำให้พวกเขาฟื้นคืนสติเพื่อให้พวกเขารับรู้ความเจ็บปวดทุกอย่างได้อย่างแจ่มชัด
ช่างโหดร้ายจริงๆ… เหตุใดครอบครัวของเขาจึงลงมือทำเรื่องชั่วร้ายกับแม่นางน้อยผู้ไร้เดียงสาเช่นนี้ได้ ไม่เพียงทำลายสำนักของนาง สังหารครอบครัวของนาง และยังพรากพรสวรรค์จากนางไป
ส่วนนางเอง แม้จะแก้แค้น แต่นางก็ไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์ กระทั่งปฏิบัติต่อพี่น้องของศัตรูเช่นเขาอย่างใจกว้าง และยังเห็นเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่เขามีสิทธิ์อะไรให้นางปฏิบัติด้วยเช่นนี้ได้
จื่ออวี๋… กู้หยวนหมิงหลับตาที่แดงก่ำลง เขาไม่กล้ามองแม่นางคนนั้นอีก เขาไม่อยากให้นางรู้ว่าเขารู้ทุกอย่างแล้ว มิเช่นนั้นเขาคงมิสามารถเป็นเพื่อนกับนางเช่นที่ผ่านมาได้อีก
ฉะนั้น ก็ตามนี้เถอะ… ชาติที่แล้วถือเสียว่าเขา ‘จำไม่ได้’ ขอเพียงนางสุขสมเช่นนี้ต่อไปได้ในชาตินี้ อย่าได้เจ็บปวดกับอดีตซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเลย
ทว่ากู้หยวนหมิงไม่รู้ว่าที่เยี่ยนอวี๋สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชาตินี้ของตนได้อย่างสิ้นเชิงมิใช่เป็นเพราะต้าซือมิ่งเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเพราะนางเปลี่ยนไปแล้ว! นางแข็งแกร่งมากขึ้น! มากจนสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้
ส่วนต้าซือมิ่ง… ก็คงถือว่าเป็นความโชคดีที่คาดไม่ถึงแล้วกัน เขาเป็นชายที่เยี่ยนอวี๋เองก็ไม่คิดว่าจะได้พานพบและทำให้นางไหวหวั่นได้
‘ไม่ต้องเผชิญหน้าสู้กับแดนมืดวิญญาณอสูรด้วยพลังของตนเอง เพียงแค่ใช้พลังของตนเรียกมาซึ่งต้นกำเนิดของจักรวาล สร้างค่ายกลกำหนดสวรรค์ ชี้นำและควบคุมมัน’ เยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ในที่สุดก็เข้าใจว่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้นางจะไม่ลงมือเอง ต้าซือมิ่งคนนี้ก็สามารถใช้พลังของตนเองปิดประตูสวรรค์ได้อย่างสบาย
เขาคงกำลังรวบรวมพลังจักรวาลตั้งแต่ครานั้นแล้ว เมื่อนำมาใช้ในครั้งนี้จึงรวดเร็ว ทันท่วงทีและหนักแน่นได้เพียงนี้
ส่วนก่อนหน้านี้ที่บาดเจ็บเพราะช่วยพี่รองของนางคงเป็นเพราะตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน เขาคงทำไม่ทันการณ์ มิเช่นนั้นด้วยความสามารถของเขา เขาคงไม่บาดเจ็บหนักเช่นนั้น
เมื่อเยี่ยนอวี๋คิดได้เช่นนี้ นางก็จูบเด็กน้อย ท่านพ่อเจ้าเก่งจังเลย
ฮี่… เยี่ยนเสี่ยวเป่ายิ้มเริงร่า และยังปรบมืออวบอ้วนของตน เก่ง! พ่อเก่ง! ว้าว…
เยี่ยนอวี๋หัวเราะ ทว่าสายตาของนางไม่ได้ละออกจากคนที่อยู่บนฟ้าเลย นางรับรู้ได้ว่าเขากำลังดึงพลังกลับ หมอกสีเลือดทางทิศเหนือก็สลายไปหมดสิ้นแล้ว
ส่วนเมืองหลวง…
เช้าแล้วหรือ
ประชาชนที่เพิ่งตื่นขยี้ตาเล็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเพียงรู้สึกว่า เหมือนว่าจะหลับไปนานเลย?
มีเพียงผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งที่รับรู้ถึงความผิดปกติ เหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติ!?
ออกไปดูกันเถอะ!
เมื่อผู้คนไม่น้อยออกจากบ้านและที่พักก็เห็นว่ารอบเมืองหลวงถูกรัศมีหลากสีชั้นหนึ่งปกคลุมไว้แล้ว ในเมืองยังคงมีหมอกหลงเหลืออยู่เล็กน้อย แต่ก็สลายไปไม่น้อยแล้ว
กลิ่นอายของหมอกเหล่านี้เหมือนกับว่าจะชั่วร้ายมากเลย เฉินฉุนเฟิงเซ่าซือมิ่งแห่งตำหนักซือมิ่งรับรู้ถึงความผิดปกติได้เป็นคนแรก และแสงเหล่านั้นราวกับว่าจะมีกลิ่นอายของต้าซือมิ่งอยู่ด้วย นี่มัน…
ทหาร! เฉินฉุนเฟิงรีบเรียกทหารมาเพื่อให้ไปสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้น
มีคนมารายงานพอดีว่า เฉินเซ่าซือ ผู้ดูแลราชสำนักเหอขอเข้าพบขอรับ
ขอพบงั้นรึ เฉินฉุนเฟิงชะงักเล็กน้อยและเขาก็รับรู้ได้ถึงสัญญาณอันตราย รีบเชิญเข้ามา!
จากนั้นเหอซงผู้มีสีหน้าไม่สู้ดีนักก็มาอยู่ข้างหน้าเฉินฉุนเฟิงอย่างรวดเร็ว เขาคุกเข่าลงพื้นดัง ตุบ ทันทีโดยที่เฉินฉุนเฟิงยังไม่ทันได้เอ่ยถาม เฉินเซ่าซือติดต่อต้าซือมิ่งได้หรือไม่ขอรับ ข้าน้อยมีเรื่องสำคัญต้องรายงาน!
ข้าจะลองดู ถึงแม้เฉินฉุนเฟิงมีคำถามมากมายในใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามในยามนี้ เขารีบพาเหอซงไปที่แท่นบูชาของตำหนักซือมิ่ง เขาใช้พลังวิเศษเปิดแท่นบูชา
วิ้ง!
แสงสีม่วงระยับตัดผ่านหมอกในเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหายวับไปบนท้องฟ้า ทำให้ต้าซือมิ่งที่กำลังเตรียมกลับสำนักศึกษารับรู้ได้
ในขณะเดียวกัน…
วิ้ง!
เยี่ยนอวี๋ปรากฏตัวข้างหน้าต้าซือมิ่งพร้อมเด็กน้อยในอ้อมอก เขาโอบนางเข้ามาทันที บอกให้เจ้ารักษาตัวมิใช่หรือ
ข้าสบายดี เยี่ยนอวี๋บอกว่าตนเองได้พักแล้ว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็พูดว่า แม่ ดี!
ท่าทีน่ารักน่าชังของสองแม่ลูกทำเอาหรงอี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้หยุดส่งกระแสจิตไปให้เฉินฉุนเฟิง มีเรื่องอะไรหรือ
ต้าซือมิ่ง! เฉินฉุนเฟิงไม่คิดว่าจะติดต่อต้าซือมิ่งได้ เขาคุกเข่าลงไปอย่างตื้นตัน
เหอซงเองก็คุกเข่าลงไปพร้อมโขกศีรษะลงกับพื้น น้ำตาไหลพราก ต้าซือมิ่ง! ต้าซือมิ่งท่านรีบกลับเมืองหลวงเถิดขอรับ ฝ่าบาทถูกปีศาจเข้าสิงแล้ว! พระองค์จะกลั่นหลอมเมืองหลวง ไม่สิไม่ ทั้งต้าซย่าต่างหาก! ฝ่าบาทวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านรีบกลับมา…
เหอซงพูดจบรวดเดียว ทำเอาเขาเกือบจะหายใจไม่ทัน เขาร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็กน้อย สวรรค์รู้ดีว่าเขาหวาดกลัวเพียงใด เขากลัวว่าตนยังไม่ทันพูดจบก็จะตายไปเสียก่อน!
ไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าเขาว่าฮ่องเต้หยวนคังน่ากลัวเพียงใด! เขารีบหยิบบางสิ่งออกมาจากอก เป็นเอกสารที่เขาขโมยมาจากตำหนักหนักหันกวง ก่อนจะพูดสะเปะสะปะด้วยความหวาดกลัวยิ่งยวด ในนี้ ในนี้คือแผนการของฝ่าบาท ในนี้มี ฆ่า! ในนี้ ตรงไหน…
ใจเย็นๆ! เฉินฉุนเฟิงรีบรับเอกสารจากเหอซงและนำไปวางบนแท่นบูชา เอกสารเหล่านั้นจึงถูกต้าซือมิ่งใช้พลังจิตอ่านจนหมดทันที
แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงรายงานในตำหนักซือมิ่งดังขึ้น เฉินเซ่าซือ! แย่แล้วขอรับ! เจ้าสำนักกู้แห่งสำนักเหยาไถเซียน เจ้าสำนักแห่งสำนักนิรนาม และเจ้าสำนักของสำนักพุทธะและสำนักชิงเหลียนนำกำลังมาล้อมตำหนักซือมิ่งของเราแล้วขอรับ!
ว่าไงนะ! เฉินฉุนเฟิงสีหน้าพลันเปลี่ยน!
คนที่มารายงานยังกล่าวต่อไปว่า โชคดีที่ผู้พิทักษ์หลานนำกำลังปกป้องตำหนักซือมิ่งไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจัดกำลังปกป้องทั้งในและนอกสำนักไว้แล้วขอรับ ตอนนี้พวกเขาโจมตีเข้ามาไม่ได้ขอรับ!
เฉินฉุนเฟิงโล่งอก ทว่าคนนั้นยังรายงานอีกว่า แต่ได้ยินมาว่าเริ่มมีทหารจับกุมนักฝึกฌานในเมืองแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นขอรับ!
รีบไปพบผู้พิทักษ์หลาน! เฉินฉุนเฟิงคิดว่าหลานชังต้องรู้เรื่องนี้
แต่เหอซงกลับรู้ดียิ่งกว่า แย่แล้ว! พวกเขาจับคนเหล่านี้เพื่อสังเวยให้ฝ่าบาท! ฝ่าบาททรงสร้างบ่อน้ำสีเลือดไว้ที่เรือนรับรองชั่วคราวจึงต้องการเติมบ่อนั้นด้วยเลือดของนักฝึกฌาน! ไม่นะ… ไม่! หากไม่มีนักฝึกฌาน ประชาชนตาดำๆ คงหนีไม่พ้น ไม่ ไม่สิ… ต้าซย่า…
เหอซงยังไม่ทันพูดจบ ใต้ผืนดินทั้งต้าซย่าก็ปรากฏเถาวัลย์นับไม่ถ้วน และในครานี้…
ตู้ม!